ตอนที่ 2197 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (38)
“หุบปาก!” หลินฉีตะโกนลั่นอย่างโกรธจัด “เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นหรอกถ้าเธอไม่จงใจมาหาเรื่องฟู่ฉิงน่ะ!”
เป็นเรื่องจริงที่ผังจื่อเยว่เจตนาที่จะมาหาฟู่เฉิง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลายเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายโดยแท้
“ลั่วเฟิง คือว่า…”
ฟู่หรูมีท่าทีเป็นกังวล เขาไม่คิดเลยว่าอาหารมื้อนี้จะตกเป็นเงินหลายล้านหยวนแบบนี้ เขาไม่มีทางที่จะหาเงินมาจ่ายได้แน่เว้นเสียแต่ว่าจะยอมขายบ้าน
“อาจารย์คะ อย่าห่วงเลย หนานกงมาที่นี่เพื่อที่จะจ่ายเงิน” อวิ๋นลั่วเฟิงพูดพลางยักไหล่และส่งยิ้ม “ส่วนสำหรับคนอื่น…เราตกลงกันไว้แล้วนะว่าจะหารกันน่ะ เพราะฉะนั้นได้โปรดจ่ายส่วนของตัวเองด้วย”
หลินฉีกำหมัดแน่น สูดหายใจเข้าลึก “ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น”
ส่วนคนอื่นก็พากันนิ่งเงียบ
ถ้าเงินแค่ไม่กี่พันหยวน พวกเขาก็พอจะมีปัญญาจ่ายอยู่หรอก แต่นี่มันตั้งหลายล้าน ต่อให้ช่วยกันหาร มันก็ยังเป็นเงินมากเกินไปที่พวกเขาจะจ่ายได้อยู่ดี พวกเขาจะไปมีเงินมากขนาดนั้นได้ยังไงกัน
“ยังมีทางออกอยู่อีกทาง” อวิ๋นลั่วเฟิงยักไหล่ “ฉันจะขอให้หนานกงช่วยจ่ายให้พวกเธอก็ได้ แต่พวกเธอจะต้องทำสัญญากู้ยืมเงินและคนที่เป็นเจ้าหนี้ก็คือฟู่ฉิง”
ดวงตาของฟู่ฉิงเบิกกว้าง เธองงไปหมด “แบบนั้นมัน…มันจะไม่เป็นไรหรือคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เมื่อเธอมีสัญญากู้ยืมเงินอยู่ในมือ เธอก็สามารถสั่งให้พวกเขาชดใช้หนี้ได้ทุกเมื่อ และด้วยเงินก้อนนั้น ทั้งเธอและอาจารย์ก็สามารถกลับไปมีชีวิตที่ดีได้”
อวิ๋นลั่วเฟิงยิ้ม ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือนางกำลังจะไปจากที่นี่ และนางก็ไม่สามารถอยู่ปกป้องฟู่ฉิงได้ตลอดไป จึงมีวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนต้องเป็นหนี้ฟู่ฉิง และเพื่อไม่ให้โดนฟู่ฉิงทวงหนี้ นับแต่นี้ต่อไป คนพวกนี้ก็จะไม่มีใครกล้ารังแกเธอได้อีก
ฟู่ฉิงเต็มไปด้วยความรู้สึกหลายอย่างปะปน เธอรู้ดีว่าอวิ๋นลั่วเฟิงคงจะไม่ต้องพยายามช่วยเธอขนาดนี้ถ้าหากว่าเธอไม่ใช่คนขี้ขลาดขนาดหนัก นับแต่นี้ต่อไป คนพวกนี้จะไม่มีใครกล้ารังแกเธออีกแล้ว…
“ขอบคุณนะคะ พี่ลั่วเฟิง”
ในที่สุด ฟู่ฉิงก็ตัดสินใจที่จะยอมรับความช่วยเหลือนี้ และเธอจะขอตอบแทนหลังจากที่เธอเรียนจบแล้ว
อีกอย่าง ถึงยังไงเธอก็มีคนพวกนี้คอยจ่ายเงินให้อยู่แล้วนี่นา!
“เธอไม่ต้องขอบใจฉันหรอก ไปขอบใจหนานกงเถอะ เขาเป็นคนเลี้ยงนี่” อวิ๋นลั่วเฟิงบอกยิ้มๆ
“อีกอย่าง ฉันจะให้พวกเธอทำสัญญากู้ยืมเงินเป็นเวลาหกปี พวกเธอจะเรียนจบในอีกสามปี แล้วก็ยังมีเวลาอีกสามปีที่พวกเธอต้องใช้หนี้ ถ้าพวกเธอไม่ยอมจ่ายภายในสามปี เราจะฟ้องร้องพวกเธอ!”
แต่ละคนทำหน้าหวาดผวา แต่ก็รู้ดีว่าคงไม่มีทางได้ออกไปจากภัตตาคารชุนหยวนเสวี่ยในวันนี้ได้แน่ถ้าปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาเงินกู้
พวกเขาจึงต้องจำใจเขียนสัญญาขึ้น
หลังจากเขียนเสร็จ ทุกคนก็รีบร้อนกลับออกไป อวิ๋นลั่วเฟิงส่งสัญญายืมเงินให้ฟู่ฉิง “ถ้าพวกเขารังแกเธออีกละก็ เธอก็เรียกร้องให้พวกเขาจ่ายหนี้คืนได้ทุกเมื่อเลยนะ นี่ก็ดึกมากแล้ว เรากลับกันเถอะ”
“ค่ะ” ฟู่ฉิงพยักหน้าหนักแน่น เมื่อเก็บสะสมเงินได้ เธอจะหาทางใช้คืนให้กับหนานกงอวิ๋นอี้!
…
เมื่ออวิ๋นลั่วเฟิงและคนอื่นๆ ทยอยกันเดินออกมาจากภัตตาคารชุนหยวนเสวี่ย พวกนักศึกษายังไม่กลับ แต่ก็ไม่กล้าที่จะทำตัวโอหังอวดดีเหมือนก่อนหน้านี้ และพากันนิ่งเงียบไปหมด
ฟู่ฉิงที่เดินอยู่รั้งท้าย อยู่ๆ เธอก็เห็นรถคันหนึ่งพุ่งตรงเข้ามาหาอวิ๋นลั่วเฟิง ในจังหวะนั้นเอง ทุกคนต่างก็อยู่ห่างจากอวิ๋นลั่วเฟิง และกำลังยืนอยู่ใกล้อวิ๋นเซียวเพียงไม่กี่เมตร…
“ระวัง!” ฟู่ฉิงหน้าซีดด้วยความตกใจและร้องตะโกนออกไป
โชคร้าย สายเกินไปเสียแล้ว รถคันนั้นกำลังจะพุ่งเข้าชนอวิ๋นลั่วเฟิง…
ตอนที่ 2198 เรื่องราวอีกบทของหวาเซี่ย (39)
ฟู่หรูหน้าซีดเผือด เขาแทบจะยืนไม่ติด
ฟู่ฉิงแทบจะกรีดร้องออกมา…
เมื่อพวกเขาคิดว่าอวิ๋นลั่วเฟิงน่าจะต้องโดนรถยนต์คันนั้นพุ่งเข้าชน ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น
หญิงสาวในชุดขาวยื่นฝ่ามือออกไป เสียงดังสนั่นเกิดขึ้น แล้วรถที่กำลังจะแล่นเข้าใส่อวิ๋นลั่วเฟิงก็ถูกผลักกระเด็นและพลิกตลบ
นี่มันเกิดอะไรขึ้น…
ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงทางเข้าภัตตาคารต่างตกตะลึงใจการกระทำของนาง โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชั้นของฟู่ฉิงที่ต่างยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ พวกเขาตัวสั่นเทา พูดอะไรไม่ออก
นี่มัน…
นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไง
มนุษย์ธรรมดาจะแข็งแกร่งถึงขนาดเอาชนะรถยนต์ได้ยังไง
ในชั่วขณะนั้นเอง ทุกคนต่างหวาดกลัวสุดขีด พวกที่เคยรังแกฟู่ฉิงยิ่งหน้าซีดหนัก เพราะกลัวว่าจะต้องถูกอวิ๋นลั่วเฟิงจัดการ
“เฟิงเอ๋อร์”
อวิ๋นเซียวรีบตรงเข้าไปหาอวิ๋นลั่วเฟิงเพื่อกวาดสายตาขึ้นๆ ลงๆ สำรวจดูนาง เมื่อเขาแน่ใจว่านางปลอดภัยดีแล้ว เขาจึงโล่งใจและเลื่อนสายตาเย็นเยือกไปยังรถที่พลิกคว่ำอยู่ตรงนั้น
ชายหนุ่มรีบวิ่งไปที่รถ ซัดหมัดใส่ประตูรถ รถยนต์คันนั้นปลิวหวือออกไปทันที แต่เขากลับพบว่ามันว่างเปล่า! ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด อวิ๋นเซียวจึงซัดลูกเตะใส่รถยนต์อีกครั้งเพื่อระบายความโกรธ…
เสียงดังโครมสนั่น รถยนต์คันนั้นถูกกระเตะกระเด็นไปนับสิบเมตร ก่อนจะพังเป็นเสี่ยงๆ ท่ามกลางสายตาฝูงชนที่มองอยู่
ทุกคนกลืนน้ำลาย
ชายหญิงคู่นี้…เป็นตัวประหลาดหรือไงกันนะ
ความแข็งแกร่งของพวกเขาช่างน่าสะพรึงเหลือเกิน!
“รถยนต์ไม่มีคนขับรึ” ดวงตาของหนานกงอวิ๋นอี้เข้มขึ้น “ข้าว่าจะต้องมีใครบางคนคอยควบคุมรถอยู่เบื้องหลัง และมุ่งเป้ามาที่อวิ๋นลั่วเฟิง”
เมื่อมองซากปรักหักพังของรถ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ยิ้มออกมาบางๆ “เจ้าหนูขุดทองเอาปากกาอัดเสียงมาให้ข้าตอนที่เรากำลังกินอาหารกันอยู่ เจ้าอยากฟังหรือเปล่าล่ะ”
ปากกาอัดเสียงงั้นรึ หนานกงอวิ๋นแปลกใจ
เขารู้ดีว่าหงหลวนสงสัยในตัวจ้าวเหม่ยเสวี่ยและลูกสาว และอวิ๋นลั่วเฟิงเองก็ใช้ให้เจ้าหนูขุดทองของสอดส่องดูนางเอาไว้ แต่เขาก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะได้เงื่อนงำมารวดเร็วถึงขนาดนี้
ความสับสนผุดขึ้นในสายตาของหนานกงอวิ๋นอี้เมื่อเขาคิดถึงเรื่องนี้ เขานึกอยากจะทำลายแม่ลูกคู่นั้นที่พยายามทำร้ายเขาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ผู้ชายที่สองแม่ลูกนั่นกำลังพยายามจะสังหารคือปู่ของเขาเอง!
ปู่จะผิดหวังสักแค่ไหนถ้าได้รู้ว่าเป็นฝีมือของพวกนาง!
“อย่าห่วงไปเลย” หงหลวนลูบไหล่ของหนานกงอวิ๋นอี้ “ข้าบอกได้เลยว่าท่านปู่ของเจ้าเองก็ไม่ได้ชอบสองคนนั้นหรอก ในเมื่อท่านก็ไม่ได้โปรดปรานสองคนนั่น แล้วท่านจะผิดหวังได้ยังไงล่ะ”
หนานกงอวิ๋นอี้นิ่งไปก่อนจะพยักหน้า
ใช่ ท่านไม่เคยชอบสองคนนั่น แล้วท่านจะผิดหวังได้ยังไง
“หงหลวน ลั่วเฟิง กลับไปที่คฤหาสน์กันดีกว่า” สายตาของหนานกงอวิ๋นอี้เคร่งขรึมลง เขาไม่มีทางยอมให้ใครต้องมาเจ็บตัวเพราะปู่ของเขาอีกแล้ว
อวิ๋นลั่วเฟิงพยักหน้าน้อยๆ และหันไปหาฟู่หรูที่กำลังตกใจกลัว “อาจารย์คะ หนูมีเรื่องต้องไปจัดการ อาจารย์กลับบ้านไปก่อนนะคะ อาจารย์อาจตกอยู่ในอันตรายเพราะเรื่องของหนานกง เพราะฉะนั้นหนูจะให้ส่งหนูของฉันไปกับอาจารย์ด้วย มันจะช่วยปกป้องอาจารย์ค่ะ”
เมื่อพูดจบ อวิ๋นลั่วเฟิงก็ล้วยเอาหนูขุดทองสองตัวออกมา ตัวผู้ตัวหนึ่งตัวเมียตัวหนึ่ง แล้วส่งมันให้กับฟู่ฉิง
“ถ้าเธอจะอยู่ห่างจากอาจารย์ก็ให้เอาติดตัวไปด้วยตัวหนึ่ง มันจะช่วยปกป้องเธอเอง”
ฟู่ฉิงมีท่าทีแปลกใจ เธอรู้ดีว่าสุนัขที่ซื่อสัตย์นั้นสามารถปกป้องเจ้าของได้ แต่หนูก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกันเหรอ
หนูตัวเล็กๆ เนี่ยนะ…ท่าทางมันน่าจะตายได้ง่ายๆ ถ้าหากว่ามีใครเผลอเหยียบเข้าด้วยซ้ำ
เจ้าหนูขุดทองเหมือนจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกดูแคลนของฟู่ฉิง จึงจัดแจงแยกเขี้ยวคมกริบอวดเธอซะเลย ฟู่ฉิงตกตะลึงกับสีหน้าราวกับมนุษย์ของเจ้าหนูตัวนั้น