The Bloodline System – ตอนที่ 431: [ตอนโบนัส] คําขอนัดเจอ

ตอนที่ 431: [ตอนโบนัส] คําขอนัดเจอ

เอเลโวร่าจ้องที่กุสตาฟจากท่านั่งของเธอ พลางปรับขนาดเขาขึ้น ‘พลังสายเลือดที่เข้มข้นเช่นนี้… ตอนนี้เราอยู่ในระดับเดียวกันแล้วหรือ’ เธอสงสัยในขณะที่การแสดงความตื่นเต้นค่อยๆก่อตัวขึ้นบนใบหน้าของเธอ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอจ๋าได้ว่าใกล้ถึงคิวของเธอแล้ว เธอก็ตระหนักว่าเธอจะได้รับพละกําลังเพิ่มขึ้นเช่นกัน

‘อืม ฉันรู้ว่าเขายังคงซ่อนเร้นความแข็งแกร่งอยู่ภายใน… ฉันคงจะผิดถ้าใช้ดวงตาที่ว่างเปล่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขา’ เธอปฏิเสธความคิดที่เข้ามาในหัวของเธอ

กุสตาฟกล่าวอําลาพวกเพื่อนๆ โดยบอกว่าเขาต้องการไปดูพัฒนาการของเขา พวกเขาตกลงที่จะพบกันในตอนเย็นเพื่อฝึกด้วยกัน กุสตาฟเริ่มมุ่งหน้าไปที่ห้องของเขาหลังจากนั้น ขณะที่แองจี๋ยังตัดสินใจรอพวกสาวๆ

“เธอได้ทําหรือไม่” เกลดกระซิบที่หูซ้ายของแองจี้ หลังจากที่เธอนั่งลง

“หืม แต่เขาไม่ได้สนใจที่จะตรวจสอบมัน… แล้วถ้าเขาไม่ตรวจสอบล่ะ” แองจี้ตอบด้วยท่าทางที่คลั่งข้าง

“อย่ากังวลไป… เขาจะทํา” เกลดให้ค่ามั่น

“เท่าที่ฉันรู้… เขายังคงห่วงใยเธอ ดังนั้นใช่ เขาจะตรวจสอบ” มาทิลด้ากล่าวเสริมจากด้าน

“ฉันไม่รู้เรื่องนี้” แองจี้พูดด้วยท่าทางหงอยเล็กน้อย

“อย่ากังวลไป ฉันจะทุบเขาถ้าเขาไม่ตรวจสอบ” เกลดพูดด้วยน้ําเสียงหนักแน่น “ไม่ผิดหรอกเกลด แต่มันอาจจะตรงกันข้าม” มาทิลด้าพูดด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว

แองจี้หัวเราะเบา ๆ หลังจากได้ยินแบบนั้นขณะที่เกลดทําหน้าบึ้ง

ไม่กี่นาทีต่อมา กุสตาฟกลับมาที่ห้องของเขาและล้มตัวลงบนโซฟาทันที เขารู้สึกเหนื่อยด้วยเหตุผลบางอย่าง

(“นายสามารถบอกความจริงกับพวกเขาได้ แต่…ทําไม ตอนนั้นฉันไม่รู้สึกถึงความอาฆาตพยาบาทจากพวกเขาเลย”) จู่ๆ ระบบก็พูดขึ้นในหัวของเขา

“ไม่… ฉันจะอธิบายได้อย่างไรว่าการพัฒนาจากขั้นที่ 3 ของ Serial Rank เป็นขั้นที่ 2 ของกิลเบิร์กในคราวเดียว… ฉันรู้สึกว่าฉันเกือบจะถึงขั้นที่ 3 แล้วด้วยซ้ํา” กุสตาฟพูดขณะยกมือขึ้น

(“การสะสมของสลาโว่ทําให้เกิดผลเป็น 3 เท่า… และพวกเขารู้อยู่แล้วและนายไม่สามารถซ่อนอะไรจากพวกเขาได้เลยด้วยซ้ํา”) ระบบระบุ

“อะไรนะ?” ตอนนี้กุสตาฟเข้าใจแล้วว่าทําไมพวกเขาถึงถามว่าเขาสามารถสะสมสลาโว่ได้นานแค่ไหน

“ดร.เจ้าเล่ห์นั่น” กุสตาฟพึมพํา “ก็… พวกเขาทําได้แค่สันนิษฐาน ไม่มีทางที่พวกเขาจะรู้สถานะที่แน่นอนของการพัฒนาของฉัน” กุสตาฟสงบลงขณะที่เขาพูดเรื่องนี้ “แรงค์กิลเบิร์ก… ฉันไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเร็วขนาดนี้ ยังไม่ถึง 2 เดือนด้วยซ้ํา” กุสตาฟกล่าวด้วยท่าทางไม่เชื่อ

ปริมาณความแข็งแกร่งที่เขารู้สึกได้แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในขณะนั้นช่างบ้าคลั่ง เขาสามารถบอกได้ว่าต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะชินกับความแข็งแกร่งจํานวนนี้ เพราะเขาเพิ่งทําสําเร็จในครั้งเดียว

(“อย่าตื่นเต้นเกินไป… ตามสถิติ หลังจาก Martial rank มาถึง พวกเลือดผสมส่วนใหญ่ติดอยู่ที่นี่ตลอดชีวิต ดังนั้นคาดว่าการเติบโตของนายจะต้องช้าลงหลังจากไปถึงจุดนั้น”) ระบบเตือนเขาอย่างตรงไปตรงมา

“ใช่ ฉันรู้…” กุสตาฟตอบด้วยสีหน้าไม่ใส่ใจ แม้ว่าเขาจะกังวลเล็กน้อยก็ตาม “แต่ฉันยังมีเวลามากกว่า 4 ปี” กุสตาฟกล่าวเสริม จู่ๆเขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างและส่ายหัว “การท้าทายนักเรียน รายเดือนแทบจะไร้จุดหมาย… นักเรียนคลาสเรียนพิเศษทุกคนจะได้รับพลังนี้ ซึ่งจะทําให้นักเรียนธรรมดาตามไม่ทัน การท้าทายแม้กระทั่งสายอาชีพพิเศษที่อ่อนแอที่สุด ยังคงส่งผลให้เกิดการสูญเสีย” เขาเปล่งเสียงออกมา

“มันจะยากขึ้นที่จะทําให้เวร่าชนะคลาสพิเศษ” นี่เป็นข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่กุสตาฟเห็นถึงการพัฒนาทั้งหมดนี้ “ฉันสงสัยว่าเอเลโวร่าจะพัฒนาได้มากเพียงใดเพราะเธออยู่ได้นานเท่าฉัน” กุสตาฟกล่าวด้วยสีหน้าครุ่นคิด

(“เธอจะไม่ดีขึ้นเท่านายแน่นอน… นี่นายลืมไปหรือเปล่าว่าฉันเพิ่มเอฟเฟกต์ สลาโว่นั่นเป็น 2 เท่าและอันดับสายเลือดของเธอนั้นสูงกว่านาย ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นของเธอจะต้องน้อยกว่าอย่างแน่นอน”) ระบบตอบกลับ

“อืม” กุสตาฟนึกอะไรบางอย่างได้ในทันใดและล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของเขา เขาหยิบกระดาษยู่ยี่แผ่นเล็กๆ ออกมาแล้วเปิดออก

นี่คือค่าที่เขียนบนกระดาษที่แองจี้ส่งถึงเขา

“หืม?” หลังจากอ่านจดหมาย กุสตาฟมีสีหน้าไม่พอใจ “อะไรทําให้เธอคิดว่าฉันจะยอมเจอเธอ” เขาเปล่งเสียงออกมา

(“อืม มันมีเหตุผลหลายประการเช่น… นายกําลังมีความรักและยังเป็นหนุ่มพรหมจารีที่ปัญญาอ่อน”) ระบบตอบกลับ

“นี่เธอพูดอะไรน่ะ ใครกําลังมีความรัก? บ้าไปแล้วเหรอ?” กุสตาฟแทบจะไม่ได้ด่าเลยทุกวันนี้ แต่คราวนี้เขาหยุดตัวเองจากการสาปแช่งไม่ได้

(“โอ้ ปฏิกิริยาของนายแสดงว่าฉันพูดถูก… ทําไมหน้านายถึงแดงแบบนั้น?”) ระบบล้อเลียนด้วยเสียงที่ดูเด็กและเป็นผู้หญิงในขณะที่หัวเราะ
“หุบปากไปเลย!” กุสตาฟตะโกนออกมา

(“ฮี่ฮี่ฮี่”)

“ชิ! น่ารําคาญชะมัด” กุสตาฟบ่น

(“นายจะทําอะไรตอนนี้ นั่นไม่ใช่เวลาเดียวกับที่นายควรจะพบกับอีอีและคนอื่นๆเหรอ?”) ระบบถามด้วยนําเสียงที่สงสัย

กุสตาฟนั่งอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าสับสนขณะครุ่นคิด

(“สี่สี่ คิดอยู่นานยิ่งจะทําให้นายสงสัยมากขึ้นไปอีก… ข้าขอเตือนท่านถึงค่าโบราณที่ผู้ชายใช้กันในโลกแห่งนี้ดีหรือไม่?”)

“หุบปาก! แองจี้ไม่ใช่จอบนะ” กุสตาฟพูดด้วยน้ําเสียงรําคาญขณะลุกขึ้นนั่ง

(“ฮ่าฮ่าปฏิกิริยาของนายมีค่ามาก… ดูสิว่านายปกป้องเธออย่างไร… นายตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่งไม่ว่านายจะเลือกยอมรับหรือไม่ก็ตาม”) ระบบตอบกลับพร้อมหัวเราะ

กุสตาฟ; “… ”

“วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันที่ดีที่จะทําการฆาตกรรม แต่เธออยู่ภายในตัวฉัน…*เฮ้ออออ”

1 ชั่วโมงผ่านไปในพริบตา และในช่วงเวลานี้ กุสตาฟยุ่งอยู่กับการถ่ายทอดสายเลือดของเขา เขายังคงไม่เชื่อ หลังจากการพัฒนาของสายเลือดของเขาและรู้สึกว่า อยากจะระบายอารมณ์บ้าง แต่เขาต้องรอถึงเวลา 7 โมง ในขณะนี้ เหลือเวลาเพียงไม่กี่นาทีจะถึง 7 โมงเย็น กุสตาฟก็ลุกขึ้น เตรียมตัวจะออกไป

เขาตัดสินใจว่าจะพบกับแองจี้สัก 2-3 นาที เพื่อรับฟังความคิดเห็นของเธอก่อนตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่ศูนย์ฝึกอบรม