มู่เฉียนซีชะงักก้าวเท้าลง จิ่วเยี่ยก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของมู่เฉียนซีแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “จิ่วเยี่ย เราหยุดตรงนี้ก่อน พลังธาตุวารีไม่เลวเลย ข้าอยากจะซึมซับมันสักหน่อย”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
พลังธาตุวารีบริเวณรอบตัวมู่เฉียนซีเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ แต่สิ่งนี้กลับทำให้ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีรู้สึกอึดอัดมาก
เขามองมู่เฉียนซีด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “นี่…นี่มันผิดปกตินะ! ความสัมพันธ์และพลังของท่านมู่ที่มีต่อพลังธาตุวารี เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งกว่ามังกรวารีได้ล่ะ”
“หรือว่าท่านมู่ก็เป็นมังกรวารี! แต่…เป็นไปไม่ได้สิ! หัวหน้าเผ่าจะดูผิดไปได้อย่างไรกัน”
มู่เฉียนซีไม่ใช่มังกรวารี แต่กลับมีพลังธาตุวารีที่บริสุทธิ์ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด
เกาะมังกรวารีแห่งนี้ต้องเป็นสถานที่ฝึกบำเพ็ญที่ดีที่สุดแน่นอน
เนื่องจากพลังธาตุวารีของเกาะมังกรวารีได้รวมตัวกันไปที่มู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง และสิ่งนี้ก็ทำให้มังกรวารีรับรู้ได้ถึงความผิดปกติแล้ว
“ดูเหมือนว่าวันนี้พลังธาตุวารีในเกาะของพวกเราจะฮึกเหิมมากกว่าปกตินะ!”
“พลังแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ หรือว่าจะมีมังกรเลื่อนขั้น!”
“เลื่อนขั้น แต่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนี้ คาดว่ามังกรน้อยผู้นั้นจะไม่ธรรมดา!”
ผู้ที่รับรู้ได้ก่อนนั่นก็คือหัวหน้าเผ่ามังกรวารีและเหล่าผู้อาวุโส พวกเขาจึงต่างพากันพูดคุยออกความเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นของหัวหน้าเผ่ามังกรวารีเผยความฉงนสงสัยออกมา “ต่อให้พรสวรรค์ของมังกรวารีน้อยจะดีเพียงใด ก็คงไม่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ได้ พวกเจ้าตามข้าไปดูกันสักหน่อยเถอะ”
“ขอรับท่านหัวหน้าเผ่า!”
ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีกลัดกลุ้มใจขึ้นแล้ว พวกเขายังไม่ทันได้เข้าใกล้ใจกลางเผ่ามังกรวารี แต่กลิ่นอายอันแข็งแกร่งหลายกลิ่นอายก็ใกล้เข้ามาแล้ว
ผู้ที่มาผู้นั้นเป็นบุรุษสวมชุดคลุมยาวสีฟ้า ดู ๆ แล้วอายุน่าจะประมาณยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี ใบหน้านั้นดูนุ่มนวลเป็นอย่างมาก
ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นของเขามองไปที่ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคี ทำให้ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีรู้สึกราวกับกระดูกทั้งตัวกำลังกร่อนลงก็มิปาน
ท่านผู้นี้ก็คือหัวหน้าเผ่ามังกรวารี นามว่าสุ่ยอู๋ซิน
อย่ามองว่าเขาอ่อนโยนอันใดเลย เพราะอันที่จริงแล้วกลับเป็นหนึ่งในเผ่ามังกรที่น่ากลัวที่สุด อย่างไรเสียหัวหน้าเผ่าของพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุเจ้านี่
สุ่ยอู๋ซินกล่าว “ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีนี่เอง”
น้ำเสียงอันอ่อนโยนนี้อ่อนโยนยิ่งกว่าพื้นน้ำที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาเสียอีก และยังแฝงไปด้วยพลังที่ยากจะปฏิเสธได้
ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีกล่าว “ท่านหัวหน้าเผ่ามังกรวารี ข้าได้รับคำสั่งของท่านหัวหน้าเผ่าอัคคีให้มาที่เผ่ามังกรวารี เพราะว่ามีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องการจะปรึกษากับเผ่ามังกรวารีขอรับ”
“เด็กน้อยผู้นี้…” สายตาของสุ่ยอู๋ซินมองไปที่มู่เฉียนซี
“นางเป็นมนุษย์!”
ผู้อาวุโสของเผ่ามังกรวารีเหล่านั้นได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “มนุษย์ เป็นไปได้ยังไง! มนุษย์จะมีความสัมพันธ์และพลังที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?”
“พลังธาตุวารีชื่นชอบนางมากกว่ามังกรในเผ่ามังกรวารีของพวกเราเสียอีก เว้นแต่ว่านางจะเป็นภูตพลังธาตุวารีตั้งแต่กำเนิด มิเช่นนั้นไม่ใช่…”
พวกเขาเชื่อว่าเผ่ามังกรวารีมีความสัมพันธ์และความแข็งแกร่งของพลังธาตุวารีรองลงมาจากภูตวารี อย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นถึงมังกรหนึ่งในสามสัตว์เทพโบราณ
ทว่า การปรากฏตัวของสาวน้อยผู้นี้ได้ทำลายความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อรู้ว่ามีคนมาเช่นนี้ มู่เฉียนซีก็พยายามยับยั้งความฮึกเหิมของพลังธาตุวารีเหล่านี้อย่างสุดชีวิต จากนั้นก็มองไปที่หัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้อ่อนโยนดุจดั่งวารีผู้นี้
นางมีความสัมพันธ์และพลังของธาตุวารีเหนือกว่าเผ่ามังกรวารีของพวกเขา นั่นก็เพราะว่านางมีแหวนมังกรเทพวารีอยู่
แหวนนิรันดร์ แหวนมังกรเทพวารีไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ อย่างไรก็ตามนางไม่กล้ารับประกันได้ว่าเผ่ามังกรวารีจะต้านทานแรงดึงดูดของแหวนมังกรเทพวารีได้หรือไม่
มู่เฉียนซีมองไปที่มองสุ่ยอู๋ซินและกล่าวว่า “หัวหน้าเผ่ามังกรวารี สวัสดี ข้าชื่อมู่เฉียนซี เป็นมนุษย์ที่มีพลังวิญญาณธาตุวารี เมื่อครู่ได้ใช้พลังธาตุวารีบนเกาะอันสูงศักดิ์นี้เพิ่มพลังไปไม่น้อย ขอบคุณมาก”
ผู้อาวุโสเหล่านั้นยังคงตกตะลึงอยู่ “นี่มัน นี่…เป็นไปไม่ได้!”
ดวงตาอันสดใสดุจดั่งหยดน้ำนั้นจ้องมองไปที่มู่เฉียนซี
เขาพยายามจะมองให้เห็นบางอย่างในตัวของสาวน้อยผู้นี้ แต่สุดท้ายก็ถูกเงาดำขวางสายตาของเขาเอาไว้
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้นเผยเจตนาสังหารออกมา ทำให้สุ่ยอู๋ซินรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
สัญชาตญาณบอกเขาว่าบุรุษผู้นี้แข็งแกร่งมาก! ไม่อาจยั่วยุได้
สุ่ยอู๋ซินยิ้มพลางกล่าวขึ้นว่า “มันเป็นความสามารถของตัวเจ้าเองต่างหากล่ะ ไม่จำเป็นต้องขอบคุณอันใดพวกข้าหรอก ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา เกรงว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพวกเจ้าสินะ! เช่นนั้นก็ตามข้ามา!”
มู่เฉียนซีกล่าว “อืม!”
ใจกลางเกาะมังกรวารีถูกปิดกั้นไปด้วยกำแพงน้ำแข็ง ต่อให้เป็นเปลวไฟของมังกรอัคคีก็ไม่สามารถทำลายกำแพงน้ำแข็งนี้ได้
แต่พวกเขามีหัวหน้าเผ่ามังกรวารีนำทางจึงสามารถเข้าไปได้อย่างง่ายดาย
วังของเผ่ามังกรวารีเป็นตำหนักผลึกวารีสีฟ้าตำหนักหนึ่ง งดงามอย่างไร้ที่เปรียบ ดุจดั่งฝันไปก็มิปาน
ความงดงามของเผ่ามังกรวารีนี้นับว่าสวยงามที่สุดของบรรดาเผ่ามังกรเลยก็ว่าได้ ของที่อยู่ด้านในนั้นล้วนแต่งดงามอย่างไร้ที่ติทั้งสิ้น
เมื่อหัวหน้าเผ่ามังกรวารีและเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายได้นั่งลง พวกเขาก็กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคี ตกลงมีเรื่องอันใด?”
เฮยเย้าจึงกล่าวอย่างตรงไปตรงมาด้วยเช่นกันว่า “ข้าต้องการเปิดเกาะราชามังกร”
ผู้อาวุโสเหล่านั้นมองเฮยเย้าอย่างพิจารณา และกล่าวว่า “เจ้าบอกว่าต้องการเปิดเกาะราชามังกรอย่างนั้นเหรอ?”
“เจ้าเด็กน้อย นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า?”
“คำขอนี้มันดูหยาบคายไป…”
พวกเขายังกล่าวไม่ทันจบ ดวงตาของเฮยเย้าก็พลันเปลี่ยนเป็นสีทองแล้ว
สีทองอันบริสุทธิ์เช่นนั้นมีพลังอำนาจของสายเลือดเผ่าราชาอยู่ ทำให้ผู้อาวุโสเหล่านั้นต่างลุกพรวดขึ้น มีเพียงแค่สุ่ยอู๋ซินเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ยังคงนั่งอยู่บนบัลลังก์อันสง่านั้นของเขา
เหล่าผู้อาวุโสต่างกล่าวขึ้นด้วยความตกใจว่า “ข้าดูไม่ออกเลยว่านี่คือมังกรทองน้อยตัวหนึ่ง!”
“สายเลือดเผ่าราชายังไม่สูญสิ้น นี่เป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง! มิเช่นนั้นจะต้องเลือกจากเผ่าสี่เผ่าอีกครั้ง”
“……”
สุ่ยอู๋ซินมองเฮยเย้าและกล่าวว่า “เป็นมังกรทองจริง ๆ อีกทั้งยังเป็นมังกรทองที่มีสายเลือดมังกรดำอีกด้วย หลายหมื่นปีที่ผ่านมา เจ้าเป็นคนแรกจริง ๆ”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงอันนุ่มนวลไร้ซึ่งคลื่นใด ๆ นั้นของสุ่ยอู๋ซินแล้ว มู่เฉียนซีก็ตกใจนิ่งอึ้งไป
สามเผ่าก่อนหน้าที่พวกเขาเจอมานั้นไม่มีผู้ใดมองออกถึงสายเลือดมังกรดำของเฮยเย้าเลย แต่หัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้นี้กลับมองออก
มิน่าล่ะว่าเหตุใดพวกเขาถึงต่างกันหวาดกลัวเผ่ามังกรวารีมาก หัวหน้าเผ่ามังกรวารีผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเอาซะเลย
รูม่านตาของเฮยเย้าหดลง สายเลือดอีกสายเลือดหนึ่งของเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว พวกเขาจะ…
ผู้อาวุโสสามมังกรอัคคีก็ตกตะลึงขึ้นแล้ว “มังกรดำ! นึกไม่ถึงเลยว่าเด็กผู้จะเป็นมังกรดำ!”
“เป็นไปไม่ได้! มังกรทองกับมังกรดำจะมีบุตรด้วยกันได้อย่างไร”
พวกเขาไม่รู้เรื่องราวในปีนั้น พวกเขารู้เพียงแค่ว่าที่แดนมังกรของพวกเขาตกต่ำถึงเพียงนี้ล้วนแต่เป็นเพราะฝีมือของเผ่ามังกรดำ มู่เฉียนซีเงยหน้ามองสุ่ยอู๋ซินและกล่าวว่า “ไม่ว่าในร่างกายของเฮยเย้าจะมีสายเลือดใดอยู่บ้าง แต่เรื่องที่เขามีสายเลือดเผ่าราชานั้นเป็นเรื่องจริงที่ไม่ต้องสงสัยเลย เขาเป็นทายาทเผ่าราชา ดังนั้นพวกเจ้าก็ควรจะทำตามข้อตกลง ช่วยเปิดเกาะราชามังกรไม่ใช่หรอกเหรอ?”
หัวหน้าเผ่ามังกรวารีกล่าว “ตอนนั้นมีข้อตกลงนั้นอยู่ แต่ข้อตกลงนี้กลับไม่ได้บังคับ พวกเรามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ”
“จำเป็นต้องเปิดเกาะราชามังกร หากหัวหน้าเผ่ามังกรวารีไม่รับปากจะช่วย พวกเราก็ทำได้แค่ใช้กำลังแล้ว”
สุ่ยอู๋ซินยิ้มอย่างอ่อนโยนและกล่าวว่า “ก็ได้! ใช้กำลังตัดสิน เจ้ามาสู้กับข้าสักตั้ง”