ทันทีที่เสี่ยวหงกล่าวจบ พลังของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็พลันรุนแรงขึ้นทันที
พลังอันบ้าคลั่งนั้นทำให้ร่างของมันพลันเปลี่ยนเป็นหลายร่าง จากนั้นก็กลายเป็นรูปร่างของมัน
ร่างแยกบางร่าง พลังความแข็งแกร่งเหมือนมันมาก สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของสุ่ยอู๋ซินพลันเปลี่ยนไปมาก
ดวงตาของจิ่วเยี่ยเย็นยะเยือกขึ้น จากนั้นเขาก็ลงมืออีกครั้ง
พลังของเขาได้ยับยั้งร่างแยกทั้งหมดของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์เอาไว้ได้
พลังจิตอันแข็งแกร่งสามารถทำให้เขารับรู้ได้ถึงทุก ๆ การเคลื่อนไหวของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์
สุ่ยอู๋ซินกล่าว “มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็ใช้ได้แค่ทักษะลับเท่านั้น ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลไป ให้ความร่วมมือกับท่านจิ่วเยี่ยต่อ”
“ขอรับ!”
ตูม! จำนวนของศัตรูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พลังการทำลายล้างในการต่อสู้ครั้งนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
มู่เฉียนซีทำได้เพียงแค่พาเฮยเย้าออกห่างมาไกล ๆ มองดูมังกรสีเทาดำนับไม่ถ้วนทะลุผ่านระหว่างกัน เมื่อมองดูลมพายุอันน่าสะพรึงกลัวที่พัดกระโชกผ่านใบหน้าของจิ่วเยี่ยแล้ว ในใจของมู่เฉียนซีก็ตื่นตระหนกขึ้นอีกครั้ง
เสี่ยวหงกล่าว “นายท่านไม่ต้องเป็นกังวล อย่างไรเสียท่านจิ่วเยี่ยก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นอกจาก…”
เสี่ยวหงไม่ทันกล่าวจบ จู่ ๆ ดวงตาของจิ่วเยี่ยก็พลันเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น
อักขระสาปสีดำแผ่กระจายออกมาจากลำคออันขาวเนียนนั้นขึ้นมาถึงใบหน้า!
มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ก็สีหน้าซีดเผือดขึ้น “คำสาปของจิ่วเยี่ยสูญเสียการควบคุมแล้ว!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าคัมภีร์หมื่นคำสาปจะออกมารบกวนจิ่วเยี่ยในเวลานี้”
สุ่ยอู๋ซินและพวกต่างก็รับรู้ได้ว่าจิ่วเยี่ยนั้นอันตรายมาก อันตรายยิ่งกว่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์ตัวนี้เสียอีก
ตูม! พลังนี้บ้าคลั่งกว่าพลังของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์มาก คล้ายกับว่าสามารถทำให้ฟ้าดินพังทลายได้อย่างไรอย่างนั้น
หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีพึมพำเสียงเบาว่า “ท่านจิ่วเยี่ยเป็นอะไรไป ทักษะวิชาพิเศษอย่างนั้นเหรอ?”
สุ่ยอู๋ซินขมวดคิ้วขึ้น “มีบางอย่างผิดปกติ!”
มู่เฉียนซีกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้นางได้เตรียมยาลูกกลอนกับยาแผนปัจจุบันพร้อมแล้ว
เสี่ยวหงกล่าวด้วยความกลัดกลุ้มใจว่า “นี่ข้ากลายเป็นหมูปากอัปมงคลตั้งแต่เมื่อใดแล้ว! แต่นายท่าน ไม่เป็นไร ข้า…”
ตูม! เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังสนั่นขึ้นราวกับว่าจะระเบิดฟ้าดินก็มิปาน
ดูเหมือนว่าจิ่วเยี่ยจะฉีกร่างแยกสองร่างของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย และได้ช่วงชิงพลังร่างแยกของมันมา
“จะ เจ้า เจ้า…” ในตอนนี้มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็ถูกจิ่วเยี่ยทำให้ตกตะลึงขึ้นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้เจอกับบุรุษที่น่ากลัวเช่นนี้
มันรู้สึกว่าหากต่อสู้กับเจ้ามนุษย์ผู้นี้ต่อไป มันต้องมีจุดจบที่ไม่สวยเป็นแน่
มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ต้องการจะล่าถอย แต่จิ่วเยี่ยผู้โหดร้ายในตอนนี้จะยอมปล่อยให้มันผู้นี้รอดชีวิตไปได้อย่างไรกันล่ะ
ไม่สามารถปล่อยให้เขาลงมือต่อไปได้อีกแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้จิ่วเยี่ยฆ่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์ได้ ตัวเขาเองก็จะเป็นอันตรายเช่นกัน
“เฮยเย้า เจ้ารออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด”
กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็พุ่งไปทางจิ่วเยี่ยทันที
เสี่ยวหงก็ตามไปด้วยทันที “นายท่าน นายท่านอย่าใจร้อนไปเลย ให้ท่านจิ่วเยี่ยยับยั้งพลังเอาไว้ก่อน ส่วนเจ้ามดปลวกนั่น มอบให้เป็นหน้าที่ข้าที่จะจัดการมันเอง”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ตัวนางยังไม่ทันเข้าใกล้จิ่วเยี่ย แต่เข็มยาของนางก็พุ่งออกไปก่อนแล้ว
ทว่า พลังอันดำมืดที่แผ่ซ่านออกมานั้นได้ทำลายเข็มยาของมู่เฉียนซีไปสิ้น
เนื่องจากกลิ่นอายอันคุ้นเคยได้ใกล้เข้ามา จิ่วเยี่ยจึงไม่ได้เพ่งเล็งความสนใจไปที่มังกรปีศาจกลืนสวรรค์อีก เพราะมีเหยื่อที่ทำให้เขาสนใจกว่าปรากฏขึ้น
และเหยื่อที่ว่านี้แน่นอนว่าเป็นมู่เฉียนซี
ทันใดนั้นจิ่วเยี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายมู่เฉียนซี และได้กักขังร่างกายของนางเอาไว้
เขาอยู่ใกล้ชิดนางมาก ดวงตาที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายคู่นั้นดูเหมือนว่าจะกลืนกินมู่เฉียนซีลงท้องไปเสียให้ได้
“อือ!” จิ่วเยี่ยก้มหน้าจูบริมฝีปากของมู่เฉียนซี ลงมือกระทำอย่างหยาบช้า ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่อบอวลอยู่เต็มปากของนาง
นางเอาเข็มยาออกมาสองเข็ม และแทงเข้าที่แขนของเขา ผลลัพธ์ก็คือจิ่วเยี่ยยังคงไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย
ในตอนนี้ได้กำเริบจนถึงขั้นที่ไม่สามารถยับยั้งได้แล้วจริง ๆ เหรอ?
ดวงตาของมู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ คู่นั้นของจิ่วเยี่ย ริมฝีปากถูกประกบจูบอย่างโหดร้ายจนนางไม่สามารถเปล่งเสียงอันใดออกมาได้
สองมือของนางจับแขนของจิ่วเยี่ยเอาไว้แน่น นางมองเขาด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว เพียงแค่ขอร้องเท่านั้น
จิ่วเยี่ย ดึงสติกลับมาสิ
ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมาพ่ายแพ้ที่นี่!
เจ้าไม่มีทางพ่ายแพ้ ข้าพูดถูกหรือไม่?
เมื่อเห็นดวงตาเช่นนี้ของมู่เฉียนซีแล้ว ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็พลันเปลี่ยนไป
ในที่สุดเขาก็ยอมเอาริมฝีปากออกจากริมฝีปากของมู่เฉียนซีแล้ว เมื่อเห็นริมฝีปากที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น ในใจจิ่วเยี่ยก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย
ครั้นแล้วเขาจึงได้เอายาหัวใจโพธิ์ที่มู่เฉียนซีได้มอบให้เขาเอาไว้มากินเข้าไปขวดหนึ่ง และจิ่วเยี่ยก็กล่าวว่า “ซี ข้าจะจัดการกับเจ้านั่นให้เร็วที่สุด”
มู่เฉียนซีดึงเขาเอาไว้ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าหยุดลงมือได้แล้ว”
ถึงแม้ว่ายาหัวใจโพธิ์จะเป็นยาที่นิรันดร์ได้หลอมออกมา แต่ประสิทธิภาพมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น
พลังของจิ่วเยี่ยยังคงรุนแรงเฉกเช่นเดิม ไร้ท่าทีที่จะสงบลงมาเลยสักนิด หากต่อสู้กับมังกรปีศาจกลืนสวรรค์อีกครั้ง เช่นนั้นก็อาจจะได้สติกลับมาก็ได้
ดูเหมือนว่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์จะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิ่วเยี่ย พลังของจิ่วเยี่ยในตอนนี้ล้วนแต่ถูกใช้ในการยับยั้งคำสาปแล้ว และมันก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเหมือนเมื่อครู่แล้ว
“ที่แท้ พลังของเจ้ามันไม่คงที่นี่เอง เช่นนั้นตอนนี้เจ้าก็ไปตายซะเถอะ!”
ต้องฉวยโอกาสในตอนที่บุรุษผู้นี้อ่อนแอที่สุดจัดการกับเขา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง
ตูม! แน่นอนว่าเผ่ามังกรทั้งสี่ไม่ยอมให้มันทำสำเร็จแน่
สุ่ยอู๋ซินได้นำผู้แข็งแกร่งของทั้งสี่เผ่าเข้ารับมือกับมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ เขากล่าว “ท่านมู่ หากร่างกายของท่านจิ่วเยี่ยไม่ดี พวกท่านก็ถอยไปก่อนเถอะ”
“ส่วนมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ พวกเราจะหาวิธีปิดผนึกมันกลับไปเอง”
“พวกมดปลวกอย่างพวกเจ้าก็คิดจะขวางข้าอย่างนั้นเหรอ” มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ยังคงเหลือร่างแยกอีกสี่ร่าง และเริ่มโจมตีมังกรทั้งสี่เผ่าอย่างบ้าคลั่ง
มังกรทั้งสี่เผ่ารับมือกับมันร่างเดียวก็ลำบากมากพอแล้ว แต่นี่มีถึงสี่ร่าง
หากจัดการมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมู่เฉียนซีหรือจะเป็นมังกรทั้งสี่เผ่าก็ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตรายทั้งสิ้น
ขอเพียงแค่เขาได้ลงมือ…
เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน เช่นนั้นก็ไปยับยั้งอาการของท่านจิ่วเยี่ยเถอะขอรับ! เจ้ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์นี่มอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเอง”
เมื่ออู๋ตี้ได้ยินคำพูดของมันเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “เจ้าหมูขี้เกียจ นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า เจ้ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์มอบให้เป็นหน้าที่เจ้าจัดการอย่างนั้นเหรอ เจ้าไม่ดูตัวเองเอาซะเลยว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในระดับใด เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นสัตว์เทพอย่างนั้นเหรอ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวหง เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล!”
เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ข้าจริงจังนะ ถึงแม้ว่าระดับของข้ามันจะอ่อนแอไปสักหน่อย แต่สำหรับเจ้าหมอนี่ ข้าเชื่อว่าข้าจะเอาชนะมันได้ เพียงแต่ว่าข้าอาจจะหลับใหลไป อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้หลับใหลมานานแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อถึงตอนนั้นนายท่านอย่าได้คิดถึงข้ามากก็แล้วกันล่ะ”
“เสี่ยวหง!” มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้น
เสี่ยวหงผู้นี้ลึกลับมาโดยตลอด บางทีมันอาจจะมีไพ่เด็ดก็ไม่แน่ แต่สิ่งที่ต้องแลกกับการรับมือกับเจ้านี่นั้น…
เสี่ยวหงไม่ได้ให้เวลามู่เฉียนซีตอบตกลงเลย มันก็พุ่งออกไปเสียแล้ว
ในขณะที่มันได้พุ่งออกไปนั้น เปลวไฟสีแดงสดก็ได้ย้อมท้องฟ้าจนแดงฉานแล้ว
มังกรปีศาจกลืนสวรรค์รับรู้ได้ถึงพลังของเปลวไฟนี้ รูม่านตาของมันก็หดตัวลง และกล่าวด้วยความตกใจว่า “เจ้า…นี่เจ้ามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”
“เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามานะ!” พวกเขาเห็นมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ทำท่าทางเหมือนกับความวิบัติมาเยือนทันทีที่เห็นหมูแดงตัวนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาจึงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอันใดขึ้น?