ตอนที่ 126 – เวลาสองเท่า
”บอสบอสบอส ตะโกนเรียกบอส!”
กลางดึก ชิ่งเฉินถูกเสียงสั่นของอุปกรณ์สื่อสารสถานีฐานปลุกจนตื่น
เขาล้วงไปใต้หมอนหยิบออกมาดู ถึงกับเป็นข้อความที่หลิวเต๋อจู้ส่งออกมาถี่ยิบ คำเรียกที่เจ้าหมอนี้มีต่อชิ่งเฉินจู่ ๆ ก็เปลี่ยนเป็นบอสด้วย
ชิ่งเฉินงุนงงนิดหน่อย เรื่องอะไรมีค่าให้อีกฝ่ายมากวนตนเองกลางดึกกลางดื่นหรือ
เขาตอบกลับไปว่า “มีธุระก็ว่ามา”
หลิวเต๋อจู้ส่งข้อความมาว่า “ผมทำตามคำสั่งของท่านแล้ว ตรึงนักท่องเวลาไม่กี่คนในคุกหมายเลข 18 ให้อยู่นิ่ง ในนั้น อวี๋จวิ้นอี้เพื่อนนักเรียนห้องข้าง ๆ ของผมคนนั้นเชื่อสถานะของผมในคุกอย่างเต็มที่แล้ว”
ชิ่งเฉินตอบกลับ: อืม
หลิวเต๋อจู้ส่งมาอีกว่า “หูเสี่ยวหนิวเพิ่งจะติดต่อกับผมบอกว่า เพื่อแสดงความรู้สึกขอบคุณที่กำจัดสาย เต็มใจจะจ่ายค่าตอบแทนทองคำอีกสิบแท่ง แถมยังสัญญาว่าจะไม่เปิดเผยเนื้อหาของการแลกเปลี่ยนกับคนอื่นเป็นอันขาด บอส ผมสาบานว่าครั้งนี้ไม่มีการยักยอกสักครึ่งส่วนแน่นอนที่สุด บอสโปรดเชื่อในความภักดีของผมตอนนี้ ไม่ได้โกหกสักครึ่งส่วนเป็นอันขาด!”
ชิ่งเฉินใคร่ครวญ เจ้าหูเสี่ยวหนิวนี่พึ่งพาได้กว่าหลิวเต๋อจู้มาก รออีกฝ่ายหายจากอาการบาดเจ็บมาถึงเมืองหมายเลข 18 สามารถหาโอกาสติดต่อด้วยให้มากหน่อย
ถ้ายืนยันได้ว่าอีกฝ่ายไม่มีปัญหาอะไร ให้หูเสี่ยวหนิวกลายเป็นเอเย่นต์แทนหลิวเต๋อจู้อาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว
เวลานี้ หลิวเต๋อจู้จู่ ๆ ส่งข้อความมาว่า “บอส ดึกดื่นมาพูดเรื่องพวกนี้กับท่านต้องขออภัยจริง ๆ แต่ว่าฝั่งผมเกิดสถานการณ์เล็กน้อย……”
”สถานการณ์อะไร”
”ตอนผมลุกขึ้นมาฉี่ตอนเที่ยงคืน ค้นพบว่าข้างหมอนมีจดหมายหนึ่งฉบับเพิ่มขึ้นมา…… บอส บนจดหมายนั่นยังมีแสตมป์ลายมารร้ายด้วย ผมดูแล้วกลัวนิดหน่อย”
ชิ่งเฉินเข้าใจแล้ว ที่แท้หมอนี่มารบกวนตนเองดึกดื่นเที่ยงคืนเพราะถูกแสตมป์มารร้ายขู่ขวัญ
วัตถุต้องห้าม ACE-017 แสตมป์มารร้าย
สิ่งของนี้เคยปรากฏตรงที่หวังอวิ๋น ชิ่งเฉินระแวงว่าผู้ที่ครอบครองมันก็คือชายที่โทรศัพท์หาหัวหน้าคนร้ายคืนนั้น
เหมือนเป็นคนคนนี้ที่เชื่อมโยงคนร้ายกับหวังอวิ๋นเข้าด้วยกัน ปลุกปั่นเหตุการณ์ลักพาตัวเขาเหล่าจวิน
คนที่หลบซ่อนในฉากหลังอย่างแท้จริง
คนที่ไม่นำพากฎหมายและความรู้สึกผิดชอบชั่วดี
ชิ่งเฉินถามว่า “บนจดหมายเขียนอะไร”
หลิวเต๋อจู้ตอบกลับมาว่า “มีแค่ประโยคเดียว: พวกเรามาเล่นเกมกันเถอะ ใครถูกอีกฝ่ายหาเจอก่อน คนนั้นก็จะกลายเป็นทาสของอีกฝ่าย ฮี่ฮี่”
ชิ่งเฉินขมวดคิ้วขึ้นมา สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขนลุกไม่ใช่เนื้อหาในจดหมาย ทว่าเป็นคำฮี่ฮี่สองคำนี้
คนที่สติสมประกอบใครมันจะไปใช้ฮี่ฮี่เป็นคำพูดติดปาก เหมือนจะมีแต่คนที่สติไม่สมประกอบถึงจะใช้อย่างนี้
ก็คล้ายกับ…….ความรู้สึกว่ามีคนกำลังใช้เล็บขูดไปบนกระดานดำ
ประโยคนี้ชัดเจนมากว่าไม่ได้พูดกับหลิวเต๋อจู้ นี่เป็นการพูดกับชิ่งเฉิน!
อีกฝ่ายยืนยันแล้วว่า หลิวเต๋อจู้เป็นแค่หุ่นเชิดของชิ่งเฉิน
ถูกคนประเภทนี้จับจ้อง อันตรายสุด ๆ
จนกระทั่งขณะนี้ชิ่งเฉินก็รู้สึกในที่สุดว่า ในโลกที่อันตรายทุกวันนี้ จะปลอมตัวและปกป้องตัวเองอย่างไรล้วนคล้ายจะไม่เว่อร์เกินไป
หลิวเต๋อจู้ถามว่า “บอส ทำยังไง”
ชิ่งเฉินตอบกลับว่า “รอเขาหามาถึงหน้าประตู จากนั้นฆ่าเขาซะ”
……
”ถอดรองเท้า”
เช้าตรู่ในลานเล็กของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร เจียงเสวี่ยนั่งบนเก้าอี้ไม้ไผ่ตรงข้ามกับชิ่งเฉิน กล่าวอย่างสงบนิ่ง
เธอมัดผมเป็นมวย ในมือยังถือขวดยาขวดเล็ก ๆ หนึ่งขวด
”น้าเจียงเสวี่ย แผลบนเท้าผมหายแล้วครับ” ชิ่งเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรจริง ๆ”
”ไม่ได้ ฉันจะต้องดูกับตา” เจียงเสวี่ยใบหน้าเย็นชา “คุณเจ้าเด็กคนนี้โหดกับตัวเองเกินไป ไม่เห็นกับตาฉันไม่วางใจ ฟังคำพูดน้าแล้วรีบ ๆ ถอดรองเท้า น้าเอายาทามาให้คุณจากโลกภายในนะ”
หลังเขาเหล่าจวินเกิดเรื่อง เจียงเสวี่ยเช่าลานเล็กทั้งลานตรง ๆ เถ้าแก่กับภรรยาเถ้าแก่ล้วนกลับบ้านไปแล้ว ในลานนี้เหลือเพียงพวกเขาสามคน
เวลานี้ หลี่ถงอวิ๋นที่ผูกทวินเทลนั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ กล่าวว่า “พี่ชิ่งเฉิน พี่ฟังคำพูดของแม่เถอะ แม่เขาเอายาทาจากโลกภายในมาให้พี่โดยเฉพาะเลยนะ แม่บอกว่ายานี้แพงด้วย”
ชิ่งเฉินได้แต่ถอดรองเท้ากับถุงเท้าบนเท้าอย่างจนแต้ม
เจียงเสวี่ยตะลึงไป “หายดีไม่น้อยแล้วจริง ๆ ด้วย ที่โลกภายในคุณได้ทายาเหรอ”
”อืม” ชิ่งเฉินพยักหน้า
”ในเมื่อเท้าคุณแผลเกือบหายแล้ว งั้นพวกเราก็กลับเขตเมืองบ่ายวันนี้เถอะนะ?” เจียงเสวี่ยมองไปทางชิ่งเฉิน “ฉันจะเรียกแท็กซี่หนึ่งคัน อย่างนี้ก็ไม่ต้องไปต่อคิวขึ้นรถบัสแล้ว”
”ไม่ได้ครับ” ชิ่งเฉินส่ายหน้า “น้าเจียงเสวี่ยรออีกไม่กี่วันได้ไหมครับ ผมยังมีธุระนิดหน่อยต้องทำที่นี่ หรือว่าน้าพาเสี่ยวอวิ๋นกลับไปก่อน ผมอยู่ที่นี่เพิ่มอีกสองสามวัน”
วันนี้โลกภายนอกวันที่ 3 เดือนตุลาคม ยังอีกหลายวันกว่าจะเปิดเรียน
เจียงเสวี่ยฉงน “คุณยังมีธุระที่เขาเหล่าจวินเหรอ งั้นฉันกับเสี่ยวอวิ๋นก็ไม่ไป ฉันทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอก”
หลี่ถงอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างได้ยินแล้วในใจยินดีอย่างบ้าคลั่ง ตอนเช้าแม่ยังบอกกับเธอว่า วันนี้กลับไปแล้วก็จะส่งเข้าติวเสริมภาคค่ำ ไม่กี่วันที่เหลือให้ไปติวเสริมดี ๆ……
ตอนนี้ การติวเสริมไม่ต้องแล้วเป็นที่แน่นอน
สายตาที่เด็กหญิงมองชิ่งเฉินในขณะนี้เป็นอารมณ์เทิดทูนล้วน ๆ
ชิ่งเฉินสบตาเจียงเสวี่ยคิด ๆ ดู “พอดีเลยครับ มีส่วนที่ต้องให้น้าเจียงเสวี่ยช่วยเหลือ”
เขาไปในร้านขายอุปกณ์เอาท์ดอร์คุณภาพสูงบนเขาเหล่าจวิน ซื้อเชือกไนลอนหลายเส้น จากนั้นใช้เวลาสองชั่วโมงจึงหาหน้าผาตั้งฉากสูงยี่สิบกว่าเมตรแห่งหนึ่งพบบนภูเขา
เจียงเสวี่ยไม่เข้าใจ “เสี่ยวเฉิน คุณอยากจะทำอะไรน่ะ”
”ปีนขึ้นไป” ชิ่งเฉินแหงนหน้ามองหน้าผานั้น ในใจเขาทราบกระจ่างมากว่าตนเองที่โลกภายในไม่มีเวลาแล้ว ไม่มีโอกาสจะฝึกฝนอย่างเอาจริงเอาจังอีก
ครูหลี่ซูถงคนนี้เหมือนจะไม่กังวลใจสักนิด เขารู้สึกอยู่เสมอว่าเวลาที่นักเรียนคนนี้ของตัวเองถูกผลักเข้าสู่จุดชี้เป็นชี้ตายก็เหมือนจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์อะไรออกมาได้ทุกอย่าง
ต้องพูดว่าใจของครูคนนี้ใหญ่ก็เกินไปแล้ว
แต่ในใจของตัวชิ่งเฉินเองไม่ได้หายห่วง ถึงแม้เขาจะมีพรสวรรค์ด้านความทรงจำ สามารถวิเคราะห์และแยะแยกการกระทำทุกอย่างที่หลี่ซูถงสอนเขาตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน แต่ถ้าตนเองไม่ฝึกสักหน่อยจะต้องเกิดปัญหาแน่นอน
ดีว่าสิ่งที่เขากับคนทั่วไปไม่เหมือนกันคือ เขามีเวลาเป็นสองเท่า
……………………………………………………………
ตอนที่ 127 – พึ่งพาชีวิต