บทที่ 235 จิตวิญญาณของการผ่าตัด
ขณะที่กำลังผ่าตัดเย็บเส้นเอ็นอยู่นั้น จู่ๆ เฉินชางก็คิดถึงคำพูดประโยคหนึ่งของเฉียนเลี่ยงขึ้นมา!
เป็นคำพูดเมื่อตอนสอบบรรจุครั้งนั้น เฉียนเลี่ยงเคยแสดงคำวิจารณ์หลี่ซื่อเจี้ยนครั้งหนึ่ง
เฉียนเลี่ยงบอกว่าการผ่าตัดของหลี่ซื่อเจี้ยนไม่มีจิตวิญญาณ!
ในตอนนั้นเฉินชางไม่เข้าใจคำพูดนี้เลยสักนิด รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ดูอวดเก่งมาก ไม่มีแก่นสารของความเป็นจริงเลยสักนิด แต่! ในตอนนี้คิดไม่ถึงว่าเฉินชางจะเริ่มเข้าใจแล้ว!
ไม่มีจิตวิญญาณหมายความว่าอย่างไร
ก็คือการไม่ได้คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง!
ไม่ได้คิดใคร่ครวญถึงความหมายและเป้าหมายในการผ่าตัดอย่างลึกซึ้ง
ก็เหมือนกับการแกะสลัก คุณแกะไปตามแบบ แต่ไม่ได้มีการคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้ง และไม่มีความเข้าใจในตัวชิ้นงาน ทำให้ขาดความเข้าใจที่มากพอในชิ้นงานที่ทำ
แล้วอะไรที่เรียกว่าจิตวิญญาณของการผ่าตัด
เฉินชางขมวดคิ้วมุ่น เริ่มเข้าใจความหมายของคำว่าจิตวิญญาณของการผ่าตัดขึ้นมาบ้างแล้ว
เฉินชางคิดว่าจิตวิญญาณในที่นี่หมายถึงอะไร คงจะเป็นการผ่าตัดหนึ่งเคส ไม่ว่าจะแง่มุมไหน ไม่ว่าจะด้วยรูปแบบการผ่าตัดประเภทไหน คุณจะต้องบรรลุเป้าหมายให้ได้สองถึงสามเป้าหมาย จิตวิญญาณในการผ่าตัดคือผลลัพธ์ในการรักษา
ยกตัวอย่างเช่นการเย็บเส้นเอ็น ทำอย่างไรถึงการเย็บเส้นเอ็นให้เพียบพร้อมไปด้วยจิตวิญญาณ
การเย็บเส้นเอ็น ศัลยแพทย์คนไหนก็เย็บได้กันทั้งนั้น ก็เหมือนกับงานแกะสลักที่ช่างแกะสลักคนไหนก็ทำได้
เมื่อเป็นเช่นนั้น จิตวิญญาณของการเย็บเส้นเอ็นก็คงเป็นการทำอย่างไรให้มองเส้นเอ็นเป็นหนึ่งชีวิต พยายามคิดหาทุกวิถีทางที่จะพาตนเองให้เชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับเส้นเอ็น คิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งว่าต้องทำอย่างไร ถึงจะทำให้บาดแผลหายสนิทในเวลาอันรวดเร็วยิ่งขึ้น
ในตอนนี้ เฉินชางมีความรู้สึกนี้!
เขามองเนื้อเยื่อรอบเส้นเอ็นด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง
เนื้อเยื่อหุ้มเส้นเอ็นมีความละเอียดอ่อนมาก รวมทั้งเยื่อหุ้มชั้นในและชั้นนอก ปลอกหุ้มเส้นเอ็น ปุ่มเอ็น เป็นต้น ขณะเย็บเส้นเอ็นจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการทำให้เนื้อเยื่อเหล่านี้ได้รับความเสียหาย เนื้อเยื่อหุ้มเส้นเอ็นเป็นอวัยวะที่ส่งเลือดไปที่เส้นเอ็น ช่วยรักษาความสมบูรณ์ในการยืดเหยียดของเส้นเอ็น ช่วยลดการเกิดพังผืดยึดเกาะเส้นเอ็นหลังการผ่าตัด
ระหว่างผ่าตัดเย็บเส้นเอ็น เฉินชางก็เลยระวังและหลีกเลี่ยงเนื้อเยื่อหุ้มเส้นเอ็นที่อยู่โดยรอบเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อเหล่านี้ได้รับความเสียหายใดๆ
เฉินชางในคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งถึงปัจจัยต่างๆ ที่จะก่อให้เกินพังผืด ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดปัจจัยที่ส่งผลกระทบเหล่านั้นให้เหลือน้อยที่สุดได้
เช่นวัสดุที่ใช้ในการเย็บแผล เฉินชางเลือกใช้ไหมเย็บแผลที่เคลือบด้วยสารต้านแบคทีเรียหนึ่งชั้น ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดพังผืดในภายหลัง
ปกป้องรักษาเนื้อเยื่อโดยรอบให้ดีช่วยลดปัญหาการยืดเหยียดของเส้นเอ็นที่ปกติ
…
ในทุกขั้นตอน เฉินชางคิดอย่างรอบคอบเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนวางแผนการรักษาเส้นเอ็น ไปจนถึงการเลือกเทคนิคในการเย็บเส้นเอ็น เทคนิคการเชื่อมเส้นเอ็นที่ขาดเข้าด้วยกัน และสุดท้ายก็จัดการกับบาดแผลโดยรอบ
ปกติแล้วการเย็บเส้นเอ็นควรใช้ลวดสำหรับเย็บแผลในการเย็บเส้นเอ็น แต่เฉินชางไม่เลือกใช้วิธีนี้ เพราะเฉินชางผ่านการฝึกฝนเทคนิคการเย็บแผลแบบพิเศษมาแล้ว จึงดึงคุณสมบัติพิเศษที่ได้จากทักษะนี้มาใช้ ทำให้ไหมเส้นเล็กพิเศษก็มีความเหนียวและทนทานเพิ่มขึ้นได้
เทคนิคในการเย็บแบบเคสเลอร์ค่อนข้างมีความมั่นคง แข็งแกร่ง บริเวณที่เย็บไม่ปริง่าย เฉินชางผนวกข้อได้เปรียบของเทคนิคนี้เข้ากับแนวความคิดของตนเองได้อย่างยอดเยี่ยม
ในครั้งนี้เฉินชางใช้เวลาในการเย็บนานกว่าปกติมาก
แต่ก็มีการคิดใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งในทุกขั้นตอนมากขึ้นเช่นกัน!
หลังจากที่เย็บเส้นเอ็นเสร็จแล้ว เฉินชางก็กำชับเรื่องการดูแลตนเองหลังการผ่าตัดให้ผู้ป่วยฟังหนึ่งรอบ รวมทั้งบอกกับผู้ป่วยถึงระยะเวลาในการฟื้นฟูหลังผ่าตัดกับวิธีการเคลื่อนไหวมือ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องแจ้งกับผู้ป่วยหลังผ่าตัดเป็นปกติ
หลังจากที่ผู้ป่วยกลับไปแล้ว เฉินชางก็จมดิ่งสู่ห้วงแห่งความคิด ทว่าเมื่อคิดแล้วคิดอีกก็ยังคิดไม่ตกว่ามีตรงไหนที่แตกต่างไป
การผ่าตัดหนึ่งเคส ระยะเวลายังไม่มากพอที่จะทำให้เกิดข้อสรุป อาจจะต้องเย็บเส้นเอ็นให้ได้สักห้าร้อยเคส ตนถึงจะสร้างวิธีการเย็บเส้นเอ็นที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังได้
เมื่อถึงตอนนั้นแล้ว เทคนิคเย็บเส้นเอ็นเทคนิคใหม่ที่เขาคิดค้นขึ้นจะถูกเรียกว่า ‘วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของเฉิน’ รอกระทั่งถึงตอนที่ทฤษฎีกับหลักการและรูปแบบการผ่าตัดเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของเขาก็จะถูกเรียกว่า ‘ทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของเฉิน’!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เฉินชางก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความรู้สึกเฝ้าคอยกับความรู้สึกกระตือร้นอยากจะลงมือ!
คนที่ปราศจากเป้าหมายย่อมไร้แรงขับเคลื่อน
ในตอนนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการโฟกัสที่เป้าหมาย ค้นคว้าวิจัยให้มาก ใคร่ครวญอย่างลึกซึ้งมาก รวมรวบข้อมูลให้เยอะ
เมื่อฉินเยว่เห็นเฉินชางดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอยู่ เธอก็ไม่กล้าขัดจังหวะ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าในครั้งนี้เฉินชางใช้เวลาในการผ่าตัดนานกว่าปกติมาก
ทันใดนั้นเธอก็เกิดความคิดว่า ผ่าตัดครั้งหน้าเธอจะต้องพกกล้องที่ที่บ้านเพิ่งซื้อมาติดตัวมาด้วย การผ่าตัดที่ต้องใช้ความประณีตสูงขนาดนี้ กล้องวงจรปิดในห้องผ่าตัดเก็บรายเลียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ไม่ได้แน่
ทันใดนั้นเฉินชางก็หันมามองฉินเยว่ “ฉินเยว่ ฮึๆ ครั้งนี้พวกเราทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่!”
ฉินเยว่ชะงัก มองเฉินชางด้วยความงงงัน “เรื่องอะไร”
เฉินชางหัวเราะ “คุณรู้จักวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังมั้ย”
ฉินเยว่พยักหน้า “แน่นอนว่า เขาเป็นถึงฮีโร่ของชาติของเรา วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และแม้แต่การแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดก็ยังถูกเรียกว่า ‘ทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของทัง’ เขาเป็นที่ยกย่องในวงการศัลยกรรมมือ เป็นความสำเร็จมากที่สุดในรอบเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา!”
เฉินชางยิ้มเล็กน้อย “มีความคิดจะคิดค้น ‘ทฤษฎีการแบ่งเขตเส้นเอ็นยืดเหยียดของเฉิน’ กับ ‘วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของเฉิน’ บ้างมั้ยครับ”
ฉินเยว่ชะงัก นัยน์ตาเบิกโต อ้าปากค้าง “เฉินชาง คุณตื่นเถอะ คุณฝันกลางวันอยู่หรือไง”
เฉินชางไม่พูดอะไร เขาถอดถุงมือยางออก แล้วเดินออกไปจากห้องผ่าตัด “คอยดูเถอะ!”
เมื่อฉินเยว่เห็นสายตาที่มุ่งมั่นของเฉินชาง เธอก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเธอคิดว่าเฉินชางทำไม่ได้ แต่เธอแค่รู้สึกว่าเป้าหมายมันใหญ่เกินไป
คิดจะท้าสู้วิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทัง คุณกล้ามากเกินไปหรือเปล่า!
ทันทีที่เฉินชางเดินพ้นประตูห้องผ่าตัดมา เขาก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบดังขึ้น
[ติ๊ง! กระตุ้นภารกิจท้าทายพิเศษ: สร้างวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของเฉิน รวบรวมประสบการณ์ และวิจัยวิธีการเย็บเส้นเอ็นยืดเหยียดแบบใหม่ เป็นที่ยอมรับและรับการได้ตีพิมพ์ผลงานวิจัยลงบนวารสารศัลยกรรมมือแห่งยุโรปสำเร็จ
จะได้รับรางวัล:
1. ทักษะการเย็บเส้นเอ็นได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับสมบูรณ์โดยอัตโนมัติ
2. เปิดระบบใบรับรองการเปลี่ยนอาชีพเป็นศัลยแพทย์ด้านมือ (สีม่วง)
3. คะแนนทักษะ +20 คะแนน
4. อุปกรณ์พิเศษสำหรับผ่าตัดมือหนึ่งไอเทม
ระยะเวลาภารกิจจำกัด: 3 ปี
คำเตือนกรณีภารกิจล้มเหลว: ระบบเปลี่ยนอาชีพเป็นศัลยแพทย์ด้านมือของคุณจะเปิดใช้งานไม่ได้]
[ติ๊ง! นับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ทักษะการเย็บเส้นเอ็นของคุณจะยังเพิ่มเป็นระดับสมบูรณ์ไม่ได้ จนกว่าคุณจะผ่านประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง และผ่านเคสยากมาแล้วเท่านั้น ถึงจะทำลายเงื่อนไขนี้และเลื่อนระดับได้!]
เสียงแจ้งเตือนที่ดังขึ้นสองครั้งทำใหเฉินชางถึงกับชะงักงัน
ผม…ผมก็แค่คุยโวอวดเก่งเท่านั้นเอง ลูกพี่อย่าจริงจังมากขนาดนั้นจะได้มั้ย
เมื่อเห็นข้อความแจ้งเตือนของระบบ เฉินชางยืนตกตะลึงตาค้างอยู่กับที่
ถึงแม้ภารกิจจะยากมาก แต่รางวัลก็หลากหลายมากจริงๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงรางวัลอื่นๆ ลำพังแค่สัญลักษณ์สีม่วงที่อยู่ด้านหลังรางวัลใบรับรองการเปลี่ยนอาชีพเป็นศัลยแพทย์ด้านมือก็ดึงดูดมากแล้ว
คะแนนทักษะ +20 เทียบเท่ากับเพิ่มระดับขึ้นถึงระดับ 20
แถมยังมีอุปกรณ์พิเศษสำหรับผ่าตัดมืออีกหนึ่งไอเทม
ระยะเวลาภายในสามปี!
เฉินชางยิ้มเล็กน้อย ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ศาสตราจารย์ทังอายุเพิ่งจะห้าสิบกว่า ตอนที่เขาคิดค้นวิธีการเย็บเส้นเอ็นในแบบของทังได้สำเร็จ เขายังหนุ่มมากอยู่เลย แล้วทำไมตนจะทำไม่ได้
หลังจากกลับมาถึงแผนกฉุกเฉินแล้ว เฉินชางก็ไปหาหัวหน้าพยาบาล “หัวหน้าพยาบาลครับ ต่อไปถ้ามีเคสเย็บเส้นเอ็น คุณโทรเรียกผมได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”
เถียนเซียงหลาน “หมอเฉิน คุณเพี้ยนไปแล้วหรือไง”
ฉินเยว่พูดมาจากด้านหลัง “เขาบอกว่าเขาทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้!”
หัวหน้าพยาบาลชะงัก หนึ่งวินาที (เสร็จ) แล้วจะไปทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้