การระเบิดของกระแสปั่นป่วนอันเกิดมิติเวลา เริ่มขึ้นหลังจากเงาแสงของจักรพรรดิประกายกาฬหสายไป
เพื่อขับเน้นวาสนาที่ได้จากกงจักรมหาประกายกาฬ ผิวของวังฝูงมังกรมีแสงอันขมุกขมัวคลุมอยู่ชั้นหนึ่ง เคลื่อนไหววกไปวนมาอยู่กลางกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา ได้รับการปกป้องรอบด้าน
ไม่อย่างนั้นแม้จะหลอมประตูหยกขาวไปแล้ว ท่ามกลางคลื่นอันน่ากลัวเช่นนี้ จุดจบของวังฝูงมังกรก็คือความพินาศอยู่ดี
พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ในวังฝูงมังกรย่อมลำบาก
ตอนนี้ทุกคนกลับสงบสติอารมณ์ได้
กระนั้นเยี่ยนจ้าวเกอก็สังเกตเห็นว่า กงจักรมหาประกายกาฬค่อยๆ เงียบงันลง
แม้จะดูดตะเกียงประกายกาฬไปแล้ว กงจักรมหาประกายกาฬก็ยังคงไม่สมบูรณ์ ถือว่าเป็นของกึ่งสำเร็จรูปเท่านั้น
คิดจะทำให้มันกลายเป็นอาวุธเซียนที่สั่นสะเทือนฟ้าดินในตำนาน ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องเดิน
เยี่ยนจ้าวเกอลองเชื่อมต่อกับมันดู กลับไม่มีเสียงสะท้อนใด ของวิเศษที่เพิ่งจะแสดงความสามารถยิ่งใหญ่ออกมาเมื่อครู่ชิ้นนี้ ในตอนนี้เหมือนกลายเป็นกงจักรเหล็กสีดำที่ไม่สะดุดตาโดยสิ้นเชิง ลอยนิ่งอยู่กลางความว่างเปล่าด้านในวังฝูงมังกร
ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอกลับไม่รีบร้อน เพียงมองกงจักรเหล็กสีดำนั้นพลางตั้งใจสำรวจ
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ส่วนหนึ่งอยู่ในการคาดการณ์ของเขา อีกทั้งยังเป็นเพราะฝีมือของเขาด้วย
แต่มีเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เยี่ยนจ้าวเกอได้เห็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่ทราบอยู่ไม่น้อย
“คุณชาย” อาหู่ถูไม้ถูมือ เขยิบมาใกล้อย่างสนใจ “นอกจากของชิ้นนี้แล้ว พวกเราครั้งนี้ยังได้อะไรมาอีก?”
เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “หากพูดถึงประโยชน์ที่เห็นผลได้ในทันที ต้องตัดของเล่นชิ้นนี้ออกไปก่อน”
ใบหน้าของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกปรากฏรอยยิ้ม แบมืออก มีแสงสว่างสาดออกมาจากใจกลางฝ่ามือ
นาทีถัดมา สิ่งของสีขาวขุ่นลักษณะเหมือนกับกระดูกก็โผล่ขึ้นที่ใจกลางฝ่ามือของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก
อาหู่มองกระดูกชิ้นนั้นอย่างสนใจ พิจารณาอย่างละเอียดอยู่นาน แต่ก็ยังแน่ใจว่าตนไม่เคยเห็นมาก่อน
“เหมือนจะเป็นกระดูกส่วนหลังของตัวอะไรสักตัว เป็นกระดูกสันหลังท่อนหนึ่งหรือขอรับ” อาหู่เกาศีรษะขนาดใหญ่ของตัวเอง
กลับเป็นพ่านพ่านที่อยู่ด้านข้างขยับเข้ามา ใช้จมูกดุนเล็กน้อย ดวงตาปรากฏลักษณะคล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ
ตัวมันเองก็ไม่เคยเห็นสายพันธุ์ของอีกฝ่ายมาก่อน ทว่าความทรงจำที่รับสืบทอดจากบรรพบุรุษซึ่งสลักไว้ในส่วนลึกของสายเลือด ทำให้มันเกิดความรู้สึกคุ้นเคยอยู่หลายส่วน
พ่านพ่านจ้องอยู่พักหนึ่ง ฉายสีหน้า ‘ถึงแม้จะไม่รู้จัก แต่ดูน่าอร่อยดี’ ออกมา จากนั้นก็ใช้ลิ้นเลีย คิดจะนำกระดกชิ้นนี้ไป
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกตอนนี้กลับห้ามมัน เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยกลั้วหัวเราะ “ช้าก่อน ของอย่าอื่นยังพอได้ แต่ของชิ้นนี้ไม่อาจให้เจ้ากินได้”
พ่านพ่านกะพริบตา เหมือนกับไม่เข้าใจ ใช้ลิ้นเลียไปยังกระดูกชิ้นนั้นอีกครั้ง
“เป๊าะ!”
เยี่ยนจ้าวเกอดีดนิ้วใส่ศีรษะของมันอย่างไม่พอใจ “หยุดทำหน้าซื่อได้แล้ว เจ้าไม่ใช่ไม่เข้าใจคำพูดของข้าเสียหน่อย”
พ่านพ่านใช้อุ้งเท้าหน้าปิดหน้าผาก แยกเขี้ยวออก เผยรอยยิ้มใสซื่อออกมา
ชายหนุ่มมองกระดูกชิ้นนั้น กล่าวอย่างเชื่องช้า “สำหรับเจ้าแล้วมันเป็นอาหารอันโอชะ แต่ว่าสำหรับร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกของข้า กลับเป็นของที่ยอดเยี่ยมยิ่ง”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยิ้มเล็กน้อย ฝ่ามืออกแรงกำมัน กระดูกสีขาวขุ่นนั้นสั่นไหวขึ้นมา
แสงสีขาวขุ่นค่อยๆ หายไป ก่อนจะมีแสงสีทองหลายสายสาดออกมาจากในกระดูกชิ้นนั้น!
กระดูกทั้งชิ้นนั้นเปลี่ยนเป็นโปร่งแสงละลานตาเหมือนกับผลึกสีทอง
กระดูกชิ้นนี้เหมือนกับมีชีวิตเป็นของตัวเอง เริ่มโดดเด้งอย่างต่อเนื่อง ด้านในกระดูกมีเสียงร้องดังมา เหมือนกับเสียงอันรกร้างที่ข้ามผ่านทะลุกาลเวลามาถึง
ด้านในแสงสีทองปรากฏภาพมายามภาพหนึ่ง
ในภาพมายาคือมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาลและไร้ขอบเขต
คลื่นโหมกระหน่ำ ด้านในทะเลลึกมีเงาร่างขนาดมหึมาเงาหนึ่งเคลื่อนไหว
คลื่นซัดสูงเทียมฟ้า คลื่นยักษ์อันบ้าคลั่งเมื่อเข้าใกล้เงาร่างขนาดมหึมานี้ กลับถูกบดขยี้เป็นผุยผง
ในตอนที่เงาสีดำขนาดยักษ์นี้ลอยขึ้นด้านบน ค่อยๆ เข้าใกล้ผิวทะเล มองดูแล้วเหมือนกับเกาะขนาดเล็กเกาะหนึ่ง ไม่อาจกะประมาณขนาดของมันได้
เงาดำในที่สุดก็โผล่พ้นน้ำ กลับเป็นปลาคุนที่ตัวใหญ่สุดเปรียบปานตัวหนึ่ง
ปลาคุนว่ายอยู่ในท้องทะเล ความชัดเจนของพลังอันที่รกร้างยิ่งใหญ่ เหมือนกับสามารถแบกฟ้าดินได้
มันกระโจนขึ้นจากน้ำทะเล กลายเป็นนกเผิงสีเขียวขนาดยักษ์ตัวหนึ่งกลางอากาศ
นกเผิงกางปีก ลอยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ในพริบตา ก่อนหายไปกลางอากาศ ยากจะค้นหาร่องรอยอีก
อาหู่มองภาพนี้ จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปที่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลก โพล่งขึ้นว่า “คุนเผิง!”
“ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอผงกหัวเล็กน้อย “นี่คือกระดูกของคุนเผิง”
หลังจากการส่องสว่างของแสงทอง และการปรากฏของเงาแสง กระดูกของคุนเผิงที่กระจ่างใสดุจผลึกแก้วนั้นก็ค่อยๆ กลับคืนสู่รูปลักษณ์เดิมของตนเอง ขนาดเริ่มใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ดูจากแนวโน้ม น่าจะใหญ่กว่าวังฝูงมังกรเสียอีก
เยี่ยนจ้าวเกอรู้สึกพอใจยิ่งนัก “เป็นกระดูกสันหลักของคุนเผิงสายเลือดบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง ที่ได้รวมจิตพลังของคุนเผิงตัวนั้นเอาไว้ ไร้สิ่งเจือปนและเต็มเปี่ยมยิ่ง”
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกยื่นสองมืออกมากดบนกระดูกของคุนเผิงชิ้นนั้น
ภายใต้ผลจากญาณจริงแท้ของมัน กระดูกคุนเผิงไม่ขยายใหญ่ขึ้นอีก แต่ว่าทุกคนที่อยู่รอบๆ ยังคงสัมผัสได้ว่า จิตพลังที่อยู่ด้านในนั้นกระแทกกระทั้นยิ่งกว่าเดิม
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกที่ใจกลางฝ่ามือมีประกายแสงพรั่งพรู เหมือนกับสามารถบรรจุโลกไว้ในฝุ่นละอองได้
กระดูกคุนเผิงหายไป แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกทั่วทั้งตัวต่างมีแสงสีทองปรากฏขึ้น
ขณะที่หายใจ แสงสีทองกลายเป็นแสงสีดำอย่างรวดเร็ว พริบตาถัดมากลับเปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมา หมุนเวียนสับเปลี่ยนกันเช่นนี้
ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกนั่งขัดสมาธิตัวตรง สองตาปิดสนิท เข้าสู่สภาวะสมาธิ ไม่กล่าววาจา กลับหลอมกระดูกคุนเผิงด้วยพลังทั้งหมด
ไม่เพียงการดูดพลังที่อยู่ด้านในเท่านั้น สิ่งสำคัญยิ่งกว่าอยู่ที่การซึมซับจิตพลังที่มาจากคุนเผิงซึ่งเป็นสัตว์ร้ายที่แท้จริง
ด้วยเหตุนี้ มันจึงประสานกับราฐานวรยุทธ์ของร่างแยกสมุทรสดขอบโลก เลื่อนไปอยู่ในระดับที่สูงกว่าเดิม!
เยี่ยนจ้าวเกอเห็นการฝึกฝนของร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกเข้าที่เข้าทาง ก็ย้ายความสนใจไปอยู่บนของอย่างอื่นต่อ
สมบัติด้านล่างแท่นบูชามีมากมายดุจหมู่เมฆ และในตอนที่ศึกษากงจักรมหาประกายกาฬ ยังทำให้เยี่ยนจ้าวเกอร่ำเรียนสิบสองวิชาประกายกาฬ กระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดในอดีตของสำนักประกายกาฬสำเร็จ
ตามที่เยี่ยนจ้าวเกอทราบ กระบวนท่าที่เหนือกว่าสิบสองวิชาประกายกาฬใช่ว่าจะไม่มี แต่ว่ากระบวนท่านี้กลับทำให้เขาสนใจมาก
เพราะเขาพบว่ากระบวนท่านี้มีเงาของความโกลาหลต้นกำเนิดหลายส่วนอย่างรางเลือน
นี่เป็นสิ่งที่หายากถึงขีดสุด
เนื่องจากว่าความโกลาหลต้นกำเนิด แหล่งที่มาของทุกสรรพสิ่ง ก็คือความสามารถของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด บรมครูหยกพิสุทธิ์ ผู้นำแห่งสามบริสุทธิ์
คัมภีร์เกิดนภาซึ่งเป็นหนึ่งในสามคัมภีร์ที่เกิดขึ้นก่อน และเป็นคัมภีร์ลำดับที่สองในคัมภีร์นภาแรกเริ่ม คือสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนทุกสรรพสิ่งจากมีเป็นไม่มี เป็น ‘เลขหนึ่ง’ ตัวแรก
หลายคนสามารถฝึกคัมภีร์เกิดนภาพร้อมกันได้ แต่ผู้ที่ฝึกฝนจนมีความสำเร็จจะมีแค่คนเดียว ใครประสบความสำเร็จก่อน จะปิดตายเส้นทางของผู้อื่น
ส่วนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตซึ่งเป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพวิชา และเป็นอันดับหนึ่งแห่งคัมภีร์ทั้งสิบมีความสุดโต่งยิ่งกว่า
เทวกษัตริย์บรรพกำเนิดมีหนึ่งไม่มีสอง
อนัตตาที่ทุกสิ่งกลับคืนสู่ความไม่มี ก็มีหนึ่งไม่มีสองเช่นกัน
หลังจากเทวกษัตริย์บรรพกำเนิดหลุดพ้นแล้ว คนอื่นๆ จึงค่อยฝักฝนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขต อันเป็นคัมภีร์อันดับหนึ่งแห่งคัมภีร์นภาทั้งสิบม้วนได้
แต่ในขณะเดียวกัน มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ฝึกฝนคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตได้ ที่นั่งนี้หากมีคนได้ไปครอง ก็ไม่อาจถูกเบียดออกไปได้อีก นอกเสียจากว่าผู้ฝึกปรือจะเสียชีวิต
เยี่ยนจ้าวเกอค้นพบหลังจากการทดลองเมื่อไม่นานมานี้ว่า แม้แต่ร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกก็ไม่อาจทำความเข้าใจคัมภีร์นภาไร้ขอบเขตได้ เขาที่เป็นร่างจริงจึงได้แต่ฝึกฝนด้วยตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ หากคนใช้คัมภีร์นภาไร้ขอบเขต อาจจะมีคนพบเห็นเบื้องหลัง
ในตอนนี้เมื่อมีสิบสองวิชาประกายกาฬ กลับพอจะซ่อนเร้นได้บ้างแล้ว