ตอนที่ 1351: ปราณกระบี่ที่น่าตกใจ
ขั้นตอนที่ 2 ของการตีกระบี่และการกลั่นกระบี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ไม่เพียงแต่ขั้นตอนนี้จะไปกระทบกับความสำเร็จและล้มเหลวของกระบวนการตีกระบี่เท่านั้น แต่มันยังควบคุมคุณภาพของกระบี่ด้วย พลังของกระบี่จะขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้อย่างสิ้นเชิงไม่ว่ามันจะตีได้สำเร็จหรือไม่
เจี้ยนเฉินและจิตวิญญาณกระบี่ต้องทำงานเมื่อพวกเขามาถึงขั้นตอนนี้ จิตวิญญาณกระบี่ได้ทำการจารึกลงบนกระบี่อย่างรวดเร็ว
เมื่อข้อความจารึกที่ถูกคลุมลงบนกระบี่อมตะกำลังจะเสร็จสมบูรณ์ กระบี่ทื่อ ๆ ก็เริ่มเปล่งแสดงด้วยแสงอ่อน ๆ แสงนั้นเริ่มเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อจารึกถูกเติมเข้าไปมากขึ้น
ขั้นตอนที่สองเป็นกระบวนการที่ยาวมาก ๆ เจี้ยนเฉินใช้มือซ้ายของเขาถ่ายพลังบรรพกาลลงไปเพื่อที่ว่าเขาจะสามารถตีกระบี่และเพื่อที่ว่าพลังบรรพกาลจะสามารถหลอมรวมเข้ากับกระบี่ได้อย่างสมบูรณ์ มือขวาของเขาถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟบรรพกาล บำรุงกระบี่ขณะที่เขาดำเนินขั้นตอนจารึกเพื่อที่ว่าจารึกจะสามารถรวมเข้าไปกับกระบี่ได้อย่างสมบูรณ์
เปลวไฟบรรพกาลดูดกลืนพลังบรรพกาลอย่างรวดเร็ว เม็ดพลังบรรพกาลของเจี้ยนเฉินเริ่มหดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากการใช้มันอย่างต่อเนื่องหลายวัน
ข้างบนซากปรักหักพังของเมืองทหารรับจ้างคือโถงศักดิ์สิทธิ์นับโหลที่อยู่รอบ ๆ เมือง มีเขตว่างเปล่าขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างบนตราประทับในเมืองทหารรับจ้าง ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ดังนั้นพวกเขาจึงสามารถหลีกเลี่ยงการถูกโจมตีโดยไอของพลังงานที่ถูกสร้างโดยอุโมงพิเศษ
เผ่าพันธุ์ทั้งสี่ย้ายไปที่ฝั่งเดียว ทำให้พวกเขาถูกแยกออกไป มนุษย์เป็นคนส่วนใหญ่ เซียนราชาทั้งหมดของทวีปได้รวมตัวกันอยู่ที่นั่น หลังจากพวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญของทวีปแห่งความสูญเปล่า ผู้ที่ได้ส่งกองกำลัง 3 ใน 4 ของกองกำลังทั้งหมดของพวกเขาพร้อมกับเครื่องรางต้องห้าม
มันมีสัตว์อสูรน้อยกว่าร้อยเผ่าพันธุ์ แต่เซียนจักรพรรดิทั้งหมด 3 คนได้รวมตัวกันอยู่ที่นั่นด้วยกัน พวกเขาทั้งหมดอยู่ข้างในโถงศักดิ์สิทธิ์ของตนเอง ปล่อยพลังแห่งการมีอยู่ออกมาเพื่อแสดงการป้องกันกับกลุ่มอื่นแต่บรรยากาศที่นั่นกับรู้สึกหนัก
เผ่าพันธุ์ทะเลได้ครอบครองคนน้อยที่สุด มีเพียงไม่กี่สิบคน อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้าประเมินพวกเขาต่ำไป
ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมากมายได้ถูกแทงลงเข้ากับพื้นดินข้างใต้และปล่อยพลังกระเพื่อมออกมาอย่างน่ากลัว ทำให้มิติรอบ ๆ สั่นไหว พวกมันทรงพลังอย่างมาก
ผู้เชี่ยวชาญของเมืองทหารรับจ้างทั้งหมดได้รวมตัวกันที่นั่นข้างใน 1 ในโถงศักดิ์สิทธิ์ในเขตมนุษย์ คนที่เป็นคนนำพวกเขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง
ผู้อาวุโสสูงสุดนั่งอยู่ในจุดสูงสุดของห้อง สีหน้าของเขามืดมนและเขาก็ดูเครียดอย่างมาก มีความวิตกกังวลอยู่บนสีหน้าของเขา เขาพึมพำ ” ผู้อาวุโสสูงสุดหลอมรวมโถงศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ข้าแปลกใจว่าเมื่อไหร่เขาจะสำเร็จสักที ถ้าเรามีโถงศักดิ์สิทธิ์ ความมั่นใจของเราก็คงมากกว่านี้เมื่อเราต้องรับมือกับการรุกล้ำของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ข้าแค่หวังว่าพวกเขาจะไม่โจมตีในเร็ว ๆ นี้ ไม่งั้นแล้วเราก็คงจะไม่สามารถป้องกับพวกเขาด้วยความแข็งแกร่งที่เรามีอยู่ตอนนี้”
“เจียงหยางชิงหยุน ได้ขโมยอาวุธบรรพบุรุษของตระกูลเขาไป ย้อนกลับไป เจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางชิงหยุนได้ออกไปพร้อมกัน เจียงหยางซูเซียวได้กลับมาแล้ว ขณะที่เจียงหยางชิงหยุนและผู้อาวุโสสูงสุดคนอื่น ๆ หายตัวไป ข้าแปลกใจว่าพวกเขาไปที่ไหนพร้อมกับอาวุธบรรพบุรุษ พวกเขาเปลี่ยนใจหรือหรือในตอนนี้ ? ” ผู้อาวุโสหกของเมืองทหารรับจ้างถามขึ้นมา
ผู้อาวุโสสูงสุดเงียบไปก่อนที่จะยืนขึ้น “ข้าจะไปดูเจียงหยางซูเซียวตอนนี้และถามเขาเกี่ยวกับสถานการณ์ อาวุธบรรพบุรุษของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการป้องกันการรุกล้ำ ถ้าผู้อาวุโสสูงสุด เทียนเจี้ยนใช้พวกมันเพื่อที่จะร่ายอาคมสังหารสูงสุด เราก็จะสามารถหยุดโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้ชั่วคราวแม้ว่าพวกเขาจะส่งกองกำลังของเซียนจักรพรรดิมาก็ตาม”
ผู้อาวุโสสูงสุดได้ออกไปจากโถงศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทหารรับจ้างและไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ของเจียงหยางซูเซียว เพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์นั้น เขาต้องการยืมอาวุธบรรพบุรุษของตระกูลเจียงหยาง
“บางสิ่งได้เกิดขึ้นกับตระกูลเจียงหยางของเรา บรรพบุรุษของเรา หยางลี่ ได้กลับมาแล้ว บรรพบุรุษได้เอาอาวุธบรรพบุรุษไปและผู้อาวุโสสูงสุดของสาขาหยวนและชิงได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาตอนนี้ได้เก็บตัวคนเดียวและกำลังฟื้นฟูตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถมาได้” เจียงหยางซูเซียวบอกความจริงหลังจากลังเลชั่วครู่ แม้ว่าการกลับมาของบรรพบุรุษของพวกเขาจะเป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อสักเท่าไหร่ แต่สำนักดาบทรราชก็ได้เอ่ยสิ่งที่เกิดขึ้นที่คล้ายคลึงกันมาก่อนหน้านี้
” อะไรนะ บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งตระกูลเจียงหยางยังมีชีวิตอยู่เหรอ ! ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างอึ้ง อย่างไรก็ตาม มันเป็นเวลามากกว่าล้านปีนับแต่ตระกูลเจียงหยางได้ถูกสร้างขึ้น ตระกูลนั้นเก่าแก่กว่าเมืองทหารรับจ้างอีกด้วย
เจียงหยางซูเซียวถอนหายใจขณะที่เขารู้สึกสับสนไปหมด การกลับมาของบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งของเขาเป็นสิ่งที่ต้องเฉลิมฉลอง แต่เขาไม่สามารถปรากฏตัวออกไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวตนในอดีตของบรรพบุรุษผู้สร้างที่จริงแล้วเป็นหลานชายของเขา
เนื่องจากเรื่องนี้ เจียงหยางซูหยวนเซียวและเจียงหยางซูอวี้หยวนยังนิ่งเงียบและเศร้าโศก
ผู้อาวุโสสูงสุดเงียบไปชั่วครู่ก่อนในที่สุดเขาก็ยอมรับกับข่าวที่น่าตกใจนี้ หลังจากนั้นเขาถาม “เจียงหยางซูเซียว รู้มั้ยว่าผู้อาวุโสอยู่ที่ไหน ? ”
“เขาออกไปพร้อมกับบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งสำนักดาบทรราช กุยไฮ่ยี่เต่า ข้าไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน แต่เขาจะฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขาในเร็ว ๆ นี้ เมื่อโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้รุกล้ำเข้ามา บรรพบุรุษน่าจะปรากฏตัวออกมา” เจียงหยางซูเซียวพูด
“วิเศษ วิเศษไปเลย ” ผู้อาวุโสสูงสุดดีใจอย่างมาก ความแข็งแกร่งของทวีปเทียนหยวนจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลถ้าเป็นเช่นนั้น
“เมื่อผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักดาบทราชได้กล่าวว่าบรรพบุรุษของพวกเขาได้กลับมา ข้าคิดว่าพวกเขาแค่อำเล่นเท่านั้น ไม่เคยหวังกับสิ่งที่พวกเขาพูดว่ามันจะเป็นความจริง” ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจโล่งอกกับตัวเอง
ในตอนนี้ เซียนผู้คุมกฎของเมืองทหารรับจ้างได้เข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ เขาพูดว่า ” ท่านผู้อาวุโสสูงสุด มีเซียนผู้คุมกฎ 3 คนที่ต้องการพบท่านอยู่ข้างนอก พวกเขาบอกว่ามีเรื่องสำคัญบางอย่างต้องแจ้ง ซึ่งมันอาจจะเชื่อมโยงกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งก็เป็นได้”
สีหน้าของผู้อาวุโสเปลี่ยนไปหลังจากได้ฟังเช่นนั้น เขาลาเจียงหยางซูเซียว ก่อนจะออกไปอยากเร่งรีบ
ผู้อาวุโสสูงสุดได้พบกับเซียนผู้คุมกฎทั้ง 3 ผู้ที่มาจากภูเขาไฟฝั่งตะวันตก เซียนผู้คุมกฎบอกกับผู้อาวุโสกับสิ่งที่เขาเห็นเช่นเดียวกับสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่ามันกำลังเกิดขึ้น ซึ่งมันทำให้ผู้อาวุโสสูงสุดสนใจมาก
ไม่นาน มีผู้เชี่ยวชาญของเผ่าพันธุ์ทั้งสี่มาหลังจากได้รับข่าว มันเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางมาก ทุกอย่างที่สามารถเชื่อมต่อกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้เป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด
“มันเกิดขึ้นจากการเก็บตัวฝึกฝนของนกฟินิกซ์เทวะหรือไม่ ? ” สัตว์อสูรระดับ 8 ในรูปของมนุษย์ได้ถามขึ้นมา
“แต่เราไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของสัตว์อสูรนั่นได้แม้แต่นิดเดียวเลยนะ” เซียนผู้คุมกฎทั้งสามตอบอย่างสุภาพ ทุก ๆ คนถอนหายใจและต่างรู้สึกลังเลต่อหน้าเซียนราชา
“ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม เราก็ควรจะไปที่นั่นเพื่อดูมันหน่อย ถ้ามันเป็นนกฟินิกซ์เทวะจริง ๆ เราก็สามารถเชิญนางเพื่อเข้าร่วมกับเราและปกป้องโลกนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นอุโมงค์อีกอันที่เชื่อมไปยังโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง เราก็สามารถเตรียมการสำหรับการรุกล้ำไว้ก่อนหน้าได้” ผู้อาวุโสสูงสุดด้วยอย่างหนักแน่น
หลังจากนั้น เผ่าพันธุ์ทั้งสี่ต่างก็ส่งผู้เชี่ยวชาญบางส่วนไปที่ภูเขาไฟเพื่อตรวจสอบสถานการณ์
ภูเขาไฟในเขตตะวันตกตอนนี้กำลังเปลี่ยนไปอย่างมาก ภูเขาไฟทั้งหมดในเขตนั้นกำลังปะทุและเปลวไฟ ลาวา ก็กระเด็นขึ้นไปบนอากาศ เปลี่ยนสีเป็นสีแดง ทะเลลาวาข้างใต้สั่นไหวอย่างร้ายแรง การหายใจเพียงครั้งเดียวก็สามารถรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังหายใจอยู่ในเปลวไฟ อุณหภูมิสูงจนน่ากลัว
“นี่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยฟินิกซ์แน่ ๆ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับนางที่จะทำให้ภูเขาไฟทั้งหมดในเขตนี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าตกใจ และพลังแห่งการมีอยู่ของนางก็ไม่อยู่ที่นี่เช่นกัน” สัตว์อสูรเวทพูดขึ้น สีหน้าของเขาเริ่มกังวล เขารับรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงพวกนี้ที่นี่น่าจะเชื่อมโยงกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง
“เข้าไปที่นั่นและสำรวจดูรอบ ๆ กันหน่อย ” ผู้อาวุโสสูงสุดแนะนำ เขาใช้พลังเซียนและพลังงานของโลกเพื่อป้องกันตัวเองก่อนจะพุ่งเข้าไปในความลึก
เมื่อพวกเขาไปถึง 1 หมื่นกิโลเมตร ปราณกระบี่ที่น่ากลัวก็ปรากฏขึ้นทันที ทำให้พวกเขาทุกคนตัวสั่น ปราณกระบี่นี้ทรงพลังเกินไป มันมีพลังการทำลายล้างและสั่นสะเทือนมิติก่อนที่จะกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
” ดูนั่นสิ ! มันอะไรกัน ? ” ทันใดนั้น เซียนราชาก็ตะโกนออกไปและชี้ไปข้างหน้า
ทุกคนมองไปที่นั่น ต่อหน้าพวกเขาเป็นโครงเสาแสง 2 อัน อันหนึ่งเป็นสีม่วง อีกอันเป็นสีฟ้า พุ่งขึ้นไปบนอากาศ มันทำลายชั้นอากาศที่เป็นสีแดงหนา มันเป็นภาพที่น่าตกใจอย่างมาก
“นั่นมันอะไรกัน ? นี่มันเป็นการกำเนิดของสมบัติบางอย่างหรือเปล่า ? ”
“ข้าสามารถรับรู้ปราณกระบี่ที่ทรงพลังอย่างน่าเหลือเชื่อกำเนิดมาจากตรงนั้น”
“แปลกจริง ๆ ทำไมเสาแสง 2 อันดูเหมือนกับกระบี่ ? ”
เซียนราชาจ้องมองค้างบนเสาแสงทั้งสอง ขณะที่พวกเขาเริ่มถกเถียงถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ความสงสัยเต็มบนสีหน้าของพวกเขา
“เสาแสงทั้ง 2 ดูคล้ายกับกระบี่ที่ทรงพลัง ทำไมนี่ถึงเกิดขึ้นในภูเขาไฟนี้ ? สมบัติบางอย่างของโลกกำลังเกิดขึ้นในนี้งั้นเหรอ ? ”
เซียนราชาอดใจไม่ไหวเมื่อพวกเขาได้ยินว่าสมบิตของโลก พวกเขาแยกตัวออกจากกลุ่มหลักและบินไปข้างหน้า ขณะที่แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนา
คนอื่น ๆ บางกลุ่มก็ไม่เต็มใจที่จะอยู่ข้างหลัง ตอนนี้พวกเขาบางคนก็ได้บินออกจากกลุ่มเช่นกัน เมื่อกับหิมะถล่ม คนมากมายขึ้นเรื่อย ๆ กระจายออกไป บินไปข้างหน้าเสาแสง 2 อันอย่างเร่งด่วน มีเพียงคนน้อยนิดเท่านั้นที่ยังนิ่งสงบสติอารมณ์อยู่