ตอนที่ 1571 : หัวหน้าตระกูลเจียงหยางคนใหม่ (1)
โถงศักดิ์สิทธิ์เหนืออุโมงค์นั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนในคือส่วนใจกลางสุดของห้อง มีแค่เทียนเจี้ยนเท่านั้นที่ดูแลโถงศักดิ์สิทธิ์ จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของสี่เผ่าพันธุ์สามารถเข้ามาในส่วนนี้ได้ ส่วนนอกคือที่รวมตัวสำหรับเซียนที่เหลือ เซียนผู้คุมกฎ, เซียนราชาและเซียนจักรพรรดิ พวกเขาได้ร่วมมือกับจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมเพื่อสนับสนุนโถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
ระหว่าง 3 ปีมานี้ เหล่าเซียนแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มตามทางเลี้ยวต่าง ๆ แต่ละกลุ่มประกอบด้วยเผ่าพันธุ์หนึ่ง เซียนในเผ่าพันธุ์เดียวกันนั้นต้องทำการดูแลโถงแห่งนี้เป็นเวลา 10 วัน ระหว่าง 10 วันนี้พวกเขาต้องส่งเซียนกว่าเก้าในสิบส่วนมาดูแลโถงแห่งนี้ มันจะมีการเปลี่ยนกลุ่มในทุก ๆ 10 วันและกลุ่มที่เพิ่งได้พักนั้นจะมีเวลา 1 เดือนในการพักผ่อน ตารางนี้ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงตลอด 3 ปี
เซียนของสี่เผ่าพันธุ์เพิ่มขึ้นมาหลังจากการต่อสู้เมื่อ 3 ปีก่อน ไม่มีเซียนจักรพรรดิเพิ่มขึ้นมา แต่มันก็มีเซียนราชาและเซียนผู้คุมกฎเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่งโดยเฉพาะเซียนผู้คุมกฎ แต่ละเผ่านั้นจะมีเซียนผู้คุมกฎกว่า 100 คนในระยะเวลา 3 ปีซึ่งรวมไปแล้วมีกว่า 500 คน
จอมยุทธหลายคนจากสี่เผ่าพันธุ์เหมือนจะรู้ว่าการทะลวงผ่านระดับเซียนได้ง่ายกว่าเมื่อ 3 ปีก่อน แต่ข้อได้เปรียบนี้ช่วยได้เพียงแค่เซียนสวรรค์ตอนที่พวกเขาจะทะลวงขึ้นเป็นเซียนผู้คุมกฎและไม่ส่งผลอะไรชัดเจนสำหรับระดับหลังจากนั้น การก้าวข้ามจากเซียนราชาไปยังเซียนจักรพรรดิยังคงยากเช่นเดิม
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมจำนวนเซียนจักรพรรดิจึงไม่ได้เพิ่มขึ้นในแต่ละเผ่าตลอด 3 ปีมานี้
เทียนเจี้ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้หยกที่ส่วนในของโถงศักดิ์สิทธิ์ เขาแบ่งที่นั่งของทุกคนตามพลังของแต่ละคน หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า, เฟิงเซียวเทียน, เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, ฮุสตัน, เสี่ยวจิน, เสี่ยวหลิง และพยัคฆ์ปีกเทวะในร่างมนุษย์ที่มารวมตัวกันรอบเทียนเจี้ยน นอกจาก เถี่ยต้า, เจี้ยนเฉิน และหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมทุกคนในโลกต่างก็มาอยู่ที่นี่
เหล่าเซียนใช้เวลา 10 วันในการสลับหน้าที่กันตลอด 3 ปีแต่จอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมไม่อาจจะมีวันหยุดพักแบบนั้นได้ ตลอด 3 ปีมานีทุกคนต่างก็อยู่ในโถงไม่ได้ไปไหนกันเลย แม้แต่ตอนที่พวกเขาหมดพลังงาน พวกเขาก็จะฟื้นฟูมันโดยกินผลพลังอมตะของเจี้ยนเฉิน
พวกเขาต้องเตรียมตัวสำหรับตอนที่จิตวิญญาณราชันย์โจมตีโถงศักดิ์สิทธิ์ เจี้ยนเฉิน, เถี่ยต้า และซ่างกวนมู่เอ๋อ ไม่ได้อยู่ที่นี่ แม้ว่าจิตวิญญาณราชันย์จะโจมตีแบบกะทันหัน แต่พวกเขาก็ต้องยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อปกป้องโถงศักดิ์สิทธิ์ด้วยการสนับสนุนจากเหล่าเซียนเพื่อหยุดจิตวิญญาณราชันย์ ผลก็คือไม่มีจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมเลยสักคนที่ออกไปไหนได้หรือโถงนั้นไม่ได้หมดพลังงาน และจิตวิญญาณราชันย์ก็ไม่อาจจะทำลายห้องโถงนี้ไปได้
โลกเซียนที่ถูกทอดทิ้งนั้นแข็งแกร่งจนแม้แต่ตอนที่ เถี่ยต้า, เจี้ยนเฉิน, ซ่างกวนมู่เอ๋อ และเจียงหยางหมิงเยว่ อยู่ด้วย พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม นี่ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่ว่า เจียงหยางหมิงเยว่ ได้ไปยังโลกเซียนและการที่เจี้ยนเฉินและซ่างกวนมู่เอ๋อได้ออกจากทวีปเทียนหยุนไป ถ้าแนวหน้าถล่มลง สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ก็มีแต่ภัยพิบัติ พวกเขาไม่อาจจะประมาทได้เลย
” ตลอด 3 ปีมานี้ ต่างโลกไม่เคยหยุดที่จะโจมตีโถง แม้ว่าการโจมตีจะอ่อนแอแต่พวกนั้นก็ยังทำให้พลังของโถงลดลงได้ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เราคงได้แต่ป้องกันทวีปได้อย่างมากสัก 100 ปีและข้าเชื่อว่าการโจมตีจากพวกนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นมา ตอนนั้นเราจะทนได้น้อยกว่าเดิม” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลคิ้วขมวด แค่การดูแลโถงศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้าอุโมงค์ก็ใช้พลังงานไปอย่างมากแล้ว ดังนั้นเมื่อมีการโมตีอย่างต่อเนื่องจากจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมของต่างโลก พลังของโถงนี้ก็จะถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว
” เราควรรู้สึกว่าโชคดีกับการที่จิตวิญญาณราชันย์ไม่โจมตีโถงต่อ ตอนที่เขาโจมตีเมื่อ 3 ปีก่อน เราได้แต่ประคับประคองสถานการณ์ได้ด้วยการเอาเซียนทุกคนรวมถึง เถี่ยต้า, เจี้ยนเฉิน และ ซ่างกวนมู่เอ๋อ มาร่วมมือกัน ตอนนี้เมื่อพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย มันคงยากอย่างมากที่เราจะหยุดการโจมตีจากจิตวิญญาณราชันย์ ถ้าเขายังโจมตีห้องโถงนี้ต่อ เราอาจจะทนได้ไม่ถึง 10 ปี” หยางลี่พูดขึ้นมา ตาของเขาเต็มไปด้วยความกลัวทันทีที่พูดถึงจิตวิญญาณราชันย์
พลังของจิตวิญญาณราชันย์นั้นสูงกว่า หยางลี่, กุยไฮ่ยี่เต่า และเฟิงเซียวเทียน แม้แต่ตอนที่พวกเขาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ของตัวเอง ยังไงซะพวกเขาก็เป็นจอมยุทธขอบเขตดั้งเดิมตอนที่ท่องอยู่ในโลกเซียนในอดีต จิตวิญญาณราชันย์นั้นมีพลังเทียบเท่ากับจอมยุทธขอบเขตเทพ
“เถี่ยต้าได้ไปยังที่ซึ่งเอ่อหยินถูกผนึกเอาไว้ เมื่อเขากลับมาพลังของเขาก็ต้องแข็งแกร่งขึ้น เราจะรู้สึกได้ว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทุกนาที ถึงเราจะไม่อาจจะพูดอธิบายออกมาได้ แต่มันก็ยังไม่มีพลังงานดั้งเดิม แม้ว่ามันก็ง่ายกว่าเดิมที่เซียนสวรรค์จะทะลวงผ่านเป็นเซียนผู้คุมกฎ ข้าเชื่อว่าในเวลาไม่กี่ปี การขึ้นเป็นเซียนราชาจะง่ายกว่าเดิมและอาจจะส่งผลต่อการก้าวขึ้นเป็นเซียนจักรพรรดิด้วย” เฟิงเซียวเทียนยิ้ม การเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นส่งผลดีต่อพวกเขาเพราะทั้งสี่เผ่าพันธุ์จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมและก้าวข้ามขอบเขตได้ง่ายกว่าเดิม
เสี่ยวหลิง คิดตาม นางเอียงหัวและพูดขึ้นมา “เจ้าคิดว่าการเปลี่ยนแปลงของโลกเกี่ยวข้องกับพี่ใหญ่หรือ ? ”
” มันไม่น่าจะใช่…” เฟิงเซียวเทียนส่ายหน้า เขาเป็นศิษย์ของนิกายใหญ่ในโลกเซียน แม้แต่ตอนที่เขายังเป็นศิษย์ทั่วไป เขาก็มีความฉลาดที่โดดเด่น แม้แต่จอมยุทธขอบเขตเทพก็ไม่อาจจะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงได้ นี่ไม่ต้องนับ เจี้ยนเฉินที่ยังไม่ได้อยู่ขอบเขตเทพเลยด้วยซ้ำ
วันนี้เป็นวันที่เซียนต้องสลับเวรกันในส่วนนอกของโถง คนที่มาทำหน้าที่แทนคือจอมยุทธจากเผ่าพันธุ์ทะเล ไม่ถึง 10 นาทีทั้งสองเผ่าพันธุ์ก็เปลี่ยนหน้าที่กันเสร็จและมนุษย์ก็ได้ออกจากโถงไป พวกเขาดูอ่อนโรยกันอย่างมาก
คนที่เลือกจะฟื้นฟูพลังเซียนในห้องโถงก็อยู่กับพวกเผ่าพันธุ์ทะเลต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ก็พากันกลับไป พวกคนที่กลับไปนั้นคือคนที่รับหน้าที่ดูแลในทวีปเทียนหยวน
ในหมู่พวกนั้นมีชายวัยกลางคนดูสูงส่ง เขาได้ส่งต่อพลังเซียนกว่าเก้าในสิบส่วนให้กับโถงระหว่าง 10 วันมานี้ ดังนั้นใบหน้าเขาจึงดูอิดโรยอย่างมาก
ตอนที่เขาออกมาจากห้องโถง เขาก็ได้พบกับจอมยุทธมนุษย์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเซียนผู้คุมกฎหรือเซียนราชา พวกนั้นต่างก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นเขา มีเซียนจักรพรรดิไม่กี่คนถึงกับเข้ามาพูดคุยกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นแค่เซียนราชาแต่เขาก็ดูเฉยชาต่อหน้าจอมยุทธที่แข็งแกร่งกว่าเขามาก แม้แต่ตอนที่เขาพูดกับเซียนจักรพรรดิ เขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีสุภาพพิเศษใด ๆ ออกมา ในอีกด้านเซียนจักรพรรดิกลับสุภาพต่อเขาอย่างมาก พวกนั้นพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มราวกับว่าเขาเป็นแขกพิเศษ
มนุษย์นั้นไม่ใช่แค่พวกเดียวที่ปฏิบัติตัวด้วยความสุภาพ แม้แต่จอมยุทธเผ่าพันธุ์ทะเลที่มาแทนที่ก็ยังปฏิบัติต่อชายคนนี้ด้วยความสุภาพเช่นกัน ไม่วาจะเป็นเซียนราชาหรือเซียนจักรพรรดิก็ตาม พวกนั้นเหมือนว่าจะกลัวทำเรื่องคุกคามชายวัยกลางคนผู้นี้
ชายวัยกลางคนผู้นี้โดดเด่นในหมู่เซียน
ชายวัยกลางคนผู้นี้คือพ่อของเจี้ยนเฉิน เจียงหยางป้า
ในฐานะพ่อของจอมยุทธมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วเขามีสถานะที่โดดเด่น แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่มีค่าต่อหน้าคนเหล่านั้นก็ตาม
เจียงหยางป้า เดินทางออกมาจากห้องโถงผ่านบรรดาเซียนมาราวกับดวงจันทร์ที่ลอยตัดท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาว เขาป้องมือให้กับทุกคนเพื่อบอกลา ตอนที่จอมยุทธมนุษย์กลับกันออกทีละคน ๆ เจียงหยางป้าถึงได้กลับไปท้ายสุดพร้อมกับจอมยุทธอีกไม่กี่คน
ด้านหลังเจียงหยางป้า มีคนอยู่ 5 คน พวกนั้นมีสัญลักษณ์เปลวเพลิงบนชุด ทุกคนคุ้นกับสัญลักษณ์นี้ดี ไม่ว่าจะมาจากทวีปเทียนหยวน, ทวีปสัตว์เทวะ, ทวีปแห่งความสูญเปล่า หรืออาณาจักรทะเลต่างก็รู้จักมันเพราะสัญลักษณ์นี้แทนกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี
ทั้งห้าคนนี้ไม่ได้อ่อนแอ พวกเขาเป็นเซียนราชา แต่การที่พวกเขาใช้พลังเซียนไปกว่าเก้าในสิบส่วนในโถงจึงทำให้พวกเขาดูสีหน้าซีดเซียวกันอย่างมาก
ทั้งห้ายืนอยู่ด้านหลังเจียงหยางป้าราวกับคนคุ้มกัน พวกนั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ และไม่คิดจะกลับไปในทันที พวกเขาจะไม่ไปนอกซะจากว่าเจียงหยางป้าจะกลับไปด้วย
เจียงหยางป้าลอยอยู่บนท้องฟ้า เขามองไปยังทวีปที่พังทลายด้านล่างและถอนหายใจออกมา “กลับไปที่ตระกูลกันเถอะ”
ตอนนั้นเองมีเซียนราชาคนหนึ่งจากห้าคนได้ก้าวออกมา เขาใช้ความสามารถในฐานะเซียนราชาในการฉีกมิติและสร้างประตูมิติขึ้นมาก่อนที่ทั้งห้าคนจะเข้าไปตามหลังเจียงหยางป้า
เซียนราชาทั้งห้าคือกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีจากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี พวกเขาคือส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เข้าร่วมในเมืองเวคของอาณาจักรวายุคราม แต่เดิมแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกนี้จะขึ้นมาเป็นเซียนปฐพีด้วยพรสวรรค์ของตัวพวกเขาเอง แต่เนื่องจากพวกเขาภักดีต่อกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีและ เจี้ยนเฉิน ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงตัดสินใจมอบทรัพยากรจำนวนมากให้กับพวกเขา เจี้ยนเฉินรอคอยมาหลายสิบปี, ทุ่มเทไปอย่างมากและให้ทรัพยากรมากมายกับพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาได้กลายเป็นจอมยุทธในทวีปขึ้นมา เขาได้ตั้งชื่อให้กับพวกนี้ด้วย : กลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี
แต่เดิมแล้วมีคนประมาณ 50-60 คนในกลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนี พวกเขาต่างก็เป็นเซียนราชาและกลายเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่มคอยปกป้องกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี แต่พวกเขาก็เสียคนไปอย่างมากในการต่อสู้กับต่างโลก มีแค่ 20 คนที่รอดมาได้ ภายใต้คำสั่งของไป๋เหลียน 5 คนจาก 20 คนได้มาประจำอยู่ที่ตระกูลเจียงหยางเพื่อปกป้องตระกูลรวมถึงคอยรักษาอำนาจและชื่อเสียงของตระกูลเอาไว้
กลุ่มผู้พิทักษ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งอัคนีต่างก็เป็นเซียนราชา แต่พวกเขาไม่ได้มีความหยิ่งทะนงแต่อย่างใด ไม่มีสักคนที่ลืมไปว่าตัวเองเคยเป็นใครมา พวกเขาเป็นผู้คุ้มกันและไม่มีทางลืมว่าใครที่ทำให้พวกเขามีทุกอย่างในทุกวันนี้