ตอนที่ 377 เหล่าไป๋
“เอาเสวี่ยลี่ขวดนึง แล้วก็หงอู่ซองนึง!”
เมืองเจียงเฉิง เขตซีเฉิง ภายในร้านอินเทอร์เน็ตเฟยหลงที่ซ่อนอยู่ในตรอกลึก หวังผู่นำธนบัตรสิบหยวนหนึ่งใบกับบัตรประชาชนของตัวเองวางลงบนเคาน์เตอร์พร้อมกัน
สายตาของเขามองไปรอบๆ ภายในห้องที่มีควันลอยคละคลุ้ง เห็นที่นั่งประจำของตัวเองยังว่างอยู่จึงโล่งใจทันทีจากนั้นก็ผิวปากให้สาวหน้าเคาน์เตอร์
สาวหน้าเคาน์เตอร์ขึงตาใส่หวังผู่หนึ่งที แล้วโยนบุหรี่กับเครื่องดื่มและบัตรประชาชนที่รูดแล้วคืนให้เขา
“บัตรของคุณเหลือแค่สิบห้าหยวน จะเติมเงินไหม”
หวังผู่เอามือรวบสิ่งของ แล้วหัวเราะฮิๆ เอ่ยว่า “ไม่ต้องรีบร้อน ใช้หมดก่อนค่อยว่ากัน ตอนนี้เติมไปก็ไม่มีโปรโมชันพิเศษ”
สาวหน้าเคาน์เตอร์กลอกตาใส่เขา เบือนหน้าไม่สนใจเขาอีก
หวังผู่ไม่ได้ใส่ใจ นั่งลงตรงที่นั่งของตัวเอง แล้วเปิดคอมพิวเตอร์อย่างคล่องแคล่ว
เจียงเฉิงมีร้านอินเทอร์เน็ตขนาดเล็กใหญ่อย่างน้อยหนึ่งร้อยกว่าแห่ง ร้านอินเทอร์เน็ตเฟยหลงเป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ค่อยมีใครเห็นอยู่ในสายตา มีประวัติยาวนาน แต่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ล้าหลัง คอมพิวเตอร์สีขาวมีอายุการใช้งานสี่ห้าปีแล้ว ใกล้ถึงขั้นถูกคัดทิ้งได้แล้ว
พื้นที่ก็เล็ก หากนั่งบนที่นั่งตัวเองแล้วผายลม เกรงว่าคนเกือบครึ่งร้านคงได้กลิ่นเป็นแน่ และเพราะเหตุนี้ ดังนั้นถึงแม้ที่นี่จะติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ แต่พอมีคนสูบกลับไม่มีคนดูแล
ที่สำคัญที่สุดคือ ราคาของร้านอินเทอร์เน็ตเฟยหลงนั้นถูกมาก หนึ่งชั่วโมงแค่สองหยวนเท่านั้น และบ่อยครั้งที่เติมเงินหนึ่งร้อยหยวนก็จะมีโปรโมชันแถมให้ฟรีอีกหนึ่งร้อยหยวน ทำให้หวังผู่หนุ่มวัยรุ่นระดับล่างที่ใช้ชีวิตในเมืองสามารถซื้อความสุขที่เป็นของตัวเองได้จากที่นี่
คอมพิวเตอร์เก่าเปิดเครื่องช้า หวังผู่ก็ไม่รีบร้อน เขาวางเครื่องดื่มไว้ข้างๆ ก่อน จากนั้นก็ฉีกซองบุหรี่
“เหล่าหวัง ฉันขอมวนนึง!”
ข้างๆ พลันมีเสียงที่ทุ้มแหบดังขึ้น ใครที่ได้ยินเป็นต้องตัวสั่น
“แม่งเอ๊ย!”
หวังผู่ไม่ทันตั้งตัวจึงตกใจ พอหันหน้าไปจึงเห็นเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ อยู่ก่อนแล้วกำลังขอบุหรี่อยู่
เด็กหนุ่มคนนี้หวังผู่รู้จัก “ต้าเสิน นายอยากหลอกคนให้ตกใจตายเหรอ”
‘ต้าเสิน’ คือบุคคลในตำนานของร้านอินเทอร์เน็ตเฟยหลงอย่างแท้จริง คนที่มาร้านอินเทอร์เน็ตบ่อยๆ ไม่มีใครไม่รู้จักเขา อายุของเขารุ่นราวคราวเดียวกับหวังผู่ ผมยุ่งเป็นกระเซิง หน้าตาก็สกปรกมอมแมม ผอมๆ แห้งๆ ท่าทางเหมือนคนนอนหลับไม่เต็มอิ่มอยู่ตลอดเวลา
เรื่องราวของต้าเสินมีเยอะมาก ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือเขาเคยเล่นเกมออนไลน์ตัวใหม่แล้วสู้ติดต่อกันเจ็ดวันเจ็ดคืน นอนหลับไม่ถึงหนึ่งวัน ทำเอาเถ้าแก่ตกใจเกือบจะโทรศัพท์ไปแจ้งความ กลัวว่าเขาจะตายกะทันหันต่อหน้าคอมพิวเตอร์
แต่พลังชีวิตของต้าเสินแข็งแกร่งยิ่งกว่าแมลงสาบ หวังผู่มาร้านอินเทอร์เน็ตเฟยหลงเมื่อสองสามปีก่อนเคยเห็นเขาเป็นแบบไหน สภาพในตอนนี้ยังคงเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน
นอกจากนี้ต้าเสินมีสิ่งที่ทำให้ผู้คนต้องนับถือ นั่นก็คือเขาไม่เคยไปทำงาน อาศัยการเล่นเกมหาเงินจ่ายค่าข้าวและค่าเน็ตให้ตัวเอง
สำหรับคำโอดครวญของหวังผู่ ต้าเสินไม่ได้รู้สึกละอายใจอะไร ยังคงยื่นมือออกไป “ขอหนึ่งมวนไง…”
“ยอมนายจริงๆ!”
หวังผู่ดึงออกมาครึ่งซองแล้วยัดให้อีกฝ่ายไปเลย “ให้นายครึ่งหนึ่ง พี่มีน้ำใจพอไหมล่ะ”
ต้าเสินเมื่อก่อนเคยพาหวังผู่เล่นเกมตัวหนึ่ง ดังนั้นทั้งสองคนจึงมีความสนิทสนมกันนิดหน่อย
สำหรับความใจดีของหวังผู่ ต้าเสินได้แต่แค่นหัวเราะ “หงอู่ครึ่งซองก็ถือว่าเป็นน้ำใจเหรอ ไร้สาระ…”
หวังผู่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กำลังจะหยิบบุหรี่กลับมา ผลสุดท้ายถูกต้าเฉินเอาใส่กระเป๋าเรียบร้อย
พร้อมกับจับยัดเข้าปากหนึ่งมวน
“แม่ง!”
หวังผู่ชักมือกลับด้วยความโมโห จับแผ่นรองเมาส์เปิดเบราว์เซอร์ ขณะเดียวกันก็ล็อกอินเข้าเฟยซวิ่นของตัวเอง
ติ๊ดๆๆ!
รูปโปรไฟล์เด้งขึ้นไม่หยุด หวังผู่เปิดทีละอัน ลากพวกต้มตุ๋น ยืมเงิน ข้อความก่อกวนเข้าบัญชีดำก่อน แล้วจึงตอบข้อความของเพื่อนๆ สองสามคน สุดท้ายจึงเปิดกลุ่มแชต ‘กลุ่มเหล่าไป๋’
‘กลุ่มเหล่าไป๋’ เป็นกลุ่มใหญ่ขนาดหนึ่งพันคน องค์ประกอบของสมาชิกหลายร้อยคนในกลุ่มซับซ้อนยุ่งเหยิงมาก ระดับบนเป็นถึงศาสตราจารย์ผู้มีความรู้ ระดับล่างก็มีทั้งพวกแบกอิฐแบกปูนทำงานกระจอก สิ่งเดียวที่เหมือนกันก็คือพวกเขาเป็นเฉกเช่นเดียวกับหวังผู่ นั่นคือเป็นนักอ่านนิยายออนไลน์!
และอายุการอ่านก็นานมาก
หวังผู่ปีนี้อายุยี่สิบห้าปี อ่านนิยายออนไลน์มาสิบปีแล้ว แรกเริ่มตอนที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นเขาเริ่มเช่าหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์มาอ่านก่อน หนึ่งเล่มห้าเหมาก็อ่านได้สองสามวัน ต่อมาภายหลังก็หาหนังสืออ่านในอินเทอร์เน็ตเรียกได้ว่าอ่านหนังสือมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน
สำหรับหวังผู่ในตอนนี้ การอ่านนิยายออนไลน์เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาสามารถหาได้โดยจ่ายค่าแลกเปลี่ยนน้อยที่สุด นิยายที่เขาอ่านในอินเทอร์เน็ตเป็นของแท้ และเป็นนักอ่านระดับวีไอพีที่น่าภาคภูมิใจ ทว่าเหรียญการอ่านของเขาส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมต่างๆ ของเว็บไซต์หรือไม่ก็ได้มาจากอั่งเปาของเพื่อนนักอ่านที่เป็นเศรษฐี
แต่ช่วงนี้หวังผู่พบว่าความสุขของตัวเองนับวันยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆ และไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน เพราะเขามีบัญชีนักอ่านของเว็บไซต์ใหญ่ๆ สองสามแห่งที่มีเหรียญการอ่านอยู่ไม่น้อย
แต่หนังสือที่อ่านแล้วถูกใจกลับมีน้อยลงเรื่อยๆ!
นี่คือเรื่องน่าเศร้าที่สุดของนักอ่านในกลุ่ม ‘เหล่าไป๋’ อย่างเช่นหวังผู่ เขาอ่านหนังสือมาเยอะ ดังนั้นความต้องการจึงสูงขึ้นเป็นธรรมดา พวกนิยายที่เขียนแบบหยาบๆ เพ้อเจ้อมากเกินไป หรือซ้ำซากจำเจอย่างรุนแรง เขาจึงไม่สามารถรับได้ ทว่าในเว็บไซต์กลับมีหนังสือประเภทนี้เป็นส่วนใหญ่
หวังผู่ก็จนปัญญา เขาคิดถึงขนาดว่าจะเขียนหนังสือด้วยตัวเองสักเล่ม ผลสรุปคือเขียนไปได้หนึ่งพันกว่าคำจึงพบว่าที่แท้การเขียนหนังสือไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ทั้งๆ ที่ในหัวมีความคิดและแนวทางมากมาย แต่เนื้อหาและตัวหนังสือที่กดผ่านแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์กลับน่าเบื่ออย่างหาที่เปรียบมิได้ ตัวเองอ่านแล้วยังรู้สึกอับอายขายหน้า ดังนั้นจึงได้แต่ยอมแพ้
ปัญหาขาดแคลนหนังสือไม่อาจแก้ไขได้
“ทุกคนช่วยแนะนำหนังสือดีๆ หน่อยสิ ดีที่สุดขอเป็นหนังสือใหม่ หนังสือเก่าส่วนใหญ่อ่านหมดแล้ว!”
หวังผู่ส่งเสียงเข้าไปในกลุ่ม “ไม่มีหนังสือแล้ว”
“ขอด้วยเหมือนกัน!”
“ฉันก็เหมือนกัน ช่วงนี้อ่านหนังสือเก่าซ้ำอีกแล้ว แต่หนังสือเก่าเขียนสนุกกว่าอยู่ดี เดี๋ยวนี้เขียนอะไรกันก็ไม่รู้!”
“เรื่อง ‘ตำนานพลังแปดสยบมาร’ ไม่เลวเลย แนะนำฝุดๆ”
“ฉันเคยอ่านแล้ว ในนี้เทพเซียนพอได้อยู่ กำลังอ่านอยู่เหมือนกัน!”
“ฉันกำลังอ่าน ‘คนเฝ้าสุสานตอนเที่ยงคืน’ น่ากลัวเวอร์…”
เพื่อนๆ ในกลุ่มแชตต่างแย่งกันพูด แนะนำหนังสือสิบกว่าเล่ม แต่หวังผู่กลับผิดหวังมาก เพราะหนังสือพวกนี้หากไม่ใช่เล่มที่เคยอ่านแล้ว ก็เป็นประเภทที่เขาไม่ชอบ
หวังผู่ชอบนิยายออนไลน์แนวแฟนตาซี แนวเทพเซียน แนวอิงประวัติศาสตร์
ตอนที่เขาเตรียมจะปิดหน้าแชต และไปหาในเว็บไซต์ด้วยตัวเองนั้น หนึ่งในสมาชิกของกลุ่มที่ใช้ชื่อไอดี ‘หนอนหนังสือเก่า’ ได้พูดว่า “ฉันกำลังอ่าน ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ อยู่ สนุกมาก แนะนำให้ทุกคน”
เขายังแนบลิงก์ที่อยู่มาด้วย
หวังผู่จึงคลิกไปที่ลิงก์ เปิดหนังสือใหม่ที่ ‘หนอนหนังสือเก่า’ แนะนำ
กระบี่เย้ยยุทธจักร?
ชื่อหนังสือพอได้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่นิยายที่ตัวเอกไร้สมองแต่ชนะศัตรูตัวฉกาจได้ฉลุย หวังว่าจะมีเซอร์ไพรส์นะ!
‘กลุ่มเหล่าไป๋’ มีคนเยอะ สมาชิกกลุ่มหลายคนจึงคลิกเปิดลิงก์เหมือนกับหวังผู่
ทุกคนล้วนขาดหนังสือหนักมาก!
ไม่ช้าก็มีคนในกลุ่มบ่นว่า “จะเป็นลม กำลังภายใน นี่มันแนวโบราณไม่ใช่เหรอ”
“เหอะ เพิ่งเจ็ดหมื่นคำเอง ยังเป็นเด็กอ่อนอยู่เลยจะทารุณกรรมเด็กได้ยังไง”
“ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเลยอะ ตัวเลขน้อยมากจนน่าเศร้าไปหน่อยปะ เป็นหนังสือดีจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย”
“หนอนหนังสือเก่า คุณไม่ได้แนะนำหนังสือของตัวเองหรอกใช่ไหม”
“แนะนำของตัวเอง +1!”
พูดความจริง หวังผู่ก็สงสัยว่า ‘หนอนหนังสือเก่า’ แนะนำหนังสือของตัวเองหรือไม่ก็แนะนำให้เพื่อน หนังสือที่เขาแนะนำเล่มนี้ยังไม่ได้เซ็นสัญญาเลย ตัวหนังสือก็น้อยมากเหลือเกิน ถ้าหากเป็นหนังสือดีจริงๆ เช่นนั้นบรรณาธิการของล่างฉาวบุ๊กไม่ได้มองผิดไปเรอะ
ยอดคลิกเข้าชมไม่กี่ร้อยครั้ง เก็บสะสมไม่กี่สิบคน อยู่ในเว็บไซต์ใหญ่อย่างล่างฉาวบุ๊กเช่นนี้ เป็นต้องล้มหน้าทิ่มหมดหวังแล้วจริงๆ!
หวังผู่เคยอยู่ในกลุ่มนักเขียน เขาพอเข้าใจวงการวรรณกรรมอยู่เล็กน้อย
แนวกำลังภายใน…ไม่ใช่กระแสหลักจริงๆ
ผลงานในล่างฉาวบุ๊กแบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ แนวแฟนตาซี แนวเทพเซียน แนวอิงประวัติศาสตร์ แนวเกมออนไลน์ แนวแข่งขันกีฬา แนวทหาร แนววิทยาศาสตร์ แนวผีสางเรื่องเหนือธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีประเภทที่กำหนดนิยามขึ้นมาเอง
สิ่งที่เรียกว่ากำหนดนิยามเอง ก็คืออนุญาตให้นักเขียนสร้างนิยามผลงานของตัวเองด้วยตนเอง อย่างเช่นแนวเพ้อฝัน แนวซาดิสม์และมาโซคิสม์ แนวซูเปอร์ไซไฟ เป็นต้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นนิยายเฉพาะกลุ่มหรือนิยายที่มีแนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือนคนอื่น
‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ ที่ ‘หนอนหนังสือเก่า’ แนะนำ ก็จัดอยู่ในหมวดหมู่กำหนดนิยามเอง
แนวกำลังภายใน ในความทรงจำของหวังผู่เป็นหัวข้อนิยายระดับโบราณจริงๆ เขายังพอจำได้รางๆ ตอนที่ตัวเองเป็นเด็กเคยอ่านหนังสือเทพกระบี่อะไรสักอย่างหนึ่ง คลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นของนักเขียนชาวฮ่องกง
หนังสือหัวข้อพวกนี้เป็นเสบียงอาหารที่คนสูงวัยชื่นชอบไม่ใช่เรอะ
เมื่อรู้ตัวเขาจึงหักคะแนนหนังสือ ‘กระบี่เย้ยยุทธจักร’ เล่มนี้
‘หนอนหนังสือเก่า’ อธิบายในกลุ่มว่า “ไม่ได้แนะนำของตัวเองจริงๆ ฉันชอบเอง พวกคุณอ่านเองก็แล้วกัน”
หวังผู่คิดดูแล้วตอนนี้ก็ไม่มีหนังสือให้อ่าน ถือว่าช่วยอนุเคราะห์คนอื่นคลิกให้เล็กน้อยก็ไม่เสียหาย คิดเสียว่าสนับสนุนและให้กำลังใจนักเขียนหน้าใหม่ก็แล้วกัน ดังนั้นเขาจึงคลิกอ่านตอนที่หนึ่ง
…………………………………………………………………………