ตอนที่ 757 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (7)
“ผู้หญิงร้ายๆ อะไร ไอ้เด็กคนนี้นี่” กู้เชินยกมือขึ้นโบกใส่กู้เนี่ยนต้องการตีหัวกู้เนี่ยนเพื่อเป็นการสั่งสอน
แต่จู่ๆ อวี๋กานกานก็เข้ามาขวางตรงกลาง กู้เชินจึงรีบชักมือกลับทันที “เสี่ยวอวี๋หลบไป เจ้าเด็กนี่ยิ่งโตยิ่งก้าวร้าว วันนี้พ่อจะสั่งสอนมันให้ดี”
ถ้าเป็นตอนปกติ อวี๋กานกานคงไม่เข้ามาขวาง เพราะบางทีเด็กคนนี้ก็หัวรุนแรง แต่วันนี้กลับไม่เหมือนกัน เขาเจ็บปวดมามากพอแล้ว สำหรับเหตุการณ์นี้ของกู้ซูหลิงถือเป็นการถูกทรยศจากคนในครอบครัว
“เขาก็แค่พูดด้วยความหงุดหงิด คุณก็ยังจะเชื่ออีก” อวี๋กานกานเอ่ยเสียงเรียบ
กู้เชินชะงักเล็กน้อย จากนั้นสัมผัสแห่งความโล่งใจและความสุขก็เล็ดลอดเข้ามาใต้ดวงตาของเขา เสี่ยวอวี๋ช่วยเสี่ยวเนี่ยนซึ่งหมายความว่าเธอยอมรับน้องชายคนนี้และให้อภัยทุกอย่างในอดีต
เขานั่งลงเก้าอี้แล้วเรียกพนักงานมาสั่งอาหาร
ลูกชายตัวเองหากไม่จำเป็นจริงๆ ใครจะไปกล้าตี
อวี๋กานกานดึงกู้เนี่ยนให้นั่งเก้าอี้เช่นกัน หลังจากสั่งอาหารแล้วเธอจึงพูดกับกู้เนี่ยน “ต่อให้นายเกลียดพวกเรายังไงก็แก้ไขความจริงไม่ได้ว่าคนหนึ่งเป็นพ่อของนายคนหนึ่งเป็นที่สาวของนาย
กู้เนี่ยนมองอวี๋กานกานตาแดงเล็กน้อย เดิมทีคิดว่าหัวใจคงด้านชาเหมือนถูกแช่ในน้ำแข็งทั้งยังเจ็บแปลบเหมือนถูกทิ่มแทง
แต่คราวนี้เขากลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ
“เรื่องของผู้ใหญ่ต่อไปนายไม่ต้องสนใจแล้ว กลับไปตั้งใจเรียนมีอนาคตที่ดี”
“พี่หมายความว่ายังคงให้พ่อแม่ผมหย่ากันใช่ไหม”
อำนาจในการตัดสินใจเรื่องหย่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพี่สักหน่อย” อวี๋กานกานมองกู้เชินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วเอ่ยขึ้นอย่างจนปัญญา “คำถามนี้ควรถามพ่อนายมากกว่าว่าจะเอายังไงกับการแต่งงานครั้งนี้”
กู้เชินไม่ได้อยากพูดอะไรมากจึงตอบแบบขอไปที “เป็นเด็กเป็นเล็กจะรู้เรื่องนี้ไปทำไม”
กู้เนี่ยนขมวดคิ้วอยากเถียงกลับไป แต่อวี๋กานกานกลับเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน “จะบอกว่าเขาโตแล้วแต่ก็ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะบอกว่าเขายังเด็กแต่เขาก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ เรื่องหย่าของพ่อแม่หนูคิดว่ายังไงก็ต้องบอกเขา เขาอายุสิบห้าแล้วมีความสามารถพิจารณาเองได้ ในทางกลับกันถ้าคุณไม่พูดอะไรบ้างให้เขาอยู่ตรงกลางยังไงก็เป็นการทำร้ายเขาแบบหนึ่งนะคะ”
สิ่งนี้ทำให้กู้เนี่ยนสั่นสะท้านด้วยความตื้นตันและมองไปที่อวี๋กานกานอย่างลึกซึ้ง เพียงรู้สึกว่าเธอพูดถึงหัวใจของเขาจริงๆ ทำให้เขาใจอ่อนลง
กู้เชินมีสีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมมองลูกสาวและลูกชายที่อยู่ตรงข้าม เขาครุ่นคิดอย่างลังเลครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยปากพูด “เสี่ยวเนี่ยน ที่พ่อและแม่แกแต่งงานกันเพราะแม่ดันท้องแกโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้แกจะเกิดมาเพราะความไม่ตั้งใจแต่พ่อก็รักแกมากนะ แต่พ่อคงรักได้แค่แกคนเดียว พ่อรักแม่แกไม่ได้แล้วก็ใช้ชีวิตคู่ร่วมกับเธอไม่ได้”
กู้เนี่ยนมีสีหน้าหนักอึ้ง
ในความเป็นจริงเพื่อนร่วมชั้นบางคนพ่อแม่ก็หย่าร้างกัน
หากพ่อแม่ไม่ได้รักแล้วแต่ฝืนอยู่ด้วยกันเพราะลูกยังไงก็ไม่ดีขึ้น
บ้านและความอบอุ่นควรจะเท่าเทียมกัน ถ้าบ้านไม่มีความอบอุ่น มีแต่การทะเลาะวิวาทกันอยู่เรื่อยๆ บังคับให้พวกเขาอยู่ด้วยกันจะทำให้พวกเขาเจ็บปวดและแหนงหน่าย
มิสู้ให้พวกเขาแยกทางกันจะดีกว่า ให้ไปตามหาชีวิตที่ตัวเองต้องการ
เขารู้และเข้าใจดี
แต่พอคิดพ่อแม่ต้องหย่าร้างกัน เขาจะไม่มีครอบครัวที่สมบูรณ์อีกต่อไป หัวใจดูเหมือนจะเศร้าโศกกับอะไรบางอย่าง
“หลังจากการหย่ากัน พ่อจะปกป้องชีวิตแม่ของแม่แกและจะไม่ปล่อยให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน เธอสามารถทำอะไรก็ได้ที่เธอต้องการและถ้าอยากแต่งงานกับคนอื่น พ่อก็ไม่ขัดขวาง ถ้าแกคิดถึงแม่ แกก็ไปหาและอยู่กับเธอก็ได้ ที่จริงก็ไม่ต่างอะไรกับเมื่อก่อน เพียงแต่พ่อแม่แยกทางกันไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วก็เท่านั้น”
ตอนที่ 758 แทงใจ! ใครคือพี่สาวแท้ๆ ของผมกันแน่ (8)
ทุกถ้อยคำของกู้เชินล้วนเป็นความรู้สึกจากใจจริง ทั้งยังยืนยันกับกู้เนี่ยนว่าต่อไปเขาจะไม่แต่งงานอีกแล้วเขาจะทุ่มเทจิตวิญญาณและหัวใจเพื่อดูแลกู้เนี่ยนกับอวี๋กานกาน
การที่พ่อแม่ต้องหย่าร้างกัน ไม่ว่าลูกคนไหนก็ไม่สามารถทำใจรับได้ในช่วงแรก และนี่ก็เป็นสาเหตุที่กู้เนี่ยนรีบกลับประเทศ
ตอนนี้เมื่อได้รับฟังความในใจของกู้เชินแล้ว กู้เนี่ยนก้รู้ว่าตัวเองไม่ควรไปบังคับให้คุณพ่อไม่ต้องหย่ากับคุณแม่
ตอนนี้เขายังไม่เข้าใจความรัก แต่เขาก็รู้ดีว่าการที่สองคนแต่งงานกันเป็นสามีภรรยา หากต้องใช้ชีวิตคู่ร่วมกันจำเป็นต้องมีความรู้สึกต่อกัน
ไม่อย่างนั้นก็ต้องกลายเป็นคู่แค้นกัน
จากเมื่อก่อนที่ไม่อยากให้กู้เชินหย่า แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าอยากให้จูอวี้ลู่หย่าแทนและกู้เนี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในความคิดของเขาอย่างกะทันหันเช่นกัน
หลังจากเขากลับมาถึงบ้านก็ไปหาจูอวี้ลู่เพื่อจะคุยกับผู้เป็นมารดา
“แม่ครับ แม่หย่าเถอะนะ หลังจากแล้วแม่จะได้มีชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ หรือแม่จะไปอยู่เมืองกับผมก็ได้ ผมจะดูแลแม่…”
ยังไม่ทันที่ได้พูดจบก็ถูกจูอวี้ลู่ขัดขึ้นมาเสียก่อน “แกพูดอะไรของแก”
เมื่อจูอวี้ลู่ได้ยินในสิ่งที่ลูกชายพูดก็ระเบิดแล้วตวาดลั่นทันที “แกเป็นอะไรไปฮะ ทำไมจู่ๆ ถึงมาใช้ให้แม่หย่ากับพ่อแก หรือว่าแกไปได้ยินนังอวี๋กานกานอะไรนั่นเป่าหูมาใช่ไหม ทำไมแกถึงได้หูเบาขนาดนี้ นังนั่นมันเป็นผู้หญิงแพศยาหน้าไม่อาย”
“แม่ แต่เธอก็เป็นพี่สาวผมคนหนึ่งเหมือนกันนะครับ”
“นังนั่นไม่ใช่พี่สาวของแก!” จูอวี้ลู่ตะคอกด้วยความตกใจ “แกกับมันจะเป็นพี่น้องกันได้ยังไง แกกับนังนั่นเป็นศัตรูที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ พวกเราสิถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน หลิงหลิงสิถึงจะเป็นพี่สาวของแก แกเจ้าลูกคนนี้ทำไมถึงเห็นกงจักรเป็นดอกบัวไปได้ฮะ”
เมื่อกู้เนี่ยนเห็นมารดาของตนเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยท่าทีเคียดแค้นมาดร้ายก็รู้สึกตกตะลึง
นี่ไม่ใช่ภาพผู้เป็นมารดาในใจของเขาเด็ดขาด
เมื่อรู้ตัวว่าตนเองกระโตกกระตากมากเกินไป จูอวี้ลู่ก็ว้าวุ่นครู่หนึ่งก่อนจะกะพริบตา ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้ขึ้นมาปิดหน้าปิดตาพูดอย่างเศร้าโศก “เสี่ยวเนี่ยน ถ้าแม่หย่ากับพ่อ แม่ก็ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว สู้ให้ตายไปเสียจะดีกว่า พ่อของแกคือชีวิตจิตใจของแม่ เสี่ยวเนี่ยน แกอยากให้แม่ไปตายใช่ไหมฮะ เสี่ยวเนี่ยน…”
กู้เนี่ยนเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งใจ
เขาคิดไม่ถึงว่าเพียงแค่เอ่ยถึงนิดเดียวจะทำให้แม่เขาตอบโต้รุนแรงขนาดนี้
ดูๆ แล้วไม่ว่าอย่างไรแม่ก็คงไม่ยอมหย่าเด็ดขาด
แต่ทางฝั่งคุณพ่อ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องหย่าให้จนได้
เขาจะทำยังไงดี
สรุปแล้วเขาควรต้องทำอย่างไร
กู้เนี่ยนเต็มไปด้วยความสับสนและไม่สบายใจ เขารู้สึกเหมือนโลกกำลังจะแตกเลย
เขากลับห้องนอนเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย นอนพลิกตัวไปมาบนเตียงอย่างไรก็นอนไม่หลับสักที
ไฟของชั้นล่างยังคงส่องสว่าง
ด้วยความที่กู้เนี่ยนเป็นห่วงจูอวี้ลู่ เขาจึงสวมเสื้อคลุมเพื่อจะไปดูเธอสักหน่อย
เมื่อเดินไปถึงหัวกระได เขาก็ได้ยินเสียงของกู้ซูหลิงดังขึ้นมาจากชั้นล่าง แววตาของเขาดำดิ่งเล็กน้อย ไหนแม่บอกกับเขาว่าพวกเราสิถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ไหนบอกว่าหลิงหลิงสิถึงจะเป็นพี่สาวของเขา แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้จะใช่ฝีมือพี่สาวเขาทำหรือเปล่า
“ถ้าไม่ใช่เพราะนังอวี๋กานกานอะไรนั่น ป่านนี้ประธานสวีต้องเซ็นสัญญากับหนูไปแล้ว ถ้าคว้าโครงการของประธานสวีได้ไม่จะได้ไม่ต้องหย่ากับพ่อ”
“แม่บอกแกแล้วไงว่าไม่ต้องพาน้องแกไป แต่แกก็ไม่ฟังพาไปจนได้ ตอนนี้ค่อยยังชั่ว ให้มันเอาใจน้องแกต่อหน้า น้องแกก้เริ่มช่วยมันพูดแล้ว ยังคิดจะให้แม่หย่ากับพ่อแกอีก เจ้าเด็กโง่คนนี้นี่” จู่อวี้ลู่เอ่ยอย่างขุ่นเคือง “ถ้าหย่าแล้วพวกเราก็จะไม่ได้อะไรสักอย่าง พวกเรานี่รวมถึงน้องแกด้วยนะ เพราะกู้กรุ๊ปก็จะไม่ใช่ของน้องแกอีกต่อไป!”
กู้ซูหลิงพูดขึ้นด้วยความโมโห “เห็นกันจะๆ ว่าแค่กินข้าวมื้อเดียวเท่านั้นเอง นังอวี๋กานกานจงใจใส่ร้าย เสี่ยวเนี่ยนก็โง่เกินแค่นี้ก็เชื่อมันไปได้”