ตอนที่ 639 โต้กลับ! เอาให้สาสม
เอลิซาเบธหูอื้อ ช็อกกับคำพูดนี้ไม่ได้สติอยู่นาน
ผ่านไปสักพักเธอถึงหาเสียงตัวเองเจอ สั่นอย่างรุนแรง
“พ่อว่าอะไรนะคะ”
ผู้กุมอำนาจตระกูลลอเรนท์เชิญคนจีนกินข้าวเหรอคะ
สีหน้าของบรูเออร์ยังคงเหม่อลอย ปากขยับเหมือนหุ่นยนต์
แต่ทุกคำพูดราวกับเป็นการโยนระเบิดให้เอลิซาเบธ
ทำสมองเธอว่างเปล่า
“ที่นายท่านลงทุนโปรเจ็กต์ยานอวกาศข้ามจักรวาลเป็นเพราะมีคุณอิ๋งอยู่”
“ไม่ใช่เพราะโปรเจ็กต์นั้นนายท่านถึงรู้จักคุณอิ๋ง เพราะนายท่านให้ความสำคัญกับคุณอิ๋งมาก นายท่าน…”
บรูเออร์พูดต่อไปไม่ไหว
ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญ นั่นคือความเคารพ ให้เกียรติ
นี่มันเพราะอะไรกันแน่!
จนถึงตอนนี้บรูเออร์ก็ยังไม่แน่ใจและไม่เข้าใจว่าอิ๋งจื่อจินรู้จักกับซีซาร์ ลอเรนท์ได้ยังไงกันแน่
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากซีซาร์ ลอเรนท์ ประกาศเลิกเก็บตัวอย่างเป็นทางการ คนที่เคยเจอเขาก็มีอยู่แค่ไม่กี่คน
มีแค่นายใหญ่กับคณะผู้อาวุโส
สีหน้าของเอลิซาเบธเริ่มซีดลง สุดท้ายก็ทรุดลงไปบนพื้น เนื้อตัวเย็นเฉียบ
เธออาศัยนามสกุลลอเรนท์ บีบบังคับศูนย์ฟิสิกส์สากลจนได้บทความของอิ๋งจื่อจินมา
ก่อนหน้านี้เอลิซาเบธดูถูกอิ๋งจื่อจินอย่างสิ้นเชิง
เพราะในระดับโลกไม่มีนามสกุลไหนที่จะสูงส่งไปกว่าลอเรนท์แล้ว
แต่ตอนนี้
เอลิซาเบธมองโซ่ตรวนบนมือตัวเองอย่างเหม่อลอย
พวกเขาสองพ่อลูกถูกยึดนามสกุลคืน ถูกขับไล่ออกจากตระกูลลอเรนท์
คนจีนที่เธอดูถูกถูกผู้กุมอำนาจตระกูลลอเรนท์เชิญไปเป็นแขก
ทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้
เอลิซาเบธไม่รู้จะไปหาคำตอบจากไหน มีเพียงความเสียใจที่ไม่สิ้นสุดปกคลุมเต็มหัวใจ
…
ทางด้านโรงแรม
เวลาห้าโมงเย็น อิ๋งจื่อจินเตรียมไปคฤหาสน์ลอเรนท์
แต่พอออกจากประตูก็ถูกดันติดกับกำแพง
มีเสียงพูดกึ่งหัวเราะ “แฟนสาว ชอบเล่นเกมวิ่งไล่จับตั้งแต่เมื่อไร”
กลิ่นหอมของไม้กฤษณาที่คุ้นเคย
สุขุมอ่อนโยน
“มีคนเชิญไปกินข้าว” สีหน้าของอิ๋งจื่อจินเรียบเฉย ราวกับไม่ได้กำลังเปลี่ยนเรื่อง “ผู้บัญชาการ ไปไหม”
ฟู่อวิ๋นเซินเอามือหยิกแก้มเธอ หัวเราะเบาๆ “ตัวแสบ”
สามสิบนาทีต่อมา
ณ คฤหาสน์ตระกูลลอเรนท์
จ็อบออกไปรับทั้งสองคนด้วยตัวเอง
ซีซาร์รู้สึกประหลาดใจที่อิ๋งจื่อจินพาคนมาด้วย แต่ไม่ต้องแนะนำเขาก็รู้ว่าเป็นแฟนบอส
“ซีซาร์ ลอเรนท์” ซีซาร์ยื่นมือออกไป พูดเสริมเป็นการเน้นย้ำ “คนเดียวกับในหน้าหนังสือประวัติศาสตร์”
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว จับมือกับเขา “สวัสดีครับ ผมฟู่อวิ๋นเซิน”
ซีซาร์แอบแปลกใจ “หืม? ทำไมคุณถึงไม่แปลกใจที่ผมมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้”
แม้แต่คณะผู้อาวุโสกับนายใหญ่คนปัจจุบันของตระกูลลอเรนท์ยังตกใจเกือบเป็นลมตอนที่รู้ตัวตนของเขา
“ก็ผมมี…” ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินโค้งมน “มีบรรพบุรุษต้องเลี้ยงดูอยู่คนไม่ใช่เหรอครับ”
ซีซาร์ “…”
เมื่อเทียบกับบอส เขาก็ยังอายุน้อยกว่า
แต่ทำไมเขาถึงไม่มีแฟน
ฟู่อวิ๋นเซินหันไป “เยาเยา สรุปว่าคนนี้ก็ลูกศิษย์เธอเหรอ”
อิ๋งจื่อจินยังไม่ทันตอบ ซีซาร์เงียบไปชั่วขณะ รับไม่ได้ “บอสยังมีลูกศิษย์ด้วยเหรอ!”
เดิมทีเขาคิดว่าคู่แข่งของเขามีแค่เจ้าบ้านอร์ตันคนเดียวเสียอีก
ทำไมอยู่ๆ ก็โผล่มาหลายคนล่ะ
นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“ไม่ใช่” อิ๋งจื่อจินเหลือบตามองซีซาร์ “ลูกน้อง”
“เอ่อคือ คุณฟู่” ซีซาร์ลุกขึ้น ขยับข้อมือนิดหน่อย ยิ้มพลางพูด “ประลองกันสักหน่อยเป็นไงครับ”
ในฐานะที่เป็นลูกน้อง เขาต้องช่วยบอสคัดกรองหน่อย
ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ เชิญ”
ทั้งสองคนตกลงกันอย่างรวดเร็ว อิ๋งจื่อจินยังไม่ทันได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
หนึ่งนาทีต่อมา
ฟู่อวิ๋นเซินถอยหลังหนึ่งก้าว สีหน้าเอื่อยเฉื่อย ยิ้มเชิงหยอกเย้า “นายท่านลอเรนท์อ่อนให้”
ซีซาร์นอนอยู่บนพื้น สีหน้าไร้ความรู้สึก
เขาต้องยอมรับเลยว่า ในที่สุดเขาก็เจอคนบ้าที่ต่อสู้เก่งยิ่งกว่านอร์ตันแล้ว
แต่ก็จริง
มีแค่ผู้ชายแบบนี้ที่คู่ควรกับบอส
…
สามวันต่อมาเป็นวันคอนเสิร์ตของฉินหลิงอวี๋
อิ๋งจื่อจินได้รับตัวอิเล็กทรอนิกส์ที่เลขาส่งมาให้ เวลานี้มีแจ้งเตือนจากเวยปั๋วเด้งขึ้นมาสองข้อความ
มีคำว่าโรงพยาบาลเซ่าเหรินอยู่ในนั้น
อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว กดเข้าไป
แฮชแท็กโรงพยาบาลเซ่าเหรินของปลอม
แฮชแท็กหมอเทวดาใจดำ
[ต่อต้านแบรนด์ฮวาเสี่ยงหรง!]
[ก็ว่าอยู่ มีผลิตภัณฑ์ขาวใสจริงๆ ที่ไหนกัน ในนั้นต้องผสมสารเคมีอะไรที่เป็นภัยแน่นอน]
ด้านล่างเต็มไปด้วยคำด่า
อิ๋งจื่อจินอ่านข่าวทั้งหมดที่อยู่ในประเด็นร้อน เธอเคาะโต๊ะ เป็นครั้งแรกที่โทรทางไกลระหว่างประเทศ
“ในเน็ตมีเรื่องอะไรกันคะ”
“คุณอิ๋ง มีคนปล่อยข่าวลือครับ ตอนนี้ลือกันในกลุ่มวีแชทกับเวยปั๋วไปทั่วแล้ว” ผู้อำนวยการโมโหมาก “บอกว่าพวกเราขายของปลอม ทำให้ลูกค้าเกิดอาการแพ้ที่หน้า”
แววตาของอิ๋งจื่อจินชะงัก “ข่าวลือมาจากไหนคะ”
“ยังหาต้นตอแรกสุดไม่เจอครับ รู้แค่ว่าลือมาจากในกลุ่มวีแชท” ผู้อำนวยการตั้งสติแล้วพูดต่อ “อาจเป็นแบรนด์อื่น ฝ่ายกฎหมายกำลังตรวจสอบครับ”
“และก็เพราะเรื่องนี้ บริษัทคู่แข่งจำนวนไม่น้อยต่างออกมาเรียกร้องให้พวกเราเปิดเผยส่วนผสม เพื่อพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเราไม่มีปัญหาครับ”
ข่าวลือเล็กมาก แต่อานุภาพรุนแรงจนน่าตกใจ
จากข่าวลือที่ซังอวี่บอกว่าโรงพยาบาลเซ่าเหรินขายของปลอมและผิวของเธอแพ้ ตอนนี้กลายเป็นว่าใช้มาร์คหน้าขาวใสจะทำให้ผิวเน่าถึงตายได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อำนวยการเจอเรื่องแบบนี้
อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด “เปิดเผยส่วนผสมเหรอ”
“ครับ จะต้องมีคนกลั่นแกล้งแน่ๆ!” ผู้อำนวยการกัดฟันกรอด “พวกเราได้เอกสารตรวจสอบความปลอดภัยมาแล้ว อีกทั้งยังประกาศออกไปแล้วด้วย แต่หลายคนก็ยังไม่เชื่อครับ”
โดยเฉพาะแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์อื่นในวงการเดียวกันที่ให้พวกคลื่นใต้น้ำคอยปั่นกระแสใส่ร้ายโรงพยาบาลเซ่าเหรินอยู่ตลอด
“งั้นก็เปิดเผยไปเถอะค่ะ” อิ๋งจื่อจินพูด “เปิดเผยส่วนผสมที่พวกเขาสงสัยออกไป จากนั้นก็ไลฟ์สดเชิญผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ”
ผู้อำนวยการอดตะลึงไม่ได้ “คุณอิ๋ง?”
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวแบรนด์ฮวาเสี่ยงหรงโด่งดังได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้เป็นเพราะมีสูตรเฉพาะของตัวเอง
ในตลาดผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวขาวใส ฮวาเสี่ยงหรงมาเป็นอันดับหนึ่ง สร้างความอิจฉาให้หลายบริษัทนานแล้ว
ถ้าเปิดเผยส่วนผสม…
“ค่ะ เปิดเผย” อิ๋งจื่อจินใจเย็น “วางใจได้ค่ะ ต่อให้มีส่วนผสมพวกเขาก็ทำออกมาไม่ได้ ไม่มีทางได้รับผลกระทบ”
ผู้อำนวยการถึงโล่งใจ “ครับคุณอิ๋ง ผมจะไปจัดการตามที่คุณบอกเดี๋ยวนี้ครับ”
“ติดต่อผู้เฒ่ามู่แล้วกันค่ะ” อิ๋งจื่อจินหาวออกมา “คนคุมโรงพยาบาลยังคงเป็นเขา เขาน่าจะโมโหกว่า”
…
เมืองตี้ตู
มู่เฮ่อชิงโมโหมากจริงๆ
เขาไม่ได้โกรธที่ถูกยกเลิกออเดอร์จำนวนมาก เสียหายครั้งใหญ่ แต่โกรธที่อิ๋งจื่อจินเสื่อมเสียชื่อเสียง
คำค้นยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเซ่าเหรินถูกดันขึ้นไปติดสิบอันดับแรกด้วยการผลักดันของอิทธิพลหลายฝ่าย
มู่เฮ่อชิงรับสายจากโรงพยาบาลเซ่าเหริน เริ่มหายโกรธไปบ้าง “ครับ แล้วก็ สืบพบต้นตอที่ปล่อยข่าวลือแล้ว จะส่งจดหมายจากทนายไปครับ”
ส่วนทางด้านฟลอเรนซ์ ซังอวี่นั่งมองคำค้นยอดนิยมที่ถูกดันขึ้นบนไม่หยุดอย่างสบายใจ ยิ้มมุมปาก
เธอไม่กลัวเลยสักนิด
โรงพยาบาลเซ่าเหรินมีลูกค้าตั้งเยอะขนาดนั้น ไม่ว่ายังไงก็สืบหาตัวเธอไม่พบหรอก
อีกทั้งข่าวลือตอนนี้หนักไปถึงขั้นมีคนตายแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลย
ใครจะสืบได้ว่าจุดเริ่มต้นข่าวลือคือเธอ
ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังถกเถียงอยู่นั้น แอคเคาท์เวยปั๋วทางการของโรงพยาบาลเซ่าเหรินก็ออกแถลงการณ์ฉบับใหม่
ในนั้นมีการบอกส่วนผสมทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ รวมถึงใบรับรองจากสถาบันตรวจสอบ
ยืนยันได้ว่าสารต่างๆ ที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ปลอดภัยทุกตัว อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกาย
นอกเหนือจากนี้ วันพรุ่งนี้โรงพยาบาลเซ่าเหรินจะทำการไลฟ์สด เชิญหมอเทวดามาด้วยตัวเอง เพื่อร่วมทดสอบพร้อมผู้เชี่ยวชาญ
ซังอวี่ขมวดคิ้ว
เธอนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าโรงพยาบาลเซ่าเหรินจะใช้วิธีใจเด็ดขนาดนี้ เปิดเผยส่วนผสมออกมา
แถมยังจะเชิญผู้เชี่ยวชาญมาร่วมพิสูจน์ต่อหน้าทุกคนด้วย
การเปิดเผยส่วนผสมไม่เท่ากับเป็นการตัดช่องทางทำมาหากินของตัวเองเหรอ
แต่กระแสวิจารณ์ไม่ได้หยุดแต่เพียงเท่านี้ กลับยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยซ้ำ
[เปิดเผยส่วนผสมจะยืนยันอะไรได้ เรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้วโรงพยาบาลเซ่าเหรินยังไม่เป็นอะไร สงสัยจะมีคนใหญ่คนโตหนุนหลังสินะ]
[โรงพยาบาลเซ่าเหรินอวดดีขนาดนี้ นี่ฉันแอบคิดไปนะว่าพวกคุณเป็นบริษัทของตระกูลมู่ ก็แค่บริษัทกระจอกที่โด่งดังขึ้นมาได้ อย่าเหลิงนักเลย]
ซังอวี่ยิ้ม
เธอรู้จักกิจการของตระกูลมู่ดี ไม่มีโรงพยาบาล
เห็นทีคราวนี้หมอเทวดาจะไม่ออกมาไม่ได้แล้ว
พอหมอเทวดาออกมา โรงพยาบาลเซ่าเหรินก็จะอ้างว่าหมอเทวดาไม่ว่างรักษาไม่ได้แล้ว
ซังอวี่ไถดูด้านล่างต่อ เจอสองโพสต์เวยปั๋ว
[แอทโรงพยาบาลเซ่าเหริน : ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจต่อผู้ที่สร้างข่าวลือ]
[แอทซังอวี่ : คุณซังใจกล้ามากครับ สร้างข่าวลือเล่นงานมาถึงตระกูลมู่ได้ ไม่กลัวว่าจะได้จดหมายจากทนายเลยใช่ไหมครับ]
[แอทมู่เฮ่อชิง : โรงพยาบาลแห่งนี้เป็นของผมจริง มีปัญหาอะไรไหมครับ]
[แอทเสี่ยวนั่วนั่ว : โรงพยาบาลเซ่าเหรินอวดดีขนาดนี้ นี่ฉันแอบคิดไปนะว่าพวกคุณเป็นบริษัทของตระกูลมู่…]