คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 661 บัตรดำทองระดับเอส! บุกเข้าไป

ตอนที่ 661 บัตรดำทองระดับเอส! บุกเข้าไป

“แน่นอน ชอบมาก” สีหน้าของริต้ามีความสุข “ดีไซน์เสื้อผ้าร้านนี้ให้ความรู้สึกหรูหราเป็นพิเศษ พวกเรารีบไปดูกัน ไม่รู้ว่าวันนี้จะสั่งจองได้หรือเปล่า”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า สีหน้าสบายๆ

“ถ้าเธอชอบ เดี๋ยวฉันให้ฟรี”

เธอเป็นคนตั้งชื่อและออกแบบโลโก้ของร้านนี้เอง อยู่ในเครือของชูกวงมีเดีย

นอกจากจ้างดีไซเนอร์ชื่อดังระดับโลกแล้ว เธอก็มีออกแบบชุดราตรีกับชุดลำลองอยู่บ้างยามว่าง

ร้าน ‘ชาร์มมิ่ง’ ร้านนี้เพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว

ร้านที่อยู่ฟลอเรนซ์คือสาขาหลักของทางยุโรป

สาขาหลักของประเทศจีนอยู่ที่ตี้ตู ตามเมืองใหญ่ๆ ก็มีสาขาย่อย

ริต้าตะลึง “ให้ฟรีเหรอ”

จนถึงตอนนี้เธอเพิ่งเคยจองได้แค่สองชุด แถมยังไม่ใช่ชุดที่ขายดีที่สุด

แบรนด์ชาร์มมิ่งดังมากในยุโรป ทุกครั้งที่ออกดีไซน์ใหม่จะถูกแย่งซื้อทางออนไลน์หมดในไม่กี่วินาที

วัดกันที่ความเร็วอินเตอร์เน็ต ต่อให้เป็นคนใหญ่คนโต แต่ถ้าเน็ตไม่ดีก็แย่งไม่ทัน

“อืม” อิ๋งจื่อจินหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด “ชอบชุดไหนเดี๋ยวฉันให้ฟรี”

ริต้ายังไม่ทันพูดก็มีเสียงพูดประชดดังขึ้น ก็คือผู้หญิงที่แซงคิวก่อนหน้านี้

“ให้ฟรีเหรอ เธอเนี่ยนะ ขนาดตระกูลลอเรนท์ยังต้องสั่งจองล่วงหน้า คิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของร้านหรือไง”

เมื่อกี้เธอหน้าแตกไปแล้ว คราวนี้ในที่สุดก็มีโอกาสเอาคืน

เธอมองอิ๋งจื่อจินด้วยสายตาหยามเหยียด “คนตะวันออก ฉันขอเตือนให้เจียมตัวนะ ที่นี่ไม่ใช่ประเทศจีนบ้านพวกเธอที่มีแต่ของก๊อบเต็มถนน เสื้อผ้าสั่งตัดของแบรนด์ชาร์มมิ่งคิดจะให้ฟรีก็ให้ได้งั้นเหรอ”

อิ๋งจื่อจินสวมผ้าปิดปากอยู่ก็จริง แต่ลักษณะเด่นความเป็นคนตะวันออกก็ชัดเจนมาก แค่มองก็รู้

แววตาของเธอเรียบเฉย ไม่รู้สึกอะไรแม้แต่น้อย

“เธออีกแล้วเหรอ” ริต้าสีหน้าเย็นชา “มีนิสัยชอบแอบฟังคนอื่นเหรอ”

ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในห้างฯ เธอคงควักปืนออกมานานแล้ว

อีกฝ่ายแสยะยิ้ม ไปต่อแถวหน้าร้านชาร์มมิ่ง

เธอจงใจเว้นระยะต่อแถวกว้างมาก ทั้งยังจงใจทำมือดูถูกทั้งสองคนอย่างได้ใจ

“ยัยคนนี้!” ริต้าโมโหมาก “คนสวย ไป พวกเราไปร้านอื่น เห็นยัยนี่แล้วฉันขยะแขยง”

“ไม่เป็นไร พวกเราไม่เข้าไป” อิ๋งจื่อจินเก็บโทรศัพท์มือถือ เงยหน้าขึ้น “เดี๋ยวจะมีคนเอาของออกมาให้”

ริต้าอึ้ง พูดเสียงเบา “เธอคงไม่ใช่เจ้าของร้านนี้จริงๆ ใช่ไหม”

นักปรุงยาพิษอันดับหนึ่งยังมีงานอดิเรกเปิดร้านเสื้อผ้าด้วยเหรอ

“อืม” อิ๋งจื่อจินพูดปลอบ “ไม่ต้องกลัว ฉันก็แค่เปิดขำๆ”

ริต้า “…”

ในระหว่างที่เธอกำลังงงอยู่นั้น ผู้จัดการร้านชาร์มมิ่งก็เดินออกมาด้วยความรีบร้อน

ผู้จัดการมองไปรอบๆ ถึงเห็นอิ๋งจื่อจิน

ดวงตาของเขาเป็นประกาย เดินเข้าไปหาทันที “คุณอิ๋งใช่ไหมครับ นี่เป็นใบเสร็จที่คุณสั่งสินค้าเมื่อครู่ครับ พนักงานกำลังเตรียมของให้ เชิญตรวจดูครับ”

อิ๋งจื่อจินรับใบเสร็จมายื่นให้ริต้า “ลองดูนะว่าจะเอาอะไรอีกไหม”

ริต้ามองรายการสินค้าขายดียาวเป็นพรวนที่เธอไม่เคยแย่งซื้อทัน สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วถึงพูดขึ้น “พะ พอแล้ว”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “เอาแค่นี้ก่อน”

ผู้จัดการพูดด้วยความเคารพ “ครับคุณอิ๋ง”

“…”

เกิดความเงียบขึ้นโดยรอบ

รอยยิ้มประชดบนใบหน้าผู้หญิงคนนั้นเริ่มแข็งทื่อ รู้สึกเหลือเชื่อ “เธอยังไม่ได้สั่งจองเลยด้วยซ้ำ ทำไมถึงเตรียมสินค้าให้เธอก่อน”

ลูกค้าคนอื่นๆ ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจ

พวกเขามายืนต่อแถวกันตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อแย่งซื้อสินค้าขายดี

ทำไมอยู่ๆ ถึงมีคนเดินมาสั่งสิบกว่าชุดแบบสบายๆ ได้หน้าตาเฉย

“ขอโทษด้วยครับ นี่คือบอสของพวกเราครับ” ผู้จัดการยิ้มเป็นเชิงขอโทษ “บอสมาขอเอาสินค้าอย่างกะทันหัน พวกเราเพิ่งทราบ ลูกค้าทุกท่านโปรดเห็นใจด้วยนะครับ”

เจ้าของร้านชาร์มมิ่ง!

ผู้หญิงคนนั้นทำหน้าช็อก

เธอนึกถึงคำพูดของตัวเองเมื่อครู่ สีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวแดง

“สุดยอดเลยนะเธอน่ะ” ริต้าปรบมือ “ฉันขอประกาศเลยว่า เธอก็คือสุดยอดนักทำนายในวันนี้ เธอรู้ได้ไงน่ะว่าคนสวยของฉันเป็นเจ้าของร้านชาร์มมิ่ง”

หญิงสาวหน้าบึ้ง โกรธจนทำอะไรไม่ถูก

แต่เธอก็ไม่กล้าพูดอะไร

เธอชอบชุดร้านชาร์มมิ่งมาก เกิดถูกขึ้นบัญชีดำจะทำไง

“กรี๊ด!” มีผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในแถวกรีดร้องขึ้นมา ดวงตาเปล่งประกาย “คุณคือดีไซเนอร์ชาวจีนที่ใช้ชื่อปีศาจใช่ไหมคะ! ฉันเคยดูงานแถลงข่าวของพวกคุณเมื่อปีที่แล้ว”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า พูดอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะ”

“กรี๊ดดด ฉันเป็นแฟนคลับคุณค่ะ” หญิงสาวตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิม ล้วงสมุดเล่มเล็กออกมา “ขอลายเซ็นได้ไหมคะ”

“ได้ค่ะ” อิ๋งจื่อจินรับปากกามาเซ็นว่า ‘ปีศาจ’

ไม่นานของที่สั่งก็ถูกเตรียมเสร็จ พนักงานหิ้วถุงมาส่งให้ริต้าด้วยความนอบน้อม

อิ๋งจื่อจินหยิบบัตรยื่นให้ผู้จัดการ “รูดบัตรทั้งหมด”

ผู้จัดการเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก พูดด้วยความหวั่นใจ “ไม่ต้องหรอกครับคุณอิ๋ง เดิมทีร้านชาร์มมิ่งก็เป็นของคุณ ยังจะรูดทำไมล่ะครับ”

“รูดไปเถอะ” อิ๋งจื่อจินไม่แคร์ “จะได้ทำบัญชีง่าย”

ผู้จัดการเลยต้องกลับเข้าร้านไปเอาเครื่องรูดบัตรออกมา จากนั้นก็รับบัตรไปรูด

พอเห็นบัตร จากเดิมที่มีสีหน้าหนักใจก็แปรเปลี่ยนเป็นตะลึง “คุณอิ๋งครับ คือ…”

ลูกค้าที่อยู่ใกล้ๆ ก็สีหน้าเปลี่ยน

บัตรใบนั้นเป็นบัตรสีดำทอง ด้านบนมีอักษรขอบทอง

เอส!

ด้านหลังบัตรสีดำทองใบนี้เป็นดอกไอริสสีทอง

นี่คือสัญลักษณ์ของธนาคารลอเรนท์

แขกหรือผู้ชมคนไหนก็ตามที่เมื่อวานเข้าร่วมงานประชุมสรุปผลงานไตรมาสของวีนัสกรุ๊ปต่างรู้ว่าธนาคารลอเรนท์กำลังจะออกบัตรรุ่นใหม่

รูปแบบบัตรถูกประกาศลงในเว็บไซต์ทางการเรียบร้อยแล้ว มีการแบ่งระดับลูกค้าอย่างชัดเจน

ระดับต่างกันย่อมได้รับสิทธิประโยชน์ที่ไม่เหมือนกัน

สูงสุดคือระดับเอ ทั้งโลกมีจำกัดแค่สิบใบ

บรรดาคุณหนูคุณชายเตรียมพร้อมแย่งชิง รวมถึงริต้าด้วย

แต่ระดับเอสเหรอ

ผู้จัดการเหงื่อแตกเต็มหัว รูดบัตรดำทองที่เครื่องแล้วส่งคืนทันที “นี่ครับคุณอิ๋ง”

อิ๋งจื่อจินรับมาเก็บแล้วพาริต้าที่มีสีหน้าตะลึงเดินออก

ผ่านไปสักพักริต้าถึงตั้งสติได้ “มีบัตรระดับเอสด้วยเหรอ”

“มี สองใบ” อิ๋งจื่อจินตอบอืม “วงเงินไม่จำกัด”

“คะ คนสวย” ริต้ากลืนน้ำลายอึกใหญ่ “เอ่อคือ เธอกับคุณซีซาร์มีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่”

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด “เขาเป็นลูกชายของฉัน”

ริต้า “?”

อีกด้านหนึ่ง

สำนักงานไอบีไอประจำประเทศเจ

เหล่านักสืบคุมตัวโยเซฟ ผู้ช่วยมานูเอล รวมถึงบอดี้การ์ดสิบกว่าคนไว้ทั้งหมด รอแค่พรุ่งนี้ส่งตัวไปยังคุกสากลสำหรับนักโทษอุกฉกรรจ์ที่อยู่บนทะเล

วาเลนส์รวบรวมเอกสารทั้งหมดยื่นให้ฟู่อวิ๋นเซิน

“ผู้บัญชาการครับ พบเบาะแสจำนวนหนึ่ง มานูเอลยังได้ทำการค้นคว้าสารเคมีที่เป็นอันตรายจำนวนไม่น้อย โดยอ้างว่าเป็นการวิจัยครับ” เขาพูด “ตรวจสอบสารเคมีสองขวดนั้นแล้ว ความรุนแรงอยู่ที่อันดับประมาณสามสิบครับ”

นิ้วของฟู่อวิ๋นเซินเคาะเบาๆ ยิ้มมุมปาก “โอกาสมาถึงที่ จับได้เลย”

อย่างไรเสียมานูเอลก็เป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก สร้างคุณูปการในด้านชีวะเคมีอยู่ไม่น้อย

เขายืมมือตระกูลเทเลอร์ทำหลายเรื่อง ฟอกตัวเองให้ขาวสะอาด

ไม่เคยมีหลักฐานมัดตัวเขาได้

แต่ตอนนี้ มานูเอลวิจัยสารเคมีที่เป็นภัยโดยพลการ อีกทั้งยังต้องการเอาไว้ทำร้ายคน ความผิดชัดเจนและมีหลักฐาน

“ผู้บัญชาการครับ ยังพบอีกเรื่องหนึ่งครับ” วาเลนส์พูด “เรื่องที่ศาสตราจารย์เกอร์เวนถูกลักพาตัวก็เกี่ยวข้องกับมานูเอลครับ”

“อืม ฉันรู้” ฟู่อวิ๋นเซินยืนขึ้น “เตรียมตัวไปที่ศูนย์วิจัยของมานูเอล”

เวลาเย็น

ดินแดนของตระกูลเทเลอร์ที่ห่างจากประเทศเจออกไปสองพันกิโลเมตร

ศูนย์วิจัยของมานูเอลอยู่ที่นี่

บริเวณรอบๆ มีทหารรับจ้างที่ตระกูลเทเลอร์ส่งมาเฝ้าอย่างเข้มงวด คุ้มกันความปลอดภัยของมานูเอล

เดิมทีเป็นค่ำคืนที่เงียบสงบ จนกระทั่งมีเสียงเฮลิคอปเตอร์ดังไปทั่วท้องฟ้า

ราวกับฟ้าผ่า ปกคลุมไปทั่วเมือง

ทหารรับจ้างที่เดิมทีกำลังง่วงก็ตาสว่างในทันที เริ่มระแวง

“ศัตรู!…มีศัตรูโจมตี!”

“เร็วเข้า! คุ้มกันศาสตราจารย์ไว้!”

คนที่อยากฆ่ามานูเอลมีเยอะมาก เคยมีนักฆ่ากับนักสะกดจิตปะปนเข้ามา

แต่คนพวกนั้นก็แอบลักลอบเข้ามา ใครมันกล้ามาแบบโจ่งแจ้งแบบนี้!

บนหอสังเกตการณ์ ทหารรับจ้างหลายคนมองท้องฟ้า จับปืนสไนเปอร์ในมือแน่น

“ฟึ่บ…”

เสียงอึกทึกไม่ขาดสาย เฮลิคอปเตอร์ฝ่าชั้นเมฆลงมา

เมื่อมีแสงสว่างส่องถึง อักษรสามตัวขนาดใหญ่ที่อยู่บนตัวเฮลิคอปเตอร์ก็สะดุดตา

ไอบีไอ!

พวกทหารรับจ้างตะลึง

ทำไมถึงเป็นไอบีไอ!

บันไดเชือกถูกปล่อยจากเฮลิคอปเตอร์ บรรดานักสืบที่ผ่านการฝึกได้ทำการยึดหอสังเกตการณ์ในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมทั้งยึดอาวุธทั้งหมด

ฟู่อวิ๋นเซินกระโดดลงมาจากที่สูง

เขาสวมหน้ากากสีเงิน แสงจันทร์สะท้อนชวนให้ดูเย็นชา เผยเพียงคางที่สมบูรณ์แบบ

วาเลนส์ตามมาติดๆ สีหน้าเคร่งขรึม “ผู้บัญชาการ”

น้อยครั้งที่เขาจะได้ออกทำภารกิจพร้อมฟู่อวิ๋นเซิน เลือดในกายจึงอดพลุ่งพล่านไม่ได้

ฟู่อวิ๋นเซินพยักหน้า เข้าไปก่อน

ในเวลานี้เองได้มีเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น

[ติ๊ดติ๊ดติ๊ด!]

[เตือนภัย เตือนภัย!]

[ระบบป้องกันเริ่มทำงาน!]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset