ตอนที่ 749 อิทธิพลของอิ๋งจื่อจิน!
สั่งให้เลือกหัวหน้าตระกูลคนใหม่โดยอ้างว่าลูเอลตายไปแล้วย่อมไม่มีปัญหาอะไร
ไม่เพียงแต่บรรดาชาวเมืองจะไม่คัดค้าน ยังสนับสนุนด้วยซ้ำ
อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงทันที “มันเรื่องตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“เมื่อกี้เองครับ” พ่อบ้านกัดฟัน “ทางสำนักผู้วิเศษเพิ่งแจ้งมาว่าจะส่งคนนำคำสั่งอย่างเป็นทางการมาให้ตอนบ่าย ทำไงดีครับคุณหนูใหญ่”
ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลใช้ระบบตำแหน่งตลอดชีพ
ถ้าลูเอลไม่หายตัวไปก็ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“รอดูตอนบ่ายว่าสำนักผู้วิเศษคิดจะทำอะไร” อิ๋งจื่อจินตอบ “อยู่ดีๆ ก็เร่งขึ้นมาจะต้องมีสาเหตุแน่”
โทรศัพท์มือถือดังขึ้นสองทีในเวลานี้
[นอร์ตัน : จริงสิ คนคนนี้ถือเป็นอาสามของบอสหรือเปล่า เขาจะบอกซาโรห์เรื่องกรุ๊ปเลือดของบอส ผมบอกว่าเกลียดคนตระกูลเรนเกลเลยฆ่าทิ้งละ]
[นอร์ตัน : แต่บอสคงไม่ใช่ผู้วิเศษจริงๆ ใช่ไหม]
อิ๋งจื่อจินก้มอ่าน “…”
เธอพอจะเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
ซาโรต์ วิคตอเรียวางแผนไว้ดีจริงๆ แค่ใช้ประโยชน์จากคำพูดของนอร์ตัน เลื่อนการเลือกหัวหน้าตระกูลให้เร็วขึ้น
แต่ถึงอย่างไรการเลือกหัวหน้าตระกูลคนใหม่ก็เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นในไม่ช้าก็เร็ว
อิ๋งจื่อจินกดโทรออก “ฉันมีเรื่องจะบอก”
ภายในคฤหาสน์ส่วนตัว นอร์ตันมองเด็กน้อยที่ตัวสั่นยืนชิดประตู เขาเลิกคิ้ว “ได้ บอสว่ามา”
“นายคิดว่าซีนายเป็นไง”
“น่ารำคาญ แต่ก็น่ารักดี ทำไมเหรอ”
“อืม เธอเป็นคนตระกูลเรนเกล” อิ๋งจื่อจินหยุดเล็กน้อยแล้วพูดต่ออย่างใจเย็น “นั่นอาฉัน”
นอร์ตัน “?”
หลังจากเขารู้ว่าซีนายถูกจับกรอกยาเล่นแร่แปรธาตุสักชนิด ร่างกายถึงได้หดกลับเป็นเด็ก ปกติเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว
แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นอาของอิ๋งจื่อจินด้วย
นอร์ตันจับโทรศัพท์มือถือ สายตาเลื่อนลง “กลัวฉันขนาดนี้เลยเหรอ เหงื่อแตกเลยเหรอ”
ซีนายส่ายหน้าสุดชีวิต “เปล่า ฉันร้อน”
“อ่อ” นอร์ตันเชื่อจริง “ตรงนั้นมีน้ำผลไม้แช่เย็น”
ขณะพูดมือข้างหนึ่งของเขาก็จับเสื้อผ้าของซีนาย หิ้วเธอขึ้นมา
ซีนายทำท่าจะหลบ
แต่ก็ยังคงไม่พ้นเงื้อมือมัจจุราช
“เอาล่ะ จะหลบทำไม” นอร์ตันยิ้ม “ดูก็รู้ว่าโตขึ้นเธอมันหุ่นไม้กระดาน ฉันไม่สนใจหรอก ฉันชอบแต่คนหุ่นดี”
“อีกอย่างเธออายุต่างกับฉันเยอะ ฉันไม่สนใจเด็กหรอก”
ซีนาย “…”
ใครก็ได้เอาหมอนี่ไปรักษาที
…
อีกด้านหนึ่ง
อิ๋งจื่อจินกลับบ้านพร้อมพ่อบ้านกับตี้อู่เย่ว์
มีคนมารวมตัวในห้องโถงใหญ่อยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องที่อยู่ๆ สำนักผู้วิเศษก็ออกคำสั่งแล้ว
เซ่าอิ่งเดินเข้ามาพยักหน้าเล็กน้อย “พี่ใหญ่”
อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ไม่ไปห้องทดลองเหรอ”
“เดิมทีจะไป แต่วันนี้เรื่องใหญ่มาก เสียเวลาสักวันไม่เป็นไร” เซ่าอิ่งขมวดคิ้ว “คุณลุงไม่อยู่แล้วจริงเหรอครับ”
สีหน้าของอิ๋งจื่อจินจริงจังแบบที่เห็นได้ยาก “ฉันต้องหาคุณพ่อเจอแน่”
พอได้ยินแบบนี้บิลก็หันมายิ้ม “ดูท่าฉันจะเดาแม่นจริงๆ ตำแหน่งหัวหน้าตระกูลกำลังจะเริ่มการแย่งชิงแล้ว พี่ใหญ่ เตรียมตัวพร้อมหรือยังคะ”
เงื่อนไขในการชิงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลมีเยอะมาก ไม่เพียงแต่จะดูที่ความสามารถติดตัว ยังดูอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังด้วย
อิ๋งจื่อจินเพิ่งมาเมืองแห่งโลกได้นานเท่าไร อิทธิพลสู้เธอได้เหรอ
แค่นายน้อยสมาพันธ์แฮกเกอร์คนเดียวไม่มีทางพอหรอก
“เอ๊ะ อาจารย์ นังตอแหลก็อยู่ด้วย” ตี้อู่เย่ว์อ้อน “อาจารย์ ฉันไม่อยากเห็นหน้ายัยนี่เลย”
อิ๋งจื่อจินนวดศีรษะ
ในบรรดาลูกศิษย์กับน้องชายเธอ มีแค่ตี้อู่เย่ว์กับซีนายที่ชอบอ้อนเธอ
“อืม” มือข้างหนึ่งของอิ๋งจื่อจินล้วงกระเป๋า “ขึ้นไปเถอะ เตรียมห้องไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว”
ตี้อู่เย่ว์ดีใจ “ได้เลย”
บิลโกรธหน้าเขียว
เธอได้แต่มองตี้อู่เย่ว์ยึดครองห้องที่ดีอันดับสอง เล็บจิกเข้าฝ่ามือ
ที่ชั้นบน
“ว้าว!” ตี้อู่ย่ว์เปิดประตูเข้าห้อง พอเห็นโต๊ะเขียนหนังสือสีทองอร่ามก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “นี่ทองแท้ใช่ไหม ต้องใช่แน่ๆ”
อิ๋งจื่อจินได้ฟังก็เหล่มอง “ไม่ใช่ เป็นแร่ที่คล้ายทองคำ ราคายังไม่ได้หนึ่งในสิบของทองคำเลย”
ตี้อู่เย่ว์ “…”
เศร้าจัง
“วันนี้เกิดเรื่องกะทันหัน พรุ่งนี้ค่อยพาเธอไปพบเขาแล้วกัน” อิ๋งจื่อจินรินน้ำ “พักผ่อนนะ ตอนเย็นยังต้องให้เธอช่วยทำนายอีก”
พอพูดถึงเรื่องนี้อยู่ๆ ตี้อู่เย่ว์ก็เด้งขึ้นมา สะพายกระเป๋าใบน้อย “อาจารย์ ฉันขอออกไปข้างนอกหน่อย บ่ายๆ กลับ”
อิ๋งจื่อจินเงยหน้า “ทำไมเหรอ”
“ไปเปิดแผงดูดวง” ตี้อู่เย่ว์อารมณ์ดี “ไปหลอกคนหาเงินค่าขนมหน่อย”
“…”
เวลาบ่ายสี่โมง
ภายในห้องโถงใหญ่ ญาติแต่ละสายมารวมตัวกัน
บิลมองอิ๋งจื่อจินที่นั่งข้างซู่เวิ่น เม้มริมฝีปาก ไม่ว่าอย่างไรก็ทำใจให้สงบไม่ได้
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก กำมือแน่น
ยังดีที่ใกล้เลือกหัวหน้าตระกูลแล้ว
สิบนาทีต่อมา
คนดูแลก็มาถึง
“นี่คือคำสั่งที่เหล่าผู้วิเศษได้ลงนามร่วมกัน” คนดูแลยิ้ม “จะเริ่มมีการคัดเลือกหัวหน้าตระกูลอย่างเป็นทางการในเดือนตุลาคม”
“สำหรับเนื้อหาในการคัดเลือกมีอะไรบ้าง เหล่าผู้วิเศษก็ได้เลือกไว้แล้ว เชิญทุกท่านอ่านดูได้ครับ”
ขณะพูดเขาได้กดๆ บนแท็บเล็ต
“ฟึ่บ” หน้าจอสามมิติสีน้ำเงินค่อยๆ ปรากฏในห้องโถงใหญ่
รายการคัดเลือกก็ทยอยเรียงลงมา
เครื่องกล
เล่นแร่แปรธาตุ
วิชาการแพทย์
ศิลปะการต่อสู้
…
บรรทัดสุดท้ายเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า เหล่าผู้วิเศษจะมาชมด้วยตัวเองในการแข่งคัดเลือกตอนสุดท้าย
หากถึงตอนนั้นไม่มีผู้เข้าคัดเลือกผ่านสักคนเดียว สำนักผู้วิเศษก็จะผลักดันตระกูลอื่น
รายการคัดเลือกเหล่านี้ทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงเข้าสู่ห้วงความเงียบ
คุณนายรองสีหน้าเปลี่ยน ลูน่าเงยหน้าด้วยความตะลึง
ซู่เวิ่นสุขุมที่สุด เธอจับมืออิ๋งจื่อจิน “สำนักผู้วิเศษเขียนผิดหรือเปล่า”
ยังไม่พูดเรื่องเล่นแร่แปรธาตุกับวิชาการแพทย์ เอาแค่ศิลปะการต่อสู้ก็ไม่เข้ากับตระกูลเรนเกลแล้ว
“นี่คือคำสั่งของเหล่าผู้วิเศษ ไม่ได้เขียนผิดครับ” คนดูแลพูด “เหล่าผู้วิเศษต้องการให้หัวหน้าตระกูลคนใหม่มีความสามารถเหล่านี้ ถึงจะไม่ซ้ำรอยเมื่อยี่สิบปีก่อนครับ”
เขายิ้มแล้วพูดแฝงความนัย “เหล่าผู้วิเศษไม่อยากให้มีเรื่องแบบนี้อีก ก็เลยต้องการคนที่แข็งแกร่งมาสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลครับ”
สายตาของซู่เวิ่นเย็นชาลงทันที
อิ๋งจื่อจินพลิกมือขึ้นมาจับซู่เวิ่น เงยหน้าขึ้นช้าๆ “ทำเป็นทุกอย่างหมายถึงธรรมดาสามัญ ที่แท้สำนักผู้วิเศษก็ต้องการคนแบบนี้มาเป็นหัวหน้าตระกูล”
ตี้อู่เย่ว์ “…”
อาจารย์เธอด่าคนมักชอบด่าตัวเองด้วย
คราวนี้กลายเป็นคนดูแลที่สีหน้าเปลี่ยน “ระวังคำพูดด้วยครับคุณหนูใหญ่”
อิ๋งจื่อจินพูด “ได้คำสั่งแล้ว เชิญกลับได้ค่ะ”
“ใครอยู่แถวนี้” ซู่เวิ่นได้สติกลับมา “ส่งแขกที”
“ไม่ต้องลำบากคุณนายใหญ่กับคุณหนูใหญ่เป็นห่วง” คนดูแลสีหน้าเย็นชา “ผมกลับเอง…”
เขายังไม่ทันพูดจบทันใดนั้นก็ร้องด้วยความเจ็บปวด สะดุดล้มหน้าคว่ำที่บันไดหน้าห้องโถง
พ่อบ้านชักเท้ากลับ ปัดมือ “ไสหัวไป!”
ขัดขาคนเสร็จเขาถึงมองเท้าตัวเองด้วยความสงสัย
ทำไมนับตั้งแต่กินลูกอมที่คุณหนูใหญ่ให้ร่างกายของเขาก็เบาลงเยอะ
เตะคนสนุกเลยทีเดียว
ตี้อู่เย่ว์มองหน้าจอแล้วกระซิบ “อาจารย์มีคนรู้จักในสำนักผู้วิเศษเหรอ”
ทำไมรายการคัดเลือกแต่ละอย่างเหมือนจัดมาให้อาจารย์โดยเฉพาะเลยล่ะ
อิ๋งจื่อจินหรี่ตาลงเล็กน้อย “มี แต่คนของฉันไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้”
ซิวมัวแต่ยุ่งอยู่กับการเปลี่ยนทรงผมกับช่วยชาวเมือง
นอร์ตันก็เลี้ยงเด็ก
อีกทั้งนอร์ตันก็กลับเมืองแห่งโลกช้า บารมีสู้ซาโรห์กับหลุยส์ไม่ได้
อิ๋งจื่อจินก็กำลังคิดอยู่ว่าทำไมครั้งนี้การคัดเลือกหัวหน้าตระกูลของตระกูลเรนเกลถึงได้พิเศษนัก
ไม่ได้ง่ายแบบที่คนดูแลพูดแน่นอน
สีหน้าของบิลก็แย่ลงไปมาก “สำนักผู้วิเศษหมายความว่าไง”
สมาชิกสายตรงของตระกูลเรนเกลในอดีตที่ผ่านมามีหลายคนที่เข้าสำนักวิจัย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์
ใช่ว่าจะไม่มีใครเข้าคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์เลย แต่มีแค่ไม่กี่คน
อย่างไรเสียวิชาเล่นแร่แปรธาตุก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเครื่องกลและการบิน จำเป็นต้องใช้พรสวรรค์พอสมควร
หากไม่มีพรสวรรค์ด้านการเล่นแร่แปรธาตุ เข้าคณะชีววิทยาและพันธุศาสตร์ไปก็ทำได้แค่วิจัยพันธุกรรม ไม่มีทางได้เข้าถึงวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุด
คุณนายรองใจเย็นลง “ยากสำหรับลูก แสดงว่ายากสำหรับอิ๋งจื่อจินยิ่งกว่า กลับเป็นเรื่องดีนะ”
ซู่เวิ่นหันไป “เยาเยา ไม่อย่างนั้น…”
เธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับอำนาจมากนัก เธอก็แค่ไม่อยากให้อิ๋งจื่อจินต้องลำบากอีกแล้ว
“วางใจได้ค่ะแม่ หนูพอเป็นอยู่บ้าง” อิ๋งจื่อจินลุกขึ้น เซ็นชื่อตัวเองที่ด้านล่างของคำสั่ง
พอเห็นแบบนี้บิลก็ไม่อยากน้อยหน้า เข้าไปเซ็นชื่อด้วยเหมือนกัน
หลังจากทั้งสองคนเซ็นชื่อเสร็จก็มีสมาชิกอีกหลายคนมาลงชื่อ
บิลกวาดตามองอย่างไม่ใส่ใจ
นอกจากอิ๋งจื่อจินที่เธอรู้สึกเป็นภัยคุกคามอยู่บ้างแล้ว คนอื่นๆ ก็ไม่มีค่าให้พูดถึง
เธอต้องชนะในการคัดเลือกหัวหน้าตระกูลครั้งนี้แน่
ในขณะที่ซู่เวิ่นกำลังจะปิดหน้าคำสั่งนั้นก็มีเสียงดังมาจากนอกห้องโถงใหญ่
“เรื่องสำคัญอย่างเลือกหัวหน้าตระกูล ฉันก็ลงสมัครได้เหมือนกันใช่ไหม”