ไหปีศาจ – ตอนที่ 297 ไม่ได้เจอกันนาน

บทที่ 297 ไม่ได้เจอกันนาน
บทที่ 297 ไม่ได้เจอกันนาน

ประตูของสำนักเฉียนหลงกำลังเปิดออก

ประตูลึกลับที่ดูเรียบง่ายและหนา มักจะเปิดขึ้นในทุก ๆ หกเดือน แต่ดูเหมือนว่ามันจะถูกเปิดออกมาบ่อยกว่าปกติในปีนี้

เหล่าผู้คนจากสำนักหม่าเฉินนั้นได้มาถึงที่หน้าประตูแล้ว

ไม่ว่าจะเป็น หยู่เสี่ยวฉาง, จินฉัน, เฉียนเหอ, พาสู,ไห่เซอ, ทูหยาน

แต่ละคนต่างก็เป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตา

ใบหน้าของหยู่เสี่ยวฉาง แสดงออกถึงความคาดหวัง เพราะพี่ชายของนางซึ่งไปเก็บตัวฝึกกับเหล่าผู้อาวุโสนั้นกำลังจะมาที่สำนักเฉียนหลงแห่งนี้

ผู้คนส่วนใหญ่จากสำนักเฉียนหลงเองก็มาที่นี่ด้วยเช่นกัน

มีหลายคนที่ให้ความสนใจกับเรื่องนี้

เมื่อลั่วอู๋เดินมาถึงเขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนในทันที

เพราะเขาคือชายที่เอาชนะชนชั้นสูงทั้งหมดของสำนักหม่าเฉิน และการที่เขามาดูการปรากฏตัวของอันดับหนึ่งที่แท้จริงของสำนักหม่าเฉินนั้น เรียกได้ว่ามีจุดประสงค์อันชัดเจนโดยไม่ต้องอธิบาย

ลั่วอู๋อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเมื่อถูกผู้คนจำนวนมากจับตาดู มันทำให้เขาอึดอัดเล็กน้อย

“ลั่วอู๋ เจ้าก็มาที่นี่ด้วยงั้นเหรอ ข้านึกว่าเจ้าจะไม่สนใจ นักเรียนระดับสัตว์ประหลาดที่พวกเขาลือกันซะอีก แล้วว่ายังไงล่ะเจ้าพร้อมที่โค่นเขาลงที่นี่เลยใช่รึเปล่า?” ฉูจงฉวนกระซิบพร้อมกับหัวเราะ

ลั่วอู๋กลอกตา “ไม่ใช่แบบนั้นน่า ข้ามาเพื่อสังเกตการณ์เฉย ๆ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าไม่ได้มาที่นี่ด้วยความคิดว่าจะต้องเอาชนะนักเรียนระดับสัตว์ประหลาดคนนั้นจริง ๆ สินะ?” ฉูจงฉวน กระซิบด้วยรอยยิ้ม

“ไม่แน่นอน”

ลั่วอู๋นั้นมาเพื่อสังเกตว่าคนเถื่อนเหล่านี้กำลังรออัจฉริยะแบบไหนกันอยู่

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำตอบของลั่วอู๋ ฉูจงฉวนก็กล่าวเตือน “แต่ข้าเกรงว่าพวกเขาจะไม่ได้คิดอย่างนั้นนะสิ”

ลั่วอู๋มองไปตามสายตาของฉูจงฉวน

คนส่วนใหญ่จากสำนักหม่าเฉินต่างมองมาที่ลั่วอู๋ด้วยสายตาหวาดระแวง เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของลั่วอู๋นั้นแย่มากในความคิดของผู้คนจากสำนักหม่าเฉิน

ไห่เซอเดินออกมาแล้วมองไปที่ลั่วอู๋อย่างโกรธ ๆ “เจ้าอย่าหยิ่งยโสทะนงตัวให้มากนัก ลั่วอู๋”

เขาไม่พอใจกับใบหน้าอันไร้เดียงสาของลั่วอู๋

ด้วยความรังเกียจในตัวของลั่วอู๋ คนอื่น ๆ จากสำนักหม่าเฉินก็เริ่มพูดออกมาเช่นกัน

“อย่าได้นิ่งนอนใจไป อันดับหนึ่งที่แท้จริงในสำนักหม่าเฉินของพวกเรา เขากำลังจะมาถึงแล้ว”

“ตำแหน่งสูงสุดในรายชื่อเฉียนหลงจะต้องตกเป็นของสำนักหม่าเฉินของพวกเราแน่”

“ผู้สืบเชื้อสายของหัวหน้าเผ่าสูงสุดกำลังมา และเขาจะเอาชนะผู้คนในสำนักเฉียนหลงทั้งหมดอย่างแน่นอน พวกเจ้าจะต้องเป็นฝ่ายที่อับอายอีกครั้งแน่”

“รอดูเถอะ ลั่วอู๋! เจ้าจะไม่ได้ทำตัวหยิ่งผยองไปอีกนาน”

ผู้คนในสำนักหม่าเฉินเต็มไปด้วยความแค้นต่อลั่วอู๋

ขณะเดียวกันหลายคนในสำนักเฉียนหลงเองก็ส่งเสียงเพื่อสนับสนุนลั่วอู๋

อย่างไรก็ตามไม่ว่าพวกเขาจะทะเลาะกันเพียงใด ก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนความมั่นใจในตนเองที่อธิบายไม่ได้ของเหล่าผู้คนจากสำนักหม่าเฉิน

ใบหน้าของพวกเขาหลายคนกลายเป็นเคร่งขรึม

คนที่ถูกเรียกว่าผู้สืบทอดของหัวหน้าเผ่าคนนั้นทรงพลังมากขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?

ทำไมคนเถื่อนเหล่านั้นถึงได้มั่นใจกันนัก

แม้แต่จินฉันเองก็ยังแสดงท่าทางให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในผู้สืบทอด

“ ฮึบ!”

เสียงขวานสับลงพื้น ดังขึ้นมาอีกครั้ง

มันเป็นเสียงประจำตัวของเผ่าเทียนหวู่

เผ่าเทียนหวู่นั้นเป็นเผ่าที่มีอำนาจมากที่สุดในภูเขาแห้งแล้ง และยังเป็นเผ่าปกครองที่มีอำนาจเหนือเผ่าอื่น ๆ หลายพันเผ่า หากเปรียบเทียบก็คงเป็นเหมือนกับราชวงศ์มังกรเร้นกายของจักรวรรดิ

รอยสักอักขระของพวกเขาคือขวานนภา ซึ่งเป็นอาวุธของเทพเจ้าในตำนานผู้สร้างโลก

ประตูของสำนักเฉียนหลงสั่นเล็กน้อยจากนั้นก็เปิดออก

หมอกกระจายไปทั่ว พร้อมกับรูปร่างของคนจากเผ่าเทียนหวู่ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ด้านนอกประตูนั้นมีร่างที่ดูสูงใหญ่เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ

“เขามาแล้ว!”

ผู้คนจากสำนักหม่าเฉิน ต่างตื่นเต้นและประหม่า

ชายคนนี้ไม่เพียงแต่เป็นผู้สืบทอดของหัวหน้าเผ่าเทียนหวู่ แต่ยังเป็นอันดับหนึ่งของสำนักหม่าเฉินด้วย สถานะของเขานั้นทั้งน่ากลัวและแข็งแกร่ง

แต่บางทีเพียงแค่สถานะก็ไม่ได้บ่งบอกถึงทุกสิ่ง

อย่างไรก็ตามอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาดคนนี้นั้น มีสถิติไร้พ่ายอยู่ยงคงกระพันในสำนักหม่าเฉิน และได้รับการสนับสนุนจากประธานของสำนักหม่าเฉินจากเพราะความแข็งแกร่งของเขา

ลั่วอู๋หายใจเข้าลึก ๆ และดวงตาของเขาก็ดูหนักอึ้ง

เขารู้สึกได้ถึงลมปราณอันแข็งแกร่งของชายที่กำลังจะมาถึง เขาเหมือนกับภูเขาขนาดยักษ์ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าชายคนนี้นั้นไม่ธรรมดา

จังหวะนั้นเองก็ดูเหมือนว่าจะมีการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดเกิดขึ้นอีกครั้ง

มันเป็นเรื่องเดิม ๆ เกี่ยวกับอันดับหนึ่งของสำนักหม่าเฉินที่ทุกคนต่างหวั่นเกรงและถกเถียงกันว่าเขาคนนี้จะต้องได้รับตำแหน่งสูงสุดของรายชื่ออันดับเฉียนหลงรึเปล่า

“ตูม มม”

ร่างที่เห็นได้เลือนรางนั้นถือขวานขนาดใหญ่เอาไว้ในมือ ซึ่งไม่สอดคล้องกับรูปร่างของเขา ขวานนั้นลากไปตามพื้น พร้อมกับเสียงกู่ร้องของคนเถื่อน

นี่มันไม่ดีมาก ๆ

ความคิดดังกล่าวแว่บเข้ามาในความคิดของผู้คนในสำนักเฉียนหลง

หัวใจของลั่วอู๋ถูกบีบแน่น “ชายคนนี้ไม่มีความคิดกลัวผู้คนของสำนักเฉียนหลงในหัวเลยด้วยซ้ำ หยิ่งยโสน่าดูเลยแฮะ”

อย่างไรก็ตามรูปร่างของขวานที่เขาถืออยู่นั้นดูคุ้นเคยมาก เหมือนกับว่าเขาเคยเห็นมันมาจากที่ไหนสักแห่ง

ในที่สุดร่างนั้นโผล่ออกมาให้เห็นถึงลักษณะรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเขา เขาเป็นชายหนุ่มธรรมดาที่ดูเรียบง่ายและซื่อสัตย์ เขามีเพียงแค่ขวานที่ดูใหญ่เกินจริง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขา

“ท่านพี่” หยู่เสี่ยวฉางก้าวออกมาเพื่อต้อนรับเขา

ผู้คนในสำนักหม่าเฉิน ดูเคร่งขรึมขึ้นมามาก พวกเขาต่างโค้งคำนับหนึ่งครั้งพร้อมกับแสดงความเคารพ “ยินดีต้อนรับ ท่านหยู่เฮา”

ลั่วอู๋ตัวแข็งไปชั่วระยะหนึ่ง

คอของเขาบิดไปด้านข้างอย่างแข็งกร้าวพลางมองไปที่ฉูจงฉวน “ฉูจงฉวน เจ้าช่วยข้ามองหน่อยสิ ข้ารู้สึกว่าชายคนนี้ดูคุ้นเคยแปลก ๆ”

ฉูจงฉวนมีสีหน้าเจ็บปวดในทันทีที่หันไป

“แน่นอน ข้าคุ้นเคยกับเขาดี ถ้าจำไม่ผิดเขาคือเจ้าคนป่าเถื่อนหยาบคายที่เคยร่วมเดินทางตามหาภูตทะเลทรายกับพวกเราในส่วนลึกของป่าหวงชาใช่ไหม?” ฉูจงฉวนขบฟันของเขา

เมื่อนึกถึงข้อโต้แย้งเกี่ยวกับความงามระหว่างตัวเขาและอีกฝ่ายในอดีต ฉูจงฉวนก็รู้สึกพังทลายลงเล็กน้อย

พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลย

ว่าหยู่เฮาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในสำนักหม่าเฉิน

หยู่เฮาโบกมือ “อย่าทำแบบนี้เลย พวกเราเป็นพี่น้องกันน่า”

ฝูงชนต่างลุกยืนขึ้นอย่างช้า ๆ

ไห่เซอพูดด้วยรอยยิ้ม “ต้องขออภัยด้วย แต่พวกเราไม่สามารถละทิ้งกฎได้ ท่านเป็นผู้สืบทอดของหัวหน้าเผ่าเทียนหวู่ และอันดับหนึ่งของสำนักหม่าเฉิน ดังนั้นท่านสมควรจะได้รับการเคารพ”

หยู่เฮาพยักหน้าจากนั้นเขาก็หันไปมองที่ลั่วอู๋แล้วฉีกยิ้มกว้าง “ไม่ได้เจอกันเลยนะ! ลั่วอู๋”

“ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้” ลั่วอู๋ไม่สามารถหัวเราะหรือร้องไห้ได้

นี่เป็นเรื่องที่ยากเกินจะคาดเดาได้จริงๆ

ไม่แปลกใจเลยที่ในการทดสอบการต่อสู้จริงหยู่เสี่ยวฉางไม่ได้คิดจะต่อสู้ แต่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่าย ๆ และให้คะแนน 100 คะแนนกับเขา ที่แท้พี่ชายของนางก็คือหยู่เฮานี่เอง!

หยู่เฮามองไปที่ฉูจงฉวนอีกครั้งและเม้มริมฝีปากของเขา “ช่างเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ที่ได้มาเจอกับเจ้าอีก เจ้าเด็กโรคจิต”

“เจ้า เจ้า เจ้า ไอ้เดรัจฉานหยาบคาย” ฉูจงฉวนโกรธ ” มันคือความโรแมนติกต่างหาก โรแมนติก! เจ้ามันหยาบช้า ”

คนสองคนดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อขัดแย้ง และพร้อมจะเกิดการต่อสู้ได้ทุกเมื่อ

“สู้กันตรงนี้เลยก็ไม่เลวนะ” หยู่เฮาพูดพร้อมยักไหล่

ฝั่งฉูจงฉวนเองก็โกรธมาก “เจ้าคนเถื่อนตัวเหม็น ข้าเองก็อยากสู้กับเจ้าเช่นกัน ลั่วอู๋ อย่าคิดจะหยุดข้าเชียว”

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” หยู่เฮาหัวเราะพร้อมกับรอยยิ้ม ในมือของเขาถือขวานขนาดใหญ่ราวกับว่ามันเบาหวิว เหมือนขวานนั้นทำมาจากดอกไม้

ลั่วอู๋ต้องออกมาห้ามศึกอย่างไม่เต็มใจ ในฐานะเพื่อนของทั้งสอง นี่เป็นงานหนักที่เขาต้องทำโดยธรรมชาติเวลาสองคนนี้มาเจอกัน

“พอเถอะน่าพวกเจ้า อย่างน้อยก็เห็นแก่ข้าเถอะ” ลั่วอู๋หยุดทั้งคู่ไว้

เมื่อเห็นฉากนี้ทั้งผู้คนในสำนักเฉียนหลงและผู้คนจากสำนักหม่าเฉิน ต่างก็สับสน

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

พวกเขารู้จักกันอย่างงั้นเหรอ?

นอกจากนี้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย

“หยู่เฮา ท่านรู้จักพวกเขาเหรอ ?” คนจากสำนักหม่าเฉินถาม

หยู่เฮาพยักหน้า “ ครั้งหนึ่งข้าเคยเดินทางลึกเข้าไปในป่าหวงชา เพื่อตามหาสัตว์วิญญาณ แล้วข้าก็บังเอิญเจอกับพวกเขา ครั้งหนึ่งพวกเราเคยผจญภัยไปด้วยกัน”

หยู่เฮานั้นเคยเดินทางลึกเข้าไปในป่าหวงชา และในที่สุดก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย

หลายคนที่ทราบเหตุการณ์นี้ ต่างก็ยกย่องเขาให้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ เผยแพร่ออกไปในวงกว้าง

ฝูงชนต่างมองหน้ากัน

อันดับหนึ่งของสำนักหม่าเฉินที่น่าจะมาช่วยระงับความหยิ่งผยองของผู้คนในสำนักเฉียนหลง และสอนบทเรียนให้กับลั่วอู๋

กลับกลายเป็นว่า ตอนนี้พวกเขาคงไม่มีทางได้ต่อสู้กันแน่ ๆ

ไหปีศาจ

ไหปีศาจ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ไหปีศาจลั่วอู๋ โดนไหหล่นใส่หัวจนข้ามมิติไปอยู่ในร่างของ นายน้อยลั่ว ผู้ถูกเนรเทศ เพราะไม่สามารถทำพันธสัญญากับสัตว์อสูรได้ แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าไหที่เป็นปัญหาได้เชื่อมต่อกับเขา ความสามารถของเจ้าไหปีศาจนี้ท้าทายสวรรค์ยิ่งนัก เพียงแค่ ลั่วอู๋ใส่ ดอกหญ้าลงไปมั่วๆ มันสังเคราะห์สัตว์วิญญาณระดับเงินให้กับเขา ยิ่งเขาลองใส่ของลงไปมั่วซั่วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสังเคราะห์ สิ่งต่างๆออกมา ทั้ง ยาวิญญาณ อาวุธวิญญาณ สัตว์อสูร ภูต

Comment

Options

not work with dark mode
Reset