ตอนที่ 1941 : อุกกาบาตมิติ
“หืม ? นี่อะไร ? ” ทันใดนั้นสีหน้าของซิงเอ๋อก็นิ่งไปและมองไปที่ร้านข้างทาง
ร้านนี้เด่นเรื่องการขายวัตถุเซียนรวมถึงของประหลาดต่าง ๆ แต่แสงสีฟ้าในร้านนั้นส่องประกายออกมาจนถึงกับแผ่มาถึงถนนด้านนอก
แสงสีหน้านี้ไม่ได้เข้มข้นนัก มันไม่ได้มีพลังงานใด ๆ แต่มันระยิบระยับราวกับดวงดาวในท้องฟ้า
มันเหมือนกับว่าท้องฟ้าได้เต็มไปด้วยหมู่ดาวซึ่งดูไปแล้วเพลิดเพลินตา
“ไปดูที่นั่นกัน” การปรากฏขึ้นมาของแสงสีฟ้านี้ทำให้ซิงเอ๋อและหลานเอ๋อสนใจขึ้นมา ทั้งสองเหมือนจะลืมเรื่องเจี้ยนเฉินไปและรีบวิ่งไปที่ร้านนั้นทันที
ในร้านนั้นเจ้าของหล้าได้ถือกล่องไม้มาไว้ไว้ที่โต๊ะยาว หินขนาดเท่ากับกำปั้นนั้นวางอยู่ในกล่องไม้ใบนั้น แสงสีฟ้าที่เหมือนกับแสงของดวงดาวนั้นเกิดขึ้นจากหินก้อนนี้
ไม่ใช่แค่แสงสีฟ้าสว่างจ้าไปทั่วทั้งร้าน แม้แต่ใบหน้าของเจ้าของร้านก็ยังถูกอาบด้วยแสงสีฟ้าด้วย
“ข้าอยากได้อุกกาบาตมิตินี่ เจ้าของร้าน เจ้าช่วยลดให้หน่อยได้รึไม่ ? ” ชายแก่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าเจ้าของร้าน ตอนนี้เขากำลังต่อราคาอยู่
“5 แสนเหรียญผลึกขั้นสูงถือว่าลดให้สุด ๆ แล้ว ! ข้าลดให้มากกว่านี้ไม่ได้แล้ว” เจ้าของร้านยิ้มออกมาอย่างพอใจ
ซิงเอ๋อและหลานเอ๋อหลงเสน่ห์แสงสีฟ้าจากหินก้อนนั้น พวกนางอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา “ช่างเป็นหินที่งดงามจริงๆ ถ้าเราได้มันกลับไปและนำไปทำเป็นเครื่องประดับ ข้าว่ามันต้องสวยอย่างมากแน่ ๆ เจ้าของร้าน เราอยากได้หินนี่ เราจะให้เจ้าล้านเหรียญผลึกระดับสูง”
“นั่นองค์หญิงทั้งสอง ข้าไม่คิดว่าอุกกาบาตมิติจะต้องตาองค์หญิงทั้งสองด้วย” เจ้าของร้านจำทั้งสองได้ทันที เขารีบโค้งให้พร้อมกับยิ้มออกมาและพูดขึ้นด้วยความสุภาพ
หลังจากที่รู้ถึงฐานะของทั้งสองคน ชายแก่ที่คิดจะซื้อหินนี่ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมา เขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะซื้อมันมาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แต่เดินออกจากร้านไป
“เจ้าของร้าน นี่ล้านเหรียญผลึกระดับสูง” ซิงเอ๋อเอาแหวนมิติออกมาเพื่อจะจ่ายเงิน
“ ช้าก่อน ! ”
แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงดังขัดขึ้นมา ในพริบตาก็มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าองค์หญิงทั้งสอง
ตอนที่ซิงเอ๋อและหลานเอ๋อเห็นชายคนนั้น ใบหน้าของพวกนางก็เปลี่ยนไป พวกนางมองไปที่เขาด้วยความหงุดหงิดและพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ“เป็นเจ้านี่เอง เจ้ากล้าดีจริง ๆ ที่กล้าปรากฎกายต่อหน้าเราอีกครั้ง”
ชายที่ปรากฏตัวขึ้นมานั้นคือเจี้ยนเฉิน
ชัดเจนแล้วว่าเจี้ยนเฉินเองก็แปลกใจ ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่สนใจหินนี่ เมื่อเห็นว่ามีคนต้องการจะซื้อมัน เขาก็รีบเข้ามาที่นี่ เขาไม่ทันได้เห็นว่ามันเป็นองค์หญิงทั้งสอง
เจี้ยนเฉินปวดหัวขึ้นมาตอนที่เห็นว่าทั้งสองคนหงุดหงิดกันแค่ไหน เขาลังเลขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะป้องมือให้ “องค์หญิง สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด ข้าเองก็เป็นเหยื่อ….”
“หุบปาก อย่าพูดเรื่องนั้นอีกเป็นอันขาด ! “
แต่ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะพูดจบ องค์หญิงทั้งสองก็ได้ส่งข้อความหาเจี้ยนเฉินพร้อมทั้งรู้สึกอายขึ้นมา พวกนางมองไปที่เขาด้วยสายตาอาฆาต
พวกนางไม่กล้าที่จะพูดเรื่องแบบนี้ออกมาเพราะกลัวว่ามันจะมีแต่จะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้น
เจี้ยนเฉินมองไปที่ทั้งสอคนก่อนจะถอนหายใจแล้วไม่สนใจทั้งสอง เขาหันกลับและบอกกับเจ้าของร้าน “เจ้าของร้าน ข้าเองก็ต้องการหินนี่ ข้าจะจ่ายให้ 2 ล้านเหรียญผลึกระดับสูง “
“ นี่…” เจ้าของร้านลังเลและมองไปที่องค์หญิงทั้งสองคน
ซิงเอ๋อและหลานเอ๋อกัดฟันแน่น พวกนางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความแค้นเคืองมากกว่าเดิมและทำการเพิ่มราคาเพิ่มด้วย “เราจะจ่ายให้ 8 ล้านเหรียญผลึกระดับสูง ไม่มีใครเอาของที่เราต้องตาไปได้”
เจี้ยนเฉินปวดหัวขึ้นมา เขารู้ว่าสองคนนี้ต้องการสร้างปัญหาให้กับเขา เขาได้แต่ยอมแพ้และไม่คิดจะต่อรองด้วยแต่อุกกาบาตมิตินี้เป็นวัตถุดิบที่เขาต้องการในการสร้างกระบี่ของเขา
“มันสำคัญต่อข้าอย่างมาก ข้าต้องเอามันมาให้ได้ ข้าจะจ่ายเหรียญผลึกระดับสูงสุดให้ 1 ก้อน” เจี้ยนเฉินรู้ว่าถึงพูดไปก็ไม่ได้ผลแต่เขาก็ยังคงเพิ่มราคาขึ้นอยู่ดี
อุกกาบาตมิตินั้นไม่ได้เป็นของที่มีชิ้นเดียวแต่หากเขาพลาดมันไป เขาก็ไม่รู้ว่าจะหามันได้อีกตอนไหน ผลก็คือเขาต้องซื้อวัสดุทุกอย่างสำหรับการสร้างกระบี่คู่ของเขาโดยไม่สนใจว่ามันจะราคาเท่าไหร่
“2 ก้อน ! ” องค์หญิงเพิ่มราคาขึ้นเช่นกัน พวกนางเกลียดเจี้ยนเฉินและเชื่อว่าเจี้ยนเฉินจงใจเพิ่มราคาแบบนี้ ยิ่งกว่านั้นตอนที่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต พวกนางก็ได้แต่คิดว่านี่คือการเอาคืนของเจี้ยนเฉิน
ผลก็คือแม้ว่าพวกนางจะรู้ว่าราคามันเกินค่าของหินนี่ไปแล้ว แต่พวกนางก็ไม่ยอมถอย
“หืม ? ไม่ใช่ว่านั่นคือองค์หญิงซิงเอ๋อและองค์หญิงหลานเอ๋อรึไง ? ฮ่าฮ่า บังเอิญจริง ๆ ข้าไม่คิดว่าจะได้พบกับองค์หญิงทั้งสองคนที่นี่ ดูเหมือนว่าเราจะมีชะตาต้องกัน” ชายหนุ่มในชุดสีทองดูหยิ่งทะนงได้เดินเข้ามา เขามองไปที่องค์หญิงทั้งสองคนด้วยความตื่นเต้น
ด้านหลังชายหนุ่มคนนี้มีชายหนุ่มที่แต่งตัวคล้าย ๆ กันอยู่หลายคน พวกนั้นต่างก็ตามมาด้านหลังและวางตัวอย่างสุภาพ
องค์หญิงทั้งสองเริ่มหงุดหงิดเมื่อเห็นชายหนุ่มคนนั้น แต่ซิงเอ๋อเหมืนอจะคิดบางอย่างขึ้นมาได้ นางยิ้มให้กับอีกฝ่ายและกอดอก “น่าเบื่อจริง ๆ ข้าออกมากับหลานเอ๋อ หลังจากที่เจอเรื่องน่าเบื่อแล้วมาเจอสิ่งที่ข้าชอบเข้าจนได้ แต่ใครจะไปรู้ว่าชายหยิ่งทะนงคนนี้มาจากไหนกัน เขากลับคิดจะแย่งของที่ต้องตาของเราไป”
“โอ้ ? มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นรึ ? ใครกันที่กล้าดีแย่งของที่องค์หญิงต้องการ ? ” สายตาชายหนุ่มดูเย็นชาขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนั้น
ซิงเอ๋อกอดอกและมองไปที่เพดานและพูดขึ้น “จะเป็นใครได้อีก มีคนอยู่ที่นี่เยอะรึไง ? ”
“องค์หญิงไม่มีทางทำตัวเฉกเช่นคนอื่นได้ แต่เป็นคนอื่นที่ทำตัวไม่เหมาะแทน ถ้าองค์หญิงทั้งสองจัดการกับคนแบบนี้ด้วยตัวเอง มันคงทำให้มือขององค์หญิงสกปรก ปล่อยให้ข้าจัดการเอง ข้ารับรองได้ว่าผลลัพธ์นั้นจะทำให้องค์หญิงทั้งสองพอพระทัย” ชายหนุ่มชุดทองยิ้มให้กับซิงเอ๋อและหลานเอ๋อ ตอนที่เขามองไปที่เจี้ยนเฉิน สายตาเขาก็หม่นลง เขาสะบัดมือและพูดขึ้น “ไป ไปหักแขนกับขาชายคนนี้และทำลายการบ่มเพาะของเขาซะ จากนั้นค่อยโยนเขาทิ้ง”