บทที่ 313 ต้องจ่ายคืนเสมอเมื่อออกมาใช้ชีวิตข้างนอก คุณชายสามเย่ (5)
อย่าปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นทำให้ภรรยาของเขาเรียนรู้อะไรที่ผิดๆ!
เวินลั่วฉิงมองไปที่เขาและไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม จากนั้นผู้หญิงสองคนนั้นยังคงกระซิบต่อไปและยังคงเพิกเฉยต่อคุณชายสามเย่
ในที่สุดเครื่องบินก็ลงจอด คุณชายสามเย่รู้สึกว่าในที่สุดก็ผ่านไปได้สักที
แต่ทว่าเวินลั่วฉิงและ หลิวหยิงยังคงไม่ยอมจากลากัน “ที่รัก คุณมาทำงานนอกสถานที่คุณคงยุ่งกับงาน ฉันขอไปเที่ยวกับหลิวหยิงสักสองวัน และเมื่องานคุณเรียบร้อยแล้ว ฉันค่อยไปหาคุณ”
“ไม่ได้” คุณชายสามเย่มองไปที่เธอ เขาอดทนจนกระทั่งเครื่องลง นั้นเป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เขาพาเธอมาทำงานนอกสถานที่กับเขา ก็เพื่อให้เธออยู่กับข้างกายเขาตลอดเวลา
สุดท้ายเวินลั่วฉิงก็โน้มน้าวคุณชายสามเย่ไม่สำเร็จ จนต้องตามเขาออกจากสนามบิน
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เขามักจะมีวิธีต่างๆ ให้เธอไม่ตอบรับ
หลังจากออกจากสนามบิน เลขาหลี่ที่มารับเครื่องบินก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาเห็นเวินลั่วฉิง ครั้งเมื่อประธานมาที่นี่เพื่อทำงานนอกสถานที่ ปกติเขาจะไม่พาเลขาหลิวมาด้วยซ้ำ ทุกครั้งมักจะมาคนเดียว แต่ครั้งนี้เขากลับพาผู้หญิงมาด้วย?
ผู้หญิงคนนี้สถานะคืออะไร?
ถึงได้ตามมากับประธานได้? หรือถูกประธานพามาทำงานด้วย? เลขาหลี่คาดเดาว่าตัวตนของผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เพราะเขาอยากรู้อยากเห็นมากเกินไป เขาจึงอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เวินลั่วฉิงมากขึ้น
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเวินลั่วฉิง เป็นผู้ช่วยของประธานเย่” เวินลั่วฉิงรู้ได้เลยว่าเลขาหลี่มองมาที่เธอ ไม่ต้องรอให้เย่ซือเฉินเปิดปาก เธอก็แนะนำตัวเอง
ในตอนนี้เวินลั่วฉิงอารมณ์ไม่ค่อยดี ก่อนหน้านี้เย่ซือเฉินบังคับให้เธอมาทำงานนอกสถานที่กับเขา ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถไปหาลูกน้อยทั้งสองได้
หลังจากนั้น เย่ซือเฉินก็ปฏิเสธที่จะให้เธอไปรำลึกความหลังกับเพื่อนสนิทของเธอ และแยกเธอกับหลิวหยิงออกทันที
เธอเป็นคนที่เจ้าคิดเจ้าแค้นมาโดยตลอด ดังนั้นแค้นนี้ก็สามารถจัดการได้ทันที สายตาของเวินลั่วฉิงซ่อนรอยยิ้มแปลก ๆ เอาไว้
คุณชายสามเย่ได้ยินการแนะนำตัวของเธอ ดวงตาก็ดูหนักอึ้งขึ้นทันที แต่ก็คิดได้ว่าเธอไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับการแต่งงานของพวกเขา เพียงแค่คิดว่าการแนะนำตัวเองครั้งแรกของเธอเป็นเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดเผยเรื่องแต่งงาน
คุณชายสามเย่แม้จะไม่ยินดี แต่ก็ไม่คิดมาก แน่นอนว่าเขาไม่เห็นสายตาของเวินลั่วฉิงและรอยยิ้มแปลกๆ ของเธอ
เลขาหลี่ได้ยินการแนะนำตัวเองของเวินลั่วฉิง สายตาเป็นประกาย ในใจกลับรู้สึกกลุ้มใจท่านประธานเดินทางมาทำงานนอกสถานที่เคยพาผู้ช่วยมาด้วยเหรอ?
“ที่แท้ก็เป็นผู้ช่วยเวิน สวัสดี สวัสดีครับ” แม้ว่าเลขาหลี่จะอึดอัดใจ แต่เขาก็ยังทักทายกลับด้วยความยินดี พร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือกับเวินลั่วฉิง
เวินลั่วฉิงเพียงจะเอื้อมมือออกไป คุณชายสามเย่กลับโยนเสื้อโค้ตของเขาให้เธอ ขวางไม่ให้เธอจับมือกับเลขาหลี่
ตาของเวินลั่วฉิงกะพริบเบาๆ เสื้อตัวเดียวเขาถือด้วยตัวเองไม่ได้หรือ? แต่กลับโยนให้เธอ?
ผู้ชายคนนี้ยิ่งไร้เหตุผลมากขึ้นทุกวัน
เลขาหลี่ตกตะลึง เขารู้สึกว่าเมื่อสักครู่ท่านประธานกำลังขัดขวางไม่ให้จับมือกับผู้ช่วยเวิน?
ไม่ เป็นไม่ได้ เขาต้องคิดผิดแน่ๆ
“ท่านประธาน ผมจะส่งคุณไปที่คฤหาสน์ก่อน?” หลังจากขึ้นรถ เลขาหลี่ก็ถามอย่างไม่แน่ใจ ท่านประธานมีคฤหาสน์ของตัวเองที่นี่ ทุกครั้งที่มาท่านประธานมักจะอาศัยอยู่ที่นั่นเสมอ
คุณชายสามเย่ไม่ตอบ
เลขาหลี่เข้าใจว่าเขากำลังจะไปที่คฤหาสน์
“แล้วผู้ช่วยเวินล่ะครับ?” เลขาหลี่นึกถึงตัวตนของเวินลั่วฉิงและอดไม่ได้ที่จะถามอะไรเพิ่มเติม
“ฉันจะอยู่โรงแรม” เวินลั่วฉิงยิ้มให้เลขาหลี่และตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ
เลขาหลี่รู้สึกเป็นเรื่องธรรมดามาก อย่างไรเสียเวินลั่วฉิงก็เป็นผู้หญิงและเป็นเพียงผู้ช่วยของท่านประธานเท่านั้น มันไม่สะดวกที่จะอาศัยอยู่ในบ้านของท่านประธานและประธานก็คงไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน
“คฤหาสน์อยู่ไกลเกินไปพักที่โรงแรมเถอะ” ดวงตาของคุณชายสามเย่กะพริบไปมา ทันใดนั้นก็เข้าใจเลยว่าทำไมเวินลั่วฉิงถึงรีบที่จะแนะนำตัวกับเลขาหลี่
เธอก็ช่างสรรหาวิธีที่จะแยกจากเขาจริงๆ
เพียงแต่ว่า เขาจะไม่ให้เป็นไปตามที่เธอคิด
“ครับ” เลขาหลี่รู้สึกสับสนเล็กน้อย แต่เขาก็ตอบตกลงอย่างรวดเร็ว
เขารู้สึกว่าทำไมวันนี้ท่านประธานแปลกๆ หรือเปล่า?
ในเมื่อท่านประธานไม่ชอบที่บ้านตัวเองอยู่ไกล เลขาหลี่จึงเลือกโรงแรมที่อยู่ค่อนข้างใกล้ พอมาถึงโรงแรมเลขาหลี่ก็เข้าไปจัดการเรื่องเข้าพัก
เมื่อเลขาหลี่กลับมา คุณชายสามเย่ก็ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ พอดี
“ผู้ช่วยเวินนี่คือการ์ดห้องของคุณ” เลขาหลี่ส่งการ์ดห้องให้กับเวินลั่วฉิง และในมือของเลขาหลี่ก็มีการ์ดห้องอยู่อีกใบซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นของคุณชายสามเย่
ดวงตาของเวินลั่วฉิงยิ้มขึ้นเล็กน้อย การกระทำของเลขาหลี่เป็นไปอย่างที่เธอคาดหวัง และยังสอดคล้องกับสิ่งที่ใจคิด
“เลขาหลี่ เมื่อสักครู่ท่านประธานบอกว่าวันนี้เย็นมากแล้ว ให้คุณกลับไปก่อนได้ คุณเอาการ์ดห้องของท่านประธานมาให้ฉัน ไว้ฉันจะมอบให้กับท่านประธานเอง” คุณชายสามเย่กำลังคุยโทรศัพท์และยืนอยู่ไกลออกไปในขณะนี้ เวินลั่วฉิงหยิบบัตรห้องจากเลขาหลี่
“อืม ครับ ขอบคุณผู้ช่วยเวิน” เลขาหลี่รู้ว่าวันนี้ดึกมากแล้ว และประธานาธิบดีก็ต้องพักผ่อนเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเขารู้สึกว่าอารมณ์ของท่านประธานในวันนี้ไม่แน่นอนและแปรปรวน ทำให้คนรู้สึกสั่นกลัว ในเมื่อท่านประธานบอกให้เขากลับ เขาก็กลับตามคำสั่งที่ได้รับ
นอกจากนี้ท่านประธานาธิบดียังมีผู้ช่วยอยู่ข้างๆ เรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็นว่าต้องเรียกใช้เขา
คุณชายสามเย่เพิ่งจะโทรศัพท์เสร็จและเดินเข้ามา
“ที่รัก พวกเราไปที่ห้องกันเถอะ” เวินลั่วฉิงหยิบบัตรห้องและมองเขาด้วยรอยยิ้มแห่งความอ่อนโยนและอ่อนหวาน
คุณชายสามเย่คิ้วขมวดขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกแปลกๆ มีบางอย่างที่แปลกไป แต่ในเวลานี้ก็บอกไม่ถูกว่าตรงไหนแปลก
แต่เวินลั่วฉิงกลับลากกระเป๋าเดินทางออกไปยังลิฟต์
คุณชายสามเย่มองไปที่ด้านหลังของเธอ สายตาที่ปกติเย็นชาในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความงุนงง กะพริบไปกะพริบมา ผู้หญิงคนนี้อ่อนโยน อ่อนหวาน เพียบพร้อมได้ถึงขนาดนี้ ทำให้ในใจของเขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที
เรื่องที่เขาทำไว้ ในใจของเขารับรู้หมด เขารู้ว่าเขาบังคับให้เธอออกมาทำงานนอกสถานที่กับเขา นอกจากนี้ที่สนามบินเขายัง “แยก” เธอกับเพื่อนสนิทของเธออีก
คุณชายสามเย่รู้สึกว่า เธอไม่ได้ทุบตีเขาก็ถือว่าเป็นบุญอย่างมาก
เธออ่อนโยน อ่อนหวานขนาดนี้ ขนาดฝันเขาก็ยังไม่กล้าที่จะฝันเลย และเขาก็รู้สึกว่า ในขณะนี้ถ้าเขากำลังฝันอยู่ ฝันตอนนี้มันคงเป็นฝันร้ายแน่ ๆ และคงไม่ใช่ฝันดี
“มีอะไรเหรอ? ทำไมไม่ไปล่ะ?” เวินลั่วฉิงหันกลับไป และมองไปที่เขา รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอยังคงนุ่มนวลราวกับสายลมและอ่อนหวานราวกับดอกไม้
คุณชายสามเย่แอบสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย แล้วเดินไปตามไป พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางในมือของเธอ
คุณชายสามเย่คิด ไม่ว่าเธออยากจะทำอะไรกับเขา เขาก็อยากจะอดทนไว้ ใครใช้ให้เขากวนโมโหเธอล่ะ
ดังนั้น ตอนนี้ต้องยิ่งทำตัวให้ดีขึ้น
เวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร สีหน้าของเธอยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสเช่นเดิม
ถึงด้านนอกของห้อง เวินลั่วฉิงหยิบการ์ดห้องมาเปิดประตู จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมกับคุณชายสามเย่อย่างอ่อนตาม
คุณชายสามเย่มองมาที่เธอเป็นเช่นนี้ สายตาของเขากลับหลบลงอย่างห้ามไม่ได้