แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี – บทที่ 371 นอกเสียจากคุณจะเป็นผู้หญิง / บทที่ 372 ตอนนี้ใจเย็นลงหรือยัง?

บทที่ 371 นอกเสียจากคุณจะเป็นผู้หญิง / บทที่ 372 ตอนนี้ใจเย็นลงหรือยัง?

บทที่ 371 นอกเสียจากคุณจะเป็นผู้หญิง

“… !!!”

เกิดอะไรขึ้น!?

หลังจากที่เห็นทั้งสองคนแล้ว ทั้งตัวเยี่ยหวันหวั่นเหมือนโดนฟ้าผ่าไปห้าครั้ง

ใบหน้าหล่อเหลาของหานเซี่ยนอวี่นั้นเหมือนจานผสมสี ใบหน้าเล็กซีดขาวของลั่วเฉินก็เหมือนกับดอกไม้สีขาวดอกเล็กที่โดนลมกรรโชกแรงพัดใส่

ดวงตาสามคู่มองกันไปมา ตาใหญ่จ้องตาเล็ก

บรรยากาศดูเงียบแปลกประหลาด

“พวกคุณ… ฟังผมอธิบายก่อน… นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด…”

หานเซี่ยนอวี่ได้ยิน ก็จ้องที่ขาเธอ

เยี่ยหวันหวั่นก้มลงมอง ก็รีบวางเข่าที่อยู่ข้างตัวซือเยี่ยหานออก

“ยังไงเรื่องก็ไม่ใช่อย่างที่พวกคุณคิดแบบนั้นแน่นอน…”

หานเซี่ยนอวี่มองไปที่มือเธออีก

เยี่ยหวันหวั่นรีบปล่อยมือที่ดึงคอเสื้อซือเยี่ยหานออกเหมือนเผือกร้อนลวกมือ

“คือว่า ลั่วเฉิน เซี่ยนอวี่รุ่นพี่เธอเป็นพยานได้!” เยี่ยหวันหวั่นแสดงท่าทีให้หานเซี่ยนอวี่ช่วยตัวเองปลอบ ดูว่าเด็กตกใจเป็นอะไรไปแล้ว

หานเซี่ยนอวี่จ้องมองชายหนุ่มที่อยู่ข้างใต้เสื้อผ้าไม่เรียบร้อย แล้วลูบจมูก พูดออกมา “คือว่า…ผมก็ตกใจมากเหมือนกัน…”

เยี่ยหวันหวั่น “…”

เยี่ยหวันหวั่นโมโหจนจ้องหน้าคนบนโซฟา จากมุมมองของซือเยี่ยหาน ต้องรู้แต่แรกแล้วว่ามีคนมาที่หน้าประตู แต่เขากลับไม่ยอมเตือนเธอ

ไม่ง่ายเลยกว่าเธอจะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจที่สูญเสียไปจากลั่วเฉินกลับมา ตอนนี้ดีเลย ย้อนกลับไปแบบเดิม…

ซือเยี่ยหานลุกขึ้นมานั่งช้าๆ จัดแจงเนคไทที่กระดุมเสื้อและกระเป๋าเสื้อ ในฐานะที่เป็นเป้าหมายที่โดนชายคนหนึ่งกระโจนเข้าใส่ เขาคือคนที่นิ่งเฉยมากที่สุด

หานเซี่ยนอวี่ยังดีหน่อย ถึงแม้จะเข้าใจว่าตัวเองชอบผู้ชายก็น่าจะไม่เป็นอะไร แต่ลั่วเฉินไม่เหมือนกัน ถ้าถูกคิดว่าตัวเองเป็นเกย์ เกรงว่าต่อจากนี้เขาจะไม่สามารถมองหน้าเธอตรงๆ ได้อีก

ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองลั่วเฉินอย่างให้ความสำคัญ ก้มลงหยิบบทละครที่กระจายอยู่ที่พื้นขึ้นมา จากนั้นยื่นไปตรงหน้าเขา

วินาทีที่เธอยื่นมือออกไป เห็นได้ชัดว่าแกะลั่วตัวน้อยหดตัวเล็กน้อย…

เยี่ยหวันหวั่นร้องไห้ในใจ ฝืนใช้น้ำเสียงที่สงบนิ่งพูดอธิบาย “ลั่วเฉิน แนะนำให้เธอรู้จัก นี่คือเพื่อนฉัน แซ่ซือ เมื่อกี้ฉันกำลังเล่นกับเขาอยู่ เพราะฉันมีเรื่องขอร้องให้เขาช่วย แต่เขากลับไม่ตกลง… อะแฮ่ม ไม่ได้ทำให้เธอตกใจใช่ไหม?”

ลั่วเฉินยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น สีหน้าดูมึนงง “…”

เอาล่ะ เธอรู้คำตอบของเขาแล้ว…

ช่วยไม่ได้ เยี่ยหวันหวั่นทำได้แค่แกล้งเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นเรื่องสบายๆ “พวกคุณสองคนมาหาผมมีเรื่องอะไร?”

หานเซี่ยนอวี่กระแอมเบาๆ “ระหว่างทางผมเจอเขาข้างนอก เห็นเขามาหาคุณ ก็เลยพามา”

เวลานี้ ในที่สุดลั่วเฉินก็พูดติดๆ ขัดๆ ออกมา “พี่เยี่ย ผม… ผมไม่มีอะไร… เพียงแค่อยากจะมาคุยกับพี่เรื่องบท… ในเมื่อพี่มีแขกอยู่… ก็… ไว้คุยกันวันหลังก็ได้…”

ลั่วเฉินเพิ่งพูดจบ ก็รีบหันหลังวิ่งออกไปไม่เห็นเงาเลย

ตอนที่วิ่งออกไป ไม่ทันระวัง หัวไปกระแทกกับบานประตู ส่งเสียงดัง ‘ปัง’ …

เยี่ยหวันหวั่นมองดูบานประตูที่สั่น เอามือกุมหน้าเงียบๆ “โถ่เว้ย… แกะน้อยที่ผมเพิ่งจะฝึกมาได้ โดนล้างข้อมูลไปทั้งแบบนี้ แล้วต้องมาเริ่มใหม่อีก…”

หานเซี่ยนอวี่กระแอมเบาๆ แอบมองชายหนุ่มข้างๆ กำลังจัดแจงกระเป๋าเสื้อด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก จากนั้นมองไปทางเยี่ยหวันหวั่น พูดเสียงต่ำ “อะแฮ่ม คุณก็เล่นเกินไป… แม้แต่ผมยังตกใจจนเกือบเข้าใจผิดเลย อย่าว่าแต่เด็กนั่นเลย!”

เยี่ยหวันหวั่นหน้าเครียด “ไม่ต้องพูดแล้ว ผมแค่อยากจะถาม ยังมีวิธีไหนที่จะกู้กลับมาได้ไหม?”

หานเซี่ยนอวี่ลูกจมูก “ผมว่ายาก… นอกเสียจาก…”

“นอกเสียจากอะไร?” เยี่ยหวันหวั่นถามต่อทันที

หานเซี่ยนอวี่ทำน้ำเสียงล้อเล่น สะบัดมือแล้วพูด “นอกเสียจาก คุณจะเป็นผู้หญิง”

เยี่ยหวันหวั่นจนคำพูด

………………………………………………………………..

บทที่ 372 ตอนนี้ใจเย็นลงหรือยัง?

เว้นเสียแต่ว่าเธอจะเป็นผู้หญิง?

น้องสาวนายสิ เธอก็เป็นผู้หญิงอยู่แล้ว เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายโอเคไหม?

แต่ปัญหาก็คือ หากให้คนอื่นรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิง แล้วทางด้านซือเยี่ยหานจะทำอย่างไร?

เทียบกับลั่วเฉินผู้เป็นแกะน้อย ชัดเจนว่าปีศาจร้ายทางนั้นเป็นปัญหาที่ยากกว่า…

ดังนั้นเรื่องสถานะที่เธอเป็นผู้หญิงจึงไม่อาจเปิดเผยได้เด็ดขาด!

ทำได้เพียงคิดหาวิธีอื่นมาอธิบายกับลั่วเฉิน…

หานเซี่ยนอวี่แสดงออกถึงความเห็นใจอยากช่วยแต่ก็จนปัญญา จากนั้นก็ยกเหล้าของเขาออกไป ก่อนจากไปก็ช่วยปิดประตูห้องให้พวกเขาอย่างเบามืออีกด้วย

ด้านในห้อง เยี่ยหวันหวั่นหน้าเศร้ามองไปทางซือเยี่ยหาน “ตอนนี้ใจเย็นลงหรือยัง?”

เธอได้จ่ายในราคาสาหัสเพื่อแลกมาขนาดนี้แล้ว…

หุ่นเพรียวยาวของซือเยี่ยหานนั่งอยู่นั่งบนโซฟา นัยน์ตาลึกล้ำพลันมองจ้องมาทางเธอ “เธอคิดจริงหรือว่าฉันสนใจแค่เรื่องแต่งตัวน่าเกลียด?”

เยี่ยหวันหวั่นถูกสายตาเช่นนั้นจดจ้อง จิตใต้สำนึกพลันสั่งให้เอ่ยถามออกไป “ถ้างั้น…คืออะไร?”

ซือเยี่ยหานไม่พูดอะไรทั้งนั้น ทว่าสายตาที่มองมาทางเธอกลับทำให้เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวได้กลายเป็นความรู้สึกเหงาอันอ้างว้างไปเสียหมด

ชายหนุ่มผู้เย็นชาและแปลกแยกดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกเหมือนมนุษย์คนนี้ เวลานี้กลับทำให้เธอรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอย่างอธิบายไม่ถูก…

เยี่ยหวันหวั่นมองภาพด้านข้างอันอ้างว้างของชายหนุ่ม หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบอย่างประหลาด

ก็ได้…

เธอยอมรับ เหตุผลที่เธออยากให้เขาไปเจอพ่อแม่ ไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์ของพวกเขาสนิทสนมอะไรกันหรอก ถึงเวลาที่ได้พบพ่อกับแม่นั้น ก็เพียงแต่อยากทดสอบทัศนคติของเขาเท่านั้น กลัวว่าในอนาคตเขาอาจจะทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายพ่อแม่ของเธอได้…

เธอรู้ว่าตั้งแต่ได้เกิดใหม่ เธอไม่เคยมีความรู้สึกปลอดภัยเลย และกับคนตรงหน้าคนนี้เธอก็ไม่เคยเปิดใจจริงๆ เลยสักครั้ง

แต่ว่า บนความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกันตั้งแต่แรกแบบนี้ แล้วจะให้เธอให้ใจอย่างเต็มที่ได้อย่างไร?

แม้แต่ตอนที่เพิ่งกลับชาติมาเกิดแรกๆ เธอยังเคยมีความคิดว่าชีวิตนี้ก็แค่ทนอยู่ๆ ไปจนกว่าซือเยี่ยหานตาย เช่นนี้ก็สามารถหลุดพ้นและเป็นอิสระได้…

เธอจำได้ว่าสุขภาพของซือเยี่ยหานในชาติก่อนไม่ค่อยดี ตั้งแต่เวลานี้ก็มีอาการแทรกซ้อนสารพัดเริ่มปะทุออกมา ในปีนั้นของการหย่าระหว่างเธอกับซือเยี่ยหาน ร่างกายของซือเยี่ยหานก็ทรุดหนักเหมือนตะเกียงใกล้ดับ

เธอจำได้อย่างชัดเจน ในชาติก่อนตอนที่ซือเยี่ยหานเซ็นใบหย่า ไร้เรี่ยวแรงแทบจะจับปากกาไว้ไม่อยู่

หลังจากได้ออกมาจากซือเยี่ยหานแล้ว เธอก็จะได้เห็นข่าวเกี่ยวกับอาการป่วยขั้นวิกฤตของเขาบนหน้าหนังสือพิมพ์และได้ยินข่าวลือบ่อยครั้ง…

แม้ว่านี่จะเป็นสาเหตุมาจากสุขภาพของซือเยี่ยหานเอง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าการมีอยู่ของเธอคือตัวเร่งความตายของเขาให้เร็วขึ้น

ในชาติก่อน เพื่อเธอแล้วเขายอมกลายเป็นศัตรูกับคนทั้งตระกูล ทุกวันต้องคอยจัดการกับทั้งศึกนอกและศึกในสารพัด แม้กระทั่งการลอบฆ่า เดิมทีร่างกายก็อ่อนแออยู่แล้วกลับใช้ร่างกายเกินขีดจำกัดอีก เป็นการเร่งการถูกควักหัวใจให้เร็วขึ้นและสุขภาพก็ยิ่งถดถอยลงไป…

ซือเยี่ยหานหวาดระแวงเธอมากเกินไปถึงขนาดระแวงสุดขีด ทำให้เธอไม่อาจรับได้จึงคิดจะหนีอยู่ตลอดเวลา

แต่ว่าสิ่งที่ไม่อาจปฎิเสธได้ก็คือ ไม่ว่าจะในชาตินี้หรือชาติก่อน ผู้ชายคนนี้ต่อให้การแสดงออกจะน่ากลัวมากเพียงใด ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่เคยทำเรื่องอะไรที่เป็นการทำร้ายเธอ หรือแม้แต่กับคนรอบกายของเธอด้วย

และตั้งแต่ที่เธอได้กลับชาติมาเกิด เธอก็ได้เห็นอีกด้านมุมหนึ่งของซือเยี่ยหานที่เธอไม่เคยได้พบเห็นมาก่อนมากยิ่งขึ้น

แม้ในใจต้องการเพียงความเป็นอิสระ เพียงเพื่อรักษาชีวิตไว้…

แต่ว่าทำไม เพียงแค่คิดถึงเรื่องสุขภาพของเขาที่นับวันยิ่งแย่ลงไป คิดถึงอาการป่วยของเขา คิดถึงว่าอีกไม่กี่ปีให้หลังซือเยี่ยหานจะต้องป่วยหนักจนเสียชีวิต หรือแม้แต่…หัวใจก็ทรมานเหมือนถูกกรงเล็กแหลมคมขนาดมหึมาฉีกขาด

ความจริงซือเยี่ยหานคงรู้แก่ใจดีอยู่แล้ว รู้ดีว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอล้วนจงใจอำพราง…

……………………………

Options

not work with dark mode
Reset