เจ้ามังกรพรีเมี่ยม – ตอนที่ 298 ข้าสองแผ่นดิน

ถังเฉาไม่ได้รู้ว่าภายใต้ความเงียบสงบมีความปรารถนาที่จะสังหารกระเพื่อมไหว ตอนนี้เขาเร่งรุดมาอยู่ในบ้านแล้ว

“คุณพ่อขา!”

พอเปิดประตูออก ถังเสี่ยวลี้ก็วิ่งอ้าแขนเข้ามาหา

ถังเฉาย่อตัวลงกอดเธอ หอมแก้มเธอไปฟอดหนึ่ง แล้วจึงปล่อยเธอ จากนั้นก็เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “คุณแม่ล่ะคะ?”

ถังเสี่ยวลี้รีบมองไปที่ชั้นบนทันที ปากเล็ก ๆ กระดกขึ้นด้วยความไม่พอใจ “พอคุณแม่กลับมาก็ยุ่งมากเลยค่ะ ไม่มีเวลาเล่นกับหนูเลย”

ถังเฉายิ้มออกมาทันที “ถ้าอย่างนั้นพ่อจะเล่นเป็นเพื่อนหนู ดีไหมคะ?”

“ดีค่ะ!”

ถังเสี่ยวลี้ยิ้มหน้าตาเบิกบานออกมาทันที

เล่นเป็นเพื่อนถังเสี่ยวลี้อยู่สักพักเจ้าหนูน้อยก็ง่วงเสียแล้ว ถังเฉาอุ้มเธอเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างระมัดระวัง

เปิดประตูออก หลินชิงเสว่ก็ลุกขึ้นมาจากเก้าอี้พอดี “เสี่ยวลี้หลับไปแล้วเหรอคะ?”

ถังเฉาพยักหน้า “เพิ่งจะหลับไปเอง”

ได้ยินอย่างนั้นสีหน้าของหลินชิงเสว่ก็กลายเป็นทุกข์ใจ “เรื่องในบริษัทยุ่งมาก ไม่มีเวลาเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวลี้เลย”

“ไม่เป็นไร มีผมอยู่ทั้งคน”

ถังเฉาส่ายศีรษะยิ้ม ๆ เอ่ยกำชับว่า “แต่ว่า… ห้ามหักโหมเด็ดขาดเลยนะ”

หลินชิงเสว่พยักหน้าเบา ๆ ในใจรู้สึกพลันอบอุ่นขึ้นมา เธอเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “พรุ่งนี้คุณอย่าไปชั้นบนสุดเลยนะ? ไปลี่จิงกรุ๊ปกับฉัน”

สายตาของถังเฉากลายเป็นประหลาดใจ “ทำไมครับ?”

“เพราะว่า… ฉันอยากให้คุณเข้าไปในลี่จิงกรุ๊ป”

หลินชิงเสว่พูดด้วยสายตาอ่อนโยน “รอโครงการสร้างเมืองเสร็จเรียบร้อยดีแล้ว มูลค่าทางการตลาดของลี่จิงกรุ๊ปจะพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว รอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว ฉันจะมอบลี่จิงกรุ๊ปให้คุณค่ะ”

ในใจของถังเฉารู้สึกอบอุ่น เอาบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งมาด้วยความยากลำบากที่เป็นสินเดิมของภรรยามอบมาให้ เธอต้องใจป้ำแค่ไหนกัน?

เขาเข้าใจดี ความหมายลี่จิงกรุ๊ปไม่ใช่เงินเลยแม้แต่น้อย แต่คือสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของหลินชิงเสว่…

เธอก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาด้วยมือเปล่า ไม่ได้ใช้เงินของครอบครัวเลยแม้แต่แดงเดียว ออกมาจากบ้านตั้งหลายปีแล้วกลับไม่ยอมกลับไป นี่ไหนเลยจะไม่ใช่ข้อพิสูจน์ของเธอว่า ไม่มีพวกเขา ตนก็สามารถมีชีวิตอยู่อย่างดีมาก ๆ ได้?

แต่ทว่าถังเฉากลับพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและสายตาลึกล้ำว่า “นี่ไม่ใช่เหตุผลที่คุณจะให้ผมเข้าไปในลี่จิงใช่ไหมครับ?”

หลินชิงเสว่จมอยู่ในความเงียบอย่างลึกล้ำ สองมือกำแน่นทันที แต่ก็ผ่อนคลายออกมาอย่างรวดเร็ว

หลังจากผ่านไปนาน เธอก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งแล้วเอ่ยขึ้นว่า “คุณพูดถูกแล้วล่ะค่ะ เพื่อที่จะรับมือกับคนในครอบครัวฉันพวกนั้น”

สายตาของถังเฉาเย็นเยียบขึ้นมาทันที เขาไม่ได้พูดอะไร รอหลินชิงเสว่พูดอย่างสงบนิ่ง

“ถ้าหากคุณจะไปเยี่ยนจิงกับฉันละก็ ถ้าหากไม่มีหน้าที่การงานอะไรเลยละก็ พวกเขาจะต้องบังอาจมาดูถูกคุณแน่ ๆ! เป็นรองประธานที่บริษัทฉันยังดีกว่าหน่อย…”

ได้ยินคำพูดของหลินชิงเสว่ สายตาที่ถังเฉามองเธอก็อ่อนโยนยิ่งขึ้น

แต่ว่าเขาเพียงแค่ยิ้มราบเรียบ ไม่ได้ปฏิเสธ

เขาเข้าใจความกังวลใจของหลินชิงเสว่ดี ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะถูกเรียกว่าเป็นคนที่มีอิทธิพลที่สุดในเมืองหมิงจู แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีใครรู้ฐานะที่แท้จริงของเขา อย่าว่าแต่พวกตระกูลหลวงในเยี่ยนตูพวกนั้นเลย

เกรงว่าในสายตาของพวกเขา ตนจะยังคงเป็นสวะที่ไม่มีแม้แต่งานจะทำล่ะมั้ง?

เขาไม่ใส่ใจท่าทีของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู สำหรับเขาแล้วอีกฝ่ายเป็นเพียงครอบครัวของหลินชิงเสว่ก็เท่านั้น

“ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู… หวังว่าพวกคุณจะไม่บีบบังคับเธอจนเกินไปนะ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่ถือสาที่จะเป็น ‘คนชั่ว’ สักครั้ง…”

ดวงตาของถังเฉาดำขลับ รังสีสังหารที่หนาวยะเยือกวาบผ่าน

……

วันต่อมา พระอาทิตย์ขึ้นสูง

หลังจากส่งถังเสี่ยวลี้ไปโรงเรียนอนุบาลด้วยกันเสร็จ ถังเฉาก็ตามหลินชิงเสว่เข้าไปลี่จิงกรุ๊ปด้วยกัน

เพียงแต่ว่าทั้งสองคนรู้สึกได้อย่างว่องไวว่าลี่จิงกรุ๊ปในวันนี้ดูเหมือนจะไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้

นึกไม่ถึงว่าพนักงานที่ไป ๆ มา ๆ พอมองเห็นหลินชิงเสว่กลับไม่ทักทาย เพียงแค่พยักหน้าให้เท่านั้น

ในดวงตาของถังเฉามืดลงเล็กน้อย หันกลับไปมองหลินชิงเสว่แวบหนึ่ง สีหน้าของหลินชิงเสว่ราบเรียบ เพียงแต่จังหวะการก้าวเท้าเร็วขึ้นหลายส่วน

“ประธานหลิน!”

ในตอนนี้เอง ฟางหย่ารีบร้อนเดินเข้ามาประจันหน้า ใบหน้าฉาบไปด้วยความเคร่งขรึม

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

ในที่สุดก็ปรากฏความหนาวยะเยือกขึ้นบนใบหน้าพริ้มเพราของหลินชิงเสว่

ถังเฉาเองก็หรี่ตาลงน้อย ๆ หลินชิงเสว่เป็นผู้ก่อตั้งลี่จิงกรุ๊ปขึ้นมา ทำไมพนักงานที่อยู่ใต้ปกครองถึงไม่ให้ความเคารพเธอเลยสักนิด?

ฟางหย่ามองซ้ายมองขวาหลังจากมั่นใจว่ารอบ ๆ ไม่มีหูมีตาแล้วเธอถึงได้กดเสียงต่ำพูดกับหลินชิงเสว่ว่า “ประธานเฉิงกลับมาแล้วค่ะ”

พอคำนี้ลั่นออกมา สายตาของหลินชิงเสว่ก็เย็นยะเยือกขึ้นมาทันที อารมณ์บนใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

แต่ถังเฉากลับอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “ประธานเฉิงเป็นใคร?”

ฟางหย่าเอ่ยด้วยความกังวล “บริษัทของเรามีรองประธานทั้งหมดสามคน นอกจากฉันกับซุนเสว่ที่โดนไล่ออกไปก่อนหน้านี้แล้วก็ยังมีรองประธานอีกคนหนึ่ง ก็คือประธานเฉิงคนนี้แหละ”

“เธออยู่มาตั้งแต่ตอนที่ประธานหลินก่อตั้งบริษัทขึ้นมาแล้ว เป็นข้าสองแผ่นดิน มีอำนาจที่ทำให้คนเชื่อฟังอยู่มาก เพียงแต่ไปบุกเบิกตลาดที่เมืองเจียงเฉิงแทบทั้งปี ไม่ได้อยู่ในเมืองหมิงจู”

“อย่างนั้นเหรอ…”

ได้ฟังการแนะนำของฟางหย่าแล้วถังเฉาก็ระมัดระวังขึ้นมาบ้าง

“อีกอย่าง ได้ยินมาว่าในตอนแรกเริ่มที่ก่อตั้งบริษัท ตำแหน่งซีอีโอเดิมเป็นของประธานเฉิง เพียงแต่ประธานหลินได้ใจคนมากกว่า ดังนั้นจึงข่มเธอลงมา”

“เรื่องนี้เป็นไฟสุมขอนที่อยู่ในใจของประธานเฉิงมาโดยตลอด ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ว่าในใจจะต้องโกรธแค้นประธานหลินอยู่แน่ ๆ ประธานหลินเองก็อ่านความคิดของเธอออก ดังนั้นถึงได้ส่งเธอไปบุกเบิกกิจการที่เมืองเจียงเฉิง…”

“พอแล้ว!”

ฟางหย่ายังอยากจะพูดอะไรอีก แต่หลินชิงเสว่กลับเอ็ดเสียงดัง มองเธออย่างเยียบเย็น “เรียกประชุมพนักงานระดับกลางถึงระดับสูงตอนนี้เลย จะมีการเปลี่ยนบุคลากรนิดหน่อย”

“ค่ะ ประธานหลิน”

ฟางหย่ารีบปิดปากฉับ ไม่กล้าพูดอะไรขึ้นมาอีก

ถังเฉาสีหน้าเข้มขึ้นเล็กน้อยยืนอยู่ด้านหลังของหลินชิงเสว่

ถ้าหากเป็นเหมือนที่ฟางหย่าพูดจริง ๆ ถ้าอย่างนั้นประธานเฉิงคนนั้นจะต้องมาร้ายแน่

ตำแหน่งซีอีโอที่ยิ่งใหญ่ที่เดิมอยู่ในกำมือถูกหลินชิงเสว่แย่งไป ทั้งยังถูกอำพรางโดยการเนรเทศไปเมืองเจียงเฉิงอีก พูดอีกอย่างว่าความแค้นต่อหลินชิงเสว่ที่อยู่ในใจของประธานเฉิงนี้ รุนแรงกว่าใครใดใดทั้งหมด

คราวนี้เธอกลับมาทำอะไร?

ช่วยปกครอง?

หรือว่า… ยึดบัลลังก์?

การประชุมของพนักงานระดับกลางถึงระดับสูงเป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผน หลินชิงเสว่นั่งลงตรงกลางของโต๊ะรูปวงรีในห้องประชุม ด้านข้างมีหลี่ถาวเลขานุการสาวยืนอยู่ สองฝั่งโต๊ะมีผู้นำน้อยใหญ่นั่งเรียงกันตามลำดับสูงต่ำของตำแหน่งงาน

นัยน์ตางดงามของหลินชิงเสว่กวาดมองทุกคนอย่างเย็นชา แล้วเอ่ยเสียงเรียบว่า “ฉันจะพูดเนื้อหาการประชุมอย่างง่าย ๆ ครั้งเดียวนะ หลังจากที่ซุนเสว่ออกจากตำแหน่งไป ตอนนี้ตำแหน่งนี้ในบริษัทยังขาดรองประธานอยู่หนึ่งคน…”

ขวับ…

คำพูดนี้ดังออกมา สายตาของผู้นำที่ด้านล่างของเวทีล้วนเปลี่ยนไปอย่างล้ำลึก ทุก ๆ คนล้วนแต่หวังว่าตนเองจะสามารถขึ้นนั่งในตำแหน่งรองประธานที่ยิ่งใหญ่นั้น

อย่างไรก็ตาม… หลินชิงเสว่นิ่งไปสักพัก พูดต่อด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “ฉันขอประกาศตรงนี้ว่า… คุณถังที่อยู่ข้าง ๆ ฉันจะเข้ามาอยู่ในลี่จิงกรุ๊ปอย่างเป็นทางการ รับตำแหน่งรองประธานที่ว่างอยู่หนึ่งตำแหน่ง”

สิ้นเสียงพูดของหลินชิงเสว่ ถังเฉาเดินหน้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มน้อย ๆ ส่งไปให้ทุกคน “ผมถังเฉาครับ”

คนที่อยู่รอบ ๆ เงียบราวกับได้ตายไปแล้ว

ทุก ๆ คนเบิกตากว้างอ้าปากค้างมองไปที่ถังเฉา ในใจมีคลื่นยักษ์ถาโถม

ถังเฉาเป็นใครมาจากไหน คนทั้งอาคารกั๋วจี้ล้วนคุ้นหูคุ้นตากันดี เขาไม่ใช่สามีของหลินชิงเสว่… ซีอีโอของพวกเขาหรือ?

นี่มันหมายถึงอะไร?

เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน?

ผู้นำของลี่จิงกรุ๊ปเป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ ในตอนนี้พวกเธอทุกคนต่างจ้องถังเฉากับหลินชิงเสว่ด้วยสายตาหนาวเสียดกระดูก เป็นครั้งแรกที่เกิดความรู้สึกไม่พอใจหลินชิงเสว่ถึงขั้นสุด

แต่ว่า… ขัดต่อความน่าเกรงขามของหลินชิงเสว่… กลับไม่กล้าพูดอะไร

“ฉันขอคัดค้าน!”

ในตอนนี้เอง เสียงดังกังวานเสียงหนึ่งก็ดังมาจากด้านนอก

เห็นผู้หญิงผมสั้นสวมชุดทำงานรองเท้าส้นสูงคนหนึ่งที่คุ้นเคยเดินก้าวยาว ๆ เข้ามา ริมฝีปากแดงสด หรี่ดวงตาหงส์เล็กน้อย อีกทั้งออร่าของผู้บริหารระดับสูงที่สูสีพอกันกับหลินชิงเสว่นั่นอีกที่ยืนยันฐานะของเธอ

ประธานเฉิง เฉิงเพ่ย… ข้าสองแผ่นดินของลี่จิงกรุ๊ป

หลินชิงเสว่เลิกคิ้วน้อย ๆ ดวงตางดงามหรี่ลงอย่างอันตราย มองพิจารณาประธานเฉิง

เฉิงเพ่ยยิ้มอย่างเสแสร้ง พูดอย่างแฝงเจตนากับหลินชิงเสว่ว่า “ประธานลืมฉันไปแล้วเหรอคะ? แม้แต่การประชุมของพนักงานระดับกลางถึงระดับสูงที่สำคัญขนาดนี้ก็ไม่เชิญฉันเข้าร่วม?”

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เจ้ามังกรพรีเมี่ยม

เมื่อห้าปีก่อน ถูกว่าที่ภรรยาใส่ร้าย ในเวลาที่เกือบจะตาย มีผู้หญิงคนหนึ่งมาช่วยเขาอย่างสุดชีวิตห้าปีต่อมา อำนาจและทรัพย์สมบัติของโลกล้วนตกอยู่ในมือของเขา การกลับมาของม้าศึก แค่เพื่อที่จะตอบแทนบุญคุณในคืนนั้น แต่กลับพบว่า เธอได้คลอดลูกสาวคนหนึ่งสิ่งที่เป็นหนี้คุณไม่สามารถลบล้างให้หมดไปได้ ถ้าอย่างนั้นก็ปกป้องพวกคุณสองแม่ลูก……ทั้งชีวิตเลยแล้วกัน!

Options

not work with dark mode
Reset