จากมุมมองของถังเฉากับต่งวี่ซู่ ในส่วนตัวพวกเขาฝ่ายหนึ่งฆ่าอีกฝ่ายก็ถูกฆ่า แต่ในมุมมองของช่ายเหลียน ถังชิงเหอ หลินชิงเสว่ ทุกคนต่างก็คิดว่านี่คือการถ่ายทำ
เพียงแต่ เป็นภาพที่สมจริงเกินไปและดูแล้วเหมือนจริงมาก
สวีเลี่ยงก็ค่อยๆสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเห็นเลือดสดๆบนใบหน้าของต่งวี่ซู่ มองเห็นท่าทางต่งวี่ซู่ที่ทั้งหวาดกลัวทั้งโกรธ—- นี่คือการถ่ายละครที่ไหนหล่ะ? เห็นได้ชัดว่ามันเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายมาก!
“หยุดถ่าย หยุดถ่าย วี่ซู่เลือดไหลแล้ว—-” สวีเลี่ยงรีบเดินไปที่หน้ากล้องแล้วพูดเสียงดัง
ช่ายเหลียนถึงจะตะโกนให้หยุด และทุกคนก็รีบไปดู เห็นแค่ใบหน้าของต่งวี่ซู่บวมเป็นหัวหมู ลักษณะน่าสังเวชอย่างยิ่ง
เขามองไปที่ถังเฉาด้วยสายตาที่หวาดกลัว ถอยหลังติดๆกัน ราวกับไขว่คว้าที่พึ่งสุดท้ายไว้ หลบอยู่ที่หลังของสวีเลี่ยง
ถังเฉามาถึงข้างหน้าของสวีเลี่ยง หัวเราะเล็กน้อยแล้วพูดว่า “กลับไปบอกหวางหมิ่นเหมิน คุณชายต่งอุทิศตนให้กับงานพวกเราจะจดจำเขา”
ถังเฉามองไปที่ต่งวี่ซู่ที่ใกล้ตาย สวีเลี่ยงสายตาหวาดกลัว “นี่คุณเจตนาทำร้ายคน ผมจะแจ้งตำรวจ!”
“ เจตนาทำร้ายคน?”
ถังเฉาถูกแหย่ให้หัวเราะ หัวเราะแล้วมองสวีเลี่ยง แล้วย้อนถามว่า “พวกเรากำลังถ่ายหนังไม่ใช่หรอ? ผมจำได้ ก่อนหน้านี้ผมเคยถามคุณชายต่ง ต้องการใช้สตั้นท์แมนไหม เขาบอกเองว่าไม่ต้องใช้สตั้นท์แมน ตอนนี้ถูกต่อยจนเจ็บ ก็มาบอกว่าเจตนาทำร้ายคน?”
“… “
สวีเลี่ยงทั้งโกรธทั้งกลัวมองไปที่ถังเฉา ไม่พูดอะไรสักคำ
“ ตอนนี้ส่งไปที่โรงพยาบาล ไม่แน่อาจจะยังช่วยได้” ทันใดนั้นถังเฉาหรี่ตา แล้วพูดกับสวีเลี่ยง
หัวใจของสวีเลี่ยงสั่นแรง ภายใต้สายตาของถังเฉา จิตวิญญาณของเขาสั่นอย่างรุนแรง ในวินาทีนั้นไม่กล้าพัก จึงรีบพาต่งวี่ซู่ออกไป
หลังจากที่ต่งวี่ซู่กับสวีเลี่ยงไป ในกองถ่ายเงียบไปเป็นเวลานาน ทุกคนมองถังเฉาอย่างคิดไม่ถึง ถังชิงเหอยิ่งเหมือนกับเพิ่งรู้จักถังเฉาเป็นครั้งแรก เป็นเวลาพักใหญ่ที่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ
มีเพียงใบหน้าของหลินชิงเสว่ที่เรียบเฉย กับผลลัพธ์อย่างนี้ก็ไม่แปลกใจ เมื่อกี้ตอนที่ถังเฉาลงมือกับต่งวี่ซู่ หลินชิงเสว่กอดเล่นกับถังเสี่ยวลี้ ดังนั้นถังเสี่ยวลี้จึงไม่ได้เห็นภาพคาวเลือด
ถังเฉาเดินไปอยู่ต่อหน้าช่ายเหลียน ถามว่า “เมื่อสักครู่ถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?”
ช่ายเหลียงเปิดกล้อง ดูที่ถ่ายภาพไว้ทั้งหมด สุดท้ายก็เลือกที่ดีที่สุด แสงสีแดงเต็มใบหน้า ชื่นชมซ้ำๆ “ไม่เลว ชกโดนเนื้อ ใช้สตั้นท์แมน ยังไงก็ไม่เท่าใช้มีดจริงปืนจริง “
ประโยคนี้เป็นคำชื่นชมจากใจจริงของเขา ใช้สตั้นท์แมน กลับเต็มไปด้วยความวิตกกังวล จากที่ถ่ายไม่เห็นผล แต่นี่ใช้มีดจริงปืนจริง นักแสดงหลักก็ไม่กล้าทำ—-ไม่ใช่ใครก็เหมือนคุณท่านเฉินหลงที่รักงานศรัทธาวิชาชีพ
“ต่อไป ก็โฆษณาละครจริงแล้ว” ข่ายเหลียนมองถังเฉาอย่างระมัดระวัง แล้วพูด
เขาไม่ใช่คนโง่ ถังเฉาลงชื่อไว้ว่าจะให้ต่งวี่ซู่แสดงเป็นต่อสู้เขา ไม่ใช่เพราะถังเฉาโอบอ้อมอารี แต่เพราะเขาอยากแก้แค้นต่งวี่ซู่
แต่ฐานะต่งวี่ซู่ ช่ายเหลียนก็พอรู้ มาจากตระกูลต่งสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่แห่งหมิงจู แต่ในเมื่อวัยรุ่นคนนี้ลงมือได้กำเริบเสิบสาน แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้ให้ความสนใจตระกูลต่ง
ถังเฉาพยักหน้าและยื่นมือไปหาเขา “ร่วมมือกันอย่างมีความสุข!”
ครั้งนี้ช่ายเหลียน จับมือของเขาไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “ร่วมมืออย่างมีความสุข!”
หลังจากที่พูดพิธีรีตองแล้ว การถ่ายทำก็เริ่มขึ้น
ฉากนี้แบ่งออกเป็นสองฉาก ถังชิงเหอเป็นนางเอกในฉากแรก และหลินชิงเสว่เป็นนางเอกฉากที่สอง โดยอธิบายถึงเรื่องราวที่ข้ามภพอดีตถึงปัจจุบัน
เลนส์กล้องจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการทดสอบฝีมือของช่างภาพ
ช่ายเหลียน ตะโกนด้วยคอแดงก่ำ “พระเอกนางเอกเดินเข้าหากันทีละก้าว พอถึงเวลาให้พวกคุณแต่ละคนเข้าใกล้กล้อง นางเอกจะต้องแสดงแววตาออกมาประหลาดใจและคับแค้นใจ ทดสอบทักษะของนักแสดง จากนั้น พวกคุณก็จ้องมองด้วยความรัก “
เสียงดนตรีที่อ่อนโยนดังขึ้น ถังเฉาสวมชุดละคร เดินไปหาถังชิงเหอทีละก้าว
ถังชิงเหอสมกับเป็นเด็กฝึกงานที่บ้าคลั่ง ในขณะที่ดนตรีดังขึ้น เธอก็ถูกรวมเข้ากับบทละครอย่างสมบูรณ์ และในขณะที่เธอมองถังเฉาดวงตาของเธอก็เป็นประกายด้วยความประหลาดใจ จากนั้น เธอก็เปลี่ยนเป็นความแค้น ฝังลึกตีความรูปลักษณ์ของหญิงสาวในห้องส่วนตัวได้อย่างสุดขั้ว
“ สมบูรณ์แบบ!”
ช่ายเหลียนปรบมือแล้วหัวเราะใหญ่ “ฉากแรกผ่านไปอย่างสมบูรณ์แบบ ต่อไปฉากที่สองปัจจุบัน!”
เมื่อถึงคราวที่หลินชิงเสว่ต้องแสดง เธอก็เปลี่ยนเป็นชุดยูนิฟอร์มที่มาตรฐาน หลินชิงเสว่ที่ใส่ชุดยูนิฟอร์ม แสดงให้เห็นถึงออร่าที่แข็งแกร่ง แสดงออกถึงธาตุแท้อย่างสมบูรณ์
ถังเฉายืนอยู่ข้างหน้าหลินชิงเสว่ สองมือจับไหล่ของหลินชิงเสว่ สายตาจ้องไปที่หลินชิงเสว่ด้วยความรัก
“คัท —-“
ช่ายเหลียงบอกให้หยุด มาถึงตรงหน้าถังเฉาแล้วพูดว่า ถังเฉา ให้คุณมองที่หน้าของประธานหลิน ไม่ใช่หน้าอก —-“
ทันทีที่พูดออกมา หลินชิงเสว่รีบเอาเสื้อมาห่อตัวทันที แววตามองถังเฉาด้วยความประหลาดอย่างเย็นชา
ถังเฉาเช็ดเหงื่อบนศีรษะของเขา “ผมจะระวัง”
“คัท —-“
ในฉากที่สอง ช่ายหลินก็ตะโกนให้หยุดอีกครั้ง “นางเอก คุณหน้าแดงอะไร พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน ไม่ใช่คู่รักหนุ่มสาวที่เพิ่งคบกัน!”
“ฉันเปล่านะ……”
หลินชิงเสว่เลิกคิ้วหนึ่งที กำลังจะอธิบาย แต่ช่ายเหลียงกลับเดินจากไปแล้ว เตรียมตัวรีสตาร์ทฉากที่สาม
“คัท —- พระเอก คุณหัวเราะอะไร”
“ผมไม่ได้หัวเราะ ลูกสาวของผมกำลังหัวเราะ”
ช่ายเหลียงหันกลับไปมอง เห็นแต่ถังเสี่ยวลี้มองถังเฉาแล้วหัวเราะคิกๆ ดังนั้นช่ายเหลียงจึงจ้องไปที่เธอ “อย่าหัวเราะ สักพักตอนฉากที่เธอแสดง จะมีฉากที่เธอร้องไห้”
“… “
ดังนั้น ถังเสี่ยวลี้ไม่หัวเราะ ปิดปากเงียบอย่างเชื่อฟัง
ถังเฉากับหลินชิงเสว่ เข้าร่วมการแสดงเป็นครั้งแรก ตามกล้องไม่ทัน ช่ายเหลียงมองตั้งหลายรอบ ก็ไม่พอใจ
ดังนั้น จึงถอนหายใจ “ประธานหลิน คุณถังอย่างนี้ไหม พวกคุณลองสื่อสารกันหน่อย อย่างนี้การแสดงก็จะดีขึ้นมา”
หลินชิงเสว่นั่งอยู่ด้วยกันกับถังเฉา สีหน้าไม่เป็นธรรมชาติมาก
ในเวลานี้ถังชิงเหอนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของถังเฉา และพูดด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณรู้ถึงความเจ็บปวดของนักแสดงแล้วใช่ไหม?”
ถังเฉาพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “อาชีพไหนก็ทำไม่ได้ง่ายๆ”
“เดี๋ยวจะสอนวิธีให้คุณเข้าถึงบทบาทอย่างรวดเร็ว”
ถังชิงเหอกระพริบตาและพูดด้วยรอยยิ้ม “เมื่อถ่ายฉากอารมณ์ คุณก็แค่หลับตา และคิดว่าอีกฝ่ายเป็นคนรักของคุณ ก็พอแล้ว”
“ของผม คนรัก?
ดวงตาของถังเฉาว่างเปล่า และเขามองไปที่หลินชิงเสว่โดยไม่รู้ตัว
หลินชิงเสว่หลบสายตา แต่กลับจำมันไว้ในใจ
ครู่เดียวเวลาพักก็จบลง เสียงดนตรีที่อ่อนโยนก็ดังขึ้นอีกครั้ง ถังเฉาและหลินชิงเสว่สบตากันอีกครั้ง จากนั้นหลับตาลงในเวลาเดียวกัน
เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที ในความคิดของถังเฉากลับไม่มีการปรากฏของใครสักคน
“ผมรักใคร?”
เขาพูดกับตัวเองในใจ
ในขณะนี้ ดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในความคิดของเขา ซึ่งทำให้จิตใจของเขาสั่นคลอนทันที
“คือเธอ……”
ถังเฉาพึมพำกับตัวเองพร้อมกับความงุนงงในดวงตาของเขา