Advent of the Archmage – ตอนที่ 127: ฉันจะชำระหนี้แค้นของฉัน!

ลิงค์ ยุ่งอยู่กับการศึกษาสมุดของ แอนโทนี่ ตลอดการเดินทางไปสถาบัน ไรไล, ที่นั่งข้างๆเขาเองก็กำลังอ่านตำราเวทย์มนตร์, ดังนั้นในรถม้าจึงเงียบมากๆ

 

แต่หลังจากที่เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งชั่วโมง, ก็มีเสียงนกหวีดแหลมดังขึ้นข้างนอกรถม้า ลิงค์ รู้จากเสียงนั้นว่ามันไม่ใช่ภัยคุกคามสำหรับพวกเขา, ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจมัน เสียงทำให้เด็กสาวรู้สึกไม่สงบ, ดังนั้นเธอจึงเปิดผ้าม่านของหน้าต่างรถม้าอย่างช้าๆแล้วมองออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

“อาจารย์คะ” ไรไล พูดอย่างขี้กลัวหลังจากผ่านไปครู่นึง “มันคือรถม้าจากสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ ไม่สิ…มันไม่ใช่รถม้าธรรมดา, มันดูเหมือนกับรถม้าที่เอาไว้ใช้คุมขังมากกว่า มีนักโทษอยู่ข้างในด้วย หรือว่าเขาจะเป็นนักเวทย์?”

 

แต่ว่านักเวทย์มาจบลงที่การเป็นนักโทษได้ยังไงกันนะ? ไรไล สงสัย

 

ลิงค์ รู้สึกตกตะลึงกับคำอธิบายของ ไรไล แล้วเขาก็มองออกไปในทันที, และในทันทีทันใดนั้นเขาก็เห็นว่ามันคือ ดาริส

 

หลังจากหนึ่งสัปดาห์ของการฟื้นตัว, อาการบาดเจ็บของ ดาริส ก็แทบจะหายแล้ว, แต่เพราะว่าเขาได้รับการดูแลด้วยเวทย์รักษาขั้นพื้นฐาน, เขาจึงยังเหลือแผลเป็นจำนวนมากอยู่ทั่วร่างกายของเขาและรวมถึงใบหน้าของเขาด้วย เขาสวมชุดคลุมนักโทษแบบหยาบๆและแขนขาของเขาก็ถูกคล้องด้วยห่วงเหล็ก เขาดูไม่ต่างจากนักโทษทั่วไป, เว้นแต่ความจริงที่เขาถูกส่งตัวด้วยรถม้าที่มีตราของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟอยู่

 

เช่นเดียวกับที่ ลิงค์ เหลือบเห็น ดาริส, ดาริส เองก็หันมาเห็น ลิงค์, ที่กำลังสวมผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงินหมึกที่มีเส้นสีเงินประดับอยู่, กำลังนั่งอยู่ในรถม้าที่สวยงาม

 

มีแค่นักเวทย์เลเวล 4 หรือสูงกว่าเท่านั้นที่สามารถสวมผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงินหมึกได้ ส่วนเส้นสีเงินบนแบบของผ้าคลุมนี้ก็ละเอียดอ่อนและสวยงามและวัสดุของผ้าคลุมก็เบาและสบาย และผ้าคลุมนี้ยังได้รับการปกป้องจากเวทย์บาเรียป้องกันเลเวล 2 ด้วย

 

จากนั้น, ดาริส ก็มองไปที่ข้างๆของ ลิงค์ และเห็นว่าเขามากับเด็กสาวน่ารักคนนึงที่ดูบริสุทธิ์และใสซื่อมากจนไม่ว่าจะเป็นชายใดก็อยากจะโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนของพวกเขา ความเหลื่อมล้ำในโชคชะตาระหว่างพวกเขาทั้งคู่ทำให้หัวใจของ ดาริส เต็มไปด้วยความเจ็บปวดอันขมขื่น

 

“ฉันขอสาปแช่งให้แกตายไปอย่างทุกข์ทรมาน!” เขาตะโกน, ดวงตาของเขามีเส้นเลือดปูดขึ้นมาด้วยความเกลียดชังขณะที่เขาจ้องตรงไปที่ ลิงค์

 

ลิงค์ ส่ายหัวให้กับภาพอันน่าสงสารที่อยู่เบื้องหน้าเขา เขาไม่ได้คิดอะไรกับมัน, เพราะมันเป็นแค่การคร่ำครวญครั้งสุดท้ายของชายที่สูญเสียทุกอย่างไป ลิงค์ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาต่อและกลับไปอ่านสมุด

 

ในด้านของ ไรไล นั้นเธอรู้สึกตกใจอย่างมากกับฉากนี้, และเธอเองก็ต้องการจะสืบว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“อาจารย์คะ” เธอเริ่มเกริ่น, และระวังไม่ให้ไปทำ ลิงค์ โกรธ “ทำไมเขาถึงดูเกลียดท่านขนาดนั้นหล่ะคะ?”

 

“ไม่ต้องไปสนใจเขาหรอก” ลิงค์ พูดพร้อมกับยิ้ม, “อีกไม่นานเขาก็ตายแล้ว”

 

นักเวทย์ที่ถูกถอนพลังเวทย์มนตร์ออกและถูกพิจารณาว่าฆ่าคนธรรมดาจะไม่สามารถหนีจากโทษประหารได้เพราะผู้คนกลัวพลังที่นักเวทย์ครอบครองอยู่ พอนักเวทย์ถูกพบว่ามีความผิดฐานฆาตกรรม, ศาลแพ่งจะไม่ไว้ชีวิตเขาเพราะกลัวว่าเขาอาจจะพยายามทำความผิดซ้ำอีกด้วยพลังที่เหลืออยู่ของเขา

 

ต่อให้ ดาริส ไม่ถูกตัดสินโทษตาย ณ จุดนั้น, แต่ ลิงค์ ก็มั่นใจว่าเขาจะถูกฆ่าอย่างลับๆหลังจากนั้น เพราะไม่มีทางที่ศาลจะให้โอกาสใดๆกับเขา

 

และแล้ว, รถม้าคุมขังและรถม้าสวยงามก็วิ่งสวนกัน, แต่ละคันกำลังแบบรับผู้โดยสารของพวกมันไปยังโชคชะตาที่แตกต่างกัน

 

รถม้าคุมขังของ ดาริส มุ่งหน้าต่อไป แม้ว่า ดาริส จะเพิ่งตะโกนสาปแช่ง ลิงค์, แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขาไขว้เขวจากความจริงที่ว่าความกลัวของเขากำลังฝังลึกลงไปขณะที่รถม้าคุมขังกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองริเวอร์โควฟ

 

ไอพวกสามัญชนไม่มีทางปล่อยฉันแน่ ฉันจะต้องตาย, ฉันต้องตายแน่ๆ, ฉันอายุแค่ 30 ปีเองนะ! โอ้เทพแห่งแสง, ทำไมท่านถึงทอดทิ้งข้าแบบนี้หล่ะ? โอ้พระเจ้า… พอถึงจุดนี้ ดาริส แทบจะทรุดตัวลง

 

ตอนนี้พวกเขามาถึงประตูตะวันออกของเมืองริเวอร์โควฟแล้วและยอดของหอคอยเฝ้าระวังฝั่งตะวันออกก็อยู่ในระยะสายตาในตอนนี้ เวลาผ่านไปแค่สิบนาทีเท่านั้นแล้วพวกเขาก็ได้เข้าไปในประตูเมือง

 

“นี่, อาร์มอน, ไม่สนใจปล่อยฉันไปหน่อยหรอ?” ดาริส ร้องขอ “ฉันจะให้นาย 100 เหรียญทองถ้านายปล่อยฉันไป ฉันมีเงินนะ;ฉันสาบานว่าฉันจะให้ เพราะฉะนั้นขอร้องหล่ะนะ อาร์มอน…”

 

คนขับรถม้าเขม่นตาขณะที่เขาจ้องไปที่ ดาริส ด้วยความดูถูก

 

“ยอมซะเถอะ, ดาริส นายไม่เข้าใจเลยรึไง? ก็ได้, ฉันจะบอกความจริงให้ฟัง คนขับรถม้าที่แกฆ่าไปชื่อว่า เอดดี้; เขาเป็นพี่ชายของฉัน, พี่ชายของฉันเอง!”

 

ดาริส เกือบจะหัวใจวายตายและเขาก็ชาไปทั่งตัวเพราะเขาตระหนักได้ว่าความหวังทั้งหมดของเขาได้จากไปแล้ว แต่ว่าหลังจากนั้น, เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น!

 

รถม้ากำลังจะเข้ามุมแหลมตรงฝั่งถนนที่มีต้นไม้หนาทึบมากๆทั้งสองฝั่ง แต่พอรถม้ากำลังจะเลี้ยว, ก็มีเงาตะคุ่มๆออกมาจากป่าอย่างกระทันหัน

 

ความเร็วของเงานั้นราวกับลมกรรโชกเพราะเขาตัวหมุนอยู่ในรถม้าคุมขัง ในเวลาไม่กี่วินาทีต่อมา, นักรบเลเวล 2 สี่คนที่คอยอารักขารถม้าก็ล้มตายกันหมด ในช่วงเวลาสั้นๆหลักจากนั้น, เงาสีดำก็มาถึงตัวคนขับรถม้าและก่อนที่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น, คนขับรถม้าก็ล้มลงขณะที่จับคอของเขาเอาไว้ มือของเขาหลุดออกไปในตอนทีเขากระแทกกับพื้น, เห็นได้ว่ามีรอยฟันที่คอของเขาพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากมัน

 

ในที่สุด, เงาสีดำก็มาถึงตัว ดาริส ด้วยเสียงปังกับเคร้ง, ประตูรถม้าก็เปิดออก เพียงแค่นั้น ดาริส ก็เห็นรูปร่างของเงานั้นอย่างชัดเจน—เขาสวมเกราะหนังสือน้ำตาลและใบหน้าของเขาก็สวมหน้ากากเอาไว้, เผยให้เห็นแค่ดวงตาสีแดงของเขาเท่านั้น

 

“แกเป็นดาร์คเอลฟ์นี่!” ดาริส อุทานขึ้นมา เขาถอยจากเงาดำนั้นตามสัญชาติญาณ เพราะยังไงซะมนุษย์กับดาร์คเอลฟ์ก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน ในความเป็นจริง, อาณาจักรนอร์ตันในตอนนี้กำลังเตรียมตัวที่จะทำสงครามกับอาณาจักรดาร์คเอลฟ์ พาลิค ในป่าแบล็คฟอเรส

 

“แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อหรอ?” ดาร์คเอลฟ์ถามขณะที่เขาจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของ ดาริส

 

“แน่นอนว่าอยากสิ!” ดาริส พูดขณะที่เขาพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

 

เขาคิดว่าเขาไม่กลัวความตายอีกต่อไปแล้ว แต่พอเขามาใกล้กับช่วงเวลาที่เขาจะถูกตัดสินโทษตาย, ความปราถนาที่จะมีชีวิตอยู่ของเขาก็แน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ ทั้งหมดที่เขาต้องการในตอนนี้ก็คือมีชีวตอยู่ต่อไป—เขายอมทำทุกๆอย่างเพื่อแลกกับชีวิตของเขา, แม้ว่ามันจะหมายถึงการทรยศเผ่าพันธ์ของเขาและให้ความร่วมมือกับดาร์คเอลฟ์ก็ตาม

 

ตราบเท่าที่ฉันยังมีชีวิตอยู่!

 

“ดี!” เงาพูด คนประเภทที่ไม่ต้องการอะไรไปมากกว่าช่วยชีวิตของพวกเขานั้นเป็นประเภทที่เขาชอบทำงานด้วยตลอด!

 

เขาดึง ดาริส ออกมาจากรถม้า ก่อนที่เขาจะจากไป, เขาหยิบคำภีร์เวทย์มนตร์ออกมา, เปิดใช้มันซะแล้วโยนมันไปทางรถม้า จากนั้น, ภายใต้แสงสีเขียวทึบ, รถม้าทั้งคันก็สลายกลายเป็นทรายสีขาวในทันที

 

 

จากนั้น, เงาก็อุ้ม ดาริส เข้าไปในป่าเกอร์เวนท์อันหนาทึบ เขาเดินผ่านป่าเป็นเวลาครึ่งชั่วโมงโดยไม่หยุดพักเลย, ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความอึดอันน่าอัศจรรย์ของเขา

 

ในที่สุด, พวกเขาก็มาถึงที่โล่งที่มีเงาที่สวมเสื้อคลุมขนาดใหญ่อีกคนกำลังยืนอยู่—เสื้อคลุมปกคลุมใบหน้าส่วนใหญ่ของเขา คทาในมือของเขาแสดงให้เห็นตัวตนของเขาในฐานะนักเวทย์

 

พอได้ยินการมาถึงที่เงียบเชียบของพวกเขา, เงาก็หันมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เจ้าคือ ดาริส ใช่ไหม?”

 

“นั่นฉันเอง” ดาริส พูดขณะที่เขาหายใจเข้าลึกๆและพยายามที่จะทำใจให้เย็นลง เขาเชื่อว่าคนพวกนี้จะไม่ทำอันตรายกับเขา, ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะไม่ฝ่าปัญหามามากขนาดนี้เพื่อช่วยเหลือเขา

 

“บอกข้ามาสิ, เจ้าคุ้นเคยกับโครงสร้างภายในของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟมากแค่ไหน?” เงาที่สวมผ้าคลุมถาม

 

ดาริส เงียบไปพักนึง คำถามนี้บ่งบอกว่าคนพวกนี้กำลังพยายามที่จะโจมตีสถาบัน ซึ่งมันค่อนข้างจะมั่นใจได้ว่าพวกเขาคือดาร์คเอลฟ์

 

“ฉันอยู่ที่นั่นมา 13 ปี” ดาริส ตอบกลับ “ฉันสามารถไปทุกๆที่ในสถาบันได้ตามที่ฉันต้องการต่อให้ฉันหลับตาก็ตาม”

 

“ยอดเยี่ยม! แล้วเจ้าต้องการจะแก้แค้นไหม?” ดาร์คเอลฟ์ ถามอีกครั้ง

 

“ยิ่งกว่าอะไรเสียอีก!” ดาริส ตอบกลับไปในทันที ภาพของบุคคลที่ดูสูงส่งและเย่อหยิ่งในรถม้าผุดขึ้นมาในหัวของเขาในตอนนี้ เขาจำได้ว่าคนๆนั้นกำลังนั้งอยู่ในรถม้าที่สวยงามอย่างสบายใจพร้อมกับคนใช้น่ารักข้างๆเขา และกำลังมุ่งหน้าไปหาความรุ่งโรจน์และชื่อเสียง, ขณะที่มองลงมาที่เขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

 

ขณะที่เขาหวนรำลึกถึงฉากนั้น, เปลวไฟแห่งความโกรธก็ลุกไหม้ในท้องของ ดาริส อย่างรุนแรงและเขาก็รู้สึกว่ามันรุนแรงมากจนร่างกายของเขาสั่นสะท้าน

 

ฉันจะชำระหนี้แค้นของฉัน! ไม่มีอะไรที่ฉันให้ไม่ได้เพื่อที่จะฆ่าไอสวะนั่นด้วยมือของฉันเอง!

 

“ดี” เงาพูด “มานาของเจ้าถูกกักขังเอาไว้อย่างสมบูรณ์และข้าก็ไม่สามารถคืนสภาพให้ได้ซึ่งนับว่าโชคร้ายจริงๆ, แต่สภานักเวทย์ซิลเวอร์มูนทำได้นะ ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้าแล้วข้าจะยกเงินให้เจ้า 1,000 เหรียญทองเป็นรางวัล จากนั้นเจ้าก็สามารถเอาเหรียญทองกลับไปที่ป่าแบล็คฟอเรสที่ที่เจ้าจะได้พบกับคนที่จะพาเจ้าไปยังสภานักเวทย์ซิลเวอร์มูนได้ ที่นั่น, พวกเขาจะช่วยเจ้าฟื้นพลังของเจ้าแล้วจากนั้นเจ้าก็จะสามารถกลับมาจัดการหนี้แค้นของเจ้าได้ แล้วเจ้าจะช่วยข้าไหม?”

 

“แน่นอน” ดาริส ตอบตกลงโดยไม่มีความลังเลใดๆเลย

 

“ยอดเยี่ยม” ดาร์คเอลฟ์นักเวทย์พูด “ถ้างั้น, ข้าต้องการรายละเอียดโครงสร้างการป้องกันภายในของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ, รวมทั้งระยะและขอบเขตของดวงตาสอดส่อง, กฏทั้งหมดและรหัสผ่านโดยไม่ละเว้นแม้แต่อย่างเดียว เจ้าสามารถบอกข้อมูลพวกนั้นกับข้าได้ไหม?”

 

“ขอเวลาฉันวันนึง” ดาริส ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น ในฐานะที่เป็นนักเวทย์เลเวล 4, อัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับ, และหัวหน้านักเรียนของจอมเวทย์ เบล, เขาจึงได้รับอำนาจมหาศาลในสถาบัน เขารู้ทุกๆเรื่องที่ดาร์คเอลฟ์ต้องการทราบอย่างละเอียดถี่ถ้วน!

 

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset