เช้าวันต่อมา, เดเร็ค ได้ประกาศออกมาว่า ลิงค์ จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างคำภีร์ด้วยสีหน้าที่เบิกบาน
เขาไต่ระดับขึ้นมาสูงขึ้นเล็กน้อยนับตั้งแต่ที่เขาได้กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 3 อย่างเป็นทางการ ลิงค์ เองก็ได้แสดงพรสวรรค์ของเขาในการเขียนคำภีร์ แม้แต่ วอร์วิค, ที่กำลังจะออกจากหอคอยเวทย์มนตร์, ก็ยังแนะนำให้แต่งตั้ง ลิงค์ เป็นตัวแทนของเขา
ดังนั้น, แม้ว่าจะมีคนคัดค้านอยู่บ้าง, แต่การแต่งตั้งก็ค่อนข้างที่จะราบลื่น
จากนั้น วอร์วิค ก็ส่งมอบหน้าที่ความรับผิดชอบทั้งหมดของเขาให้กับ ลิงค์
ขณะที่ วอร์วิค อธิบายงาน, ลิงค์ ก็ได้รู้ผลประโยชน์สองอย่างที่เขาจะได้รับ
อย่างแรกคือลิสท์รายชื่อที่เขากำลังจะได้รับ เขาจะสามารถติดต่อประสานงานกับพ่อค้าคำภีร์เวทย์มนตร์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านบุคคลที่สาม ซึ่งนี่คงจะช่วยเขาได้อย่างมากสำหรับแผนการในอนาคตของเขาในการหาเหรียญทองเพิ่มขึ้น
อย่างที่สองก็คือ, เขาจะมีหน้าที่รับผิดชอบในการซื้อวัตถุดิบสำหรับการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ ซึ่งนี่รวมทั้งหอคอยเวททย์มนตร์ทั้งหมดจากวัสดุพื้นฐานไปจนถึงวัสดุคุณภาพสูง! นักเวทย์เต็มตัวมักจะหยิ่งเกินกว่าที่จะมาข้องเกี่ยวกับธุระแบบนี้ ดังนั้น, พวกเขาจึงมักจะให้นักเวทย์ที่น่าเชื่อถือที่มาสถานะต่ำกว่าเป็นคนจัดการ
จากรายการพวกนี้, ลิงค์ ได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับหอคอยเวทย์มนตร์
หลังจากที่ วอร์วิค อธิบายจบ, ลิงค์ ก็นั่งลงและเริ่มตรวจสอบการซื้อขายที่ผ่านมาของหอคอยเวทย์มนตร์ พวกมันได้ถูกบันทึกรายละเอียดเอาไว้มากมายลงไปในสมุดบันทึกเล่มหนาๆ
เขาพิจารณาแต่ละหน้าและพบสิ่งที่เขากำลังตามหาภายในเวลาไม่กี่นาที
วอร์วิค ซื้อหนังวัวทาริค 30 แผ่นเป็นจำนวนรวมทั้งหมดของสามครั้งในช่วง 50 วันที่ผ่านมานี้ หนังชนิดนี้ใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์เลเวล 5 และสูงกว่าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม, จำนวนของหนังวัวทาริคที่หอคอยเวทย์มนตร์ซื้อไปนั้นดูไม่ปกติเลย
คำภีร์เวทย์มนตร์ระดับสูงต้อองการพลังเวทย์จำนวนมากและสร้างยากมากๆ นักเวทย์เลเวล 6 สามารถสร้างได้แค่แผ่นเดียวเท่านั้นในช่วงเวลาหนึ่งเดือน เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความจำเป็นเลยที่จะซื้อพวกมัน 30 แผ่นในทุกๆเดือน
ถ้าพวกมันถูกใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์จริงๆ, ก็คงจะมีจำนวนคำภีร์เวทย์มนตร์ที่บ้ามากๆในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เบล อย่างไรก็ตาม, เห็นได้ชัดว่า เบล ไม่ได้มีเรี่ยวแรงและเวลาในการสร้างคำภีร์พวกนี้
ถ้างั้นทำไม เบล ถึงสั่งหนังวัวทาริคมามากขนาดนี้หล่ะ? วอร์วิค อาจจะไม่รู้แต่ ลิงค์ มั่นใจว่าเขารู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น
การผลิตหนังวัวทาริคนั้นเกิดขึ้นที่ที่ราบทาริคทางตะวันตก หนังพวกนี้มาจากสัตว์เวทย์มนตร์พื้นเมืองในพื้นที่แถบนั้น เหตุที่มันถูกเรียกว่าหนังวัวก็เพราะหน้าตาของมัน, ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับวัวเลย
สัตว์เวทย์มนตร์พวกนี้มีความสัมพันธ์กับน้ำและทนต่อภัยแล้งและน้ำท่วม หนังของพวกมันโดยหลักๆแล้วจะใช้ในการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์ระดับสูง, แม้ว่าสะสารบางอย่างจะสามารถสกัดได้จากผิวหนังของพวกมันก็ตาม อย่างไรก็ตาม, การใช้งานแบบหลังนั้นไม่ได้เป็นที่รู้จักกันและไม่ค่อยได้ใช้กันด้วย
สะสารที่ว่าเป็นที่รู้จักกันในชื่อกาวแห่งความตาย; มันถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในเวทย์มนตร์ปลุกชีพเพื่อปะติดปะต่อร่างกายส่วนต่างๆเข้าด้วยกัน
แม้ว่าหนังวัวทาริคจะผ่านกรรมวิธีทางการเล่นแร่แปรธาตุมาแล้ว, แต่กาวแห่งความตายก็ยังสามารถสกัดออกมาจากมันได้!
เขาลงความเห็นได้ว่า เบล กำลังทดลองกับเวทย์มนตร์แห่งความมืดตั้งแต่ตอนที่เห็นรากวิญญาณป่าเงียบสงบในห้องของ เดเร็ค แล้ว อย่างไรก็ตาม, ด้วยหลักฐานชิ้นนี้, เขาสามารถทำให้มันแคบลงไปอีกโดยการลงความเห็นว่าเวทย์มนตร์ที่ เบล กำลังทดลองอยู่นั้นคือเวทย์ปลุกชีพ!
“เบล, นายอยากจะเป็นอมตะจริงๆสินะ! ช่างโง่อะไรอย่างนี้!” ลิงค์ ปิดหนังสืออย่างสุภาพแล้วเยาะเย้ย
วิธีเดียวที่จะกลายเป็มอมตะก็คือกลายเป็นพระเจ้า! เส้นทางอื่นๆจะทำให้เกิดการทำลายของจิตวิญญาณอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่นั่นก็เว้นแต่ว่าสงครามระหว่างแสงสว่างและความมืดจะจบลงด้วยชัยชนะของฝ่ายความมืดและโลกตกอยู่ในการควบคุมของเทพแห่งความมืด มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้หมอผีมีโอกาสได้เจิดจรัส
เบล ไม่มีเวลารอจนถึงตอนนั้นได้อย่างเห็นได้ชัด เขาเองก็ไม่สามารถบอกอนาคตได้ พอคิดว่าเขาจะละทิ้งทุกๆสิ่งแล้วเดินบนเส้นทางแห่งความมืด, รวมถึงการพยายามปิดบังร่องรอยของเขาด้วยวิธีเด็กๆพวกนี้! ช่างโง่อะไรอย่างนี้!
ลิงค์ ทำความสะอาดโต๊ะของเขาก่อนที่จะแจ้งกับ แมต “ฉันจะออกไปข้างนอกสักชั่วโมงนึงนะ”
“เข้าใจแล้ว” แมต ตอบกลับ
ยังไงซะ, พวกเขาก็ไม่ใช่ทาสและได้รับอนุญาติให้เดินทั่วสถาบันได้อย่างอิสระ
ลิงค์ เป็นคนที่ระมัดระวัง เพื่อที่จะไม่เพิ่มความสงสัย, ขั้นแรกเขาจึงนำสมุดกลับไปที่ห้องของเขาและซ่อนมันในจี้เก็บของของเขา จากนั้นเขาก็เดินออกจากหอคอยเวทย์มนตร์ด้วยมือเปล่าและเดินเล่นอยู่รอบๆจตุรัสเหมือนคนปกติก่อนที่จะหยุดอยู่หน้าหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า
เขาได้รับอนุญาติให้เขาพบในสิบนาทีต่อมา
“ฉันพบหลักฐานแล้ว”
ลิงค์ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาแล้วหยิบสมุดที่เขาซ่อนอยู่ในจี้เก็บของออกมา
เอร์เรร่า มองสมุดแล้วถาม “มันก็ดูปกติดีนี่, เว้นแต่การซื้อวัสดุทำคำภีร์ที่มีคุณภาพสูงเกินไป นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?”
ในสายตาของนักเวทย์ธรรมดาๆทั่วไป, เวทย์มนตร์ปลุกชีพนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม—นักเวทย์ไม่ได้รับอนุญาติให้ไปยุ่งกับมันเลยด้วยซ้ำ, ไม่ต้องพูดถึงการทดลองอะไรบางอย่างที่อันตรายเลย
แม้ว่าการรู้จักศัตรูนั้นจะเป็นยุทธวิธีที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย, แต่ความล่อตาล่อใจของเวทย์มนตร์ปลุกชีพนั้นรุนแรงเกินไป และนี่จะรุนแรงมากเป็นพิเศษสำหรับผู้ที่แข็งแกร่ง, รวมทั้งนักเวทย์แก่ๆเองก็พบว่ามันยากที่จะต่อต้านความยั่วยวนของความเป็นอมตะ ดังนั้นนักเวทย์จึงต้องแบนการใช้เวทย์มนตร์นี้อย่างสมบูรณ์
แม้แต่ เอร์เรร่า ที่เป็นนางฟ้าแห่งแสงที่ตื่นขึ้นมา, ก็ยังมีความรู้ทางด้านเวทย์มนตร์จำกัดแค่สิ่งที่เธอเรียนรู้มาในช่วงที่อยู่ในดินแดนมนุษย์เท่านั้น ดังนั้นเธอจึงไม่มีความรู้ในเรื่องเวทย์มนตร์ปลุกชีพและไม่รู้การใช้งานอีกวิธีนึงของหนังวัวทาริค
ลิงค์ ชี้ไปที่การซื้อหนังวัวทาริคบนสมุดแล้วพูด “ปัญหาก็คือนี่นั่นแหล่ะ!”
“มันคืออะไร? มันพิเศษขนาดนั้นเลยหรอ?” เอร์เรร่า ถาม ดวงตาของเธอจดจ่ออยู่กับ ลิงค์, เธอสับสนกับชนิดของปัญหาที่ ลิงค์ พบ
ลิงค์ พูดไม่ออก จากความรู้ของเขา, เขาควรจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ปลุกชีพ ความจริงที่ว่าเขารู้ข้อมูลพวกนี้อธิบายได้แค่อย่างเดียวเท่านั้น, นั่นก็คือเขาเคยอ่านหนังสือเวทย์มนตร์แห่งความมืด
ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างแน่นอน
ลิงค์ มีความคิดผุดขึ้นมาในทันที เขาอธิบายความพิเศษของหนังวัวทาริคอย่างใจเย็น, กาวแห่งความตายและความจริงที่ว่ากาวสามารถสกัดจากหนังชนิดนี้ได้แม้ว่ามันจะผ่านกระบวนการมาแล้วก็ตาม ซึ่งเขาอธิบายละเอียดมาก
ตามที่คาดเอาไว้, เอร์เรร่า ถาม “เธอรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?”
“เทพแห่งแสงบอกฉัน” ลิงค์ ใช้ไพ่ตายของเขา
“ฉันเข้าใจแล้ว” เอร์เรร่า ยอมเชื่อเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อของเขา!
ถ้าเป็นนักเวทย์คนอื่นๆ, ลิงค์ คงจะล่วงคาที่ไปแล้ว เพราะยังไงซะ, ใครจะไปเชื่อเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างการที่พระเจ้าประทานความรู้ให้กับคนธรรมดากันหล่ะ อย่างไรก็ตาม, เอร์เรร่า เป็นนางฟ้าแห่งแสงและเธอก็เชื่ออย่างเต็มที่ว่า ลิงค์ เป็นผู้ที่ถูกเลือก ไม่มีเรื่องที่น่าตกใจอะไรสำหรับการที่พระเจ้าจะมอบความรู้ให้กับผู้ที่ถูกเลือก
เอร์เรร่า ยังคงมีปัญหา “แต่ฉันไม่สามารถรายงานมันให้กับมาสเตอร์ แอนโทนี่ ได้ เขารู้ว่าฉันไม่มีความรู้ทางด้านเวทย์มนตร์แห่งความมืดเลย เขาจะสงสัยเธออย่างแน่นอน แล้วเขาก็คงจะไม่เชื่อเรื่องการที่พระเจ้ามอบความรู้ให้หรอก”
ลิงค์ มีความคิดดีๆ “นั่นมันง่ายมาก, คุณก็ไปเผชิญหน้ากับ เบล แล้วเปิดเผยความลับของเขาซะสิ หลังจากนั้นเขาก็คงจะลุกลี้ลุกลน, ทำให้เกิดความผิดพลาดมากขึ้นและในที่สุด, หลักฐานที่เป็นชิ้นเป็นอันในการทดลองเวทย์มนตร์แห่งความมืดของเขาก็จะเปิดเผยออกมา ซึ่งข้อเสียเดียวของแผนการนี้ก็คือความเสี่ยงของมัน มีโอกาสสูงมากที่ เบล จะปิดปากพวกเราเพื่อให้การทดลองของเขาสำเร็จ”
เอร์เรร่า หัวเราะออกมา “ฆ่าฉันหรอ? นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก ระดับเวทย์มนตร์ของฉันอาจจะต่ำกว่า, แต่เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอย่างแน่นอน”
เลเวลของนักเวทย์นั้นควรจะฟังหูไว้หูเอาไว้ในการต่อสู้ ถ้านักเวทย์เลเวล 1 สามารถร่ายเวทย์มนตร์ได้เร็วพอและมีการรับรู้ในการต่อสู้ที่ดี เขาก็สามารถฉีกกระชากหัวใจของนักเวทย์ที่แข็งแกร่งได้ด้วยเวทย์มนตร์เลเวล 1 หนามน้ำแข็ง
ถ้า เอร์เรร่า มั่นใจขนาดนั้น, ก็แสดงว่าเธอต้องมีเวทย์มนตร์ขั้นสุดยอดเป็นไพ่ตายในมือของเธอแน่
“แล้วคุณคิดว่ายังไง?” ลิงค์ ถาม
“เวลามันกระชั้นชิดแล้ว, ฉันจะแก้ปัญหาตอนนี้เลย” เอร์เรร่า เห็นด้วยและคว้าคทาไพลินของเธอ, เตรียมที่จะไปเผชิญหน้ากับ เบล
“เดี๋ยวก่อนสิ” ลิงค์ พูด
“มีปัญหาอะไรหรอ?”
“พวกเรารออีกสักสิบวันได้ไหม?” ลิงค์ ขอคำขอแปลกๆขึ้นมา
“ทำไมหล่ะ?” เอร์เรร่า สับสน
“ฉันจะฟื้นฟูจากสภาพอ่อนแอของฉันในอีกห้าวัน, และฉันต้องการอีกห้าวันในการฟื้นพลังของฉันให้เต็ม แล้วหลังจากนั้น, ฉันก็จะมีพลังมากพอที่จะช่วยคุณในการต่อสู้ นอกจากนี้, พวกเราก็อาจจะพบหลักฐานใหม่ในช่วงไม่กี่วันหลังจากนี้ก็ได้ คุณว่ายังไง?”
แม้ว่า เอร์เรร่า จะมั่นใจ, แต่เธอก็กำลังจะไปล่วงล้ำอาณาเขตบ้านของคนอื่น มันจะปลอดภัยกว่าถ้าเดินทางไปกับผู้ช่วยที่ไว้ใจได้
เอร์เรร่า คิดอยู่ครู่นึงแล้วพยักหน้า “ก็ได้, สิบวันนะ”
เอร์เรร่า ไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น เธอทำการค้นคว้าพื้นเพของ ลิงค์ มาแล้ว และรู้ว่าเขาเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งในการต่อสู้ เธอคงจะมั่นใจมากขึ้นถ้ามีเขาอยู่ข้างๆ