หลังจากนักศึกษาวิทยาลัยลั่วเสินเจอเหตุการณ์การยกเลิกการประลองอย่างกะทันหัน ก็ได้รู้ข่าวเรื่องครูประจำสาขาคนใหม่ ที่ไม่ได้ไปแทนที่ใครแต่เป็นการเพิ่มสาขาวิชาขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งวิชาเลย
แต่เดิมที่ชั้นปีหนึ่งของวิทยาลัยจะไม่มีวิชาต่อสู้ภาคปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะเรียนทฤษฎีทั่วไป เช่นการทำความเข้าใจโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ หรือวิธีการโจมตีให้ถึงฆาตในครั้งเดียว ตอนแรกทุกคนคิดว่าสาขาการต่อสู้คงจะเรียนเรื่องตีรันฟันแทง แต่กลับว่าไม่ใช่ เครือข่ายฟ้าดินวางแผนให้พวกเขาเริ่มเรียนรู้จากทฤษฎีให้แน่นเสียก่อน
แต่อยู่ๆ ก็เปิดหลักสูตร “การสอนเชิงปฏิบัติ” ขึ้นและการแนะนำเนื้อหาหลักสูตรเป็นประโยคง่ายๆ เพียงไม่กี่ประโยค “สอนทักษะการต่อสู้ภาคปฏิบัติ สอนวิธีรับมือกับผู้ปะทุพลังในรูปแบบต่างๆ และสอนวิธีการประสานงานเป็นทีม”
หลักสูตรนี้กำหนดให้สาขาการต่อสู้ต้องเข้าเรียน สาขาอื่นสามารถเลือกลงเรียนได้
นี่ยังไม่เท่าไหร่ พอทุกคนได้เห็นอาจารย์ประจำวิชาก็งงกันเป็นแถว “นี่ไม่ใช่ใต้เท้าหลี่ว์เหรอ”
“เฮ้ย คงไม่ใช่เครือข่ายฟ้าดินคิดว่าใต้เท้าหลี่ว์มีความสามารถ เลยให้เขาเป็นอาจารย์เสียเลยหรอกนะ”
“คนรุ่นราวคราวเดียวกันได้เป็นอาจารย์ “
ทันใดนั้นมีคนจากสาขาการต่อสู้พูดเซ็งๆ ว่า “ฉันแค่เป็นห่วงเวลาเข้าเรียนเขาก็เกิดปัญหาเรื่องความปลอดภัยของชีวิตหรือเปล่า”
ประวัติอันมืดมนของใต้เท้าหลี่ว์ถูกหลิวหลี่เปิดโปงจนหมดแล้ว ต่อมาก็มีนักเรียนที่เคยถูกหลี่ว์ซู่แกล้งตอนที่โบราณสถานทะเลสาบเกลือที่ชิงโจวมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีก
ตอนนี้ใต้เท้าหลี่ว์เกือบเปลี่ยนเป็นจอมมารแล้ว ชนิดที่แค่เอ่ยชื่อก็ทำให้เด็กร้องไห้ได้แล้ว
แต่เรื่องล้อเล่นก็ส่วนเรื่องล้อเล่น ทุกคนรู้ว่าความแข็งแกร่งของหลี่ว์ซู่นั้นไม่เป็นที่สงสัย เหมาะสมมากที่ใช้ประสบการณ์ของหลี่ว์ซู่จะสอนการต่อสู้ภาคปฏิบัติเพราะเขาผ่านการต่อสู้มากหลายต่อหลายครั้ง
ส่วนเรื่องประงาน เหตุการณ์ที่ระลอกทองแดงก็โด่งดังไปทั่ว ถึงทุกคนจะรู้ว่าในตอนนั้นพลังของหลี่ว์ซู่แข็งแกร่งมาก เรียกได้ว่าที่ระลอกทองแดงไม่มีที่ไหนที่เขาไปแล้วมีอุปสรรคขวางกั้น หลี่ว์ซู่มีพรสวรรค์ด้านการสั่งการไหมก็ไม่ใช่ แต่เรื่องชื่อเสียของเขา ทุกคนจึงคิดว่าให้เขาสอนก็เหมาะแล้ว
“ฉันคิดว่าทุกคนควรจะรีบเปลี่ยนไปเรียกเขาว่าอาจารย์หลี่ว์นะ ไม่อย่างนั้นถ้าเผลอเรียกเขาว่าใต้เท้าหลี่ว์ พวกเราอาจจะหนาว…”
“ใช่ๆๆ ”
“ว่าแต่เริ่มเรียนเมื่อไหร่นะ ไม่ได้บอกไว้นี่”
ในตอนนั้นเองก็มีเห็นคอรัลเข้ามาในสนามฝึก ตอนนี้คอรัลเพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมสุสานของหลิวซิว เรื่องนี้เนี่ยถิง ให้ความสนใจตลอดเส้นทางและก็เพราะเรื่องนี้ทำให้เนี่ยถิงสงสัยเรื่องข่าวลือเรื่องความจำเสื่อมของคอรัล
คอรัลหันมามองทุกคน “คุยอะไรกันทำไมดูคึกคักจัง”
“หลี่ว์ลั่ว มาแล้วเหรอ” ใครบางคนพูดทักขึ้น
คอรัลมาที่นี่โดยไม่ระบุตัวตน เว็บไซต์ของเครือข่ายฟ้าดินบอกเพียงว่าเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน แต่ไม่เปิดเผยตัวตนของเธอเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น ในแง่หนึ่งประมุขเทพมาเป็นนักเรียนของเครือข่ายฟ้าดิน ข่าวแพร่ออกไปแล้วฟังดูน่าดีใจแต่เครือข่ายฟ้าดินก็ไม่ได้บ้าพอที่จะรับนักศึกษาระดับ A
อีกด้านหนึ่งระดับ A ของคอรัลเองมีแนวโน้มที่จะผลกระทบในวิทยาลัยได้ง่ายและคอรัลเองก็ไม่ต้องการที่จะมีคนมาอวยเธอทุกวัน
ภาพของคอรัลก็ไม่ได้ปรากฏต่อสายตาสาธารณชน ดังนั้นเมื่อเธอปรากฏตัวในฐานะหลี่ว์ลั่ว คนอื่นก็ไม่ได้คิดอะไร เธอตั้งชื่อนี้ให้ตัวเองและเลือกนามสกุลจีนเพื่อเข้าเมืองตาหลิ่วให้หลิ่วตาตาม
เมื่อเธอบอกว่าเธอจะชื่อหลี่ว์ลั่ว เนี่ยถิงก็อึ้งไปนาน
ตอนนี้ชื่อคอรัลของเธอมีตัวคำว่า “ลั่ว” และด้วยใบหน้าที่งดงามของเธอ นักศึกษาจึงแอบๆ เรียกเธอว่าลั่วเสิน ลั่วเสินจากวิทยาลัยลั่วเสิน
ตำนานกล่าวว่าลั่วเสินเป็นนางฟ้าที่งามที่สุดตั้งแต่โบราณกาลจนถึงปัจจุบัน ถึงทุกคนจะเรียกคอรัลว่าลั่วเสินด้วยการล้อเล่นแต่ก็พอจินตนาการออกว่าเธอเป็นบุคคลแบบไหนในใจของหมู่นักศึกษา โดยเฉพาะหญิงสาวชาวต่างชาติที่พูดภาษาจีนได้ดีมาก
บางคนเคยสงสัยว่าหลี่ว์ลั่วคือคอรัลในตำนาน แต่ทุกคนก็ไม่มีอะไรมายืนยันได้และคอรัลก็ใช้พลังในชีวิตประจำวันให้เหมือนระดับ C ทั่วๆ ไป ในสนามฝึกซ้อมก็มีอุปกรณ์ทดสอบต่างๆ ด้วย
แต่ก็ยังมีคนเคลือบแคลงและก็มีคนเลิกสงสัยไป
มีคนเคยถามคอรัลว่าทำไมเธอถึงพูดภาษาจีนได้ดีขนาดนี้ คอรัลยิ้มและไม่ตอบคำถามนี้ แต่สีหน้าขวยเขินของเธอทำเอาทุกคนอดสงสัยไม่ได้ว่าเรื่องอะไรกันแน่
“เมื่อกี้พวกนายคุยอะไรกันเหรอ” คอรัลยิ้ม
“พวกเราเพิ่งได้รับแจ้งว่าท่านใต้เท้าหลี่ว์จะมาเป็นอาจารย์พวกเราสอนวิชาการต่อสู้ภาคปฏิบัติ” มีคนบ่น “ดูท่าพวกเราต้องถูกทรมานแน่ๆ “
หลังจากที่คอรัลได้ยินเรื่องนี้ก็ตกใจ “ใต้เท้าหลี่ว์คือใคร”
“หลี่ว์ซู่จากสาขาวิจัยสายพันธุ์คนนั้นไง แต่หลี่ว์ลั่วอาจจะไม่รู้จัก ฮ่าๆ ว่าแต่นามสกุลเธอก็บ้านเดียวกับเขานะ” มีคนหัวเราะและพูดแซวแต่พวกเขาหัวเราะอยู่ก็มีคนเอาศอกกระทุ้งเบาๆ ทุกคนสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติกับ “หลี่ว์ลั่ว”
ท่ามกลางสีหน้าวิตกกังวลของทุกคน จู่ๆ คอรัลก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “จริงเหรอ … ในที่สุดพวกเราก็มีหลักสูตรภาคปฏิบัติกันแล้ว! “
เดิมทีคอรัลอยากจะพูดว่าจริงเหรอ หลี่ว์ซู่จะมาเป็นอาจารย์พวกเราเหรอแต่ถ้าพูดไปก็ดูไม่สำรวม เธอจึงเปลี่ยนคำพูดดีกว่า
ทุกคนมองหน้ากัน มีเพียงคอรัลเท่านั้นที่มีความสุข ส่วนคนอื่น ๆ ต่างมีความกังวลลึกๆ อยู่ในใจ
แต่ในตอนนี้ มีคนนึกถึงเรื่องคาดเดาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับ “หลี่ว์ลั่ว”
หญิงสาวคนนี้มีที่มาลึกลับมาก ที่จริงมีนักเรียนแลกเปลี่ยนในวิทยาลัย ปกติแล้วทุกคนจะคิดถึงเรื่องอะไรเรื่องแรก อย่างมากก็ประหลาดใจซักหน่อย ว้าวชาวต่างชาติ!
เรื่องแบบนี้มีอยู่บ่อย ไม่มีใครรู้สึกว่านักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับนักเรียนในพื้นที่
แต่ปัญหาคือนามสกุลของเธอคือหลี่ว์และชื่อว่าลั่ว ยังไม่ต้องสนว่าชาวต่างชาติทำไมตั้งชื่อแบบนี้ นักศึกษาในประเทศจีนชอบผูกเรื่องอยู่แล้ว
ในตอนนี้ ทุกคนกำลังพลิกประวัติอันมืดมนของหลี่ว์ซู่ คอรัลกับเรื่องที่หลี่ว์ซู่อยู่ยุโรปจะรอดไปได้อย่างไร ไม่มีทาง
คนเราก็เริ่มตัดสินไปเองว่า “พวกนายคิดว่าหลี่ว์ลั่วคือคอรัลไหม ถ้าใช่ละก็…”
“คอรัลอยู่ระดับ A ไม่ใช่เหรอ หลี่ว์ลั่วแค่ระดับ C เอง” มีคนสงสัย
“แกล้งทำยังไงล่ะ ปัญหาคือฉันอยากรู้ว่าพวกเขาสองคนมีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า เรื่องที่ต่างประเทศบอกว่าเกือบได้แต่งงานกันแล้ว คอรัลและใต้เท้าหลี่ว์สองคนได้สังหารคนจากกลุ่มแก่นความเชื่อไปหลายร้อยคนแต่รายละเอียดยังไงก็ไม่มีใครรู้”
“แล้วหลังจากที่หลี่ว์ลั่วมา ทั้งสองคนก็เหมือนจะไม่ได้ติดต่อกันเลยนะ” มีคนพูด “ถ้าบอกว่าแค้นกันหรือรักชอบกัน ฉันก็พอเข้าใจแต่ตอนนี้พวกเขาเป็นคนแปลกหน้าต่อกันโดยสิ้นเชิง ฉันยังสงสัยฐานะของพวกเขาอยู่เลย”
“รอดูต่อไปดีกว่า ไม่รู้ว่าจะยืนยันได้ยังไง หลักๆ คือทั้งสองคนเหมือนเป็นคนแปลกหน้ากัน มันน่าสงสัยนะ เธออาจจะเป็นคอรัลก็ได้! “
คอรัลยังไม่รู้ว่ามีหลายคนสงสัยในตัวตนของเธอ หลังจากเธอมีความสุขแล้วก็กลายเป็นความกังวลอีกแบบแทน ศิษย์อาจารย์จะได้ไหม ถ้ารู้อย่างนี้ตอบตกลงเนี่ยถิงยอมมาเป็นอาจารย์ซะก็ดี