ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 596 ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง

ตอนที่ 596 ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูง 

 

 

กระนั้นหลี่ว์ซู่ก็ไม่ได้กระโจนเข้าไปหากิ้งก่าโดยไม่คิดอะไร เพราะหากมันมีวิธีฆ่าเขาแม้จะถูกตรึงอยู่ล่ะ แบบนั้นจะทำยังไง 

 

 

และในตอนที่หลี่ว์ซู่กำลังสำรวจกิ้งก่าตัวนี้อยู่นั้น มันก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ศัตรูข้าไล่ล่าข้ามาตลอด แล้วสุดท้ายมันก็ตรึงข้าไว้ที่นี่ ข้าบ่ฮู้เลยว่าเวลาผ่านมานานเท่าไหร่แล้วเพราะที่นี่มืดตึ้บ ลูกกะปอมน่อยของข้าก็โดนมันกำจัดไปหมด พ่อข้าก็บ่ต่างกัน..” 

 

 

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว” หลี่ว์ซู่เอามือกุมหน้าผาก “ทำไมพูดสำเนียงแบบนั้นล่ะ ไปเรียนมาจากไหนเนี่ย หยุดพูดก่อน ไม่งั้นฉันได้หลุดขำออกมาแน่ถ้ายังแกพูดต่อ” 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

หลี่ว์ซู่หยุดคิดอยู่นาน แล้วเขาก็ได้ข้อสรุปออกมา สัตว์ที่มีสติปัญญาสูงๆ ต้องเรียนภาษามนุษย์มาจากใครสักคน เพราะงั้นมันคงจะเลียนสำเนียงการพูดมาเหมือนกัน 

 

 

ถ้าอย่างนั้นมันอาจจะเป็นกิ้งก่าที่มาจากอวี้โจวก็ได้ แต่หลี่ว์ซู่ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะเขาไม่เคยเห็นตัวอะไรแบบนี้ในอวี้โจวมาก่อน หรือคนสอนอาจจะมาจากอวี้โจวก็ได้ หลี่ว์ซู่ไม่เคยเจอเรื่องเช่นนี้ เมื่อก่อนนั้นปิศาจเลือดระดับ A ก็พูดภาษาจีนกลางได้เหมือนกันเพราะมันเอาข้อมูลมาจากเลือดมนุษย์ หลี่ว์ซู่ก็คิดว่าเรื่องนี้มันแปลกเหมือนกัน 

 

 

แต่พูดกันตามตรงแล้วสำเนียงของกิ้งก่านี่ยังฟังดูเป็นกันเองกว่าปีศาจเลือดเยอะ… 

 

 

หลี่ว์ซู่จะมีโอกาสได้เจอกับสัตว์ประหลาดที่ส่านโจว ที่ปักกิ่ง หรือที่อื่นๆ ที่แตกต่างกันทางภูมิภาคของจีนไหมนะ ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว สัตว์ประหลาดที่ฉวนโจวจะพูดคำหยาบออกมาอย่างคล่องแคล่วหรือเปล่า แค่คิดก็ตลกแล้ว 

 

 

ยิ่งกว่านั้นหลี่ว์ซู่ก็เห็นว่ากิ้งก่าตัวนี้และพวกที่ไปออกรายการร้องทุกข์ว่าชีวิตของพวกเขาลำบากแค่ไหนนั้นช่างคล้ายกันจริงๆ แต่เอาเข้าแล้วชีวิตของกิ้งก่าตัวนี้ยังน่าสงสารกว่าที่หลี่ว์ซู่เคยเห็นในทีวีอีก หลี่ว์ซู่ลังเลและถามออกไปอีก “แล้วความฝันของแกคืออะไรล่ะ” 

 

 

กิ้งก่าร่วงที่ร่วงหล่นชะงัก 

 

 

มันไม่เข้าใจมุกของหลี่ว์ซู่! 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

“ครอบครัวข้าถูกฆ่าตายหมด เหลือข้าไว้แค่ตัวเดียวในโลกนี้แล้ว ผ่านมาหลายปี ข้าก็มีความฝันอยู่อย่างหนึ่ง…” มีแววเศร้าโศกปรากฏอยู่ในสายตาของมัน 

 

 

“ฝันว่าอยากให้ฉันฆ่าแกแล้วส่งไปอยู่กับครอบครัวที่ตายไปใช่ไหม” 

 

 

กิ้งก่าร่วงหล่นงงหนัก 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

ต้องเป็นแก้แค้นให้กับครอบครัวไม่ใช่เรอะ ทำไมถึงไม่เข้าใจกัน!  

 

 

แต่หลี่ว์ซู่นั้นไม่อยากจะเสียเวลากับเรื่องนี้ต่อไปแล้ว เจ้ากิ้งก่าต้องถูกธารน้ำของเขากัดกร่อนตายไป 

 

 

แต่ดูเหมือนว่ากิ้งก่าตัวนั้นจะอ่านใจหลี่ว์ซู่ได้ แล้วอยู่ๆ มันก็หยุดคร่ำครวญ จากนั้นก็ปลี่ยนเป็นขอร้องแทน “ข้าเป็นพาหนะให้เจ้าขี่ได้!” 

 

 

หลี่ว์ซู่เลยเม้มปากแล้วตอบกลับ “ไม่เอาล่ะ คนอื่นได้ขี่นกกระสา มังกร ช้างยักษ์ นกฟีนิกส์ หรืออย่างน้อยๆ ก็เป็นนกอินทรียักษ์ แล้วจะให้ฉันขี่กิ้งก่าเนี่ยนะ บ้ารึไง” 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

มันไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกมนุษย์ปฏิเสธเพียงเพราะดูจากรูปร่างภายนอก หมอนี่เป็นคนยังไงกันเนี่ย มันแข็งแกร่งมากนะ! 

 

 

หลายปีที่ผ่านมากิ้งก่าที่ร่วงหล่นสามารถรู้สึกได้ถึงพลังจิตวิญญาณที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จากข้างล่างถ้ำนี่ และมันก็ไม่ปล่อยผ่านอย่างเสียเวลาหรอก มันใช้พลังนั้นมาเพิ่มพลังตัวเอง หากพวกกิ้งก่าลูกกระจ๊อกแข็งแกร่งขึ้นเมื่อไหร่ มันก็จะออกไปได้ 

 

 

กระนั้นการที่โบราณสถานเปิดออกก็ทำให้พลังจิตวิญญาณรอบๆ เข้มข้นขึ้นไปอีกเกือบจะเทียบเท่าสมัยของมันเลย และเสาที่ตรึงเขาไว้นั้นก็เริ่มคลายลงในหลายปีที่ผ่านมา ในเวลาที่สำคัญแบบนี้ มันจึงตัดสินใจฆ่ามนุษย์ที่อยู่บนพื้นผิวข้างบนเพื่อเอาเลือดของพวกมันคลายพลังที่ตรึงร่างไว้ 

 

 

แต่โชคร้ายที่มันต้องมาเจอเด็กหนุ่มคนนี้เข้าในตอนที่มันกำลังวางแผนมาถึงขั้นนี้แล้ว และมันก็สื่อสารกับมนุษย์ไม่ค่อยได้เรื่องเสียด้วยสิ! 

 

 

ที่จริงแล้วหลี่ว์ซู่ก็ถูกกล่อมไปเหมือนกันตอนที่เจ้ากิ้งก่านี่เสนอตัวเป็นสัตว์พาหนะให้เขาขี่ แต่ปัญหาก็คือไอ้เจ้ากิ้งก่านี่เชื่อถือได้จริงเหรอ 

 

 

ถ้าเขารู้วิธีตรึงกิ้งก่านี่ เขาก็คงตอบตกลงไปแล้วโดยไม่ต้องคิดมาก แต่วิธีที่มันถามเขาหลอกล่อมานั้นก็ค่อนข้างเสี่ยงอยู่ 

 

 

หลี่ว์ซู่เป็นคนคิดรอบคอบเสมอ ในสนามรบนั้นเขาไม่ไว้ใจใครเลยนอกจากสหายร่วมรบและตัวเขาเอง ด้วยเหตุนี้เขาจึงรอดพ้นกับดักมาได้นักต่อนักแล้ว 

 

 

ในตอนที่หลี่ว์ซู่กำลังควบคุมธารน้ำให้ไปโอบรอบตัวของกิ้งก่าอยู่นั้น เจ้างูแห่งความโกลาหลที่ตื่นเต้นอยากกลืนกิ้งก่านี่เข้าไปทั้งตัวเต็มแก่ก็เลื้อยออกมาจากน้ำขึ้นมาพันอยู่ที่ไหล่ของหลี่ว์ซู่เพื่อดูเขาควบคุมของเหลว 

 

 

หลี่ว์ซู่ลูบหัวเจ้างูเบาๆ “ไม่ต้องกลัวนะ!” 

 

 

เจ้ากิ้งก่านี่มีบางอย่างแปลกๆ จริงๆ นั่นแหละ นี่เป็นคำอธิบายสาเหตุที่เจ้างูมีท่าทีแบบนี้ โชคดีที่เขาไม่ได้กระโจนเข้าไปหากิ้งก่าก่อน 

 

 

พอกิ้งก่าเห็นว่าหลี่ว์ซู่ไม่ยอมเข้ามาใกล้กว่านี้ และใช้พลังควบคุมน้ำให้ไหลเข้ามากัดกร่อนร่างมันแทน มันก็ร้องโหยหวนออกมาด้วยความเจ็บปวด 

 

 

ขนาดหมิงเย่ว์เยี่ยยังทนหมอกหนาไม่ได้เลย แล้วกิ้งก่าที่ติดอยู่ในนี้เป็นพันปีจะทนไหวเหรอ! หลี่ว์ซู่รู้สึกมาตลอดว่าหมอกหนานี่เพิ่มพลังกัดกร่อนให้กับธารน้ำศักดิ์สิทธิ์มากขึ้น 

 

 

แล้วจากนั้นหลี่ว์ซู่ก็เห็นกับตาว่าเสาสีทองนั้นเริ่มถล่มลงมารอบตัวกิ้งก่า มันก็ตวัดลิ้นไปที่หลี่ว์ซู่หลังจากถูกปล่อยออกมาเป็นอิสระ 

 

 

นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายของมันแล้ว มันวางแผนว่าจะใช้การโจมตีนี้เมื่อหลี่ว์ซู่เข้ามาใกล้ แต่เจ้ามนุษย์นี่กลับระมัดระวังกว่าที่มันคาดไว้ และเจ้ากิ้งก่าเองก็รู้สึกเจ็บปวดจากคำพูดของหลี่ว์ซู่มาตลอดเลย… 

 

 

พอมันพร้อมที่จะโจมตีออกไป หลี่ว์ซู่ก็หายไปในอุโมงค์แล้ว 

 

 

“ไม่ทันหรอกเพื่อน” หลี่ว์ซู่หัวเราะ 

 

 

ขณะที่เขาพูด เขาก็ปล่อยพลังน้ำแยกออกจากน้ำกลุ่มหลักไปโอบรอบลิ้นของกิ้งก่า 

 

 

ลิ้นของกิ้งก่านั้นอ่อนแอกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย ทันใดนั้นมันก็รู้สึกปวดแสบปวดร้อนลามไปทั่วระบบประสาทของมัน จากนั้นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกกรอกเข้าไปในปากใหญ่ยักษ์และไหลลงกระเพาะของมันไป! 

 

 

“ไว้ชีวิตข้าเถอะ!” กิ้งก่าร่วงหล่นร้อง “ท่านเทพ! ละเว้นข้าเถอะ! ข้าตั้งใจจะรับช้ายท่านสุดกำลังเลย!” 

 

 

“สายไปแล้ว!” หลี่ว์ซู่หัวเราะอย่างเย็นชาและหยิบเอาเก้าอี้พับเล็กๆ ออกมาจากตราแผ่นดิน เขานั่งลงบนเก้าอี้และดูกิ้งก่ายักษ์ถูกธารน้ำย่อยอย่างพอใจ ชีวิตดีอะไรอย่างนี้นะ หลี่ว์ซู่คิด ยิ่งธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้แต้มอารมณ์มากขึ้นเท่านั้น 

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่กลัวถ้ำใต้ดินที่น่าสยดสยองนี้เลย ว่าแต่ตอนนี้เขาอยากกินเต้าหู้เหม็นขึ้นมาเลยแฮะ 

 

 

[แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +1000!] 

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset