ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 518 ไม่เคยเสียใจที่เกิดเป็นคนจีน

ไม่เคยเสียใจที่เกิดมาเป็นคนจีน

 

การเตรียมพิธีใกล้เสร็จสิ้นแล้ว หลายคนนั่งขัดสมาธิอยู่ในท่าเตรียม มองดูแล้วเหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โบราณสถานเป่ยหมังเป๊ะๆ

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าไม่ได้การแล้ว แบบนี้ทาคาชิมะต้องเลื่อนเป็นระดับ A แน่!

 

ในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งประจำที่ ทันใดนั้นหยดเลือดก็ไหลออกมาจากดวงตาของทาคาชิมะ น้ำตาโลหิตที่ไหลอาบแก้มนั้นราวกับปลุกรอยเลือดบนพื้นและเชื่อมต่อกับน้ำตา

 

ทันใดนั้นเอง เลือดบนพื้นก็ลอยขึ้นเป็นสายอยู่ในวงเวทคาถา จากนั้นก็ลอยไปห่อหุ้มตัวของพวกผู้บำเพ็ญ ส่วนกลุ่มลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็คอยยืนกำกับอยู่รอบนอกวงเวท

 

“ขอให้พระเจ้าคุ้มครองทุกคนเมื่อไปสวรรค์” ทาคาชิมะเอ่ยขึ้นขณะหลับตา

 

พิธีกรรมได้เริ่มขึ้นแล้ว เหยื่อบูชายัญรอความตายกันอย่างเงียบสงบ

 

“เดี๋ยวก่อนครับ!” หลี่ว์ซู่ยกแขนขึ้นมาทันที “พอดีผมอยากเข้าห้องน้ำ!”

 

กลุ่มลูกน้องของทาคาชิมะต่างตกใจกันยกใหญ่ ไอ้บ้านี่มันคิดอะไรอยู่!

 

[ได้แต้มจากทาคาชิมะ ทาอิรัตสึ +999!]

 

[ได้แต้มจาก…]

 

ทาคาชิมะลืมตาขึ้นทันที เขาจ้องไปที่หลี่ว์ซู่อย่างอำมหิต ด้วยเหตุนี้พิธีกรรมเลยต้องหยุดตามไปด้วย ถ้าลูกน้องของทาคาชิมะไม่กลัวพิธีกรรมแล้วละก็ หลี่ว์ซู่คงโดนพวกเขาส่งไปปรโลกแล้ว!

 

แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงปะทะดังสนั่นมาจากนอกกำแพง ทาคาชิมะรู้ว่าเวลาใกล้จะหมดลงแล้ว!

 

และในเวลานี้เอง น้ำเสียงชายแก่ก็ดังขึ้นจากภายนอก “ท่านไปจากที่นี่เถิด หากท่านยังยืนยันจะฆ่าพวกเราแล้วละก็ เราจะขอปฏิญาณปกป้องครอบครัวของเราไว้จากพวกที่มารุกรานเรา”

 

ทาคาชิมะคลายความกังวลลง เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่ากลุ่มพวกอนุรักษนิยมจะปรากฏตัวมาช่วยปราบศัตรูได้ทันเวลาแบบนี้ แม้จะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมือง แต่กองกำลังที่เหลือก็ไม่ยอมนิ่งดูดายให้พวกศัตรูมาย่ำยีแผ่นดินของพวกเขา

 

แม้กลุ่มอนุรักษนิยมและกลุ่มชาตินิยมจะมีจุดขัดแย้งกันเรื่องนโยบายการต่างประเทศ แต่ทั้งสองกลุ่มก็มีเจตจำนงที่ต้องการจะปกป้องแผ่นดินของตนเหมือนกันทั้งคู่

 

นี่เป็นสาเหตุที่เนี่ยถิงไม่เคยเอ่ยปากให้หลี่ว์ซู่ไปตีสนิทกับพวกอนุรักษนิยมเลยสักครั้ง

 

นี่เป็นโอกาสของเขาแล้ว ทาคาชิมะรู้ว่ากลุ่มที่อยู่ข้างนอกน่าจะซื้อเวลาให้เขาได้สักหน่อย!

 

ทันใดนั้นสายโลหิตก็ลอยขึ้นมาโอบล้อมตัวหลี่ว์ซู่ แถมดูเหมือนว่าจำนวนสายที่รัดตัวเขาจะมากกว่าคนอื่นๆ หลายเท่าเลยด้วย!

 

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็ทำให้ทุกคนตาแตก เพราะร่างของหลี่ว์ซู่มีมังกรสีทองพวยพุ่งออกมา หลี่ว์ซู่แอบรู้สึกว่าเขาควบคุมธารน้ำในร่างมังกรได้ดียิ่งขึ้นหลังจากดูดกลืนอาวุธวิญญาณเข้าไป เหมือนกับนกฟีนิกส์เพลิงของฮาเวิร์ดไม่มีผิด!

 

ในขณะเดียวกัน หลี่ว์ซู่ขึ้นไปยืนตัวตรงบนหัวของมังกรแล้วใช้ธารน้ำทำลายเส้นสายโลหิตนั่น!

 

เขามองลงไปข้างล่างอย่างผู้เหนือกว่า หลี่ว์ซู่รอนานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ทันการเพราะวงเวทคาถาเริ่มทำงานแล้ว

 

ในขณะเดียวกัน พลังจากพวกผู้บำเพ็ญก็ได้ไหลเข้าร่างทาคาชิมะมาแล้วในบางส่วน

 

หลี่ว์ซู่สัมผัสได้ถึงพลังที่แกร่งกล้าขึ้นของทาคาชิมะ ทาคาชิมะใกล้จะไต่ระดับขึ้นไปยังจุดสูงสุดของระดับ B แล้ว!

 

หลี่ว์ซู่พุ่งตัวเข้าไปที่วงเวทคาถา มีพลังน้ำคอยเป็นเกราะกำบังไม่ให้เขาบาดเจ็บ หลี่ว์ซู่จึงสามารถเดินในนั้นได้อย่างไม่สะทกสะท้าน!

 

และทันใดนั้นเส้นสายโลหิตบนพื้นก็รวมกันเป็นมังกรโลหิตแล้วหมุนวนพุ่งเป้าไปที่หลี่ว์ซู่ พวกลูกน้องของทาคาชิมะเองก็ก้าวเข้าไปในวงเวทพิธีด้วยเพื่อจะเอาชีวิตเขา!

 

มังกรโลหิตกระจายออกเป็นสี่ตัวล้อมรอบตัวหลี่ว์ซู่ ถึงแม้ว่าเขาจะป้องกันตัวถึงที่สุดแล้วแต่ก็ยังถูกโจมตีจากมังกรตัวโลหิตตัวหนึ่งอยู่ดี

 

เลือดสดๆ ไหลลงคอของหลี่ว์ซู่ เขาถอยมาตั้งหลัก ครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า หลี่ว์ซู่ไม่สามารถรับมือกับมังกรโลหิตและพวกผู้บำเพ็ญระดับ C สิบกว่าคนพร้อมกันได้ เขาเพิ่งตระหนักได้ว่าเขาไม่สามาถสามารถทำลายวงแหวนพิธีกรรมนี้ได้ต่อให้ใช้พลังทั้งหมดที่เขามีก็ตาม

 

แสงจ้าสีแดงและทองสาดไปทั่ววงพิธีกรรมข้างล่างนั่น หลี่ว์ซู่เพิ่งสังเกตว่าทาคาชิมะถูกตรึงเข้ากับพิธีบูชายัญขั้นแรกเรียบร้อยแล้ว!

 

นอกทะเลแห่งพลัง จู่ๆ ก็มีมีดสั้นสองอันพุ่งเข้าไปที่ภูเขาหิมะลูกหนึ่งที่กำลังจะถล่มลงมา หลี่ว์ซู่รู้ดีว่ามีดสั้นของตนนั้นไม่น่าจะทำอะไรทาคาชิมะได้ในสถานการณ์ตอนนี้ที่เส้นสายโลหิตห้อมล้อมตัวเขาอยู่ หลี่ว์ซู่ต้องคิดหาทางให้ออก

 

วันเวลาที่ทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนักจะต้องผลิดอกออกผลบ้างล่ะ

 

เคยมีบรรพบุรุษเก่าแก่จากหอเกียรติกระบี่กล่าวไว้ว่า ทะเลแห่งพลังนั้นคาดเดาไม่ได้เหมือนมหาสมุทร และยิ่งใหญ่กว่าภูเขาหิมะ เมื่อจิตใจอันแรงกล้าได้รวมกับกระบี่เป็นหนึ่งเดียวแล้ว มันจะลอยขึ้นไปสูงขึ้นบนยอดภูเขา เสียดฟ้าไปถึงชั้นเมฆ ในสมัยนั้น ผู้ที่สามารถฝึกฝนกระบี่ไปจนถึงจุดนั้นได้ก็จะสามารถถล่มภูเขาหิมะได้ หลี่ว์ซู่แทบรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหว

 

ขณะเดียวกัน หลี่ว์ซู่นั้นทำได้แค่พยายามทำลายวงเวทบูชายัญนี้ด้วยพลังของเขาทั้งหมดพร้อมกับคอยหลบพวกมังกรโลหิตไปด้วยในเวลาเดียวกัน มีดสั้นของเขากำลังพยายามทำลายภูเขาอยู่ แต่ก็ยังไม่เป็นผลสำเร็จ ธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ของเขาช่วยพาร่างของเขาไปตามจุดต่างๆ ของพิธีกรรม ทว่ายังไม่สามารถต่อกรอะไรกับมังกรโลหิตพวกนั้นได้อยู่ดี ดูเหมือนว่าถ้าเขาพลาดเพียงครั้งเดียวเขาอาจตายไปเลยก็ได้

 

หลี่ว์ซู่พยายามเล็งการโจมตีไปที่ทาคาชิมะ แต่ทาคาชิมะมีมังกรโลหิตพวกนั้นล้อมรอบพร้อมกับพวกผู้บำเพ็ญระดับ C อีกสิบคนนั่น!

 

ใครมันจะสู้กับศัตรูทั้งหมดนี่พร้อมกันไหว!

 

แต่ทันใดนั้นลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็ฟันดาบคาตานะของเขาไปที่ลูกน้องคนข้างๆ ทุกคนจ้องมองอย่างตกตะลึง!

 

ผู้บำเพ็ญระดับ C คนหนึ่งยืนอยู่ระหว่างแมลงเม่าลี่ว์ซู่กับคนที่เหลือนั้นอยู่ข้างนอกวงเวทพิธีกรรม พลังของเขาอยู่ๆ ก็เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ทำให้หลี่ว์ซู่นึกไปถึงครั้งหนึ่งมีที่ผู้ปะทุพลังระดับ D ยอมสละอนาคตตัวเองเพื่อจะฆ่าอาชญากรระดับ D ในคืนต่อมา

 

เลือดข้นๆ ไหลออกมาจากร่างระดับ C คนนั้น แต่ท่าทางของเขาก็ยังสงบนิ่งราวกับมหาสมุทรลึก

 

หลังจากนั้นเขาก็หันมายิ้มให้หลี่ว์ซู่ “เดี๋ยวฉันจัดการพวกมันเอง นายไปจัดการอย่างอื่นให้เสร็จเถอะนะ”

 

พอสิ้นประโยค ผู้บำเพ็ญระดับ C คนนั้นก็พุ่งไปฆ่าลูกน้องคนอื่นๆ ด้วยดาบคาตานะของเขา! วินาทีนั้น ร่างของเขาดูแข็งแกร่งมั่นคงเหมือนภูเขา ราวว่าเขาเป็นดวงอาทิตย์ที่ลอยที่สาดส่องความอบอุ่นให้กับทั้งโลก

 

เขาหัวเราะ “ฉันคิดถึงบะหมี่หมูสับที่บ้านเกิดมากเลย นานแล้วนะ…ที่ฉันจากบ้านมา ฉันไม่เคยเสียใจเลยที่เกิดมาเป็นคนจีน หวังว่าชาติหน้าเราจะเกิดมาเป็นฝ่ายเดียวกันอีกนะ!”

 

ทันใดนั้นก็มีรอยแตกที่ผนังด้านนอกเกิดขึ้นพร้อมกับเสียงดังก้อง พลังภายในที่ก่อตัวในร่างกายของเขาหยุดอยู่ในจุดที่สูงเกือบถึงระดับ B เขารู้แล้วว่านี่เกินกว่าที่ร่างกายของเขาจะรับได้ เพราะเขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะขึ้นเป็นระดับ C แต่แค่นั้นก็ทำให้เขาหืดขึ้นคอมากแล้ว

 

เขาเสือกดาบเข้าไปที่ลูกน้องคนอื่นๆ เหมือนกับแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ

 

เขาพยายามที่จะฆ่าทุกๆ คนโดยไม่สนว่าจะเกิดอันตรายอะไรกับเขาบ้าง

 

นี่คงเป็นเพราะเขารู้ตัวว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งที่สุดที่จะอยู่ในสงครามนี้ไปจนถึงจุดจบ เพราะฉะนั้นเขาเลยต้องลงมือฆ่าให้มากที่สุดในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

 

ไม่นานร่างของเขาก็ถูกดาบคาตานะสามเล่มเสียบเข้าที่เอว ต้นขา และลำตัวข้างขวาตามลำดับ แต่เขาก็เก็บอีกฝั่งไปแล้วถึงเก้าศพด้วยกัน

 

เขาใช้ดาบคาตานะพยุงร่างของตัวเองก่อนกระอักเลือดสดๆ ออกมาแล้วหัวเราะลั่น! “ฉันคือหลิวซิวจากเครือข่ายฟ้าดิน ใครกล้าก็ดาหน้าเข้ามาเลย!”

 

กระทั่งชายห้าคนที่เหลือก็ยังลังเลที่จะเข้าไปสู้กับเขา!

 

ร่างของหลิวซิวชุ่มโชกไปด้วยเลือด ทว่าจิตสังหารของเขายังคงแผ่ออกมา ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่กลุ่มลูกน้องคนอื่นๆ แล้วเขาก็แค่นหัวเราะ “ฉันไม่น่าไปให้สัญญาบ้าๆ เลยว่าจะปกป้องพวกนายทั้งหมด คิดอะไรเกินตัวจริงๆ …”

 

หลิวซิวหลับตาลง แม้กระทั่งโมงยามที่ตัวเองสิ้นใจ เขาก็จากไปทั้งๆ ที่ยืนอยู่

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset