ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 517 เช็คเงินสดจากใต้ทะเล

 เช็คเงินสดจากใต้ทะเล

 

ในตอนนั้นเองที่หลี่ว์ซู่จึงตระหนักได้ว่าศิลาวิญญาณจำนวนมากนั้นอาจจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำพิธีกรรมของทาคาชิมะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้แต้มอารมณ์มากถึง 999…

 

วีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหลี่ว์ซู่ในญี่ปุ่นก็เห็นทีว่าจะเป็นการฉกศิลาไปนี่แหละ!

 

ตอนแรกหลี่ว์ซู่ก็รู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ ที่ต้องบอกลาตัวตนกำมะลอของเขา แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะพอดิบพอดีเสียเหลือเกิน…

 

เขาเปล่าจิ๊กศิลาไปเพื่อตัวเองเสียหน่อย ที่ทำไปก็เพราะต้องการป้องกันไม่ให้ศัตรูเลื่อนขั้นเป็นระดับ A เพื่อปกป้องเครือข่ายฟ้าดินต่างหาก ถือเป็นความดีความชอบไหม เป็นอยู่แล้ว!

 

อย่างที่ว่ากัน พอไม่ได้คาดหวัง ผลก็ดันออกมาดี

 

ทาคาชิมะตัดสินใจแล้ว ในตอนแรก ศิลาวิญญาณมีไว้เพื่อใช้ในการบูชายัญแลกกับการลดจำนวนชีวิตที่ต้องสูญเสียไป ทว่าท้ายที่สุดแล้ว กำลังคนในกลุ่มทวยเทพก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน

 

แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ทาคาชิมะรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่ขนาดไหน กลุ่มทวยเทพต้องพินาศแน่หากเขาไม่เลื่อนขั้นเป็นระดับ A โดยเร็ว

 

เขาส่งสายตาไปเพื่อบอกเป็นสัญญาณกับลูกน้องคนสนิททั้งหลาย สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งด้วยรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น พวกเขายอมสวามิภักดิ์ทำงานให้กับทาคาชิมะมานานจนเสียสติ

 

เหล่าลูกน้องแบ่งกลุ่มออกเป็นสิบกลุ่ม แต่ละกลุ่มนำโดยผู้บำเพ็ญระดับ C พวกเขาเดินเข้าไปในฝูงชน มีสมาชิกทวยเทพในป้อมปราการคอยห้อมล้อมไว้ราวกับใยแมงมุมยักษ์ขนาดใหญ่ จนกระทั่งลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่มเชือดกลุ่มคนปกติทิ้ง

 

แล้วทันใดนั้น ความสะพรึงกลัวและเสียงกรีดร้องปกคลุมไปทั้งพื้นที่ เหล่าคนพวกนี้ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะถูกสังหารอย่างรวดเร็วแบบนี้

 

เบื้องหน้าของกลุ่มผู้บำเพ็ญคือคนธรรมดาที่ไร้ทางสู้ และในเวลาสั้นๆ เลือดก็กระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้น ความเกลียดชังเข้าแทรกซึมในใจของหลี่ว์ซู่ กลุ่มทวยเทพกล้าดียังไงถึงฆ่าคนตามใจชอบขนาดนี้!

 

สมาชิกทวยเทพคนอื่นๆ เต็มไปด้วยความสับสน เสียงของพวกเขาค่อยๆ เงียบไปขณะมองดูการสังหารหมู่ จากนั้นกลุ่มลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็ร่างอักษรวิญญาณลงกับพื้นแล้วลากซากศพไปรอบๆ ประหนึ่งพู่กันเขียนอักษร

 

คาถานี้จะต้องให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มทวยเทพอยู่ด้านใน ไม่ยกเว้นใครใดๆ ทั้งสิ้น!

 

กล้ามเนื้อของหลี่ว์ซู่กระตุก ทาคาชิมะ ทาอิรัตสึเป็นบ้าไปแล้วหรือไง นี่มันกะจะฆ่าคนมากขนาดนี้เลยเรอะ! แถมยังเป็นกำลังคนของตัวเองอีกต่างหาก

 

ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งในกลุ่มทวยเทพกลัวจนตัวแข็ง “อะไรเนี่ย…”

 

พวกเขาเตรียมพิธีบูชายัญซึ่งมีจุดประสงค์สองอย่าง อย่างแรกคือพวกเขาต้องการจะเพิ่มพลังด้วยการแลกด้วยชีวิตคนเหมือนที่โบราณสถานเป่ยหมัง หรืออย่างที่สอง พวกเขาอาจต้องการเสียสละอนาคตในการฝึกฝนเพื่อแลกกับการเพิ่มพลังในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

 

อย่างไรก็ตามพวกเขาดูจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า

 

เหล่าลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะลากสินค้าออกมาจากโกดังหมายเลข 17 และ 15 แล้ววางมันลงบริเวณที่มีการร่างอักษรทำพิธี ทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวนที่เห็นเหล่าลูกน้องทั้งหลายสั่งให้ผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ จัดแจงศิลาวิญญาณตามที่บอก ภาพตรงหน้าดูราวกับพวกผู้บำเพ็ญถูกสั่งให้หั่นขิงหั่นข่าและสุดท้ายให้โยนตัวเองลงหม้อไปต้มยำกับผักอย่างไรอย่างนั้น

 

ไม่มีใครรู้ว่าทาคาชิมะต้องการอะไร แต่พวกเขาก็ทำตามโดยไร้ข้อกังขา

 

นี่มันบ้าไปแล้ว! หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจตรรกะของคนพวกนี้เลยจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงตรงหน้าเขาเองก็เถอะ

 

ทุกอย่างบ้าบอไปหมด หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเรื่องเหนือจริง

 

เสียงหนึ่งร้องขึ้นถาม “ท่านทาคาชิมะครับ ท่านวางแผนที่จะบูชายัญพวกเราทุกคนหรือเปล่าครับ”

 

พอสิ้นเสียงเท่านั้น เขาก็ถูกลูกน้องคนสนิทสับร่างออกเป็นสองท่อน เลือดของเขาไหลออกมาเป็นน้ำหมึกให้กับการเขียนอักษรวิญญาณ

 

จากนั้น ‘สินค้า’ ที่ถูกเก็บไว้ใต้ฐานก็ถูกยกขึ้นมา มันมีจำนวนมากเป็นร้อยๆ สินค้าทั้งหมดถูกฉีดยาเข้าไปเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวได้

 

ทาคาชิมะประกาศกร้าว “พวกเราเหล่าทวยเทพกำลังเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งมาก ในช่วงเวลาที่ครอบครัวของเรากำลังจะถูกทำลาย กลุ่มทวยเทพของเราต้องตายอย่างสมศักดิ์ศรี ดีกว่าตายไปแบบขายขี้หน้า ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะช่วยเสียสละเพื่อกลุ่มทวยเทพของเรา”

 

“ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”

 

“ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”

 

“ข้าขอปฏิญาณ หากไม่สู้จนรอด เราทวยเทพก็ขอพินาศไปพร้อมกัน!”

 

“ข้าขอปฏิญาณ หากไม่สู้จนรอด เราทวยเทพก็ขอพินาศไปพร้อมกัน!”

 

ดวงตาของคนพวกนี้เต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง แต่ก็ยังมีคนกลุ่มน้อยที่ออกตัววิ่งไปยังประตู “ฉันจะไม่ยอมเสียสละชีวิตตัวเองหรอกโว้ย!”

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกโล่งใจไปแวบหนึ่งที่ได้เห็นเกาะที่แสนจะสะอาดสอ้านท่ามกลางหนองน้ำเน่าสกปรก เขาเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติหรือองค์กรนะ แต่ต้องไม่ใช่การเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อทาคาชิมะคนเดียวนี่

 

ก็ยังดีที่ในบรรดาทวยเทพยังมีคนสติดีอยู่

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้วิ่งตามคนพวกนั้นไปด้วย พวกที่วิ่งไปที่ประตูถูกลูกน้องทาคาชิมะฆ่าตายเรียบ ส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยสายตาเรียบเฉย

 

พอฆ่าเสร็จ คนอื่นๆ ก็กลับไปเตรียมพิธีต่อภายใต้การควบคุมของลูกน้องทาคาชิมะ พวกเขาทำตามแบบแผนทุกขั้นตอน พอเห็นคนพวกนี้เรียงศิลากว่าหมื่นเม็ดก็รู้สึกน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก

 

ในขณะนั้นหลี่ว์ซู่ก็หยิบศิลาที่คนข้างหน้าวางไว้ขึ้นมา ไม่มีใครสังเกตว่าเขาทำอะไร…

 

เขาไม่ยอมหยุดอยู่แค่ตรงนี้ที่เดียว แต่ไปตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง ฉกศิลาเหมือนผึ้งงาน…

 

เอ๋ มีศิลาตรงนี้แฮะ อ๊ะ ตรงนู้นมีอีกเม็ด…

 

พอคนอื่นหันกลับไปก็ต้องงงไปตามๆ กันว่าศิลาที่พวกเขาวางไว้หายไปไหน

 

[ได้แต้มจากจากอาซาโนะ คัตสึฮิโตะ +199]

 

[ได้แต้มจาก…]

 

ขณะที่หลี่ว์ซู่กำลังสนุกสนานอยู่นั้น หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็ตะโกนขึ้นมา “ดูรอบๆ ตัวให้ดีด้วย ถ้าเห็นใครขโมยศิลาวิญญาณให้รายงานทันที!”

 

หลี่ว์ซู่อดเสียดายไม่ได้ เขาเกือบได้โอกาสจิ๊กศิลาหลักหมื่นเชียวนะ!

 

พวกลูกน้องต่างค้นตัวทุกคนดูเพื่อหาว่าใครขโมยศิลาไป พอพวกนั้นมาถึงตัวหลี่ว์ซู่ก็ไม่พบอะไรในกระเป๋าของเขา ในมือมีเพียงแค่ศิลาวิญญาณห้าเม็ดที่เขาเพิ่งได้รับมาเท่านั้น หลี่ว์ซู่กู่ร้องออกไปด้วยความมุ่งมั่น “ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”

 

เสียงตะโกนของเขาทำให้ลูกน้องพวกนั้นสะดุ้ง “กลับไปทำงาน!”

 

ที่จริงแล้วหลี่ว์ซู่กำลังคิดว่าเขาจะทำลายพิธีนี่อย่างไรดี ก่อนอื่นเขาต้องหาวิธีทำให้ตัวเองปลอดภัย แล้วจากนั้นเขาคงจะไม่ปล่อยให้ทาคาชิมะเลื่อนระดับเป็นระดับ A ได้ เพราะคอรัลคงจะเสี่ยงอันตรายอย่างมาก

 

หลี่ว์ซู่จะไม่สนใจเลยถ้าคนคนนั้นเป็นใครจากไหนก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งหว่างกลุ่มทวยเทพและกลุ่มเทพเจ้าในครั้งนี้

 

เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่ถ้าคอรัลจะยอมตายเพราะเขา

 

ในเมื่อเธอปฏิบัติกับเขาด้วยความจริงใจ เขาก็จะปฏิบัติกับเธอแบบเดียวกัน นี่คือหลักการในการใช้ชีวิตของหลี่ว์ซู่

 

นอกจากนั้นเขายังต้องไปเคลียร์กับเธอเรื่องข่าวปลอมที่ว่าเขาตายแล้วด้วย แล้วก็จะได้บอกเธอว่าเช็คเงินสดที่สัญญาว่าจะเซ็นให้เขา เขายังอยู่ใช้ได้นะ…

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset