เช็คเงินสดจากใต้ทะเล
ในตอนนั้นเองที่หลี่ว์ซู่จึงตระหนักได้ว่าศิลาวิญญาณจำนวนมากนั้นอาจจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำพิธีกรรมของทาคาชิมะ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ได้แต้มอารมณ์มากถึง 999…
วีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของหลี่ว์ซู่ในญี่ปุ่นก็เห็นทีว่าจะเป็นการฉกศิลาไปนี่แหละ!
ตอนแรกหลี่ว์ซู่ก็รู้สึกผิดอยู่หน่อยๆ ที่ต้องบอกลาตัวตนกำมะลอของเขา แต่ตอนนี้เขารู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างเหมาะเจาะพอดิบพอดีเสียเหลือเกิน…
เขาเปล่าจิ๊กศิลาไปเพื่อตัวเองเสียหน่อย ที่ทำไปก็เพราะต้องการป้องกันไม่ให้ศัตรูเลื่อนขั้นเป็นระดับ A เพื่อปกป้องเครือข่ายฟ้าดินต่างหาก ถือเป็นความดีความชอบไหม เป็นอยู่แล้ว!
อย่างที่ว่ากัน พอไม่ได้คาดหวัง ผลก็ดันออกมาดี
ทาคาชิมะตัดสินใจแล้ว ในตอนแรก ศิลาวิญญาณมีไว้เพื่อใช้ในการบูชายัญแลกกับการลดจำนวนชีวิตที่ต้องสูญเสียไป ทว่าท้ายที่สุดแล้ว กำลังคนในกลุ่มทวยเทพก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกัน
แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกแล้ว ทาคาชิมะรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่ขนาดไหน กลุ่มทวยเทพต้องพินาศแน่หากเขาไม่เลื่อนขั้นเป็นระดับ A โดยเร็ว
เขาส่งสายตาไปเพื่อบอกเป็นสัญญาณกับลูกน้องคนสนิททั้งหลาย สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่งด้วยรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น พวกเขายอมสวามิภักดิ์ทำงานให้กับทาคาชิมะมานานจนเสียสติ
เหล่าลูกน้องแบ่งกลุ่มออกเป็นสิบกลุ่ม แต่ละกลุ่มนำโดยผู้บำเพ็ญระดับ C พวกเขาเดินเข้าไปในฝูงชน มีสมาชิกทวยเทพในป้อมปราการคอยห้อมล้อมไว้ราวกับใยแมงมุมยักษ์ขนาดใหญ่ จนกระทั่งลูกน้องคนหนึ่งในกลุ่มเชือดกลุ่มคนปกติทิ้ง
แล้วทันใดนั้น ความสะพรึงกลัวและเสียงกรีดร้องปกคลุมไปทั้งพื้นที่ เหล่าคนพวกนี้ไม่รู้ตัวมาก่อนว่าจะถูกสังหารอย่างรวดเร็วแบบนี้
เบื้องหน้าของกลุ่มผู้บำเพ็ญคือคนธรรมดาที่ไร้ทางสู้ และในเวลาสั้นๆ เลือดก็กระเซ็นเปรอะเปื้อนไปทั่วพื้น ความเกลียดชังเข้าแทรกซึมในใจของหลี่ว์ซู่ กลุ่มทวยเทพกล้าดียังไงถึงฆ่าคนตามใจชอบขนาดนี้!
สมาชิกทวยเทพคนอื่นๆ เต็มไปด้วยความสับสน เสียงของพวกเขาค่อยๆ เงียบไปขณะมองดูการสังหารหมู่ จากนั้นกลุ่มลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็ร่างอักษรวิญญาณลงกับพื้นแล้วลากซากศพไปรอบๆ ประหนึ่งพู่กันเขียนอักษร
คาถานี้จะต้องให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มทวยเทพอยู่ด้านใน ไม่ยกเว้นใครใดๆ ทั้งสิ้น!
กล้ามเนื้อของหลี่ว์ซู่กระตุก ทาคาชิมะ ทาอิรัตสึเป็นบ้าไปแล้วหรือไง นี่มันกะจะฆ่าคนมากขนาดนี้เลยเรอะ! แถมยังเป็นกำลังคนของตัวเองอีกต่างหาก
ผู้บำเพ็ญคนหนึ่งในกลุ่มทวยเทพกลัวจนตัวแข็ง “อะไรเนี่ย…”
พวกเขาเตรียมพิธีบูชายัญซึ่งมีจุดประสงค์สองอย่าง อย่างแรกคือพวกเขาต้องการจะเพิ่มพลังด้วยการแลกด้วยชีวิตคนเหมือนที่โบราณสถานเป่ยหมัง หรืออย่างที่สอง พวกเขาอาจต้องการเสียสละอนาคตในการฝึกฝนเพื่อแลกกับการเพิ่มพลังในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
อย่างไรก็ตามพวกเขาดูจะไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเบื้องหน้า
เหล่าลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะลากสินค้าออกมาจากโกดังหมายเลข 17 และ 15 แล้ววางมันลงบริเวณที่มีการร่างอักษรทำพิธี ทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวนที่เห็นเหล่าลูกน้องทั้งหลายสั่งให้ผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ จัดแจงศิลาวิญญาณตามที่บอก ภาพตรงหน้าดูราวกับพวกผู้บำเพ็ญถูกสั่งให้หั่นขิงหั่นข่าและสุดท้ายให้โยนตัวเองลงหม้อไปต้มยำกับผักอย่างไรอย่างนั้น
ไม่มีใครรู้ว่าทาคาชิมะต้องการอะไร แต่พวกเขาก็ทำตามโดยไร้ข้อกังขา
นี่มันบ้าไปแล้ว! หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจตรรกะของคนพวกนี้เลยจริงๆ ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงตรงหน้าเขาเองก็เถอะ
ทุกอย่างบ้าบอไปหมด หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเรื่องเหนือจริง
เสียงหนึ่งร้องขึ้นถาม “ท่านทาคาชิมะครับ ท่านวางแผนที่จะบูชายัญพวกเราทุกคนหรือเปล่าครับ”
พอสิ้นเสียงเท่านั้น เขาก็ถูกลูกน้องคนสนิทสับร่างออกเป็นสองท่อน เลือดของเขาไหลออกมาเป็นน้ำหมึกให้กับการเขียนอักษรวิญญาณ
จากนั้น ‘สินค้า’ ที่ถูกเก็บไว้ใต้ฐานก็ถูกยกขึ้นมา มันมีจำนวนมากเป็นร้อยๆ สินค้าทั้งหมดถูกฉีดยาเข้าไปเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวได้
ทาคาชิมะประกาศกร้าว “พวกเราเหล่าทวยเทพกำลังเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งมาก ในช่วงเวลาที่ครอบครัวของเรากำลังจะถูกทำลาย กลุ่มทวยเทพของเราต้องตายอย่างสมศักดิ์ศรี ดีกว่าตายไปแบบขายขี้หน้า ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าจะช่วยเสียสละเพื่อกลุ่มทวยเทพของเรา”
“ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”
“ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”
“ข้าขอปฏิญาณ หากไม่สู้จนรอด เราทวยเทพก็ขอพินาศไปพร้อมกัน!”
“ข้าขอปฏิญาณ หากไม่สู้จนรอด เราทวยเทพก็ขอพินาศไปพร้อมกัน!”
ดวงตาของคนพวกนี้เต็มไปด้วยความคลุ้มคลั่ง แต่ก็ยังมีคนกลุ่มน้อยที่ออกตัววิ่งไปยังประตู “ฉันจะไม่ยอมเสียสละชีวิตตัวเองหรอกโว้ย!”
หลี่ว์ซู่รู้สึกโล่งใจไปแวบหนึ่งที่ได้เห็นเกาะที่แสนจะสะอาดสอ้านท่ามกลางหนองน้ำเน่าสกปรก เขาเข้าใจเรื่องความจงรักภักดีต่อชาติหรือองค์กรนะ แต่ต้องไม่ใช่การเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อทาคาชิมะคนเดียวนี่
ก็ยังดีที่ในบรรดาทวยเทพยังมีคนสติดีอยู่
หลี่ว์ซู่ไม่ได้วิ่งตามคนพวกนั้นไปด้วย พวกที่วิ่งไปที่ประตูถูกลูกน้องทาคาชิมะฆ่าตายเรียบ ส่วนคนอื่นๆ ก็มองด้วยสายตาเรียบเฉย
พอฆ่าเสร็จ คนอื่นๆ ก็กลับไปเตรียมพิธีต่อภายใต้การควบคุมของลูกน้องทาคาชิมะ พวกเขาทำตามแบบแผนทุกขั้นตอน พอเห็นคนพวกนี้เรียงศิลากว่าหมื่นเม็ดก็รู้สึกน่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
ในขณะนั้นหลี่ว์ซู่ก็หยิบศิลาที่คนข้างหน้าวางไว้ขึ้นมา ไม่มีใครสังเกตว่าเขาทำอะไร…
เขาไม่ยอมหยุดอยู่แค่ตรงนี้ที่เดียว แต่ไปตรงนู้นบ้างตรงนี้บ้าง ฉกศิลาเหมือนผึ้งงาน…
เอ๋ มีศิลาตรงนี้แฮะ อ๊ะ ตรงนู้นมีอีกเม็ด…
พอคนอื่นหันกลับไปก็ต้องงงไปตามๆ กันว่าศิลาที่พวกเขาวางไว้หายไปไหน
[ได้แต้มจากจากอาซาโนะ คัตสึฮิโตะ +199]
[ได้แต้มจาก…]
ขณะที่หลี่ว์ซู่กำลังสนุกสนานอยู่นั้น หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของทาคาชิมะก็ตะโกนขึ้นมา “ดูรอบๆ ตัวให้ดีด้วย ถ้าเห็นใครขโมยศิลาวิญญาณให้รายงานทันที!”
หลี่ว์ซู่อดเสียดายไม่ได้ เขาเกือบได้โอกาสจิ๊กศิลาหลักหมื่นเชียวนะ!
พวกลูกน้องต่างค้นตัวทุกคนดูเพื่อหาว่าใครขโมยศิลาไป พอพวกนั้นมาถึงตัวหลี่ว์ซู่ก็ไม่พบอะไรในกระเป๋าของเขา ในมือมีเพียงแค่ศิลาวิญญาณห้าเม็ดที่เขาเพิ่งได้รับมาเท่านั้น หลี่ว์ซู่กู่ร้องออกไปด้วยความมุ่งมั่น “ตายอย่างสมศักดิ์ศรี!”
เสียงตะโกนของเขาทำให้ลูกน้องพวกนั้นสะดุ้ง “กลับไปทำงาน!”
ที่จริงแล้วหลี่ว์ซู่กำลังคิดว่าเขาจะทำลายพิธีนี่อย่างไรดี ก่อนอื่นเขาต้องหาวิธีทำให้ตัวเองปลอดภัย แล้วจากนั้นเขาคงจะไม่ปล่อยให้ทาคาชิมะเลื่อนระดับเป็นระดับ A ได้ เพราะคอรัลคงจะเสี่ยงอันตรายอย่างมาก
หลี่ว์ซู่จะไม่สนใจเลยถ้าคนคนนั้นเป็นใครจากไหนก็ไม่รู้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งหว่างกลุ่มทวยเทพและกลุ่มเทพเจ้าในครั้งนี้
เขาจะไม่ยอมอยู่เฉยแน่ถ้าคอรัลจะยอมตายเพราะเขา
ในเมื่อเธอปฏิบัติกับเขาด้วยความจริงใจ เขาก็จะปฏิบัติกับเธอแบบเดียวกัน นี่คือหลักการในการใช้ชีวิตของหลี่ว์ซู่
นอกจากนั้นเขายังต้องไปเคลียร์กับเธอเรื่องข่าวปลอมที่ว่าเขาตายแล้วด้วย แล้วก็จะได้บอกเธอว่าเช็คเงินสดที่สัญญาว่าจะเซ็นให้เขา เขายังอยู่ใช้ได้นะ…