ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 29 ความเห็นอกเห็นใจ

ซังโย่วอีถอนหายใจโล่งอก พูดไปมือก็โทรออก

โทรศัพท์ดังอยู่นานสุดท้ายก็มีคนรับ

“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ ใครคะ”

“พี่เฉียว ผมเอง”ซังโย่วอีร่าเริงขึ้นมาทันที

อีกด้าน เฉินเฉียวยืนอยู่ในคืนอันเงียบเหงา มองทะเลที่อยู่ใกล้ๆอย่างเหงาๆ ได้ยินเสียงเด็กน้อย ความรู้สึกเธอก็ผ่อนคลายลง

“มีเบอร์ฉันได้ยังไง”

ฮิฮิ ยายผมให้มา ยายเก่งมากเลย ไม่ว่าเรื่องอะไรของน้าเธอรู้หมด”

อ๊ะ.

สืบแล้วก็ดี

อย่างน้อยก็รู้ว่าเธอแต่งงานแล้ว จะได้ไม่เข้าใจผิดเรื่องเธอกับลูกชายอีก

“ ดึกขนาดนี้โทรมา มีอะไรหรือเปล่า”

“ ต้องมีธุระถึงจะโทรหาได้หรอ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? กินข้าวอิ่มไหม “ซังโย่วอีถาม

เฉินเฉียวเอาโทรศัพท์ออกจากหู ยื่นออกไปตรงทะเล “ได้ยินเสียงทะเลไหม ฉันอยู่ริมทะเล ”

เด็กน้อยตื่นเต้นทันที “มาบ้านผมไหม”

ซังหลินจวินดูเหมือนจะตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ แต่เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเด็กน้อยเขาก็เงยหน้าและหยิบโทรศัพท์ไป

ตอนที่ซังโย่วอีขมวดคิ้ว เขาเอาโทรศัพท์วางบนโต๊ะแล้วเปิดลำโพง

จากนั้นเสียงหวานๆของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังมาจากโทรศัพท์“ ฉันไม่ได้ไปบ้านหนูนะ แต่อยู่ที่เขตป้านซานเหมือนกัน จริงๆอยากจะไปตากลมทะเล แต่รถเสียกลางทางซะก่อน ตอนนี้อยู่ข้างถนนรอเพื่อนมารับ ”

ซังหลินจวินขมวดคิ้ว

ซังโย่วอีขมวดคิ้ว“พี่เฉียว มาบ้านผมเถอะ เดี๋ยวผมกับพ่อไปรับ” ครูบอกว่าข้างนอกมีคนไม่ดีเยอะ เป็นผู้หญิงดึกๆดื่นๆอยู่ข้างนอกคนเดียวไม่ได้นะ ”

เฉินเฉียวยิ้ม

รอยยิ้มที่รู้ใจ

ความรู้สึกที่ได้รับการดูแล รู้สึกดีแบบนี้นิเอง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแค่เด็กก็เถอะ

“ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่กลัว นอกจากนี้ฉันก็ไปบ้านหนูไม่ได้ ”

ทำไมครับ น้าเคยมาบ้านผมแล้วนิ ”

ไม่มีอะไรหรอก ไปไม่ได้ก็คือไปไม่ได้ “เฉินเฉียวไม่รู้ว่าจะอธิบายให้เด็กเข้าใจได้อย่างไรกับคำว่าไม่เหมาะสม

เด็กน้อยง้างปากและมองผู้ชายข้างๆ“ พี่เฉียว ที่มาไม่ได้เพราะพ่อของผมใช่ไหม คุณน้าไม่ชอบพ่อผมขนาดนั้นเลยหรอ ”

เหตุผลนี้เด็กน่าจะเข้าใจง่ายกว่าละมั้ง ดังนั้นเฉินเฉียวจึงกล่าวว่า: “อาจจะใช่”

เด็กน้อยถอนหายใจ “พ่อครับดูเหมือนพี่เฉียวจะไม่ชอบพ่อจริงๆ”

อีกฝ่าย เฉินเฉียวถึงกับผงะ

“ พ่อของหนูอยู่ด้วยหรอ”

แค่นี้คราวนี้มีเพียงสองคำตอบกลับเธอ

น้ำเสียงของชายคนนั้นเย็นชา

ก่อนที่ เฉินเฉียวจะรู้สึกตัวโทรศัพท์ก็ถูกวางสายในพริบตา หลังจากนั้นเสียงที่มาจากโทรศัพท์คือเสียง ‘ตู๊ดตู๊ด’

เอ่อ

ตอนนี้เรื่องที่นัดเขากินข้าวยิ่งเป็นไปไม่ได้ เฉินเฉียวรู้สึกหดหู่เล็กน้อย

————

“ พ่อ อย่าโกรธสิพี่เฉียวเธอไม่รู้เรื่อง”ซังหลินจวินเดินออกมาขาข้างหนึ่งถูกเด็กน้อยกอดเอาไว้

“กลับไปนั่งเขียนการบ้านดีๆ”

“ ไปรับพี่เฉียวเถอะ ได้ไหม พี่เฉียวอยู่คนเดียวข้างนอกอันตรายมาก “เด็กน้อยขอร้อง

“ไม่ไป”

“พ่อ!

ไม่ต้องพูดน้ำเสียงของเขาเด็ดขาดมาก

ซังโย่วอีนั่งเศร้าบนพื้น

คนบางคนขี้เกียจจะสนใจ เปิดเข้าไปในห้องอ่านหนังสือ

ไม่ทันที่ซังโย่วอีจะลุกขึ้นตามเข้าไป ประตูก็ถูกปิด

!!

เป็นพ่อที่ไร้ความรู้สึกจริงๆ ไม่น่าแปลกใจที่พี่เฉียวไม่ชอบเขา!

ในห้องหนังสือ

ซังหลินจวินยืนอยู่ที่หน้าต่างมองไปในระยะไกล

หยิบโทรศัพท์และกดหมายเลข

“คนขับ ขับรถมานี้หน่อย ระหว่างทางถ้าเจอคุณเฉินที่มาที่นี้ครั้งที่แล้ว ถามเธอว่าจะไปไหน แล้วไปส่งเธอด้วย “ซังหลินจวินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและพูดอย่างจำใจ: “ไม่ต้องบอกว่าฉันสั่ง”

————

ซังหลินจวินกำลังอ่านเอกสารในห้อง

ในบางครั้งเขาเงยหน้ามองนาฬิกา

เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วหลังจากโทรศัพท์

เขาเหลือบมองโทรศัพท์อีกครั้ง

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็สั่น

เขารับแล้ว

“นายครับ คุณเฉินถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว”

อืม ขอบใจ

“นี้แค่เรื่องส่วนหนึ่งครับ แต่ว่า วันนี้คุณเฉินดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี ถ้าดูไม่ผิดเหมือนโดนตบมา ลายนิ้วมือห้านิ้วบนใบหน้าชัดมาก ”

ซังหลินจวินเงียบเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดว่า: “ฉันรู้แล้ว รีบพักผ่อนเถอะ”

ยัยซื่อบื้อ ปกติดูดื้อรั้นแล้วจริงๆแล้วปกป้องตัวเองไม่ได้ ปล่อยให้คนอื่นมารังแก

ในคืนนั้น.

เฉินเฉียวเก็บของใส่กระเป๋าเดินทาง ย้ายไปที่บริษัท เริ่มหาที่อยู่ใหม่ทางอินเตอร์เน็ต

วันรุ่งขึ้น

หลี่ชิงถอนหายใจเมื่อเห็นรอยบนใบหน้าของเธอ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก

เพียงยื่นสิ่งที่อยู่ในมือเธอให้เธอ “ผู้อำนวยการคะ นี่พัสดุค่ะ”

แพคเกจขนาดเล็กมาก

เฉินเฉียวแกะออกและข้างในมีหลอดยาทาหล่นออกมา

หลี่ชิงหยิบมันขึ้นมาและส่งให้เธอ เฉินเฉียวมองเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็ตะลึง ครีมนี้มีไว้เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดตอนนี้เธอต้องใช้มันบนหน้า

แต่ว่าใครส่งมากันนะ

เมื่อวานมีไม่กี่คนที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นของคนพวกนั้น เริ่นหมิงเซวียน, โหยวจิ้งหลี และ ปู้ฮวานเหยียน ต่างก็อยากให้อาการบาดเจ็บของเธอแย่ลงส่วนท่านประธาน …

เขาคงไม่ถึงกับต้องใช้วิธีนี้

“ มีชื่อผู้ส่งไหม”เฉินเฉียวถาม

ไม่มีค่ะ ไม่มีแม้แต่เบอร์โทร รู้แค่ว่าเป็นพัสดุแบบด่วนพิเศษ “หลี่ชิงตอบ คิดอยู่พักหนึ่ง ก็ถามว่า “ผู้อำนวยการคะ เป็นไปได้ไหมว่าประธานปู้เป็นคนส่งมา”

เมื่อนึกถึงชายคนนั้นเฉินเฉียวก็ขมวดคิ้ว

เขายิ่งเป็นไปไม่ได้

ในหัวเธอก็มีร่างปรากฏขึ้นโดยไม่มีเหตุผล ความคิดนั้นแวบขึ้นมา แม้แต่เธอเองก็ตะลึง

ฟุ้งซ่านอะไร

ที่จริงเธอคิดว่าอาจจะเป็นซังหลินจวินส่งมาให้

เขาออกจะยุ่งมากขนาดนั้น มีกระจิตกระใจมาทำเรื่องน่าเบื่อแบบนี้ที่ไหนกัน ถึงแม้ว่าแค่คิด แต่ความคิดนี้ไม่ได้อยู่กับเธอ

“ มันเป็นเรื่องลึกลับ”เฉินเฉียวพูดเบาๆและโยนยาลงในลิ้นชักโดยไม่คิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป

ในช่วงบ่ายหลังการประชุมเธอเดินผ่านปู้อี้เฉินในห้องประชุม เฉินเฉียวทำเป็นไม่เห็นเขา แต่ตอนสวนกันโดนเขารั้งข้อมือไว้

ปล่อยนะเฉินเฉียวลดเสียงลงและเงยหน้ามองเพื่อนร่วมงานที่เดินออกไปทีละคน

ปู้อี้เฉินไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องการรั้งเธอไว้ แต่เมื่อเขาเห็นบาดแผลบนใบหน้าของเธอหัวใจของเขาก็เต้นแรงด้วยความสงสารอย่างไม่มีเหตุผล

ผิวของเธอขาวเนียน

รอยตบบนหน้าเธอนั้น ดูแล้วปวดใจ การตบแม่ของเขานั้น ไม่ได้เบาไปกว่าที่เขาตบเธอครั้งนั้นเลย

“ทายาหรือยัง”เขาถามอย่างไม่สบายใจเล็กน้อย ฝืนใจพูดออกมา

เฉินเฉียวเงยหน้าขึ้นมองเขา

ยานั่น ที่แท้ปู้อี้เฉินเป็นคนให้จริงๆด้วย

ก่อนหน้านี้เธอเคยเชื่อมโยงเรื่องยากับซังหลินจวินอย่างไม่มีเหตุผลซึ่งเป็นเรื่องตลกจริงๆ

เฉินเฉียวดึงมือออกโดยไม่เต็มใจที่จะยอมรับความสงสารจากเขา “ฉันซื้อยาเองได้”

คำพูดเย็นชาไม่กี่คำ ทำให้ความเป็นห่วงของปู้อี้เฉินกลายเรื่องที่น่าขำ

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset