Immortal and Martial Dual Cultivation – ตอนที่ 52 ใครจะฆ่าใคร?

ตอนที่ 52 ใครจะฆ่าใคร?

 

หลังจากที่เซียวเฉินเก็บทุกอย่างใส่แหวนห้วงจักรวาลเขาก็จัดเสื้อคลุมที่เขาสวมอยู่ให้แน่นหนาและเดินออกจากห้องไป เขาไม่สนใจศิษย์ตระกูลถังสองคนที่ตามเขามาและมุ่งหน้าไปที่ประตูหลังของศาลาหลินหลาง

 

หนึ่งในคนที่เดินตามมาพูดขึ้น “ไปรายงานนายน้อยสองข้าจะตามมันไป”

 

“ได้ เจ้าตามมันไปก่อนระวังอย่าให้คลาดสายตา หากนายน้อยสองจะโทษใครละก็เป็นพวกเราสองคนนี่ละที่จะซวย”

 

ถังเฟิงนั่งร้อนรนอยู่ในห้องของเขาเพื่อรอข่าวจากผู้ติดตามของเขา หินวิญญาณระดับต่ำก้อนนี้คือสิ่งที่พ่อของเขาสั่งให้เขาทุ่มเงินทั้งหมดเอามันมาให้ได้

 

ในตอนนี้แผนของเขาถูกใครก็ไม่รู้ป่วนเละ หากเขาทำภารกิจไม่สำเร็จและกลับไปมือเปล่าเขาคงไม่พ้นที่จะถูกลงโทษเป็นแน่

 

“ปัง!”

 

ประตูของห้องถูกเปิดขึ้น ถังเฟิงพบว่านั้นคือหนึ่งในผู้ติดตามของเขา เขารีบพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี “ได้ความว่า? ไอ้คนหน้าด้านที่กล้ามาฉวยของของข้ามันเป็นใคร?”

 

ผุ้ติดตามคนนี้วิ่งมาตลอดทางและกำลังหอบ เขาอยากจะพูดอะไรออกมาแต่ก็มิอาจทำได้

 

ถีงเฟิงออกปากด่าเขา “เจ้าขยะจะพูดอะไรก็รีบพูดมา หากไอ้คนนั้นมันหลุดไปได้เจ้าบอกลาชีวิตอันน่าเวทนาของเจ้าได้เลย”

 

ผู้ติดตามคนนี้ตื่นกลัวพูดคำหายใจคำอย่างยากลำบาก “รายงาน…นายน้อย..มันผู้นั้นสวมชุดคลุมดำทั้งตัวพวกเราไม่สามารถเห็นรูปร่างหน้าตาของมันได้”

 

“อย่างไรก็ตาม ระดับขอบเขตของเขาอยู่เพียงขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง ถังซานกำลังติดตามเขาไปอยู่”

 

เป็นเพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง… ดวงตาของถังเฟิงเป็นประกาย “เจ้าเห็นผู้จัดประมูลส่งของสามชิ้นนั้นไปที่ห้องของเขา?”

 

“ใช่ข้าเห็น”

 

“ดี!” ถังเฟิงยิ้มเย็นชา “เป็นเพียงแค่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดไร้ค่า ยังกล้ามาป่วนแผนของข้าถึงสองครั้ง ข้าอยากจะเห็นว่ามันมีดีอะไรในตัว”

 

“พวกเจ้าสี่คนไปจัดการเรื่องนี้ แค่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง… อย่ากลับมาบอกว่าพวกเจ้ารับมือมันไม่ได้ ข้าจะกลับไปรายงานสถานการณ์ในตอนนี้ให้ท่านพ่อทราบ”

 

“นายน้อยสองโปรดมั่นใจ ไม่ต้องพูดถึงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางแม้แต่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูงก็ไม่เกินมือพวกเรา” ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธผู้ติดตามของถังเฟิงกล่าวขึ้น

 

……

 

ในตอนนี้ลานด้านหลังของศาลาหลินหลางหนานกงหยานกำลังจัดการคนมาเก็บกวาดห้องลับที่พังทลายลง เขาหวังว่าจะยังเก็บคืนเม็ดยาที่ไม่เสียหายกลับมาได้บ้าง ถึงยังไงมันก็เป็นผลผลิตจากความพยายามกว่าสิบปีของเขา หากมันหายไปทั้งหมดเช่นนั้นเขาคงปวดใจไม่น้อย

 

ในขณะนั้นเองพ่อบ้านของศาลาหลินหลางก็เข้ามา ใบหน้าของเขาแสดงออกมาอย่างน่าเกลียดอย่างไม่น่าเชื่อขณะที่เขากำลังยืนอยู่ด้านหลังของหนานกงหยาน เขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็เรียงคำพูดออกมาไม่ได้

 

เมื่อหนานกงหยานเห็นเช่นนั้นเขาก็ตรงเข้ามาพูดขึ้นเสียงกังวล “ผู้เฒ่าหลี่มีอะไรก็พูดออกมา”

 

เมื่อผู้เฒ่าหลี่ได้ยินดังนั้นเม็ดเหนื่อยก็แตกเต็มหน้าผากของเขาพร้อมกับพูดขึ้นช้าๆ “เถ้าแก่ เรื่องที่ท่านมอบหมายให้เรานั้นจัดการเรียบร้อยแล้ว นักปรุงยาผู้นั้นประมูลสินค้าไปสามชิ้น”

 

เมื่อหนานกงหยานได้เช่นนั้นก็สบายใจพร้อมกับยิ้มขึ้น “ข้าก็นึกว่าเกิดเรื่องอะไร ไม่ต้องไปกังวลเรื่องเล็กน้อยเช่นนั้น! เอาล่ะ เขาประมูลอะไรไปบ้าง”

 

เมื่อผู้เฒ่าหลี่เห็นเถ้าแก่ไม่ได้เป็นกังวลเขาก็เริ่มผ่อนคลาย “แก่นกลางนาคารุ่งอัคคี หินวิญญาณระดับต่ำและเหล็กน้ำค้างเหมันต์ระดับสูง”

 

หนานกงหยานหัวเราะเสียงดัง “ตาดีไม่เบาๆ ของพวกนั้นค่อนข้างดี แม้แต่ในลัวเจี๋ยก็ยังนับว่าเป็นสมบัติ”

 

ผู้เฒ่าหลี่ลังเลอยู่เป็นเวลานานก่อนที่จะตัดสินใจได้ พูดขึ้นอย่างช้าๆ “อย่างไรก็ตามราคาที่เขาเคาะนั้นก็ออกจะสูงไปหน่อย”

 

หนานกงหยานหน้าบูดอีกครั้ง “ทำไม? กังวลว่าข้าจะจ่ายมันไม่ได้? คิดว่ากระเป๋าเงินนายของเจ้ามีเงินเท่าไหร? แล้วเขาเรียกราคาไปเท่าไหร?”

 

“สิบล้านเหรียญ..ทอง”

 

“สิบล้าน…” หนานกงหยานกล่าวออกมาได้ครึ่งทางก่อนที่จะสีหน้าเปลี่ยน “เจ้าว่าอะไรนะ? พูดอีกที”

 

“สามรอบรอบละสิบล้านเหรียญทอง เป็นเงินทั้งหมดสามสิบล้านเหรียญทอง” ผู้เฒ่าหลี่เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีแต่เขาก็ยังบอกไปตามตรง

 

“แม่ยายมันเถอะ!” เมื่อหยานกงหยานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ลืมฐานะของเขาตะโกนด่าออกมา ผู้ติดตามรอบข้างเขาและผุ้เฒ่าหลี่ตกใจกลัว

 

ด้วยฐานะของหนานกงหยานแม้บุคคลผู้อื่นจะไม่ได้รับรู้นักก็ไม่มีทางที่ผู้คนรอบตัวเขาจะไม่รู้จักเขา เขาเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของผู้นำตระกูลหนานกงคนปัจจุบันหนานกงเลี่ย นอกจากนี้เขายังเป็นหัวหน้าของนักปรุงยาหลวงของราชวงศ์แห่งอาณาจักรต้าฉิน

 

เขาเป็นคนที่จักรพรรดิยังต้องเกรงใจ หนานกงหยานโกรธจัดจนลืมฐานะของเขาและพ่นคำด่าออกมา

 

นี่ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว หากหนานกงหยานจะลงโทษใครสักคนพวกเขาก็ไม่อาจเก็บหัวไว้บนบ่าได้อีกต่อไป

 

ผู้เฒ่าหลี่คุกเข่าลงกับพื้นอย่างหวาดกลัว “เถ้าแก่ พวกเราควรส่งคนไปจับตัวเขาหรือไม่? เขาน่าจะไปไม่ได้ไกลนัก”

 

เมื่อหนานกงหยานได้ยินเช่นนั้นเขาโกรธหนักขึ้นไปอีก แม้แต่เขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้  หากจะส่งคนพวกนี้ไปก็ขุดหลุมเตรียมไว้ให้พอ เขาตะโกนเสียงดัง “ช่างบ้าบิ่น! ข้าพูดออกมาหรือว่าข้าอยากจะไล่ตามเรื่องนี้?”

 

ผู้เฒ่าหลี่งุนงงไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรผิด “เถ้าแก่ ไม่ใช่ว่าท่านโหโมมากเมื่อครู่? ท่านจะปล่อยมันไป?”

 

หนานกงหยานกลับมาสงบ… ความั่นคงทางอารมณ์ของนักปรุงยาระดับ 7 ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น เขากล่าวอย่างไม่แยแส “เจ้าไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าไปสร้างปัญหาให้กับคนคนนั้น”

 

“หากเขากลับมาอีกในอนาคต ปฏิบัติต่อเขาอย่างเคารพและอย่าไปยั่วยุเขา สำหรับสามสิบล้านเหรียญทองนั้นข้าจะจัดการเอง”

 

ดูเหมือนเขาจะต้องเลื่อนการเดินทางออกไปอีก หนานกงหยานยิ้มอย่างขมขื่น ดูเหมือนเขาจะต้องพึงการสกัดเม็ดยาระดับ 7 ออกมาเพื่อแก้ปัญหาการเงินนี้

 

อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกไม่พอใจ สามสิบล้านเหรียญทอง..เจ้าปีศาจนั้นกล้าเรียกมาได้ยังไง

 

 

ด้านนอกของศาลาหลินหลางเซียวเฉินสวมชุดคุลมดำทั้งตัว เขากำลังเดินช้าๆเฝ้าสังเกตสี่คนที่กำลังเดินตามเขามาอยู่ด้วยสัมผัสวิญญาร

 

มีระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นต่ำหนึ่งคนและที่เหลือเป็นระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นสูง มันท่าจะยุ่งยากแล้ว ข้าต้องจัดการระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธให้เร็วที่สุดเซียวเฉินคิดแผนในใจ

 

เซียวเฉินเดินเข้าไปในตรอกเปลี่ยวแคบๆ มันแคบมากสามารถให้คนสองคนยืนชนไหล่เข้ามาเท่านั้น ที่นี้ค่อนข้างห่างไกลจากถนน ไม่มีร่องรอยคนรอบข้าง

 

พวกมันน่าจะเริ่มลงมือในจุดนี้เซียวเฉินคิดในใจ

 

อย่างที่เซียวเฉินคาดไว้เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็พบผู้บ่มเพาะพลังแต่งชุดน้ำเงินอยู่ตรงหน้าของเขาปิดล้มหน้าหลัง ดูเหมือนเซียวเฉินจะไม่เหลือทางให้หลบหนี

 

“ตามข้ามาตั้งแต่ศาลาหลินหลางจนถึงที่นี่พวกเจ้ามีธุระอะไรกับข้า?” เซียวเฉินกล่าวพร้อมกับหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างรวดเร็ว สิ่งที่เขาต้องทำคือเร่งฆ่าระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธภายในครั้งเดียว

 

“ข้าไม่มีเวลามาเสียกับคำไร้สาระของเจ้า รีบส่งของที่เจ้าประมูลมาซะจะเป็นการดีกับตัวเจ้าเอง หรืออยากจะตายอย่างน่าสมเพช”

 

เซียวเฉินเผยรอยยิ้มจางๆภายใต้ผ้าคลุม เลือดและพลังฉีของเขาพรุ่งหล่านเร่งกำลังจนถึงขีดสุด เขาเพียงแค่รอให้พวกมันเริ่มลงมือเท่านั้น

 

เซียวเฉินทำเป็นครุ่นคิดเขาหันหน้าไปทางระดับขอบเขตเขี่ยวชาญยุทธ “เจ้าต้องการหินวิญญาณระดับต่ำ? ข้าจะมอบให้เจ้า..”

 

พอเขาพูดจบเขาก็สะบัดมือและหินวิญญาณระดับต่ำก็ลอยออกมากลางอากาศ ภายใต้แสงอาทิตย์หินวิญญาณเปล่งประกายระยิบระยับ มันลอยสูงขึ้นตรงไปทางระดับขอบเขตเชี้ยวชาญยุทธคนนั้น

 

แม้ว่าระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธคนนั้นจะสงสัยที่เซียวเฉินส่งหินวิญญาณมาอย่างว่าง่าย เขาก็ดูแคลนเซียวเฉินที่เป็นเพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางที่ไม่สามารถทำอันตรายเขาได้

 

ในขณะที่หินวิญญาณกำลังจะตกลงบนพื้นระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธคนนั้นก็ละสายตาจากเซียวเฉินไปที่หินวิญญาณ เขากระโดดขึ้นยืดแขนขวาของเขาตั้งใจจะรับหินวิญญาณที่กำลังร่วงหล่นลงมา

 

“ฮ่ะ!”

 

เซียวเฉินยิ้มอย่างเย็นชาในใจพร้อมกับตะโกนออกมาเบาๆ เขาฝากรอยเท้าลึกกว่าสองนิ้วไว้บนพื้น ส่งร่างของเขาลอยไปราวกับลูกศร

 

เมื่อระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธเห็นเซียวเฉินขยับเขาก็ละสายตาจากหินวิญญาณและส่งฝ่ามือออกไปพยายามหยุดการจู่โจมของเซียวเฉิน

 

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเขาไม่ได้ทันตั้งตัว เขาไม่อาจหยุดเซียวเฉินที่เร่งพลังจนถึงขีดสุดจู่โจมเข้ามาเต็มกำลัง

 

สายลมส่งเสียงออกมาจากฝ่ามือของเขาและประกายแสงสีม่วงวูบวาบ ระดับขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธผู้นั้นสัมผัสได้ถึงกระแสไฟฟ้าออกมาจากฝ่ามือนั้น ตอนนี้เขารู้สึกถึงความชากระจายไปทั่วร่างของเขา เขาพบว่าแขนขาของเขาแข็งทื่อทันที

 

“ปัง!”

 

เมื่อเซียวเฉินชิงความได้เปรียบมาได้เขาก็ไร้ความปราณีใดๆและเตะเข้าไปที่บุคคลด้านหน้าของเขากลางอากาศอย่างไม่รีรอ

 

“ฮุ่!”

 

กระแสเปลวเพลิงสีม่วงหมุนวนบนนิ้วมือของเซียวเฉินอย่างรวดเร็ว หลังจากหมุนวนมาอย่างไม่รู้จบมันก็ถูกยิงออกมาใส่คนที่ลอยอยู่กลางอากาศ เสียงไพเราะดังออกมาพร้อมกับรูขนาดหนึ่งนิ้วบนหน้าผากของคนคนนั้น

 

เมื่อเซียวเฉินเตะขึ้นไปบนอากาศกระแสไฟฟ้าที่เซียวเฉินใช้โจมตีคนคนนั้นก็สลายไปพอดี เมื่อเพลิงสีม่วงถูกยิงออกไปที่เขาร่างก็ถูกกลืนหายไปในทันที

 

เปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงของเซียวเฉินนั้นไม่ใช่เปลวเพลิงอัสนีม่วงแบบที่ผ่านมา มันยกระดับความสามารถไปอีกขั้น มันสามารถเจาะทะลวงเกราะพลังปราณได้ทันที

 

เปลวเพลิงที่เจาะเข้าไปในหัวของเขานั้นเผาร่างกายจากข้างใน รูที่ถูกสร้างโดยเปลวเพลิงขยายใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น

 

ภายใต้แสงอาทิตย์ร่างของเขาตอนนี้ราวกับท่อนไม้ที่กำลังลุกไหม้ หลังจากที่เผาก็กลายเป็นเถ้าถ่านร่วงหล่นลงมาจากฟ้า เมื่อลมพัดผ่านก็กลายเป็นฝุ่นปลิวกระจาย

 

รายละเอียดมากมายที่อธิบายมาเป็นเวลานานนี้เกิดขึ้นในเพียงอึดใจเดียวเท่านั้น จากตอนที่เขาทำให้คู่ต่อสู้มึนงง เตะเขาลอยขึ้นไปบนฟ้าและยิงเปลวเพลิงอัสนีม่วงที่แท้จริงออกไปใช้เวลาเพียงสามลมหายใจเท่านั้น

 

เมื่อคนที่เหลือทั้งสามเห็นเพื่อนตัวเองกลายเป็นเถ้าถ่านลอยไปในอากาศ ความกลัวที่ไร้ขอบเขตก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของพวกเขา เพียงชั่วพริบตาเดียวคนที่แกร่งที่สุดในกลุ่มพวกเขาก็ถูกเซียวเฉินทำลายหายไปในทันที

 

บุคคลผู้นี้อยู่ระดับขอบเขตตอมยุทธฝึกหัดขั้นกลางจริงรึ? สายตาของพวกเขาต้องไปที่เซียวเฉินที่อยู่ในชุดคลุมดำอีกครั้ง ครั้งนี้เซียวเฉินดูราวกับยมทูตที่ขึ้นมาจากนรก

 

“ให้ตายเถอะ! ต่อให้มันแกร่งเพียงใดมันก็เป็นเพียงระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดขั้นกลาง นอกจากนั้นมันก็ไม่ได้มีอาวุธวิญญาณ ข้าเชื่อว่าสามคนลุมก็ไหว” หนึ่งในสามคนนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างกล้าหาญ

 

เมื่ออีกสองคนได้ยินดังนั้นพวกเขาก็หยิบอาวุธออกมา ภารกิจที่นายน้อยสองมอบหมายมานั้นไม่อาจจะล้มเหลวได้หรือไม่สิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือบทลงโทษรุนแรงสาหัส

 

แม้ว่าบุคคลตรงหน้าพวกเขาจะน่ากลัวพวกเขาก็ยังพอมีทางชนะ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาดึงอาวุธออกมาก็ตระหนักได้ว่าตรอกแคบขนาดนี้จะเอาพื้นที่ที่ไหนไปแกว่งอาวุธได้ พวกเขาร้อนใจอย่างช่วยไม่ได้

 

เซียวเฉินยิ้มเยาะเย้ย “คิดว่าข้าเลือกเข้ามาในตรอกนี้แบบสุ่มๆหรือไง? ตามข้าเข้ามาอย่างโง่เขลาจะไม่มีเจ้าสักคนจะได้กลับออกไปในวันนี้”

Immortal and Martial Dual Cultivation

Immortal and Martial Dual Cultivation

เซี่ยวเฉินได้ซื้อ ‘ตำราบ่มเพาะพลัง’ มาจากเถาเป่าพร้อมกับเม็ดยาเซียนที่จะทำให้เซี่ยวเฉินเข้าสู่โลกแห่งเซียนได้ ถึงกระนั้นเขาได้เขาได้ฝึกฝนตามตำรามากว่าสามปีแต่กลับไม่มีความคืบหน้าแม้แต่น้อย เขาจึงตัดสินใจที่จะกินเม็ดยาเซียนเข้าไปและมันทำให้เขาข้ามภพไปเกิดในร่างของเด็กหนุ่มที่มีชื่อเดียวกับเขา ไปสู่โลกทวีปเทียนหวู่ไปสู่โลกที่ถูกปกครองด้วยศิลปะการต่อสู้ไปสู่จุดเริ่มต้นใหม่ของเขา ผู้แต่ง : 月如火 Reach the peak of immortal cultivation and become able to run amok without fear! Use the power of martial arts to rule the world and defeat heroes! The weather changes at the whim and wave of a palm. He who cultivates both immortal techniques and martial arts, who could possibly defeat him! Xiao Chen is a shut-in who purchased a ‘Compendium of Cultivation’. Soon after, he crossed over into the Tianwu World, a world ruled by martial arts. He then refined pills, drew talismans, practiced formations, crafted weapons and cultivated the Azure Dragon Martial Soul that had not been seen for thousands of years. This is a story that tells of an exciting and magnificent legend!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset