หลินมู่อวี่มองคันธนูที่สะพายอยู่ รู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้ใช้มัน
แต่หลินมู่อวี่ไม่ได้รู้สึกเสียใจ หยิบอาวุธเหล่านี้มาด้วยก็ไม่เลว อย่างน้อยในป่าสัตตะดาราที่เต็มไปด้วยภยันตราย ตนเองจะได้มีอะไรในมือไว้ป้องกันตัวเองบ้าง
ฉู่เหยาเดินเข้าไปด้วยความตื่นเต้น จับมือหลินมู่อวี่ไว้และพูด “อาอวี่ วิญญาณสัตว์เป็นของล้ำค่าสำหรับผู้ฝึกยุทธ์ เร็วเข้า เจ้ารีบไปดูดซับวิญญาณสัตว์ของพยัคฆ์กระหายเลือดเถอะ นี่ไม่ใช่ของที่จะหากันได้ง่ายๆ นะ ถ้าเจ้าไม่ดูดซับมันภายในเวลาหนึ่งชั่วยาม มันจะสลายหายไป!”
หลินมู่อวี่ตกตะลึง “ดูดซับยังไงหรือ”
“ จะ…เจ้ายังไม่ได้ปลุกวิญญาณยุทธ์หรือ” ฉู่เหยาตกใจด้วยเหมือนกัน
“ ยังขอรับ…” หลินมู่อวี่เริ่มอึกอัก “วิญญาณยุทธ์…มันคืออะไรเหรอ”
ฉู่เหยาอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมถึงได้มีคนแข็งแกร่งที่ทรมานพยัคฆ์กระหายเลือดจนตาย แต่กลับไม่รู้ว่าอะไรคือวิญญาณยุทธ์กันนะ เดิมทีนางนึกว่าหลินมู่อวี่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตมนุษย์ขั้นที่สอง แต่ตอนนี้ดูท่า… คงเป็นแค่คนธรรมดาที่แข็งแรงเท่านั้น
“ อาอวี่ งั้นเจ้าคุ้มกันข้าอยู่ตรงนี้ ข้าจะดูดซับเอง”
“ อือ!”
หลินมู่อวี่ถือดาบยืนคุ้มกันอยู่ทางด้านข้าง ฉู่เหยานั่งขัดสมาธิลงที่พื้น หลับตาทั้งสองข้าง พลังปราณห่อหุ้มร่างของนาง วิญญาณสัตว์ที่เกิดขึ้นหลังจากพยัคฆ์กระหายเลือดตายลง ค่อยๆ เคลื่อนไปทางฉู่เหยา และไหลเข้าสู่ร่างของนางทีละนิดๆ แต่ดูเหมือนว่านางจะดูดซับได้เพียงแค่ปริมาณเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของฉู่เหยายังดูทรมานผิดปกติอีกด้วย เหงื่อออกโทรมกาย ไม่นานอาภรณ์ของนางก็เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ พี่ฉู่เหยา ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม” ตรงข้ามกับฉู่เหยา หลินมู่อวี่เป็นพวกมือใหม่ที่ ไม่รู้อะไรสักอย่างเลยจริงๆ
ฉู่เหยาขมวดคิ้วแน่น ไม่ปริปากพูด
รออยู่เกือบสองชั่วโมง ในที่สุดฉู่เหยาก็พ่นลมหายใจยาวออกมา นางลืมตาขึ้น ดูเหมือนนางเปลี่ยนเป็นคนใหม่ในชั่วพริบตา แม้แต่หลินมู่อวี่ก็มองเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ ยิ้มถาม “พี่ฉู่เหยา ท่านมีอะไร…เพิ่มขึ้นหรือเปล่า”
ฉู่เหยาพยักหน้ายิ้ม “อือ ข้าผ่านขอบเขตมนุษย์ชั้นที่สอง ตอนนี้มาสู่ชั้นที่สามแล้ว!”
เห็นหลินมู่อวี่ทำหน้างง ฉู่เหยาอดขำออกมาไม่ได้ “ระดับของผู้ฝึกยุทธ์ในแผ่นดินนี้ใช้ตัวเลขเป็นตัววัด เมื่อหนึ่งชั่วยามที่แล้ว พลังของข้าอยู่ระดับสิบเก้า ข้าบอกเจ้าตามตรง ข้าติดอยู่ที่ระดับสิบเก้ามาสองปีแล้ว หาโอกาสที่จะเพิ่มระดับไม่ได้เลย แต่ครั้งนี้ ได้วิญญาณของพยัคฆ์กระหายเลือดมาช่วย จึงทะลวงผ่านระดับขึ้นไปได้ จะว่าไป ตอนที่ข้าฝึกมาถึงระดับเก้า ชั้นที่หนึ่ง เป็นเพราะได้วิญญาณของหมูป่าอายุห้าสิบปีที่ท่านปู่ไปสังหารมา ข้าถึงได้เลื่อนระดับขึ้นมาได้! เพียงแต่น่าเสียดาย…”
นางมองวิญญาณสัตว์จำนวนมากที่ลอยอยู่เหนือซากศพของพยัคฆ์กระหายเลือดที่สลายตัวไปอย่างรวดเร็ว พูดด้วยความเสียดาย “เสียดายที่พลังของข้าไม่กล้าแกร่งพอ เลยดูดซับวิญญาณสัตว์อายุสี่พันปีนี้ได้ไม่ถึงหนึ่งในร้อยเลยด้วยซ้ำ น่าเสียดายจริงๆ เร็วเข้าอาอวี่ ใช้ดาบของเจ้าเจาะกะโหลกพยัคฆ์กระหายเลือด มันน่าจะมีศิลาวิญญาณอยู่ด้านใน!”
“ อ้อ…”
หลินมู่อวี่เดินเข้าไป พร้อมชักดาบออกมาฟันเข้าบริเวณปากแผลที่นัยน์ตาเหยี่ยวทำไว้อยู่หลายครั้ง ในที่สุด หัวของพยัคฆ์กระหายเลือดก็ถูกเฉือนออก พร้อมมันสมองที่ไหลเยิ้มออกมา ปนกับกลิ่นคาวเลือด มีหินสีแดงเพลิงส่องประกายฝังอยู่ในกะโหลกด้านในของมัน ฉู่เหยายิ้มดีใจพูดขึ้น “มีศิลาวิญญาณอยู่ด้านในจริงด้วย รีบแงะมันออกมาเร็วเข้า!”
“ โพละ” ศิลาวิญญาณอุ่นๆ อยู่ในมือของหลินมู่อวี่
ฉู่เหยายิ้ม “ศิลาวิญญาณอายุสี่พันปี จัดเป็นของล้ำค่า อาอวี่ เจ้าต้องเก็บมันไว้ให้ดี นอกจากข้า ห้ามให้คนอื่นรู้เรื่องศิลาวิญญาณนี้เด็ดขาด ”
“ อือ”
หลินมู่อวี่ยัดศิลาวิญญาณลงกระเป๋าที่แนบติดกับตัว จากนั้นสะบัดดาบ เฉือนเนื้อต้นขาด้านหลังของพยัคฆ์กระหายเลือดออกมาชิ้นหนึ่ง และยัดมันลงไปในถุงผ้า นี่คือเสบียงสำหรับหาทางออกจากป่าสัตตะดารา บางทีถ้าหาเชื้อเพลิงได้ น่าจะเอามาย่างกินได้อยู่
“ อาอวี่ ไปกันเถอะ” ฉู่เหยาดึงแขนของหลินมู่อวี่ หัวเราะคิกคัก “เจ้ายังจะดูอะไรอยู่ได้ ที่นี่อันตรายเกินไป สัตว์วิญญาณอายุกว่าพันปีหลายชนิดชุกชุม ถ้าเจอเข้าอีกตัว พวกเราคง หนีไม่พ้น”
“ ไม่ได้ เราจะไปแบบนี้เลยไม่ได้…” หลินมู่อวี่ขมวดคิ้ว “พี่ฉู่เหยา ข้าอยาก…กลับไปที่ถ้ำของพยัคฆ์กระหายเลือด ท่านกลับไปก่อนเถอะ!”
“ ถ้ำเหรอ”
ฉู่เหยาถาม “ถ้ำพยัคฆ์มีอะไรน่าไปดูเหรอ”
หลินมู่อวี่ตอบพร้อมรอยยิ้ม “เท่าที่ข้ารู้มา พยัคฆ์กระหายเลือดชอบเก็บสะสมของมีค่าที่หายาก ยิ่งพยัคฆ์ทรงพลังเท่าไหร่ สมบัติที่สะสมไว้ก็จะยิ่งล้ำค่า พยัคฆ์กระหายเลือดอายุสี่พันปีตัวนี้ จัดว่าเป็นสัตว์ประหลาดเก่าแก่ จะปล่อยโอกาสนี้หลุดลอยไปไม่ได้”
ฉู่เหยาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เจ้าเด็กโลภ ไม่กลัวตายสักนิดเลยนะ งั้นก็ได้ แต่เจ้ารู้เหรอว่าถ้ำของมันอยู่ที่ไหน”
“ พยัคฆ์กระหายเลือดก่อนตาย จะอาลัยอาวรณ์ถ้ำของมันมาก ดังนั้นมันจึงมักวิ่งหนีไปในทิศทางที่ถ้ำของมันตั้งอยู่ เมื่อครู่ตอนที่พยัคฆ์กระหายเลือดตัวนั้นเสียเลือดมากจนตาย มันเปลี่ยนทิศวิ่ง ทิศทางที่หัวของมันชี้ไปก็คือทิศทางที่จะนำเราสู่ถ้ำของมัน”
“ จริงหรือ”
“ ใช่” หลินมู่อวี่พยักหน้าอย่างมั่นใจ ในเกมผู้พิชิตนั้นถูกโปรแกรมไว้แบบนี้ ตั้งแต่สมุนไพรจนพยัคฆ์กระหายเลือด การออกแบบในเกมเหมือนกับที่นี่ทุกอย่าง หลินมู่อวี่เชื่อมั่นอย่างไม่สงสัย
ฉู่เหยาพยักหน้าเงียบๆ “งั้นก็ได้ เป็นเพราะว่าอาอวี่ช่วยให้ข้าไปถึงขั้นวิญญาณสงครามระดับยี่สิบได้สำเร็จ ศิษย์พี่อย่างข้าจะไปเป็นเพื่อนด้วยก็แล้วกัน”
“ วิญญาณสงครามระดับยี่สิบนี่เจ๋งมากเหรอ พี่ฉู่เหยาถึงดีใจขนาดนี้…”
“ แน่นอน ถึงแม้ในเมืองหยินซานจะมีผู้ฝึกยุทธ์ที่มีระดับสูงกว่ายี่สิบมากมาย แต่วิหารศักดิ์สิทธิ์มีกฎว่า ผู้ฝึกยุทธระดับวิญญาณสงครามระดับยี่สิบถึงยี่สิบเก้า จะได้รับเบี้ยเลี้ยงเดือนละหนึ่งเหรียญทองจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ ถึงมันจะไม่ได้มากมายอะไร แต่ก็จัดว่าไม่น้อยเลยทีเดียว ข้าได้หนึ่งเหรียญทองแบบนี้ ท่านปู่จะต้องดีใจมากแน่นอน”
เห็นฉู่เหยายิ้มดีใจเป็นเด็กๆ หลินมู่อวี่อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเหมือนกัน จากนั้นจับดาบแล้วมุ่งหน้าไปทางถ้ำพยัคฆ์กระหายเลือด