S.P.P บทที่ 67: ฟังฉัน!
เจสันได้มองไปที่ด้านหลังของเขา,เสียงนั้นดังมาจากกลุ่มของหญิงสาวที่ตั้งครรภ์กลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินมาอย่างช้าๆไปหาทหารเรือ
ในหมู่พวกเขานั้นที่ด้านหลังมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูสุภาพอ่อนโยน เธอกำลังเดินตามกลุ่มของเธอเธอดูสงบมากและไม่กลัวหรือตื่นตระหนกใดๆ บนไหล่ของเธอมีแมวตัวหนึ่งที่กำลังกวักกรงเล็บมาทางเขาราวกับกำลังเรียกเขาอยู่
ใบหน้านั้นเจสันจำได้ในทันทีมันต้องเป็นของเธออย่างแน่นอน! รูจ! เธอเป็นผู้หญิงที่โรแกนกำลังตามหา สิ่งที่ทำให้เจสันตกตะลึงมากกว่านั้นก็คือเจ้านายตัวน้อยเป็นคนแรกที่พบเธอ
“ เจ้านายน้อย! เธออยู่กับรูจแล้ว!”
เจสันอยากรู้อยากเห็นมากในตอนนี้ แต่เขาจะไม่ได้ทำอะไรอย่างบุ่มบ่าม
ที่นี่มีทหารเรืออยู่เป็นจำนวนมากและถ้าหากว่าเขาทำอะไรผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียวมันจะต้องนำไปสู่ความวุ่นวายอย่างแน่นอน แม้ว่าเขาจะตัวใหญ่และแข็งแกร่ง แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขานั้นไร้สมอง
ในใจของเจสันตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้น,เขาได้ลดมือลงและมองไปที่หญิงสาวคนนั้นเป็นครั้งคราว
เวลาได้ไหลผ่านไปและไม่กี่นาทีต่อมาหญิงสาวที่ตั้งครรภ์ทั้งหมดที่อยู่ข้างหน้ารูจก็ได้ถูกตรวจสอบไปจนหมดและในที่สุดมันก็ได้มาถึงที่ของภรรยาของโรเจอร์
ในเวลานี้ดวงตาของเจสันนั้นจริงจังมาก
เขาได้จ้องมองไปที่รูจอย่างไม่วางตา
เวลาได้ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วและมันก็มาถึงที่ของรูจ
การแสดงออกของผู้หญิงคนนี้นั้นยังคงสงบเธอไม่ตื่นตระหนกใดๆเลย แต่เธอก็ยังคงแสดงให้เห็นร่องรอยของความกลัวในแววตาของเธอซึ่งเป็นการแสดงออกที่ชัดเจนที่สุดของหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์อยู่และถูกทหารเรือตรวจสอบมี
“ บอกชื่อของคุณมา!”
ทหารเรือคนนั้นได้มองมาที่รูจ แต่เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจมากนักเขาเห็นการแสดงออกแบบนี้มาเป็นร้อยรอบแล้ว
ผู้หญิงธรรมดานั้นเมื่อพวกเขาต้องมาเผชิญหน้ากับทหารเรือในสถานการณ์แบบนี้นั้นพวกเขาจะรู้สึกถึงแรงกดดันทางจิตใจและความกลัวนั้นก็เป็นเรื่องปกติ หากพวกเขาแสดงความกล้าออกมาพวกเขาจะยิ่งดึงดูดความสนใจของทหารเรือเข้าไปใหญ่
“รูจ!”
ทหารเรือคนนั้นพยักหน้าและได้ถามคำถามสุดท้ายออกมา
“ คุณได้รับการตรวจสอบมาแล้วสามครั้งและเราก็ไม่พบปัญหาใดๆเลยในทุกครั้ง”
ทหารเรือคนนั้นได้วางเอกสารในมือของเขาลงแล้วเงยหน้าขึ้นมามองรูจ
“ ดังนั้นคุณมีอะไรที่อยากจะบอกกับเราในครั้งนี้ไหม?”
รูจมองไปที่ตาของทหารเรือคนนั้นและเธอก็พยายามพูดอะไรบางอย่างออกมา
แต่ทันใดนั้นจิตใจของเธอก็สั่นไหวและร่างกายของเธอก็สั่น ทหารเรือคนนั้นได้จ้องไปที่ดวงตาของเธอราวกับว่าเขากำลังพยายามจับผิดเธออยู่ มันทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและกลัวว่าเธอจะเผลอพูดความจริงออกไป
“ฉัน.”
“ คุณมีอะไรเกี่ยวข้องกับราชาโจรสลัด,โรเจอร์รึเปล่า?”
ในเวลานี้เสียงของทหารเรือคนนั้นได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
เสียงนี้ดูสงบและชัดเจนในหูของคนอื่น แต่มันเหมือนกับสายฟ้าในหูของรูจซึ่งมันสร้างความสั่นไหวในใจของเธอ
ในตอนนี้มีร่องรอยของความสับสนอยู่ในแววตาของรูจ ดูเหมือนว่าเธอไม่สามารถควบคุมจิตใจของเธอได้และกำลังจะบอกความจริงออกไป
“แย่แล้ว!”
เจสันที่กำลังยืนมองห่างออกไป,เขามองเธอด้วยสายตาที่จริงจัง
เมื่อเขาเห็นสถานการณ์ตรงหน้านี้เขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
“บอกความจริงมา!”
น้ำเสียงนิ่งๆของทหารเรือนั้นทุกคนสามารถได้ยินมันอย่างชัดเจน
ประโยคนี้นั้นได้ดังเข้ามาในหูของรูจอย่างรวดเร็วราวกับเสียงฟ้าร้องมันทำให้ร่างกายของเธอชะงักไปชั่วขณะหนึ่ง ครู่หนึ่งดูเหมือนว่าเธอเกือบจะพูดความจริงทุกอย่างออกไป
“ฉัน…”
เมื่อเธอเผลอพูดออกไปคำหนึ่งดวงตาของเธอก็ได้หับไปทางแมวน้อยในทันที
“เหมียว!”
แมวบนไหล่ของเธอได้ร้องเสียงดังเข้ามาในหูของเธอเพื่อเรียกสติของเธอให้กลับมา
“ ฉัน,สามีของฉัน”
รูจได้กล่าวออกมา
ดวงตาของทหารเรือได้หดแคบลง,แต่เขาก็ยังคงซักถามต่อไป
“ สามีของคุณคือใคร?”
“ สามีของฉันเคยยกเงินเป็นจำนวนมากกับโรเจอร์!”
รูจได้เผยท่าทางที่ดูกลัวออกมาพร้อมกับแววตาที่ดูกระวนกระวาย
“ คุณพยายามซ่อนสิ่งนี้ไว้งั้นหรอ?”
ทหารเรือคนนั้นดูรู้สึกผิดหวัง
“ ฉ..ฉันกลัวว่ากองทัพเรือจะลงโทษฉัน! ข..เขาตายแล้ว ฮึกก! ฮึกก! เขาทิ้งฉันเอาไว้คนเดียว,ฉันกลัวมาก!”
รูจได้ร้องออกมาด้วยความกลัว
ทหารเรือนั้นรู้สึกปวดหัวมากหลังจากนั้นเขาก็ได้โบกมือ
“ไปได้แล้วหละ!”
รูจได้ก้มหน้าของเธอแล้วปิดมันเอาไว้เธอได้เร่งฝีเท้าของเธอและออกไปจากสถานที่แห่งนี้ ในตอนที่เธอได้ก้าวออกมาจากฝูงชนแล้วนั้นเธอก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกในทันที
ดวงตาของทหารเรือคนนั้นราวกับมีเวทย์มนตร์,เสียงของเขานั้นน่ากลัวเป็นอย่างมากราวกับว่ามันมีอำนาจลึกลับที่แข็งแกร่งบางอย่างอยู่,ไม่มีใครสามารถโกหกเขาได้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกกดดัน
เธอเริ่มสงบลงอีกครั้งและได้ลูบไปที่หัวของเจ้านายตัวน้อยบนไหล่ของเธอ
“ ขอบคุณมากนะแมวน้อย!”
“เหมียว!”
เจ้านายตัวน้อยได้ร้องออกมา
ถ้าไม่ใช่เพราะแมวตัวนี้เธอคงจะถูกจับตัวไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานรูจก็ได้เร่งฝีเท้าขึ้นและมุ่งหน้ากลับบ้านในทันที
ในทางกลับกัน,เจสันนั้นกำลังจะตามรูจไป เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าและไล่ตามเธอไป
แต่ในขณะนั้นเองก็ได้มีมือของใครบางวางลงมาบนไหล่ของเจสัน
“นายเป็นใคร?”
เจสันนั้นก็ได้หันกลับมาในทันที
ทันทีที่เขาหันกลับมานั้นเขาก็ได้เห็นร่างที่คุ้นเคย
“ ฉันมีอะไรจะบอกนายสองสามคำ,นายจงตามเธอไปและปกป้องเธอให้ดีที่สุด!”
ภายใต้หน้ากากนั้นได้มีเสียงของชายหนุ่มดังออกมา
เจสันตกตะลึงมาก,ในตอนที่เขาได้ยินเสียงของโรแกน
“ เอาหอยทากสื่อสานนี้ไปเมื่อไหร่ที่ฉันโทรหานาย,นายก็พารูจและเจ้านายตัวน้อยออกไปจากเกาะนี้”
เจสันในตอนนี้รู้สึกกังวลใจมากในตอนนี้เขาไม่รู้จะถามอะไรออกไปดี
“แล้วคุณล่ะกัปตัน?”
“ ฉันจะคอยดึงพวกทหารเรือออกไป”
โรแกนได้ตอบด้วยเสียงสงบมันทำให้เจสันรู้สึกตกใจ
“ แต่..แต่พวกเขามีพลเรือเอกมาที่นี่ด้วยนะครับ, แม้แต่ตำแหน่งที่ต่ำที่สุดก็เป็นพวกร้อยโทร้อยเอกและพลเรือตรีแล้วนะครับกัปตัน!”
เจสันได้พูดออกมาด้วยเสียงดังและพูดออกมาอย่างตื่นตระหนก
“ ฉันจะไปกับคุณด้วย,เราจะไปด้วยกัน!”
“ เจสันฟังฉัน!”
แต่ในวินาทีต่อมาโรแกนก็ได้ขัดจังหวะคำพูดของเขา
“ ตราบใดที่เจ้านายตัวน้อยและรูจปลอดภัย,ฉันก็จะไม่เป็นอะไรเหมือนกัน”
“ แต่มันเป็นพลเรือเอกเลยนะกัปตัน!”
เจสันยังคงไม่ยอมเชื่อ
“ ฉันมีวิธีของฉัน!”
โรแกนได้พูดออกมาและเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจในตนเอง
“ แค่ฟังฉัน”
โรแกนได้ยัดหอยทากสื่อสารเข้าไปในมือของเจสัน,แล้วเขาก็ได้หันหลังกลับไป ในทันใดนั้นเองร่างของเขาก็ได้เลือนหายไป
เมื่อมองไปที่ด้านหลังของโรแกน,เจสันทำได้แค่กำหมัดของเขาด้วยความโกรธ
“ กัปตันขอให้คุณปลอดภัย!”
เวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันอาจจะไม่นานมากนัก แม้ในบางครั้งกัปตันจะทำให้เขากังวลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาได้สร้างสายสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างพวกเขาเอาไว้แล้ว
เขาถือว่าโรแกนเป็นคู่หูของเขา
บนเรือนั้นโรแกนได้เปิดเผยตัวตนของรูจให้พวกเขาได้รับรู้ เจสันนั้นรู้ถึงความสำคัญและความอันตรายของงานนี้
เจสันขบฟันของเขาแล้วหันหลังกลับพร้อมกับไล่ตามรูจไปอย่างรวดเร็ว
เขาไม่ได้เข้าไปหาเธอโดยตรง ในตอนนี้รูจนั้นไม่รู้จักเขาดังนั้นหากเขารีบไปหาเธอเกินไปมันอาจจะกระตุ้นความสนใจของพวกทหารเรือได้
เขารอจนกระทั่งรูจได้เข้าไปในบ้านของเธอ,ในตอนนี้เจสันมองไปรอบๆ แล้วเขาก็ได้ก้าวไปข้างหน้าแล้วเคาะประตู