พริบตานั้นสมบัติที่แตกต่างกันทั้งหมดสามสิบหกคู่หรือคือเจ็ดสิบสองชิ้นพลันบินออกมาจากแขนเสื้อของบุรุษชุดดำ บินว่อนไปทั่วท้องฟ้า ปกคลุมท้องฟ้ากว่าครึ่งเอาไว้
สมบัติต่างๆ อย่างดาบ กระบี่ สามง่าม หากไม่เปล่งแสงเย็นเยียบ ก็เงียบเชียบราวกับมีชีวิตเป็นของตัวเอง และท่าทางดูมีประวัติความเป็นมา
บุรุษชุดดำควบคุมสมบัติจำนวนมากขนาดนี้ในเวลาเดียวกันได้ จิตสัมผัสย่อมเรียกได้ว่าน่าตกตะลึงจนน่าสะพรึงกลัว ไม่ใช่สิ่งที่ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ธรรมดาๆ จะเทียบเทียมได้
หานลี่ขบคิดอย่างรวดเร็ว แล้วเอ่ยชมว่าสุดยอดในใจ
ในขณะนั้นเองบุรุษชุดดำพลันส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง สมบัติทั้งเจ็ดสิบสองชิ้นกลายเป็นหมอกลำแสงทั่วทั้งท้องฟ้าม้วนไปหาหานลี่อย่างไม่อาจต้านทานได้
หานลี่เห็นสถานการณ์เช่นนั้นก็เลิกคิ้ว สะบัดแขนเสื้อ
กระบี่เล่มเล็กสีเขียวยี่สิบสามสิบสายพุ่งออกมา เปล่งแสงสว่างวาบแล้วกลายเป็นสายรุ้งเจ็ดสิบสองสายพุ่งไปหมอกลำแสงฝั่งตรงข้าม
เสียง “เคร้ง” ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระบี่บินสีเขียวโจมตีเข้ากับสมบัติจำนวนมาก และต่างโรมพันเข้าหากันอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน
แม้ว่าสมบัติทั้งเจ็ดสิบสองชิ้น บ้างจะพ่นไอสีดำออกมา บ้างจะกลายเป็นสายฟ้า แต่ท่ามกลางลำแสงสีเขียวที่กำลังเปล่งแสงสว่างวาบ เหล่ากระบี่บินสีเขียวเหล่านี้กลับดูราวกับไร้รูปร่าง ให้ความรู้สึกปลอดภัยไร้กังวล กำลังพัวพันกับสมบัติเหล่านี้ไม่ปล่อยราวกับอสรพิษวิญญาณ ท่าทางไม่ตกเป็นรองเลยสักนิด
บุรุษชุดดำเห็นเช่นนี้ก็ประหลาดใจไปเล็กน้อย จากนั้นก็กระตุ้นสมบัติเหล่านี้ให้อานุภาพเปลี่ยนแปลงไปไม่หยุด แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีผลเท่าใดนัก ยังคงยืนกรานอย่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กับกระบี่ไผ่เขียวตัวต่อเมฆาทั้งเจ็ดสิบสองเล่ม
บุรุษชุดดำมีสีหน้าเคร่งขรึม ฉับพลันนั้นก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วสาวเท้าไปข้างหน้า มือตะปบไปยังฝั่งตรงข้าม
เสียง “ปัง” ดังขึ้น พลังปราณฟ้าดินเกิดเดือดปุดๆ ขึ้นมาท่ามกลางม่านลำแสงที่ห่อหุ้มลงมา จากนั้นเส้นไหมสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มันสั่นเทาแล้วกลายเป็นลำแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งออกไป
ทุกแห่งที่ลำแสงสีดำกวาดผ่านไป ทั่วทั้งท้องฟ้าพลันมืดมน เปล่งแสงสว่างวาบ แล้วปรากฏขึ้นตรงหน้าหานลี่
“มาได้จังหวะ!”
หานลี่มีสีหน้าไม่สับสน กลับร้องตะโกนด้วยเสียงทุ้มต่ำออกมา มือหนึ่งกวาดไปด้านหน้า หมอกลำแสงสีเทาปรากฏขึ้น แล้วผนึกรวมตัวกันกลายเป็นกำแพงลำแสงสีเทา
ลำแสงสีดำพุ่งเข้าไปในกำแพงลำแสงราวกับพายุฝนกระหน่ำ แล้วทยอยกันแข็งตัวหยุดชะงักอยู่ตรงนั้น
หานลี่เลิกคิ้ว ฝ่ามือสีดำสนิทราวกับน้ำหมึกข้างหนึ่งกดไปบนกำแพงลำแสง
แค่กะพริบวาบ กำแพงลำแสงก็มีสีเทาพวยพุ่งขึ้นมา
เสียง “ปังๆ” ดังสนั่นขึ้น!
เส้นไหมสีดำที่ถูกตรึงเอาไว้ในกำแพงลำแสงทยอยกันระเบิดออก กลายเป็นควันสีดำถูกหมอกลำแสงม้วนวนจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
“ลำแสงเทวะดูดปราณ!” บุรุษสวมชุดคลุมสีดำเห็นสถานการณ์เช่นนี้ รูม่านตาพลันหดเล็กลง อดที่จะร้องอุทานเสียงหลงออกมาไม่ได้
แต่ครู่ต่อมาเขาก็มีสีหน้าเคร่งขรึมพลางหยักไหล่ หมอกสีดำสนิทพ่นออกมาจากแผ่นหลัง
ทุกแห่งที่หมอกแข็งตัว คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นกระบี่ยักษ์สีดำขนาดใหญ่อยู่เหนือศีรษะของเขา
ส่วนปลายของกระบี่แข็งตัวราวกับของจริง ส่วนด้ามกลับรางเลือนมองไม่ชัดเจน
แต่แค่ปลายแหลมของกระบี่ยักษ์สั่นเทาเล็กน้อย ดวงแสงสีดำก็ปรากฏขึ้นทันที เปล่งเสียงหึ่งๆ ต่ำๆ ออกมา
“ไป”
สองมือของบุรุษชุดดำร่ายอาคม ชี้ไปที่กระบี่ยักษ์กลางอากาศด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ชั่วขณะนั้นดวงแสงสีดำพลันเปล่งแสงสว่างวาบ ปลายแหลมของกระบี่พุ่งออกไป แรกเริ่มมีขนาดแค่เท่ากำปั้น แต่หลังจากกะพริบวาบๆ ก็มีเส้นผ่าศูนย์กลางสองสามจั้ง กำลังสับลงมาที่หานลี่ราวกับศิลายักษ์สีดำก้อนหนึ่ง
ทุกแห่งที่กวาดผ่านไป อากาศตรงนั้นจะบิดเบี้ยวและมีรอยสีดำปรากฏออกมา
คาดไม่ถึงว่าดวงแสงสีดำนี้จะมีอิทธิฤทธิ์ด้านการฉีกทึ้งห้วงเวลา
สิ่งที่ทำให้น่าตกตะลึงยิ่งกว่าก็คือ ดวงแสงสีดำพุ่งออกมาจากกระบี่ยักษ์อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ชั่วพริบตานั้นก็เรียงตัวกันเป็นแถวเจ็ดแปดลูก
“คู่ควรกับผู้บำเพ็ญเพียรขั้นกลาง อิทธิฤทธิ์ไม่ธรรมดาดังคาด!” หานลี่เห็นฉากนี้ ไม่เพียงไม่ตกตะลึงแต่กลับหัวเราะร่า
เขายกมือขึ้น ฝ่ามือสีขาวบริสุทธิ์ราวกับหิมะอีกข้างยื่นออกมาจากแขนเสื้อ และปะทะกับฝ่ามือสีดำที่หน้าอกอย่างรวดเร็ว
หลังจากเสียงปะทะกันราวกับทองคำกระทบกันดังขึ้น ชั่วขณะนั้นภูเขาขนาดย่อมสีดำและเขียวสองลูกก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นแค่หมุนคว้างและเปล่งเสียง “พรึ่บๆ” ออกมา
วงแหวนสีเขียวและไอสีดำปรากฏขึ้นเหนือยอดเขา มันเปล่งแสงสว่างวาบแล้วพัวพันเข้าด้วยกัน คาดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นวงแหวนยักษ์สีดำเขียว ห่อหุ้มร่างของหานลี่เอาไว้
ยามนี้ดวงแสงสีเขียวลูกหนึ่งพลันเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วโจมตีไปที่วงแหวนยักษ์
เสียงดังสนั่นขึ้น ลำแสงสีเขียวและดำสองสีระเบิดออก
จากนั้นตรงจุดที่ระเบิดก็กลายเป็นหลุมสีดำขนาดใหญ่ ราวกับทรุดลง
และจากนั้นดวงแสงลูกที่สอง ลูกที่สามก็จมหายเข้าไปอย่างต่อเนื่อง ชั่วพริบตานั้นหลุมดำก็ขยายใหญ่ขึ้นสิบกว่าเท่า กลืนทั้งแท่นบูชา หานลี่ รวมทั้งวงแหวนยักษ์เข้าสู่ความมืดมิด
ทั้งแท่นหมื่นวิญญาณถูกหลุมดำยักษ์กดลงมา เปล่งเสียงกึกๆ และเริ่มสั่นเทาอย่างรุนแรง
ผู้บำเพ็ญเพียรที่มองเห็นทุกอย่างอยู่นอกม่านลำแสง อดที่จะสูดลมหายใจอย่างเย็นเยียบเข้าไปไม่ได้
บรรพชนตระกูลหล่งเอาสองมือไพล่หลัง มองสถานการณ์ในม่านลำแสง สีหน้ายังคงไร้ซึ่งความรู้สึก แต่หากมองให้ละเอียดก็จะพบว่าสายตาของเขาเปล่งแสงสว่างวาบไม่หยุด ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยเยือกเย็นนัก
หญิงสาวสวมชุดขนนกตระกูลเยี่ยผู้นั้น กะพริบดวงตาสีดำขลับปริบๆ คาดไม่ถึงว่าถอนหายใจราวกับคนแก่ออกมาไม่หยุด
ผู้บำเพ็ญเพียรตระกูลจิตวิญญาณเที่ยงแท้คนอื่นๆ ย่อมมีสีหน้าแตกต่างกันไป
เซียนเสี่ยวเฟิงและอาวุโสเซียวย่อมมีสีหน้าดูไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง
โชคดีที่กระบี่บินที่กำลังพัวพันกับสมบัติทั้งเจ็ดสิบสองชิ้นเหล่านั้น ยังคงเริงระบำไปมาไม่หยุด และไม่ได้มีท่าทีเสียการควบคุม เช่นนั้นก็หมายความว่าหานลี่ไม่ได้อยู่ในขั้นที่ไม่อาจตอบโต้กลับได้ ทำให้พวกเขายังคงรู้สึกวางใจอยู่ลึกๆ
เห็นได้ชัดว่าบุรุษชุดดำที่กระตุ้นลำแสงสีดำจำนวนมากออกมาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก
เขาในยามนี้ไม่เพียงดวงตามืดมน กลิ่นอายในร่างยังอ่อนแอลง แม้แต่รอยบาดสีม่วงบนหน้าผากก็บิดเบี้ยว ราวกับใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้าหลายส่วน
แต่ในยามที่เขาผ่อนคลายลมหายใจ ก็พลันอ้าปากออกพ่นตราประทับสีฟ้าออกมา ก็ดูเหมือนว่าจะทำการโจมตีครั้งสุดท้าย ฉับพลันนั้นเสียงราบเรียบก็ดังออมกาจากหลุมดำ
“นี่คืออิทธิฤทธิ์ที่พี่ฮุยเชี่ยวชาญที่สุดหรือ? หากเป็นเช่นนั้นก็รู้จักวางตัวดีนี่! ทว่าหากใช้แค่สิ่งนี้คิดจะทำให้ข้าน้อยพ่ายแพ้ ก็ยังไม่พอหรอก”
สิ้นคำพูดนั้น เสียงแหลมสูงจนเสียดแก้วหูก็ดังขึ้นจากหลุมดำ จากนั้นหลุมดำก็ส่งเสียงอึกทึกออกมา เงาทรงสูงสีเงินความยาวเจ็ดแปดจั้งแยกลำแสงสีดำออก จากนั้นลำแสงสีเขียวพลันเปล่งแสงสว่างวาบ เงาร่างคนสายหนึ่งบินออกมาจากด้านใน
บุรุษชุดดำพลันตกตะลึงไปแล้ว ชั่วขณะนั้นพลันร่ายอาคมกระตุ้นอย่างไม่ต้องขบคิด ชั่วขณะนั้นตราประทับสีเงินพลันสั่นไหวขยายใหญ่จนมีขนาดเท่าภูเขา แล้วพุ่งไปกดอยู่เหนือเงาร่างคน
แต่หานลี่ที่บินออกมาจากหลุมดำกลับหัวเราะน้อยๆ ออกมา ความไวเท่ากับความคิด ยอดเขาสองลูกที่โคจรอยู่เหนือศีรษะ ลูกหนึ่งรางเลือน หายวับไปท่ามกลางลำแสงสีเขียว
อีกลูกหนึ่งพลิ้วไหวเปล่งแสงสีดำออกมา ชั่วครู่ก็มีขนาดร้อยจั้งเศษ อักขระยันต์สีเงินจำนวนนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากด้านใน แล้วร่อนลงไปหาตราประทับสีฟ้า
สิ่งของมหึมาสองสิ่งปะทะกัน ยามแรกยังเงียบเชียบ ไม่มีสุ้มเสียงเลยสักนิด
ครู่ต่อมาระลอกคลื่นสีเทาพลันระเบิดออกกลางอากาศ แล้วม้วนไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดด้านราวกับระลอกคลื่น
บุรุษชุดดำมีสีหน้าเคร่งขรึม สะบัดแขนเสื้อไปทางระลอกคลื่น แล้วแยกมันออกอย่างง่ายดาย จากนั้นก็หรี่ตาทั้งสองข้างลง พิจารณาคู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงข้ามอย่างละเอียดอีกครั้ง
และในยามนั้นเองฉับพลันนั้นเขาก็พลิ้วกายด้วยหน้าเปลี่ยนสี จากนั้นเสียงแหวกอากาศก็ดังขึ้น ไอกระบี่ไร้รูปร่างสายหนึ่งแทบจะแฉลบผ่านหัวไหล่ของเขาไป
คาดไม่ถึงว่าไอวิญญาณที่คุ้มครองร่างของเขาจะไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด หากไม่ใช่เพราะเขามีปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็ว เกรงว่าคงจะถูกพุ่งทะลุหัวไหล่ไปตรงๆ แล้ว
บุรุษชุดดำรู้สึกตกตะลึง ขณะที่กำลังคิดจะหันไปมองว่าไอกระบี่ไร้รูปร่างคือสิ่งใดกันแน่ เสียงเช่นเดียวกันกลับดังขึ้นที่ข้างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง หลังจากผ่านไปชั่วครู่ก็ระเบิดออกมาราวกับพายุฝน
บุรุษพลันตะลึงงัน ร่างกายหมุนคว้างไปจากที่เดิมอย่างไม่ต้องขบคิด ชั่วขณะนั้นโล่สีดำ และกระจกโบราณสีทองพลันพุ่งออกมาจากเรือนร่างพร้อมกัน พากันกลายเป็นม่านลำแสงสีทองและลำแสงสีดำคุ้มกันเรือนร่างของเขาเอาไว้
แทบจะในเวลาเดียวกัน กระบี่ยักษ์สีดำเหนือศีรษะก็ระเบิดออก กลายเป็นหมอกสีดำกลืนกินร่างของเขาเข้าไป
แต่ทันใดนั้นจิตสัมผัสจำนวนนับไม่ถ้วนและตาเนื้อก็ไม่อาจมองเห็นไอกระบี่ไร้รูปร่างได้ ทยอยกันจมหายเข้าไปในหมอกสีดำ
คราแรกเป็นเสียงตึงๆ แต่ทันใดนั้นก็กลายเป็นเสียงแหลมสูงราวกับทองคำปะทะกัน
ยามนี้กลางอากาศที่มีหมอกสีดำสนิทพลันมีหมอกลำแสงสีเขียวม้วนวนออกมา ภูเขาสีเขียวเปล่งแสงสว่างวาบพลางปรากฏขึ้น และหมุนวนอย่างรวดเร็ว
ทุกการหมุนวน หมอกลำแสงสีเขียวก็จะม้วนวนออกมา แต่เมื่อออกห่างจากภูเขา หมอกลำแสงก็กลายเป็นไอกระบี่ไร้รูปร่าง จมหายเข้าไปกลางอากาศอย่างไร้ร่องรอย
ยามนี้หานลี่พลันร่างกายพลิ้วไหว หลังจากกะพริบวาบๆ ก็ปรากฏขึ้นเหนือยอดเขาสีเขียว
เขาใช้เท้าข้างหนึ่งย่ำลงไป ยืนสูงตระหง่านอยู่ตรงนั้น และใช้สายตาราบเรียบมองลงมาด้านล่าง
ไอหมอกสีดำด้านล่างถูกไอกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนทะลุผ่าน จึงร่วงกราวลงมา มองเห็นบุรุษชุดดำไม่อาจซ่อนตัวอยู่ในนั้นได้อีก
ในพริบตานั้นเสาลำแสงสีทองสายหนึ่งพลันพ่นออกมาจากม่านหมอก แล้วชี้ตำแหน่งไปที่ยอดเขาสีเขียว
หานลี่เห็นเช่นนั้น ก็เลิกคิ้วน้อยๆ เท้าข้างหนึ่งย่ำลงไป
ยอดเขาสีเขียวที่หมุนวนพลันหยุดชะงัก ในเวลาเดียวกันหมอกสีเขียวก็ม้วนวนออกมา กลายเป็นโล่สีสันแวววาว ห่อหุ้มยอดเขาเอาไว้
แต่ด้วยเหตุนี้ ไอกระบี่ที่แหวกผ่านอากาศก็หยุดชะงัก
ส่วนพริบตาที่เสาลำแสงสีทองและโล่ลำแสงสัมผัสกัน โล่ก็พลิ้วไหวเล็กน้อย ส่วนเสาลำแสงสีทองก็สั่นเทาแล้วแตกไปส่วนหนึ่ง หลังจากที่ส่วนใหญ่สั่นไหวแล้วก็ดีดกลับมาที่เดิม
เปล่งแสงสว่างวาบแล้วหายวับไป จมหายไปในหมอกสีดำ
หลังจากเสียงระเบิดดังอึกทึกขึ้น บุรุษชุดดำด้านในก็ส่งเสียงร้องตะโกนต่ำๆ ด้วยความตกตะลึงระคนโกรธขึ้งออกมา!
ในที่สุดหมอกสีดำก็แตกสลายออก