Abe the Wizard (AtW) – AtW ตอนที่ 67 ความร่ํารวยของมาแชล

 

AtW ตอนที่ 67 ความร่ํารวยของมาแชล

 

อาจารย์โซรินได้แต่ตกใจกับสิ่งประดิษฐ์ของอาเบล ตอนนี้เขาได้คุกเข่าลงเพื่อที่จะตรวจดูว่าแผ่นโลหะเวทย์มนตร์ทั้งสองกล่อง หลังจากนั้นไม่นานโซรินก็ยืนขึ้นก่อนจะพูดว่า “ดูเหมือนว่านายจะรักพ่อบุญธรรมของนายมากเลยสินะ แผ่นโลหะเวทย์มนตร์ 20 แผ่น แท้ที่จริงแล้วการทําแผ่นโลหะเวทย์มนตร์ก็เหมือนกับการทําอาวุธเวทย์ดีๆ นี้เอง ยิ่งไปกว่านั้นแผ่นเวทย์มนตร์พวกนี้ยังเป็นระดับเดียวกับอาวุธเวทย์ทั้ง 2 ชิ้นของนายด้วย”

 

หลังจากที่ได้ยินคําวิพากษ์วิจารณ์ของอาจารย์โซริน ลอร์ดมาแชลก็อดไม่ได้เลยที่จะก้มลงบนพื้นเพื่อที่จะตรวจสอบแผ่นโลหะเวทย์มนตร์ “ถ้าหากท่านอาจารย์โซรินพูดจริงแล้วละก็รถม้าคันนี้ที่อาเบลมอบให้กับฉันก็ต้องมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านเหรียญทองสินะ?”

 

เบธแฮมที่ได้ฟังก็ใช้มือของตัวเองแตะไปที่ไหล่ของลอร์ดมาแซลก่อนจะพูดด้วยน้ําเสียงที่ฟังดูเยาะเย้ยออกมา “งั้นนายก็ควรจะระมัดระวังหน่อยนะ บางทีอาจจะมีคนขโมยรถม้าคันนี้ไปก็ได้”

ลอร์ดมาแชลพยักหน้าของตัวเองก่อนจะพูดออกมาในทันทีว่า “ไม่มีใครกล้ามาหยามฉันหรอกเบธแฮม ถ้าพวกมันรู้ว่าฉันพกอาวุธไว้มากแค่ไหนแล้วละก็ ก็คงไม่มีใครกล้ามาสู้กับฉันมีเพียงผู้ที่มีระดับพลังเท่ากับผู้บังคับบัญชาเท่านั้นที่จะสามารถต่อกรกับฉันได้นะ”

 

อาเบลได้แต่สายหัวเมื่อได้ยินคําพูดของลอร์ดมาแชล ตอนนี้พ่อบุญธรรมของเขาอยู่ในโหมด “โชว์ออฟ” อีกครั้ง ถึงแม้ว่าในงานเลี้ยงลอร์ดมาแซลจะไม่ได้พกดาบเวทย์สองเล่ม แต่ถ้า

ฟังจากที่เขาพูดตอนนี้แล้วละก็ใครๆ ก็จะต้องรู้ได้ทันทีว่าลอร์ดมาแชลนั้นพกอาวุธเวทย์ติดตัวของเขาตลอดเวลา ดังนั้นถ้าหากมีใครกล้ามาเป็นศัตรูกับเขาจริง คนที่เป็นศัตรูคนนั้นก็เหมือนกับฆ่าตัวตายไปแล้วนั่นเอง

 

ดวงตาของอาจารย์เบธแฮมและอาจารย์โซรินเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นอีกครั้งเมื่อเห็นดาบใหญ่ทั้งสองเล่มที่อยู่บนหลังของลอร์ดมาแชล ถึงช่างตีเหล็กทั้งสองคนจะอยากรู้แค่ไหนแต่พวกเขาก็เป็นคนรักษามารยาทเกินกว่าที่จะถามลอร์ดมาแชลออกไปตรงๆ ได้

 

ช่างตีเหล็กทั้งสองคนรู้ดีว่าปรมาจารย์ช่างตีเหล็กอย่างอาเบลจะต้องทําอาวุธที่ดีที่สุดให้กับคนสนิทใกล้ตัวอย่างแน่นอนจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าดาบใหญ่ทั้งสองเล่มที่อยู่บนหลังของลอร์ดมาแชลนั้นจะต้องดีแค่ไหน

 

“ดูเหมือนว่าการที่มีอาวุธที่ดีจะทําให้นายบ้าไปแล้วนะมาแชล” ด้วยมิตรภาพที่ถูกสร้างมานานหลายปีทําให้เบธแฮมกล้าพูดตรงๆ กับลอร์ดมาแชลไปนั่นเอง ทั้งสองคนนี้สนิทเกินกว่าที่จะต้องพูดสุภาพใส่กันไปแล้ว

 

เมื่อเห็นว่าช่างตีเหล็กทั้งสองคนกําลังสนใจอาวุธที่ตัวเองมีลอร์ดมาแชลก็รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้นไปอีก แม้ว่าเบธแฮมจะไม่ใช่ปรมาจารย์ช่างตีเหล็กจริงๆ แต่เบธแฮมเองก็เป็นเหมือนกับช่างตีเหล็กชั้นแนวหน้าของเมืองฮาเวสอยู่ดี ในทางตรงกันข้ามกันปรมาจารย์ช่างตีเหล็กโซรินนั้นเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กที่ได้รับการยกย่องมาจากสหพันธ์ช่างตีเหล็กของทวีปศักดิ์สิทธิ์ก็ดูสนใจในอาวุธเวทย์ของลอร์ดมาแชลด้วยเช่นกัน

 

ลอร์ดมาแชลได้ปลดดาบใหญ่ทั้งสองเล่มของเขาออกมาจากหลังและวางดาบใหญ่ทั้งสองเล่มลงบนโต๊ะในรถม้าทันทีถ้าหากเป็นคนอื่นแล้วละก็ลอร์ดมาแชลก็คงที่จะไม่อธิบายความสามารถของดาบทั้งสองเล่มให้ฟังอย่างแน่นอน ลอร์ดมาแชลได้หันไปที่อาเบขก่อนที่จะพูดออกมา “ดาบเวทย์เล่มนี้เป็นดาบเวทย์น้ําแข็ง ถึงแม้ว่าดาบเวทย์เล่มนี้อาจจะไม่ได้มีคุณภาพดีเท่ากับแผ่นโลหะเวทย์มนตร์แต่ฉันจะแสดงให้ทุกคนให้เห็นเองว่าดาบเล่มนี้สามารถทําอะไรได้บ้าง”

 

ช่างตีเหล็กทั้งสองคนมองหน้าและยิ้มให้กันในทันที อาเบลที่ฟังอยู่ก็รู้ตัวดีว่าจะต้องทําอะไรเขาจึงรีบพูดออกไป “งั้นผมจะสร้างดาบเวทย์เล่มใหม่ให้กับพ่อเอง”

 

ช่างตีเหล็กทั้งสองคนมองดูดาบเวทย์อีกเล่มที่ถูกวางเอาไว้บนโต๊ะ ก่อนที่โซรินจะทนไม่ไหวหยิบดาบเวทย์เล่มนั้นขึ้นมาดูในที่สุด

 

โซรินได้ดึงดาบเวทย์เล่มนี้ออกมาก่อนที่จะใช้นิ้วของเขาสัมผัสไปที่ใบดาบอย่างนุ่มนวล แต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็เกิดขึ้นในทันที ดาบเวทย์เล่มนี้ดูเหมือนกับดาบทั่วไปเป็นอย่าง มากในตอนที่นิ้วของโซรินสัมผัสไปที่ใบดาบกลับไม่มีอะไรเกิด ขึ้นเลยตอนนี้โซรินดูสับสนเป็นอย่างมาก เขาหันมาถามอา เบลในทันทีนี่เป็นดาบเวทย์อย่างงั้นหรออาเบล?” 

 

“ใช่ครับ ดาบเวทย์เล่มนี้จะสามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาเมื่อมันถูกโจมตีครับ” อาเบลได้อธิบายอย่างตรงไปตรงมา

 

“แล้วดาบเวทย์เล่มนี้มีคุณสมบัติอะไรกันแน่ล่ะ?” โซรินยังคงถามต่อไปด้วยความอยากรู้

 

“มันไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษอะไรครับ ดาบเวทย์เล่มนี้สามารถขับไล่ศัตรูของผู้ใช้ให้ต้องล่าถอยไปได้”

 

“ไม่มีทางเป็นไปได้” โซรินได้เผลอพูดออกมาโดยที่ไม่ทันรู้ตัว จากนั้นเขาก็หยิบดาบเล่มนี้ขึ้นมาก่อนที่จะพูดกับลอร์ดมาแชล “งั้นลอร์ดมาแชล ช่วยไปทดสอบดาบเล่ม นี้กับฉันหน่อยได้ไหมที่ด้านนอกของรถม้านั้นนะ”

“ได้แน่นอนอยู่แล้วท่านอาจารย์โซริน” ลอร์ดมาแชลพูดก่อนที่จะกระโดดลงรถม้าในทันที

 

หลังจากที่ลอร์ดมาแชลตอบตกลงและลงจากรถม้าไป ทุกคนที่เหลือในรถม้าเองก็เดินลงจากรถม้าไปเช่นกัน ตอนนี้โซรินได้ถือดาบเวทย์และเตรียมพร้อมที่จะป้องกันการโจมตีของลอร์ดมาแชลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ลอร์ดมาแชลไม่รอช้าเขารีบใช้ดาบอีกเล่มที่มีอยู่โจมตีไปที่ดาบเวทย์บนมือของโซ รินในทันทีทันใดนั้นเองลอร์ดมาแชลก็ได้กระเด็นกลับ ถอยหลังไปไกลถึง 10 ก้าวด้วยกัน

 

โซรินไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนที่เขาแลกเปลี่ยนดาบกับลอร์ดมาแชลผลลัพธ์เช่นนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นต่อไป โชรินที่เป็นฝ่ายโจมตีก็ถูกดาบเวทย์เล่มนั้นกระแทกให้ถอยหลังกลับไป 10ก้าวเช่นเดียวกับลอร์ดมาแชล

 

“โอ้พระเจ้า นี่มันอาวุธทองคําชัดๆ นายรู้ใช่ไหมอาเบลว่าอาวุธทองคํานั้นหมายถึงอะไรกัน? มีเพียงช่างตีเหล็กของอาณาจักรคนแคระเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่จะสามารถสร้างอาวุธระดับนี้ขึ้นมาได้” โชรินได้พูดออกมาด้วยความตื่นเต้น “ตอนนี้นายเป็นสุดยอดช่างตีเหล็กของทวีปศักดิ์สิทธิ์ทวีป นี้อย่างไม่ต้องสงสัยฝีมือของนายมันสมบูรณ์แบบเกิน ไปจริงๆ”

 

ดูเหมือนอาเบลเองจะไม่ได้ดูตื่นเต้นหลังจากฟังคําพูดของโซรินเลย ตอนนี้เป้าหมายของอาเบลไม่ใช่การพัฒนาฝีมือในฐานะช่างตีเหล็กอีกต่อไป เป้าหมายจริงๆ ของเขาในตอนนี้นั้นคือการเป็นจอมเวทย์นั่นเอง

 

นับตั้งแต่อดีตจนมาถึงตอนนี้เบธแฮมเป็นเหมือนกับสักขีพยานที่เฝ้าดูการเติบโตของอาเบลมานับตั้งแต่สมัยที่เขายังไม่ได้เป็นช่างตีเหล็กจนอาเบลได้กลายมาเป็นสุดยอดปรมาจารย์ช่างตีเหล็กเหมือนทุกวันในวันนี้ได้ เบธแฮมอดที่จะพูดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว “อาเบลนายเติบโตขึ้นมากจริงๆ ตอนนี้นายอยู่ห่างกับฉันมากเกินไปละนะ ฉันหวังว่านายจะไม่หยุดสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ในฐานะช่างตีเหล็กแบบนี้ต่อไปนะ”

 

“ถ้าหากขายอาวุธเวทย์ชิ้นนี้แล้วละก็มันจะมีมูลค่ามากแค่ไหนกัน” ลอร์ดมาแชลได้ถามโซรินอย่างตรงไปตรงมา 

 

หลังจากที่โซรินได้ยินสิ่งที่ลอร์ดมาแซลถามออกมาเขาก็กําลังประเมินราคาของอาวุธระดับทองคําในทันทีแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นโซรินก็อดไม่ได้เลยที่จะโกรธ ถึงแม้ว่าลอร์ดมาแชลจะเป็นทั้งเจ้าของอาวุธระดับทองคําชิ้นนี้และเป็นพ่อบุญธรรมของอาเบลแต่การที่จะถามอะไรแบบนี้ออกมาได้เป็นเหมือนการไม่ให้เกียรติอาเบลผู้ที่สร้างดาบเวทย์เล่มนี้ขึ้นมานั้นเองโซรินได้คิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพูดออกไป “มันยากมากที่จะประเมินราคาอาวุธระดับทองคําละนะ อาวุธระดับนี้ถูกบันทึกเอาไว้ในฐานข้อมูลของช่างตีเหล็กน้อยมาก เนื่องจากการสร้างอาวุธระดับนี้ได้ส่วนใหญ่จะถูกเก็บไว้เป็นความลับทั้งหมด แต่ยังไงซะฉันก็คิดว่ามันน่าจะมีราคาราวๆ 2 แสนเหรียญทอง” 

 

เมื่อได้ยินราคาลอร์ดมาแชลก็ได้แต่ลงไปคุกเข่าที่พื้นอย่างไร้พลัง เงินจํานวนกว่า 2 แสนเหรียญทองนั้นเป็นมูลค่าที่มากกว่าปราสาทแฮรี่หลังนี้รวมไปถึงรายได้และเงินเก็บทั้งชีวิตของลอร์ดมาแซลอีกด้วย ดูเหมือนว่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ลอร์ดมาแซลมีจะน้อยกว่าดาบเวทย์เพียงเล่มเดียว

 

แต่ถึงมูลค่าของดาบเวทย์เล่มนี้จะแพงแค่ไหนลอร์ดมาแชลก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยอะไรกับมันเลย แน่นอนว่าผู้ที่สร้างดาบเวทย์ที่มีมูลค่าแพงแสนแพงนี้ได้สุดท้ายก็คืออาเบล ผู้สืบทอดของปราสาทแฮรี่นั่นเอง เมื่อคิดได้ดังนี้แล้วลอร์ดมาแชลก็ยืนได้อีกครั้ง

 

ในตอนแรกอาเบลตั้งใจที่จะโชว์โล่ห์ที่เขาตั้งใจสร้างขึ้นในเมื่อไม่กี่วันมานี้ให้กับโซรินได้ดู แต่ตอนนี้ดาบเวทย์เล่มนี้ที่ลอร์ดมาแชลมีทําให้โซรินตกใจเป็นอย่างมากแล้ว ถ้าหากอาเบลยังคงโชว์อาวุธเวทย์ต่อไปเรื่อยๆ นั้นอาจจะทําให้โซรินมองตัวเขาเป็นพวกชอบโชว์ออฟก็เป็นได้ ยิ่งไปกว่านั้นเองถ้าหากอาเบลมีอาวุธเวทย์มากเท่าไหร่มูลค่าของอาวุธเวทย์เองก็จะถูกลดทอนลงด้วยเช่นกัน

 

หลังจากที่ทดสอบดาบเสร็จทุกคนก็ได้เดินทางกลับปราสาทอีกครั้ง ตอนนี้อาเบลได้รับการแจ้งเตือนมาแล้วว่าเจ้าชายไวแอดต์นั้นแท้จริงเป็นคนยังไง ดังนั้นแล้วอาเบลจึงได้พาลอร์ดมาแชลไปที่โรงตีเหล็กส่วนตัวที่อยู่ในปราสาทแฮรี่

 

“เกิดอะไรขึ้นอาเบล?” ลอร์ดมาแชลถามอาเบลด้วยความสับสน

 

” พ่อครับ ผมคิดว่าเรื่องในครั้งนี้เจ้าชายไวแอดต์คงจะไม่ลามือไปอย่างง่ายๆ แน่นอน พวกเราจะต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเมื่อออกไปจากปราสาทแห่งนี้” อาเบลได้พูดเบาๆ พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล

 

“ไม่ต้องห่วงไปหรอกอาเบล ตอนนี้พ่อมีดาบเวทย์ที่ทรงพลังอยู่ในมือแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ทําร้ายอะไรพวกเราไม่ได้หรอก” ลอร์ดมาแชลพูดออกไปอย่างประมาท ตอนนี้ลอร์ดมาแชลเป็นเหมือนกับผู้ที่ผ่านสงครามมามากมาย เขาไม่เหมือนกับอัศวินธรรมดาๆ อีกต่อไป ลอร์ดมาแชลได้สังหารออร์คมากมายนับไม่ถ้วนในประสบการณ์ที่ผ่านมา

 

เมื่อเห็นใบหน้าที่ไร้ความกังวลของลอร์ดมาแชลก็ทําให้อาเบลรู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น ดังนั้นแล้วอาเบลจึงได้มอบโล่ห์ที่ทําขึ้นมาใหม่ให้กับลอร์ดมาแชลไปพร้อมพูดออกไปว่า “นี่เป็นโล่ห์ที่ผมสร้างขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน ยังไงพ่อก็เอาโล่ห์อันนี้ไปใช้เถอะครับ”

 

ลอร์ดมาแชลรับโล่ห์มาจากมือของอาเบลด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทุกสิ่งทุกอย่างที่ลูกชายบุญธรรมคนนี้สร้างขึ้นมาล้วนแต่เป็นสมบัติล้ําค่าทั้งนั้น เนื่องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่อาเบลสร้างล้วนแต่เป็นอาวุธล้ําค่าดังนั้นแล้วลอร์ดมาแชลจึงไม่ลังเลที่จะรับของขวัญของอาเบลทุกชิ้นเอาไว้เลย

 

“นี่มันโล่ห์ระดับอะไรอย่างงั้นหรออาเบล?” ลอร์ดมาแชลได้ถามออกไปตรงๆ

 

“ถ้าจะอ้างอิงจากที่ท่านอาจารย์โชรินพูดมันจะต้องเป็นโล่ห์ระดับทองคําอย่างแน่นอน” อาเบลพูดออกไปหลังจากใช้เวลาคิดอยู่พักหนึ่ง

 

“แล้วมันมีความสามารถอะไรกันล่ะ?” ลอร์ดมาแชลยังคงถามต่อไป

 

“มันสามารถดูดซับพลังลมปราณจากการโจมตีของเหล่าอัศวินชั้นสูงได้ครับ” อาเบลตอบกลับไป

 

“ตอนนี้พ่อมีอาวุธทั้ง 2 ชิ้นที่มีราคาหลายแสนเหรียญทองกับรถม้าที่มีมูลค่ากว่า 1 ล้านเหรียญทอง เจ้าชายไวแอดต์จะกล้ามาเผชิญหน้ากับพ่อได้ยังไงกัน เด็กคนนั้นไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อของราคา 5 หมื่นเหรียญทองด้วยซ้ําไป”

 

ในตอนที่ลอร์ดมาแชลพูดออกมาเขาเหมือนจะลืมไปเลยว่าตัวเขานั้นมีเงินเก็บอยู่ในกระเป๋าเท่าไร อุปกรณ์ที่ราคาแพงและสุดหรูหราเหล่านี้ล้วนแต่ทําให้ตัวของลอร์ดมาแชลมั่นใจมากยิ่งขึ้นตอนนี้ความมั่นใจของลอร์ดมาแชลคงจะสูงพอๆกับภูเขาบูดาเปสต์ไปแล้ว

ดูซีรีย์

Abe the Wizard

Abe the Wizard

ATW, 巫师亚伯
Score 6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2017 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Abe the Wizardฉันได้กลับชาติมาเกิดในโลกใบใหม่นี้ ดูเหมือนว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่ติดตัวฉันมาที่โลกใบนี้ด้วย สิ่งนั้นคือ ฮอร์ราดริกคิวบ์ จากเกม Diablo II นั่นเอง หนทางการเป็นอัศวินสุดเท่ห์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แต่ทำไมการเป็นจอมเวทย์ก็อยู่ในทางเลือกด้วยล่ะ? แล้วฉันควรจะเลือกทางไหนกันแน่นะ?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset