นักเวทย์เลเวล 6 คนนึงจะไปซ่อนที่ไหนกัน?
เอร์เรร่า คิดเรื่องนี้อยู่พักนึงและไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับมันเลย
ในตอนที่นักเวทย์เลเวล 6 หนีไปได้และได้กลบร่องรอยของเขา มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามรอยเขา เอร์เรร่า มั่นใจว่ามีแค่เพียงไม่กี่คนบนโลกนี้เท่านั้นที่เก่งกาจพอที่จะสามารถทำมันได้
ในขณะเดียวกัน ลิงค์ ก็กำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่ในใจของเขา
วิธีแล้ววิธีเล่าผุดขึ้นมาในหัวของ ลิงค์ เขาพยายามที่จะหาเส้นทางที่เป็นไปได้ที่ เบล อาจจะใช้ในการหลบหนี
เบล อายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นเขาน่าจะไม่คิดที่จะใช้วิธีการลักลอบหนีออกไปอย่างแน่นอน ทางเดียวที่เขาจะใช้หนีได้คือ ไม่ด้วยเวทมนตร์ก็ด้วยรถม้า
แล้วนักเวทย์เลเวล 6 จะใช้เวทมนตร์ในการหลบหนีรึเปล่า?
ถ้าเขาทำอย่างนั้น ความเป็นไปได้หนึ่งก็คือผ่านการใช้หอคอยวาร์ปของสถาบัน แต่ว่าค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายด้วยหอคอยวาร์ปนั้นก็ราคาสูงเสียดฟ้า ถ้ามันไม่ใช่เรื่องด่วนมากๆ อย่างเช่นตอนที่คณบดีใช้มันเพื่อไปยังเมืองสปริงเพื่อไปพบกับกองทัพนักเวทย์เป็นต้น แต่หอคอยวาร์ปก็ไม่ได้ถูกใช้เลย ถึงแม้ว่า เบล จะสามารถเข้าถึงหอคอยวาร์ปได้ มันก็จะต้องมีประวัติการใช้ของเขาและอาจจะทิ้งร่องรอยว่าเขาถูกส่งไปที่ไหน ซึ่งนั่นจะเปิดเผยว่าเขาอยู่ที่ไหน และนั่นก็ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ไม่ดีในการที่จะหนีด้วยวิธีนี้
อีกจุดที่สำคัญคือ ลิงค์ สงสัยว่า เบล อาจจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสของสถาบันไม่อยู่
เหตุผลนั้นง่ายมาก การกระทำของผู้อาวุโสต้องเก็บเป็นความลับ แม้แต่ศิษย์รักอย่าง เอร์เรร่า ก็ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าว เพราะฉะนั้นคนแก่และอ่อนแออย่าง เบล จะรู้ได้ยังไงหล่ะ?
และนั่นก็หมายความว่า เบล รู้สึกได้ถึงการคุกคามของอำนาจของผู้อาวุโส เขาจึงไม่มีทางที่จะใช้วิธีหนีที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโส เพราะว่าถึง เอร์เรร่า จะไม่สามารถแกะรอยเวทย์มนตร์ของ เบล ได้ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้อาวุโสที่เป็นนักเวทย์เลเวล 7 จะไม่สามารถทำได้ นั่นจึงตัดความเป็นไปได้ที่ เบล จะใช้เวทมนตร์หนีออกจากสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟออกไปได้
“ตอนนี้ เบล น่าจะอยู่ในรถม้าบนเส้นทางแห่งราชาแล้ว พวกเราต้องไล่ตามเขาไป” ลิงค์ พูด
เอร์เรร่า รู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่ง ไม่ใช่เพราะว่าเธอสับสนกับคำพูดของ ลิงค์-เธอฉลาดพอที่จะทำความเข้าใจตาม ลิงค์ ได้-แต่ว่าคำพูดของเขานั้นได้ชี้ให้เธอเห็นว่าเธอควรจะทำอย่างไร ราวกับว่าเขาได้ปลุกเธอจากอาการสับสนที่เธอรู้สึกกลัวจากการที่เห็นเวทมนต์ของ เบล เมื่อเร็วๆนี้
“แน่นอน ฉันเข้าใจแล้ว” เอร์เรร่า พูด “ไปกันเถอะ”
เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงออกเดินทางอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย
ความจริงแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นในเมื่อทั้งสองคนต่างก็แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับ เบล อยู่แล้ว ในตอนที่นักเวทย์สองคนร่วมมือกันต่อสู้กับคนๆนึง พวกเขาจะได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมี ลิงค์ อยู่เป็นพวก ถึงแม้ว่า ลิงค์ จะยังไม่ใช่นักเวทย์ระดับสูง แต่ความเร็วในการร่ายเวทย์ดั่งสายฟ้าของเขาก็มีประโยชน์มากเมื่อทำการต่อสู้กับนักเวทย์
การร่ายเวทย์อย่างรวดเร็วนั้นเป็นความสามารถที่สำคัญมากในการต่อสู้ด้วยเวทมนต์ มันไม่สำคัญว่าคุณจะรู้เวทย์ที่ทรงพลังหรือสุดยอดมากแค่ไหน ถ้าฝ่ายตรงข้ามสามารถโจมตีคุณได้ด้วยความเร็วเท่าปืนกล คุณก็จะแพ้อยู่ดี
ลิงค์ มีความมั่นใจว่าตราบใดที่พวกเขายังสามารถไล่ตาม เบล ได้ทัน พวกเขาก็จะสามารถจัดการเขาได้อย่างง่ายดาย!
ลิงค์ และ เอร์เรร่า ในตอนนี้อยู่ในทางเดินที่เชื่อมหอคอยเวทมนตร์ของสถาบัน ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย 3 นักเวทย์ส่วนใหญ่และนักเวทย์ฝึกหัดของพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำงานที่ตัวเองได้รับมอบหมายอยู่ในหอคอย ดังนั้นจึงไม่มีใครอยู่ในเส้นทางนี้เลย
พวกเขาจะต้องสู้กันอย่างแน่นอนเมื่อพวกเขาตามรอย เบล เจอแล้ว ดังนั้น เอร์เรร่า จึงรู้สึกว่าชุดที่รุงรังของเธอนั้นไม่เหมาะกับงานนี้ เธอจึงหยุดอยู่ห่างจาก ลิงค์ แล้วพูด “ขอเวลาฉันแปปนึง”
ลิงค์ สับสนอยู่ช่วงนึงและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เอร์เรร่า ไม่ได้อธิบายอะไรเช่นกัน ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่ร่ายเวทย์พรางตัวเลเวล 2 เกิดฉากเงาขึ้นและจากนั้นก็มีหมอกจางๆออกมาปกคลุมเธอและเกิดเป็นฉากมัวๆรอบๆจุดที่เธอยืนอยู่ และ ลิงค์ ก็อยู่ในฉากนั้นเช่นกัน
จากนั้น ผ้าคลุมนักเวทย์บนตัว เอร์เรร่า ก็มีชีวิตขึ้นมาและไหลลื่นออกมาจากร่างกายของเอร์เรร่า จากนั้นเธอก็โป๊ต่อหน้า ลิงค์ โดยที่ไม่มีเสื้อผ้าชิ้นใดอยู่บนร่างกายของเธอเลย และเธอก็ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติสุดๆในโลกนี้!
ลิงค์ ถูกขโมยการมองเห็นไปก่อนที่เขาจะหยุดตัวเองและหัวใจของเขาก็เต้นอย่างรุนแรงในตอนที่เห็นร่างกายอันศักดิ์สิทธ์ของ เอร์เรร่า ผิวที่ผ่องใสของเธอนั้นราวกับว่ามันจะเปล่งแสงจากภายในได้และรูปร่างของเธอก็น่าดึงดูดกว่า ลูซี่ เสียอีก-โดยเฉพาะต้นขาที่เรียวยาวของเธอ ถึงเธอจะอายุ 35 ปีแล้ว แต่เวลาไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย ทุกส่วนในร่างกายของเธอยังดูเหมือนกับอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด
“เหวอ!” ลิงค์ หันหนีอย่างรวดเร็วและหน้าแดงก่ำ “เอร์เรร่า คุณน่าจะเตือนผมก่อนล่วงหน้านะ!”
ตอนนี้มีวัตถุอ่อนๆสีฟ้าเข้มลอยๆอยู่รอบๆร่างกายของ เอร์เรร่า จากนั้นมันก็เข้ามารัดร่างกายของเธออย่างรวดเร็วและก่อรูปเป็นชุดสำหรับต่อสู้พร้อมเกราะ
เนื้อผ้านั้นเปล่งรัศมีเป็นสีฟ้าอ่อนและแผ่นโลหะแต่ละแผ่นก็ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะที่แข็งแรงกว่ามิธริล-ทอเรียม ยิ่งไปกว่านั้นรูนเวทมนต์ที่ปกคลุมทั้งชุดนั้น ผู้คนก็สามารถมองแล้วรู้ได้เลยว่ามันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติ
ในตอนแรก เอร์เรร่า สับสนกับคำพูดของ ลิงค์ แต่หลังจากนั้นซักพักเธอก็มีสีหน้ารู้สึกผิด
“ฉันขอโทษนะ” เอร์เรร่า พูด “ในอาณาจักรแห่งแสงที่นั่นไม่มีการแบ่งแยกเพศระหว่างนางฟ้าแห่งแสง ฉันลืมไปเลยว่าสำหรับมนุษย์นั้นมันต่างออกไป”
ลิงค์ อยากจะบอกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจมันเลย แต่เขาคิดได้ว่าหลังจากนี้ เอร์เรร่า น่าจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนเดิมด้วยการเปลือยกายต่อหน้า ลิงค์ อีกแล้ว เขาก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เตือนเธอให้เร็วกว่านี้
หลังจากใส่ชุดต่อสู้ เอร์เรร่า ก็รีบเขียนจดหมายที่สรุปเหตุการณ์เกี่ยวกับ เบล และจากนั้นก็ใช้เวทยรวดเร็วดั่งชีต้าใส่ ลิงค์ กับตัวเธอเอง
มันคือเวทย์เลเวล 2 ที่อัพเกรดจากเวทย์เลเวล 1 รวดเร็วดั่งแมว นอกจากที่จะเพิ่มความรวดเร็วอย่างมากแล้ว เวทย์นี้ยังมีผลเพิ่มความแข็งแรงด้วย เหมือนกับชื่อของ สัตว์ ที่ใช้ตั้งชื่อ
หลังจากที่ร่ายเวทย์นี้ ความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในทันทีและเพียงแค่ 3 นาที
ต่อมาพวกเขาก็ออกมาข้างนอกสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟแล้ว
เมื่อพวกเขามาถึงที่ประตู ลิงค์ ก็รีบไปยังกระท่อมเล็กๆที่ วินเซนท์ อยู่
“มีรถม้าออกไปจากสถาบันเมื่อเร็วๆนี้รึเปล่าครับ?” ลิงค์ ถาม
“มีคันนึงนะ” วินเซนท์ ตอบ ด้วยความสับสนที่น้ำเสียงของ ลิงค์ ดูเร่งรีบ เขาจ้องไปที่ ลิงค์ และ เอร์เรร่า ด้วยความสงสัย
“มันไปทางทิศตะวันออก”
“ตะวันออกหรอครับ?” ลิงค์ ประหลาดใจ ทางตะวันออกคือที่ๆเมืองหลวงของอาณาจักรนอร์ตันตั้งอยู่ แต่ว่า เบลคิด อะไรอยู่ถึงไปที่เมืองสปริงหล่ะ?
“ไปกันเถอะ” เอร์เรร่า พูด “พวกเราต้องไล่ตามเขาให้ทัน”
ลิงค์ พยักหน้าและชี้คทาของเขาลงไปที่พื้น ภายใต้การมองของ วินเซนท์ ที่ดูสับสน เขาก็กระซิบ “เฟนเรียสายลม!”
ภายในพริบตา เฟนเรียสายลมเลเวล 3 ก็ปรากฏขึ้นที่ประตูของ วินเซนท์ นักเวทย์เลเวล 2 วินเซนท์ ตกใจจนตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า
เกิดอะไรขึ้น? วินเซนท์ หยุดสงสัยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาเป็นไออ่อนไร้พรสวรรค์ที่ไร้อนาคตเหรอ?แล้วทำไมเขาถึงสามารถร่ายเวทย์เลเวล 3 ได้หล่ะ?
วินเซนท์ มักจะทำตัวเหนือกว่า ลิงค์ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาประทับใจจนขากรรไกรของเขาเกือบถึงพื้น
ลิงค์ ไม่สนใจสายตาที่สอดส่องของผู้เฝ้าประตูและสั่งให้ เฟนเรียสายลม นั่งลง เขาหันไปหา เอร์เรร่า แล้วพูด “เชิญผู้หญิงก่อนครับ”
เอร์เรร่า ตัวเบามากๆเพราะผลของรวดเร็วดั่งชีต้า ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เธอยื่นจดหมายให้กับ วินเซนท์
“อย่าลืม มอบจดหมายนี้ให้กับผู้อาวุโสด้วย!” เอร์เรร่า พูด
จดหมายนั้นเป็นหลักประกันในกรณีที่พวกเขาล้มเหลวในการตามรอย เบล หรือมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับพวกเขา ทางสถาบันจะได้มีเบาะแสในการตามหาตัวพวกเขา
“อ้า ครับ ครับ…ผมจะไม่ลืม” ในที่สุดคำสั่งขอ งเอร์เรร่า ก็ทำให้เขาได้สติ
เอร์เรร่า กระโดดขึ้นไปบนเฟนเรียสายลมและ ลิงค์ ก็ตามเธอขึ้นไปนั่งอยู่ข้างหลังของ เอร์เรร่า ลิงค์ ควบคุมสัตว์เวทมนตร์ด้วยจิตของเขา ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เฟนเรียสายลมก็ลุกขึ้นและพุ่งออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัว
ฟิ้วววว!
ลิงค์ กับ เอร์เรร่า จำเป็นต้องกอดกันอย่างแน่นแฟ้นเพื่อที่จะไม่ให้ตกลงจากหลังของเฟนเรีย มันดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่แนบชิดกันมากในสถานการณ์ปกติ แต่ว่า ลิงค์ ไม่มีความคิดที่อนาจารอย่างนั้นในหัวของเขาเลย กลับกันในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยเรื่องของ เบล แทน
เบล ต้องรู้ว่าที่เมืองสปริงมีผู้แข็งแกร่งหลายคนที่สามารถตามล่าพวกเขาได้แน่ๆ-แม้ว่าที่นั่นจะมีผู้อาวุโสอยู่ก็ตาม เบล อาจจะคิดยอมแพ้ก็ได้ถ้าเขาหนีไปที่นั่น แต่ถ้าฉันเป็นเขาล่ะ ฉันจะเลือกไปซ่อนตัวในเมืองสปริงหรอ? ลิงค์ ครุ่นคิด
และคำตอบนั้นคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้า ลิงค์ กำลังหลบหนี เขาจะหนีไปทางสมาพันธ์การค้าเสรีทางใต้แทน เพราะที่นั้นมีหลายประเทศรวมตัวกันและแต่ละประเทศต่างก็มีกฏของตัวเองที่ไม่ก้าวก่ายกัน ถึงแม้ว่าสมาพันธ์จะเป็นอิสระ แต่มันก็มีความวุ่นวายเช่นกัน-และนั่นก็ทำให้มันใช้ในการซ่อนตัวได้ เบล จะต้องไม่มีปัญหาในการซ่อนตัวที่นั่นแน่
ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเชื่อใจคำพูดของ วินเซนท์ เพียงอย่างเดียวในการตัดสินที่อยู่ของ เบล ไม่ได้
“ร่องรอยเวทมนตร์” เอร์เรร่า ใช้เวทมนต์สะกดรอยที่แข็งแกร่ง
ร่องรอยเวทมนตร์
เวทย์เลเวล4
ผล:ตรวจสอบร่องรอยของเวทมนตร์ในธรรมชาติ มันสามารถหาได้แม้กระทั่งร่องรอยของเศษเสี้ยวของเวทมนตร์
หลังจากที่ร่ายเวทย์ ถนนด้านหน้าของพวกเขาก็สว่างขึ้น และเส้นของแสงก็ปรากฏขึ้นยาวบนเส้นทางแห่งราชา ยืดออกไปใกลสุดลูกหูลูกตา
เอร์เรร่า รู้สึกดีใจมากที่เห็นเส้นของแสง
“เยี่ยม ดูเหมือนว่า เบล จะไม่ได้ใช้เวทย์ปกปิดในการซ่อนร่องรอยเวทมนตร์ของตัวเขานะ!”
ร่องรอยก็คือ มานาที่ร่างกายปล่อยออกมา
ลิงค์ ควบคุมให้เฟนเรียลมตามร่องรอยของแสงไป และหลังจากผ่านไปประมาณ 20 นาที ถนนก็แยกออกเป็นสองทาง และที่แต่ละฝั่งของทางแยกก็มีป้ายอยู่-ป้ายที่อยู่ทางขวาอ่านว่าเมืองสปริงและอีกอันทางด้านซ้ายก็เขียนว่าสระหมอก
มันน่าสงสัยมาก ร่องรอยของเวทมนตร์ไม่ได้ไปทางเมืองสปริง แต่กลับตรงไปทางเหนือที่สระหมอกแทน
ลิงค์ ไม่รู้สึกประหลาดใจเลย นี่มันดูเป็นไปได้เมื่อดูจากข้อมูลที่พวกเขามีในตอนนี้ แต่ที่เขาไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็คืออาการประหลาดใจของ เอร์เรร่า
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เธอกล่าว “นี่ เบล เกี่ยวข้องกับร่องรอยแห่งความมืดในป่าเกอแวนท์อย่างงั้นเหรอ?”
เอร์เรร่า ได้ทำการตรวจสอบร่องรอยแห่งความมืดมาซักพักนึงแล้ว และเธอก็ยังได้ขอความช่วยเหลือจาก ลิงค์ เมื่อช่วงกว่าครึ่งเดือนที่แล้ว ซึ่งการตรวจสอบของเธอได้ผลออกมาว่า เธอพบร่องรอยแห่งความมืดมีความเข้มข้นที่สุดที่ทางเหนือของป่า-ที่ๆสระหมอกตั้งอยู่
หลังจากที่ เอร์เรร่า พูดจบ การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมา
เบล หนีออกจากสถาบัน
สำเร็จภารกิจ:เปิดโปง
ผู้เล่นได้รับรางวัล40แต้มโอมนิ
ภารกิจใหม่: สระหมอกอันลึกลับ
รายละเอียดภารกิจ: ตรวจสอบร่องรอยแห่งความมืดในสระและหา เบล ที่หายตัวไป
รางวัลภารกิจ: 60 แต้มโอมนิ
มันชัดเจนมากจากการอ่านการแจ้งเตือนว่าภารกิจนี้จะอันตรายมากแค่ไหน อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ในธรรมชาติของตัวสระนั่นเอง
ลิงค์ มีความมั่นใจในตัวเองมากในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ แต่ว่าในสระนั้นเต็มไปด้วยพืชพันธ์และหมอกสีขาวหนาทึบที่บดบังทัศนวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก-และนั่นก็ทำให้มันเป็นสภาพที่ดีในการลอบโจมตี เบล อาจจะไม่มาเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง ยิ่งกว่านั้น มันเป็นไปได้ว่าเขาจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดซ่อนอยู่กับเขาที่นี่ด้วย ในการสู้กับนักเวทย์เลเวล 6 ในสภาพแบบนี้ ในสภาพที่ทุกอย่างเอื้ออำนวยต่อ เบล นั้นเป็นภารกิจที่เสี่ยงตายอย่างแท้จริง
ถ้าพวกเขารีบเข้าไปโดยไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้ มันจะเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะถูกพุ่งเข้ามาหาและจะต้องตายอย่างแน่นอน
แม้ว่าตอนนี้ ลิงค์ จะมี 100 แต้มโอมนิและมีโดมิงโก้คริสตัลอยู่กับตัว แต่เขาก็ยังลังเลที่จะรับภารกิจนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้ ในตอนที่เขาไม่มีคนสนับสนุนคนอื่นเลยนอกจาก เอร์เรร่า
แต่แล้ว บางอย่างที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
“ไล่ตามเขากัน! ฉันรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังแอบซ่อนอยู่ภายใต้พื้นผิวนั่น พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้ เบล หนีไปได้!” เอร์เรร่า พูด โดยที่ไม่มีความลังเลเลย
“เดี๋ยวก่อน ทำไมพวกเราไม่กลับไปแล้วพาคนมาช่วยพวกเราเยอะกว่านี้ล่ะ?” ลิงค์ พูด เขาประหลาดใจมากจนเฟนเรียลมหยุดยืนอยู่นิ่งๆ
“ไม่ พวกเราไม่มีเวลาแล้ว นี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเราจะจับ เบล ได้ อย่างน้อยพวกเราก็ควรที่จะเข้าไปตรวจดูสถานที่และประเมิณสถานการณ์ก่อน ถ้าเกิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น พวกเราจะถอยกลับในทันที”
เอร์เรร่า ก็รู้สึกถึงอันตรายเป็นอย่างดีและเธอก็ตัดสินใจที่จะนำมันมาพิจารณา
ลิงค์ ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงและในที่สุดเขาก็พยักหน้า