Advent of the Archmage – ตอนที่ 104: สระหมอก

นักเวทย์เลเวล 6 คนนึงจะไปซ่อนที่ไหนกัน?

 

เอร์เรร่า คิดเรื่องนี้อยู่พักนึงและไม่ได้คำตอบเกี่ยวกับมันเลย

 

ในตอนที่นักเวทย์เลเวล 6 หนีไปได้และได้กลบร่องรอยของเขา มันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะตามรอยเขา เอร์เรร่า มั่นใจว่ามีแค่เพียงไม่กี่คนบนโลกนี้เท่านั้นที่เก่งกาจพอที่จะสามารถทำมันได้

 

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ ก็กำลังคิดถึงปัญหานี้อยู่ในใจของเขา

 

วิธีแล้ววิธีเล่าผุดขึ้นมาในหัวของ ลิงค์ เขาพยายามที่จะหาเส้นทางที่เป็นไปได้ที่ เบล อาจจะใช้ในการหลบหนี

 

เบล อายุมากแล้ว เพราะฉะนั้นเขาน่าจะไม่คิดที่จะใช้วิธีการลักลอบหนีออกไปอย่างแน่นอน ทางเดียวที่เขาจะใช้หนีได้คือ ไม่ด้วยเวทมนตร์ก็ด้วยรถม้า

 

แล้วนักเวทย์เลเวล 6 จะใช้เวทมนตร์ในการหลบหนีรึเปล่า?

 

ถ้าเขาทำอย่างนั้น ความเป็นไปได้หนึ่งก็คือผ่านการใช้หอคอยวาร์ปของสถาบัน แต่ว่าค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายด้วยหอคอยวาร์ปนั้นก็ราคาสูงเสียดฟ้า ถ้ามันไม่ใช่เรื่องด่วนมากๆ อย่างเช่นตอนที่คณบดีใช้มันเพื่อไปยังเมืองสปริงเพื่อไปพบกับกองทัพนักเวทย์เป็นต้น  แต่หอคอยวาร์ปก็ไม่ได้ถูกใช้เลย ถึงแม้ว่า เบล จะสามารถเข้าถึงหอคอยวาร์ปได้ มันก็จะต้องมีประวัติการใช้ของเขาและอาจจะทิ้งร่องรอยว่าเขาถูกส่งไปที่ไหน ซึ่งนั่นจะเปิดเผยว่าเขาอยู่ที่ไหน และนั่นก็ทำให้มันเป็นทางเลือกที่ไม่ดีในการที่จะหนีด้วยวิธีนี้

 

อีกจุดที่สำคัญคือ ลิงค์ สงสัยว่า เบล อาจจะไม่รู้ว่าผู้อาวุโสของสถาบันไม่อยู่

 

เหตุผลนั้นง่ายมาก การกระทำของผู้อาวุโสต้องเก็บเป็นความลับ แม้แต่ศิษย์รักอย่าง เอร์เรร่า ก็ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าว เพราะฉะนั้นคนแก่และอ่อนแออย่าง เบล จะรู้ได้ยังไงหล่ะ?

 

และนั่นก็หมายความว่า เบล รู้สึกได้ถึงการคุกคามของอำนาจของผู้อาวุโส เขาจึงไม่มีทางที่จะใช้วิธีหนีที่จะดึงดูดความสนใจของผู้อาวุโส เพราะว่าถึง เอร์เรร่า จะไม่สามารถแกะรอยเวทย์มนตร์ของ เบล ได้ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าผู้อาวุโสที่เป็นนักเวทย์เลเวล 7 จะไม่สามารถทำได้ นั่นจึงตัดความเป็นไปได้ที่ เบล จะใช้เวทมนตร์หนีออกจากสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟออกไปได้

 

“ตอนนี้ เบล น่าจะอยู่ในรถม้าบนเส้นทางแห่งราชาแล้ว พวกเราต้องไล่ตามเขาไป” ลิงค์ พูด

 

เอร์เรร่า รู้สึกสับสนอยู่พักหนึ่ง ไม่ใช่เพราะว่าเธอสับสนกับคำพูดของ ลิงค์-เธอฉลาดพอที่จะทำความเข้าใจตาม ลิงค์ ได้-แต่ว่าคำพูดของเขานั้นได้ชี้ให้เธอเห็นว่าเธอควรจะทำอย่างไร ราวกับว่าเขาได้ปลุกเธอจากอาการสับสนที่เธอรู้สึกกลัวจากการที่เห็นเวทมนต์ของ เบล เมื่อเร็วๆนี้

 

“แน่นอน ฉันเข้าใจแล้ว” เอร์เรร่า พูด “ไปกันเถอะ”

 

เวลาเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงออกเดินทางอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย

 

ความจริงแล้ว มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นในเมื่อทั้งสองคนต่างก็แข็งแกร่งพอที่จะสู้กับ เบล อยู่แล้ว ในตอนที่นักเวทย์สองคนร่วมมือกันต่อสู้กับคนๆนึง พวกเขาจะได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมี ลิงค์ อยู่เป็นพวก ถึงแม้ว่า ลิงค์ จะยังไม่ใช่นักเวทย์ระดับสูง แต่ความเร็วในการร่ายเวทย์ดั่งสายฟ้าของเขาก็มีประโยชน์มากเมื่อทำการต่อสู้กับนักเวทย์

 

การร่ายเวทย์อย่างรวดเร็วนั้นเป็นความสามารถที่สำคัญมากในการต่อสู้ด้วยเวทมนต์ มันไม่สำคัญว่าคุณจะรู้เวทย์ที่ทรงพลังหรือสุดยอดมากแค่ไหน ถ้าฝ่ายตรงข้ามสามารถโจมตีคุณได้ด้วยความเร็วเท่าปืนกล คุณก็จะแพ้อยู่ดี

 

ลิงค์ มีความมั่นใจว่าตราบใดที่พวกเขายังสามารถไล่ตาม เบล ได้ทัน พวกเขาก็จะสามารถจัดการเขาได้อย่างง่ายดาย!

 

ลิงค์ และ เอร์เรร่า ในตอนนี้อยู่ในทางเดินที่เชื่อมหอคอยเวทมนตร์ของสถาบัน ตอนนี้เป็นเวลาบ่าย 3 นักเวทย์ส่วนใหญ่และนักเวทย์ฝึกหัดของพวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการทำงานที่ตัวเองได้รับมอบหมายอยู่ในหอคอย ดังนั้นจึงไม่มีใครอยู่ในเส้นทางนี้เลย

 

พวกเขาจะต้องสู้กันอย่างแน่นอนเมื่อพวกเขาตามรอย เบล เจอแล้ว ดังนั้น เอร์เรร่า จึงรู้สึกว่าชุดที่รุงรังของเธอนั้นไม่เหมาะกับงานนี้ เธอจึงหยุดอยู่ห่างจาก ลิงค์ แล้วพูด “ขอเวลาฉันแปปนึง”

 

ลิงค์ สับสนอยู่ช่วงนึงและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

 

เอร์เรร่า ไม่ได้อธิบายอะไรเช่นกัน ทั้งหมดที่เธอทำก็แค่ร่ายเวทย์พรางตัวเลเวล 2 เกิดฉากเงาขึ้นและจากนั้นก็มีหมอกจางๆออกมาปกคลุมเธอและเกิดเป็นฉากมัวๆรอบๆจุดที่เธอยืนอยู่ และ ลิงค์ ก็อยู่ในฉากนั้นเช่นกัน

 

จากนั้น ผ้าคลุมนักเวทย์บนตัว เอร์เรร่า ก็มีชีวิตขึ้นมาและไหลลื่นออกมาจากร่างกายของเอร์เรร่า จากนั้นเธอก็โป๊ต่อหน้า ลิงค์ โดยที่ไม่มีเสื้อผ้าชิ้นใดอยู่บนร่างกายของเธอเลย และเธอก็ทำเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติสุดๆในโลกนี้!

 

ลิงค์ ถูกขโมยการมองเห็นไปก่อนที่เขาจะหยุดตัวเองและหัวใจของเขาก็เต้นอย่างรุนแรงในตอนที่เห็นร่างกายอันศักดิ์สิทธ์ของ เอร์เรร่า ผิวที่ผ่องใสของเธอนั้นราวกับว่ามันจะเปล่งแสงจากภายในได้และรูปร่างของเธอก็น่าดึงดูดกว่า ลูซี่ เสียอีก-โดยเฉพาะต้นขาที่เรียวยาวของเธอ ถึงเธอจะอายุ 35 ปีแล้ว แต่เวลาไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย ทุกส่วนในร่างกายของเธอยังดูเหมือนกับอยู่ในช่วงที่ดีที่สุด

 

“เหวอ!” ลิงค์ หันหนีอย่างรวดเร็วและหน้าแดงก่ำ “เอร์เรร่า คุณน่าจะเตือนผมก่อนล่วงหน้านะ!”

 

ตอนนี้มีวัตถุอ่อนๆสีฟ้าเข้มลอยๆอยู่รอบๆร่างกายของ เอร์เรร่า จากนั้นมันก็เข้ามารัดร่างกายของเธออย่างรวดเร็วและก่อรูปเป็นชุดสำหรับต่อสู้พร้อมเกราะ

 

เนื้อผ้านั้นเปล่งรัศมีเป็นสีฟ้าอ่อนและแผ่นโลหะแต่ละแผ่นก็ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหะที่แข็งแรงกว่ามิธริล-ทอเรียม ยิ่งไปกว่านั้นรูนเวทมนต์ที่ปกคลุมทั้งชุดนั้น ผู้คนก็สามารถมองแล้วรู้ได้เลยว่ามันเป็นอุปกรณ์เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งกว่าปกติ

 

ในตอนแรก เอร์เรร่า สับสนกับคำพูดของ ลิงค์ แต่หลังจากนั้นซักพักเธอก็มีสีหน้ารู้สึกผิด

 

“ฉันขอโทษนะ” เอร์เรร่า พูด “ในอาณาจักรแห่งแสงที่นั่นไม่มีการแบ่งแยกเพศระหว่างนางฟ้าแห่งแสง ฉันลืมไปเลยว่าสำหรับมนุษย์นั้นมันต่างออกไป”

 

ลิงค์ อยากจะบอกว่าเขาไม่ได้ใส่ใจมันเลย แต่เขาคิดได้ว่าหลังจากนี้ เอร์เรร่า น่าจะไม่ทำผิดพลาดเหมือนเดิมด้วยการเปลือยกายต่อหน้า ลิงค์ อีกแล้ว เขาก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้เตือนเธอให้เร็วกว่านี้

 

หลังจากใส่ชุดต่อสู้ เอร์เรร่า ก็รีบเขียนจดหมายที่สรุปเหตุการณ์เกี่ยวกับ เบล และจากนั้นก็ใช้เวทยรวดเร็วดั่งชีต้าใส่ ลิงค์ กับตัวเธอเอง

 

มันคือเวทย์เลเวล 2 ที่อัพเกรดจากเวทย์เลเวล 1 รวดเร็วดั่งแมว นอกจากที่จะเพิ่มความรวดเร็วอย่างมากแล้ว เวทย์นี้ยังมีผลเพิ่มความแข็งแรงด้วย เหมือนกับชื่อของ สัตว์ ที่ใช้ตั้งชื่อ

 

หลังจากที่ร่ายเวทย์นี้ ความเร็วของพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในทันทีและเพียงแค่ 3 นาที

ต่อมาพวกเขาก็ออกมาข้างนอกสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟแล้ว

 

เมื่อพวกเขามาถึงที่ประตู ลิงค์ ก็รีบไปยังกระท่อมเล็กๆที่ วินเซนท์ อยู่

 

“มีรถม้าออกไปจากสถาบันเมื่อเร็วๆนี้รึเปล่าครับ?” ลิงค์ ถาม

 

“มีคันนึงนะ” วินเซนท์ ตอบ ด้วยความสับสนที่น้ำเสียงของ ลิงค์ ดูเร่งรีบ เขาจ้องไปที่ ลิงค์ และ เอร์เรร่า ด้วยความสงสัย

 

“มันไปทางทิศตะวันออก”

 

“ตะวันออกหรอครับ?” ลิงค์ ประหลาดใจ ทางตะวันออกคือที่ๆเมืองหลวงของอาณาจักรนอร์ตันตั้งอยู่ แต่ว่า เบลคิด อะไรอยู่ถึงไปที่เมืองสปริงหล่ะ?

 

“ไปกันเถอะ” เอร์เรร่า พูด “พวกเราต้องไล่ตามเขาให้ทัน”

 

ลิงค์ พยักหน้าและชี้คทาของเขาลงไปที่พื้น ภายใต้การมองของ วินเซนท์ ที่ดูสับสน เขาก็กระซิบ “เฟนเรียสายลม!”

 

ภายในพริบตา เฟนเรียสายลมเลเวล 3 ก็ปรากฏขึ้นที่ประตูของ วินเซนท์ นักเวทย์เลเวล 2 วินเซนท์ ตกใจจนตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า

 

เกิดอะไรขึ้น? วินเซนท์ หยุดสงสัยไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเขาเป็นแค่นักเวทย์ฝึกหัดเหรอ? ไม่ใช่ว่าเขาเป็นไออ่อนไร้พรสวรรค์ที่ไร้อนาคตเหรอ?แล้วทำไมเขาถึงสามารถร่ายเวทย์เลเวล 3 ได้หล่ะ?

 

วินเซนท์ มักจะทำตัวเหนือกว่า ลิงค์ เสมอ แต่ครั้งนี้เขาประทับใจจนขากรรไกรของเขาเกือบถึงพื้น

 

ลิงค์ ไม่สนใจสายตาที่สอดส่องของผู้เฝ้าประตูและสั่งให้ เฟนเรียสายลม นั่งลง เขาหันไปหา เอร์เรร่า แล้วพูด “เชิญผู้หญิงก่อนครับ”

 

เอร์เรร่า ตัวเบามากๆเพราะผลของรวดเร็วดั่งชีต้า ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เธอยื่นจดหมายให้กับ วินเซนท์

 

“อย่าลืม มอบจดหมายนี้ให้กับผู้อาวุโสด้วย!” เอร์เรร่า พูด

 

จดหมายนั้นเป็นหลักประกันในกรณีที่พวกเขาล้มเหลวในการตามรอย เบล หรือมีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับพวกเขา ทางสถาบันจะได้มีเบาะแสในการตามหาตัวพวกเขา

 

“อ้า ครับ ครับ…ผมจะไม่ลืม” ในที่สุดคำสั่งขอ งเอร์เรร่า ก็ทำให้เขาได้สติ

 

เอร์เรร่า กระโดดขึ้นไปบนเฟนเรียสายลมและ ลิงค์ ก็ตามเธอขึ้นไปนั่งอยู่ข้างหลังของ เอร์เรร่า ลิงค์ ควบคุมสัตว์เวทมนตร์ด้วยจิตของเขา ด้วยการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เฟนเรียสายลมก็ลุกขึ้นและพุ่งออกไปด้วยความเร็วอันน่ากลัว

 

ฟิ้วววว!

 

ลิงค์ กับ เอร์เรร่า จำเป็นต้องกอดกันอย่างแน่นแฟ้นเพื่อที่จะไม่ให้ตกลงจากหลังของเฟนเรีย มันดูเหมือนจะเป็นตำแหน่งที่แนบชิดกันมากในสถานการณ์ปกติ แต่ว่า ลิงค์ ไม่มีความคิดที่อนาจารอย่างนั้นในหัวของเขาเลย กลับกันในหัวของเขากลับเต็มไปด้วยเรื่องของ เบล แทน

 

เบล ต้องรู้ว่าที่เมืองสปริงมีผู้แข็งแกร่งหลายคนที่สามารถตามล่าพวกเขาได้แน่ๆ-แม้ว่าที่นั่นจะมีผู้อาวุโสอยู่ก็ตาม เบล อาจจะคิดยอมแพ้ก็ได้ถ้าเขาหนีไปที่นั่น แต่ถ้าฉันเป็นเขาล่ะ ฉันจะเลือกไปซ่อนตัวในเมืองสปริงหรอ? ลิงค์ ครุ่นคิด

 

และคำตอบนั้นคงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้า ลิงค์ กำลังหลบหนี เขาจะหนีไปทางสมาพันธ์การค้าเสรีทางใต้แทน เพราะที่นั้นมีหลายประเทศรวมตัวกันและแต่ละประเทศต่างก็มีกฏของตัวเองที่ไม่ก้าวก่ายกัน ถึงแม้ว่าสมาพันธ์จะเป็นอิสระ แต่มันก็มีความวุ่นวายเช่นกัน-และนั่นก็ทำให้มันใช้ในการซ่อนตัวได้ เบล จะต้องไม่มีปัญหาในการซ่อนตัวที่นั่นแน่

 

ถ้าอย่างนั้นพวกเขาก็ยังเชื่อใจคำพูดของ วินเซนท์ เพียงอย่างเดียวในการตัดสินที่อยู่ของ เบล ไม่ได้

 

“ร่องรอยเวทมนตร์” เอร์เรร่า ใช้เวทมนต์สะกดรอยที่แข็งแกร่ง

 

ร่องรอยเวทมนตร์

เวทย์เลเวล4

ผล:ตรวจสอบร่องรอยของเวทมนตร์ในธรรมชาติ มันสามารถหาได้แม้กระทั่งร่องรอยของเศษเสี้ยวของเวทมนตร์

 

หลังจากที่ร่ายเวทย์ ถนนด้านหน้าของพวกเขาก็สว่างขึ้น และเส้นของแสงก็ปรากฏขึ้นยาวบนเส้นทางแห่งราชา ยืดออกไปใกลสุดลูกหูลูกตา

 

เอร์เรร่า รู้สึกดีใจมากที่เห็นเส้นของแสง

 

“เยี่ยม ดูเหมือนว่า เบล จะไม่ได้ใช้เวทย์ปกปิดในการซ่อนร่องรอยเวทมนตร์ของตัวเขานะ!”

 

ร่องรอยก็คือ มานาที่ร่างกายปล่อยออกมา

 

ลิงค์ ควบคุมให้เฟนเรียลมตามร่องรอยของแสงไป และหลังจากผ่านไปประมาณ 20 นาที ถนนก็แยกออกเป็นสองทาง และที่แต่ละฝั่งของทางแยกก็มีป้ายอยู่-ป้ายที่อยู่ทางขวาอ่านว่าเมืองสปริงและอีกอันทางด้านซ้ายก็เขียนว่าสระหมอก

 

มันน่าสงสัยมาก ร่องรอยของเวทมนตร์ไม่ได้ไปทางเมืองสปริง แต่กลับตรงไปทางเหนือที่สระหมอกแทน

 

ลิงค์ ไม่รู้สึกประหลาดใจเลย นี่มันดูเป็นไปได้เมื่อดูจากข้อมูลที่พวกเขามีในตอนนี้ แต่ที่เขาไม่ได้คาดคิดเอาไว้ก็คืออาการประหลาดใจของ เอร์เรร่า

 

“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เธอกล่าว “นี่ เบล เกี่ยวข้องกับร่องรอยแห่งความมืดในป่าเกอแวนท์อย่างงั้นเหรอ?”

 

เอร์เรร่า ได้ทำการตรวจสอบร่องรอยแห่งความมืดมาซักพักนึงแล้ว และเธอก็ยังได้ขอความช่วยเหลือจาก ลิงค์ เมื่อช่วงกว่าครึ่งเดือนที่แล้ว ซึ่งการตรวจสอบของเธอได้ผลออกมาว่า เธอพบร่องรอยแห่งความมืดมีความเข้มข้นที่สุดที่ทางเหนือของป่า-ที่ๆสระหมอกตั้งอยู่

 

หลังจากที่ เอร์เรร่า พูดจบ การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมา

 

เบล หนีออกจากสถาบัน

สำเร็จภารกิจ:เปิดโปง

ผู้เล่นได้รับรางวัล40แต้มโอมนิ

ภารกิจใหม่: สระหมอกอันลึกลับ

รายละเอียดภารกิจ: ตรวจสอบร่องรอยแห่งความมืดในสระและหา เบล ที่หายตัวไป

รางวัลภารกิจ: 60 แต้มโอมนิ

 

มันชัดเจนมากจากการอ่านการแจ้งเตือนว่าภารกิจนี้จะอันตรายมากแค่ไหน อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นอยู่ในธรรมชาติของตัวสระนั่นเอง

 

ลิงค์ มีความมั่นใจในตัวเองมากในการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ แต่ว่าในสระนั้นเต็มไปด้วยพืชพันธ์และหมอกสีขาวหนาทึบที่บดบังทัศนวิสัยของเขาเป็นอย่างมาก-และนั่นก็ทำให้มันเป็นสภาพที่ดีในการลอบโจมตี เบล อาจจะไม่มาเผชิญหน้ากับพวกเขาโดยตรง ยิ่งกว่านั้น มันเป็นไปได้ว่าเขาจะมีผู้สมรู้ร่วมคิดซ่อนอยู่กับเขาที่นี่ด้วย ในการสู้กับนักเวทย์เลเวล 6 ในสภาพแบบนี้ ในสภาพที่ทุกอย่างเอื้ออำนวยต่อ เบล นั้นเป็นภารกิจที่เสี่ยงตายอย่างแท้จริง

 

ถ้าพวกเขารีบเข้าไปโดยไม่ได้วางแผนอะไรเอาไว้ มันจะเป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะถูกพุ่งเข้ามาหาและจะต้องตายอย่างแน่นอน

 

แม้ว่าตอนนี้ ลิงค์ จะมี 100 แต้มโอมนิและมีโดมิงโก้คริสตัลอยู่กับตัว แต่เขาก็ยังลังเลที่จะรับภารกิจนี้ อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้ ในตอนที่เขาไม่มีคนสนับสนุนคนอื่นเลยนอกจาก เอร์เรร่า

 

แต่แล้ว บางอย่างที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

 

“ไล่ตามเขากัน! ฉันรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังแอบซ่อนอยู่ภายใต้พื้นผิวนั่น พวกเราจะต้องไม่ปล่อยให้ เบล หนีไปได้!” เอร์เรร่า พูด โดยที่ไม่มีความลังเลเลย

 

“เดี๋ยวก่อน ทำไมพวกเราไม่กลับไปแล้วพาคนมาช่วยพวกเราเยอะกว่านี้ล่ะ?” ลิงค์ พูด เขาประหลาดใจมากจนเฟนเรียลมหยุดยืนอยู่นิ่งๆ

 

“ไม่ พวกเราไม่มีเวลาแล้ว นี่เป็นโอกาสเดียวที่พวกเราจะจับ เบล ได้ อย่างน้อยพวกเราก็ควรที่จะเข้าไปตรวจดูสถานที่และประเมิณสถานการณ์ก่อน ถ้าเกิดว่ามีอะไรที่ผิดปกติเกิดขึ้น พวกเราจะถอยกลับในทันที”

 

เอร์เรร่า ก็รู้สึกถึงอันตรายเป็นอย่างดีและเธอก็ตัดสินใจที่จะนำมันมาพิจารณา

 

ลิงค์ ครุ่นคิดอยู่ครู่นึงและในที่สุดเขาก็พยักหน้า

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset