Advent of the Archmage – ตอนที่ 105: ศัตรูตัวกระจ้อยทั้งสอง

เนื่องจาหตำแหน่งภูมิประเทศที่ต่ำของมันและต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชอุ่ม, สระหมอกจึงถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกสีขาวอย่างมั่นคง แม้ว่าหมอกจะไร้ซึ่งอันตรายอย่างสมบูรณ์, แต่มันก็ส่งผลกระทบกับทัศน์วิสัยเป็นอย่างมาก, ทำให้สระหมอกเป็นจุดซ่อนที่ดีเยี่ยม

 

นักล่าในป่าเกอร์เวนท์ไม่เคยเข้ามาในสระหมอก ถ้ามีศัตรูเข้ามาในพื้นที่แห่งนี้, ไม่ว่ารูปแบบการไล่ล่าใดๆก็จะถูกหยุดชะงัก

 

มันเป็นสถานที่ที่อันตรายและลึกลับมากๆ

 

รถม้าแล่นไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยวและคับแคบอย่างช้าๆ, ฟันฝ่าพื้นที่ที่ขรุขระและต้นไม้ที่หนาทึบ ยิ่งรถม้าเข้าไปในป่าลึกขึ้น, เส้นทางก็ยิ่งแคบขึ้น

 

ในตอนที่รถม้ากำลังข้ามแอ่งหลุม, แก้นล้อก็คลายออกทำให้ล้อแยกออกจากกัน ด้วยการสนับสนุนที่ไม่สมดุล, รถม้าจึงหยุดวิ่ง

 

“นายท่าน, พวกเราไม่สามารถเดินทางต่อไปมากกว่านี้ได้แล้วครับ”

 

คนขับรถม้าจ้องไปที่หมอกหนาทึบที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความหวาดกลัว ไม่มีทางที่เขาจะสามารถบอกได้ถ้ามีทางลาดหรือหลุมอยู่เบื้องหน้าเพราะทัศน์วิสัยต่ำเกินไป ความจริงที่ว่ามีแค่ล้อที่หลุดตลอดการเดินทางนี้ก็นับว่าโชคดีแล้ว

 

อย่างไรก็ตาม, คนขับรถม้าไม่รู้ว่าเขากำลังจะได้พบกับจุดจบของเขา

 

แสงสีเขี้ยววูบวาบออกมาผ่านรถม้า, โดยไม่สนรูปแบบของการแยกส่วนทางกายภาพใดๆ ภายใต้ผลของลำแสงทำลายล้าง, พื้นที่ที่อยู่ในรัศมี 15 ฟุตรอบๆรถม้าก็กลายเป็นหมอกบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์

 

ในช่วงเวลาต่อมา, คนขับรถ, รถม้าและม้าก็ตัวแข็งทื่อในทันที, ก่อนที่จะสลายเป็นผงสีขาวละเอียด

 

สิ่งมีชีวิตเดียวที่เหลืออยู่บนเส้นทางป่าที่คดเคี้ยวและเลือนรางก็คือนักเวทย์ชราคนนึงที่สวมผ้าคลุมสีเขียวพร้อมกับคทาเงินคริสตัลขาวในมือของเขา

 

นักเวทย์ เบล มองกองทรายสีขาวอย่างเจ็บปวดและกระซิบ “ข้าขอโทษจริงๆนะ, เพื่อนเอ๋ย”

 

หลังจากนั้น, ไอหนาสีขาวก็ปรากฏขึ้นที่ปลายคริสตัลสีขาว เบล ชี้คทาของเขาไปข้างหน้าขณะที่หมอกเริ่มก่อร่างขึ้นมาอย่างช้าๆจนในที่สุดก็กลายเป็นรูปหน้าสีขาว

 

“พาข้าไปหาเจ้านายของเจ้าซะ!” น้ำเสียงของ เบล อ่อนแอ เขากำลังแก่ตัวลงและรู้สึกได้ว่าเงาแห่งความตายกำลังคลืบคลานใกล้เข้ามาทุกๆวัน เขาจะฝืนยืดชีวิตของเขาด้วยเวทย์มนตร์แห่งความมืด

 

ความรู้ของเขาเกี่ยวกับเวทย์มนตร์แห่งความมืดอยู่ในระดับพื้นฐานที่ดีที่สุด อย่างไรก็ตาม, ผ่านหลักสูตรการวิจัยของเขา, เขาก็ได้พบกับคนที่มีใจตรงกัน

 

แน่นอนว่า, เบล ได้รับการติดต่อจากบุคคลผู้นี้ เปรียบเทียบกับ เบล แล้ว, คนๆนี้มีความรู้เกี่ยวกับเวทย์มนตร์แห่งความมืดเยอะกว่ามาก, โดยเฉพาะเวทย์มนตร์ปลุกชีพ เพราะฉะนั้นเขาจึงเป็นเหมือนกับที่ปรึกษาให้กับ เบล และในฐานะนักเวทย์ที่มีไหวพริบทางด้านเวทย์มนตร์, ความเชี่ยวชาญในเวทย์มนตร์แห่งความมืดของ เบล จึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดดภายใต้การชี้แนะของเขา

 

แสงสีเขียวเมื่อก่อนหน้านี้คือเวทย์มนตร์ต้องห้ามที่ชื่อว่าเวทย์พังทลาย มันเป็นแค่เวทย์มนตร์เลเวล 3 แต่มีพลังทำลายมากกว่าเวทย์มนตร์ธาตุธรรมดาเนื่องจากมันใช้พลังงานแห่งความมืด

 

บุคคลหน้าขาวนำทางไปขณะที่ เบล ตามหลังไปอย่างใกล้ชิด เขากำลังเดินทางด้วยความเร็วที่สูงมาก, เนื่องจาก เบล ร่ายเวทย์ลีไวอาธันเพื่อไล่ตาม

 

หลังจากเดินทางไปได้ประมาณ 19 ไมล์, ป่าหนาทึบก็ค่อยๆเผยให้เห็นถึงพื้นที่เปิดขนาดมหึมาอย่างช้าๆ มีทะเลสาบขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยน้ำสีดำน่ากลัว, มันดูเหมือนกับประตูนรกที่บอกเล่ากันมามากๆ ที่ด้านข้างของมันมีก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีขนาดกว้างยาวกว่า 90 ฟุต หอคอยเวทย์มนตร์แห่งความมืดตั้งอยู่บนยอดของหินก้อนนี้อย่างได้เปรียบเชิงชัยภูมิ,  ซึ่งสูงกว่าพื้นที่ป่าทั้งหมด

 

สถาปัตยกรรมของหอคอยเวทย์มนตร์แห่งนี้แตกต่างจากหอคอยที่อยู่ในสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟเป็นอย่างมาก มันได้รับการตกแต่งด้วยรูปปั้นของสัตว์เดรัจฉานที่ดุร้ายและน่ากลัวอย่างเช่นหมาป่าหอน, แมงป่องและงูพิษ มีรูปปั้นอย่างน้อยหกรูปในทุกๆชั้น

 

นักเวทย์ เบล ขนลุกเมื่อได้เห็นหอคอยเวทย์มนตร์แห่งนี้ แม้ว่าเขาจะมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของนักเวทย์เลเวล 6, แต่เขาก็เป็นแค่มือใหม่เมื่อมันเป็นเรื่องของเวทย์มนตร์แห่งความมืด

 

บุคคลหน้าขาวนำทาง เบล ต่อไปตามทางเดินที่คับแคบจนกระทั้งพวกเขามาถึงทางเข้าของหอคอยเวทย์มนตร์ ประตูของหอคอยเปิดออกในตอนที่พวกเขามาถึง, เผยให้เห็นนักเวทย์ผ้าคลุมดำที่ถูกล้อมรอบด้วยดวงไฟสีเขียวสองดวงที่กำลังลุกโชนอยู่ข้างหลัง

 

“เบล, ดูเหมือนว่าท่านจะมาถึงเร็วกว่าที่ข้าคิดนะ” คนๆนั้นพูดด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง, เหมือนกับเสียงตะโกนแตกๆ

 

เบล พยายามจับลมหายใจของเขา เขาสูญเสียพละกำลังของเขาไปแล้วจริงๆ แม้ว่าจะใช้เวทย์มนตร์, แต่การเดินทางที่ยาวนานก็ส่งผลเสียต่อร่างกายของเขา

 

“เฉด, ข้าถูกจับได้แล้ว เวลาของข้าก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย ได้โปรดพาข้าเข้าไปในดินแดนแห่งชีวิตนิรันดร์ที่เถอะ” เบล พูด, พร้อมกับหายใจหอบ

 

“ถูกจับได้หรอ? งั้นก็หมายความว่าตอนนี้ท่านกำลังหนีอยู่หน่ะสิ? ท่านมั่นใจนะว่าไม่มีคนตามทันมา?” เฉด ถามด้วยความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด ยังไงซะ, เขาก็ยังอยู่ในอาณาจักรแห่งแสงและอาจได้รับอันตรายอย่างง่ายดาย

 

จากนั้น เบล ก็พูดออกมาอย่างช้าๆ “ข้าจงใจล่อให้พวกเขาสองคนมาที่นี่ หนึ่งในนั้นเป็นนักเวทย์เลเวล 5, และอีกคน, ก็อาจจะเป็นนักเวทย์เลเวล 4 พวกเขาเป็นแค่คนกลุ่มเดียวที่รู้เรื่องพวกเรา มันน่าจะง่ายสำหรับท่านที่จะเอาชนะพวกเขาด้วยการใช้หอคอยเวทย์มนตร์ ฆ่าพวกเขาและความลับของพวกเราก็จะปลอดภัย”

 

เบล เป็นคนรอบคอบ พอ ดาริส ออกจากสถาบันด้วยตัวเอง, เขาก็ตรวจสอบผู้คนที่เข้าออกสถาบัน เพราะฉะนั้น, ในตอนที่ ลิงค์ พา ดาริส ที่บาดเจ็บกลับมาและออกจากหอคอยเวทย์มนตร์ของ แอนโทนี่ พร้อมกับ เอร์เรร่า, เขาก็รู้ว่ามันถึงเวลาสำหรับเขาที่จะทิ้งที่นี่แล้ว

 

เขาเองก็รู้ว่า แอนโทนี่ ออกไปที่เมืองฮอทสปริง อย่างไรก็ตาม, ก็ยังมีนักเวทย์เลเวล 6 ที่แข็งแกร่งอีกมากมายในสถาบัน สิ่งเดียวที่เขาสามารถทำได้ก็คือหนี

 

ตอนแรกเขาตั้งใจจะหนีไปทางใต้, แต่เขาก็เปลี่ยนใจหลังจากที่ตระหนักได้ว่าเขามีคนไล่ตามมาแค่สองคน “น่าจะเลเวล 4 อย่างงั้นหรอ? ท่านต้องบอกข้าถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของศัตรูของข้าสิ” เฉด เกลียดการที่ต้องจัดการกับความไม่แน่นอน

 

“เขาสามารถร่ายเวทย์ระเบิดเพลิงได้แม้ว่าจะอายุแค่ 17 ปีก็ตาม ข้าสงสัยว่าเขาใช้คำภีร์เวทย์มนตร์เพื่อสนับสนุนเขาในการต่อสู้นั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขาอาจจะอ่อนแอกว่านักเวทย์เลเวล 4 ก็ได้ แต่ไม่ว่าจะกรณีใดๆ, ท่านก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวนักเวทย์อายุ 17, ข้าพูดถูกไหม?” เบล ไม่เคยคิดว่า ลิงค์ เป็นปัญหาเลย

 

เบล ศึกษาเวทย์มนตร์มามากมายในช่วง 50 ปีมานี้และมีเวทย์มนตร์ขั้นสูงมากมายในคลังของเขา นอกจากนี้, เขายังมีประสบการณ์ต่อสู้ที่ได้มาด้วยอายุเท่านั้น มันคงจะแปลกถ้าเขากลัวคนที่เด็กพอที่จะเป็นหลานของเขาได้

 

เฉด ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

อายุมักจะเป็นตัวบ่งบอกพลังในการต่อสู้ของนักเวทย์ แม้ว่านักเวทย์จะไปถึงระดับสูงได้ตั้งแต่ยังเด็ก, แต่เขาก็ไม่ได้รับความเคารพมากนัก

 

แน่นอนว่านักเวทย์ที่แก่กว่ามักจะมีจำนวนเวทย์มนตร์และเวทย์มนตร์ขั้นสูงที่มากกว่าในคลังของเขา ถ้านักเวทย์ทั้งสองมาเจอกันในการต่อสู้, ฝ่ายที่อายุมากกว่าก็มักจะชนะถล่มทลาย

 

“ถ้าเป็นเช่นนั้น, ก็เชิญเข้ามาเถิด ข้าได้เตรียมส่วนผสมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ท่านสามารถรับความเป็นอมตะได้ในทันที” เฉด เชิญ เบล เข้าไปในหอคอยเวทย์มนตร์ของเขา

 

เบล ได้บอกลาความเป็นมนุษย์ของเขาอย่างเงียบๆก่อนที่จะก้าวเข้าไปในหอคอยเวทย์มนตร์อันแสนน่ากลัว

 

ห้องโถงแทบจะไม่ได้รับการตกแต่ง สิ่งที่ชวนมองเพียงอย่างเดียวก็คือบ่อที่สูญกลางของห้องโถงที่เต็มไปด้วยของเหลวมีฟองสีเขียว ขณะที่ฟองระเบิด, ไอแห่งความมืดสีเขียวก็ฟุ้งเข้าไปในอากาศ

 

“นี่คือบ่อแห่งความอมตะ ท่านจะสามารถได้รับชีวิตนิรันดร์ได้จากการดูดซับธาตุในบ่อนี้ ในเวลานี้, ท่านจะลงไปนอนหลับสนิทและอยู่ในสภาพไร้การป้องกัน แต่ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอก, ข้าจะกำจัดผู้ติดตามให้ท่านเอง” เฉด อธิบายการทำงานของบ่อให้ เบล ฟังอย่างชัดเจน

 

เบล เริ่มสงสัยในตัวเลือกของเขา แน่นอนว่าบ่อนี้ถูกเสริมพลังด้วยเวทย์มนตร์คำสาปบางอย่าง เขาต้องการจะละทิ้งทุกสิ่งที่อย่างที่เขาพยายามมาในช่วง 50 ปีนี้จริงๆหรอ?

 

อย่างไรก็ตาม, เขาก็รู้สึกว่าพลังงานถูกดูดออกไปจากร่างกายของเขาอีกครั้ง ซึ่งนี่เกิดขึ้นถี่มากในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ ชีวิตของเขาเหมือนกับเปลวไฟที่ริบหรี่ที่สามารถดับได้ทุกเมื่อ

 

“ข้าไม่มีทางเลือกแล้วสินะ โอ้เทพแห่งแสง, ได้โปรดยกโทษให้กับบาปของข้าด้วย” ในตอนที่ เบล ลงไปในบ่อของเหลวสีเขียว, ฟองก็หยุดลง

 

บ่อของเหลวสงบนิ่งเป็นพิเศษ เฉด ที่ยืนคุ้มกันอยู่ข้างบ่อ, ก็ไม่ขยับเขยื่อนอย่างสมบูรณ์, แม้กระทั่งดวงไฟสีเขียวสองดวงที่ลุกโชนอยู่รอบๆเขาก็หายไป

 

ขณะที่เวลาไหลผ่านไปอย่างช้าๆ, บ่อก็เริ่มมีฟองขึ้นมาอีกครั้ง, ครั้งนี้มันรุนแรงยิ่งกว่าตอนแรก แล้วยังมีการเคลื่อนไหวแปลกๆในสภาพแวดล้อมของหอคอยเวทย์มนตร์

 

ในทันทีทันใด, ดวงตาของ เฉด ก็ส่องประกายสีเขียวออกมาและดวงไฟทั้งสองก็พุ่งออกมาจากม่านตาของเขา

 

“นี่คือกลิ่นแห่งชีวิต! เจ้าตัวกระจ้อยทั้งสอง! อย่าคิดว่าพวกเจ้าจะสามารถออกไปจากที่นี่ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับตอนที่พวกเจ้าเข้ามา”

 

ด้วยความช่วยเหลือของหอคอยเวทย์มนตร์ของเขา, เฉด จึงสามารถขยายระยะการร่ายเวทย์ของเขาไปได้สูงถึง 6,000 ฟุต พื้นที่ในรัศมี 300 ฟุตรอบหอคอยเวทย์มนตร์ของเขานับว่าเป็นอาณาเขตอย่างสมบูรณ์ของเขา

 

ถ้าใครก็ตามที่โง่พอที่จะข้ามพรมแดนนั้น, เขาก็จะแสดงให้พวกเขาเห็นถึงความหมายที่แท้จริงของความสิ้นหวัง!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset