ณ สระหมอก
…
หลังจากแหวกฝ่ากิ่งไม้ใบหญ้า ลิงค์ ก็เห็นหอคอยเวทมนตร์แห่งความมืดอยู่ข้างๆกับทะเลสาป
หอคอยเวทมนต์ของอันเดด! นั่นเป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขา
สีดำ รูปสลักหินแปลกๆ การผันผวนของออร่าเวทมนตร์แห่งความมืด-ลักษณะของหอคอยเวทมนตร์แสดงถึงตัวตนของเจ้าของของมัน
เนโครแมนเซอร์-เพราะว่าพวกเขาควบคุมซากศพและใช้ประโยชน์จากดวงวิญญาณ พวกเขาถูกเทพเจ้าของวิหารแห่งแสงทอดทิ้ง
ถ้าเนโครแมนเซอร์เกิดในอาณาจักรแห่งแสง หลังจากที่เขาได้อุทิศตัวให้กับด้านมืดและเวทมนตร์แห่งความมืด วิญญาณของเขาก็จะถูกห้ามไม่ให้เข้าสู่อาณาจักรแห่งความรุ่งโรจน์ซึ่งเป็นสถานที่ที่เทพของวิหารแห่งแสงอาศัยอยู่ตลอดกาล
วิญญาณของเนโครแมนเซอร์จะต้องเรร่อนอยู่ในนรกตลอดไปและเขาจะต้องใช้ชีวิตแบบนั้นตลอดไป นั่นคือสถานการณ์การเป็นอมตะของพวกเขา
จากนั้น เอร์เรร่า ก็เดินน้ำหน้า ลิงค์ และเห็นหอคอยเวทมนตร์แห่งความมืดจากช่องว่างของใบไม้ ดูจากสีหน้าของเธอ มันเห็นได้ชัดว่านี่คงจะเป็นครั้งแรกของเธอที่ได้เห็นสิ่งก่อสร้างแบบนี้
“ทำไมสิ่งที่ดูน่ากลัวเช่นนี้ถึงมาอยู่ใกล้กับเมืองสปริงกัน?!” เธออุทาน
ถ้ามันเป็นป่าแห่งความมืดทางตอนเหนือ มันก็จะไม่น่าตกใจเลย แต่นี่กลับเป็นใจกลางของอาณาจักรแห่งแสง!
“เบลน่าจะอยู่ในหอคอยเวทมนต์นั่นนะ” ลิงค์ กระซิบ “และนอกจากเขาแล้วที่นั่นก็น่าจะมีนักเวทย์แห่งความมืดคนอื่นอยู่ด้วย ดูจากที่เขามีหอคอยเวทมนตร์เป็นของตัวเองแล้ว ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยเขาจะต้องแข็งแกร่งพอๆกับคุณกับผมแน่ๆ และถ้าเนโครแมนเซอร์คนนั้นมีชีวิตอยู่มา 100 ปีหรือมากกว่านั้น ผมก็เกรงว่าต่อให้พวกเราร่วมมือกันก็ไม่อาจจะจัดการเขาได้ ไม่ต้องพูดถึง เบล เลย”
เมื่อนักเวทย์ฝึกหัดเชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 1 พวกเขาก็จะกลายเป็นนักเวทย์เลเวล 1 ขณะที่นักเวทย์คนอื่นเชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 1 10 บทพวกเขาก็เป็นนักเวทย์เลเวล 1 เช่นกัน แม้ว่าพวกเขาทั้งคู่จะมีเลเวลเท่ากันในทางเทคนิค แต่ตัวเลขไม่สามารถนำมาวัดประสบการณ์ได้
เนโครแมนเซอร์นั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นอมตะ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่จะเจอเนโครแมนเซอร์ที่อายุมากกว่า 100 ปี กาลเวลาอยู่ฝั่งพวกเขาและเวทย์ที่พวกเขาสามารถเชี่ยวชาญได้ในเวลาเหล่านั้นมันทำให้ เอร์เรร่า กับ ลิงค์ ดูเหมือนกับมือใหม่ไปเลยหากนำมาเปรียบเทียบกัน
ลิงค์ มักจะชอบเก็บแต้มโอมนิของเขาเอาไว้เสมอ แต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้มันร้ายแรง เขาจะต้องตัดสินใจอย่างถูกต้องในคราวนี้ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะตายได้
นี่มันคือโลกแห่งความเป็นจริง มันไม่สามารถย้อนการต่อสู้ใหม่ได้ถ้าเกิดว่าเขาตายที่นี่
“แต่ถ้าพวกเราปล่อยให้เขาหนีตอนนี้ พวกเราอาจจะไม่สามารถหาเขาเจอได้อีกเลยนะ”เอร์เรร่า พึมพำขณะที่หลบอยู่หลังพงหญ้า “ถ้าพวกเรามุ่งหน้าไปที่เมืองสปริงตอนนี้และไปหาผู้อาวุโสหล่ะ? ถ้าพวกเราบอกกับเขาว่าพวกเราเจออะไรที่นี่ ฉันมั่นใจว่าเขากับเหล่าสภานักเวทย์จะต้องมาช่วยพวกเราแน่นอน”
แอนโทนี่ เป็นนักเวทย์เลเวล 7 และตระกูลขุนนางนั้นโดยทั่วไปจะแต่งตั้งนักเวทย์เลเวลสูงให้เป็นสภานักเวทย์ ถ้า ลิงค์ กับ เอร์เรร่า สามารถขอความช่วยเหลือจากพวกเขาได้ มันก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะของพวกเขาเป็นอย่างมาก
“เป็นความคิดที่ดี” ลิงค์ พยักหน้า “พวกเราต้องรีบแล้ว ไปกันเถอะ”
ดังนั้นพวกเขาจึงหันหลังกลับและถอยออกมา พื้นที่แถวนี้เต็มไปด้วยพืชพันธุ์แต่พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ใช้เวทมนตร์ใดๆเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากหอคอยเวทมนตร์ ซึ่งนั่นทำให้การเคลื่อนไหวของพวกเขาช้ามาก
พวกเขาเดินไปได้เพียงแค่ประมาณ 5 หรือ 6 นาที-ไม่สิมากกว่า 150 ฟุต-ก่อนที่บางอย่างแปลกๆจะเกิดขึ้น
“บางอย่างมันไม่ถูกต้อง เธอสังเกตเห็นมั้ยว่าหมอกสีขาวมันหนาขึ้น?” เอร์เรร่า พูด
ทัศนวิสัยตอนนี้เหลือแค่ 10 ฟุตเท่านั้น ความจริงก็คือ ลิงค์ พบว่าเขาไม่สามารถมองหน้า เอร์เรร่า แบบชัดๆได้อีกแล้ว
เอร์เรร่า เป็นนักเวทย์เลเวล 5 และพื้นฐานของเธอคือนางฟ้าแห่งแสง-ความว่องไวต่อเวทมนตร์แห่งความมืดของเธอจึงเร็วกว่า ลิงค์ มาก ตอนนี้ เธอสามารถรู้สึกได้ว่าพลังงานแห่งความมืดกำลังซึมซับเข้ามาในอากาศ
ร่องรอยของเวทมนตร์แห่งความมืดที่เธอรู้สึกเมื่อสักครู่นี้ มันเหมือนกับหยดของหมึกที่ตกลงในแก้วน้ำ ทำให้เธอรู้สึกไม่แตกต่างจากเดิม
“ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้” เอร์เรร่า พูด “ฉันเกรงว่าเขาจะรู้ถึงการมาของพวกเราแล้ว” เอร์เรร่า มีหอคอยเวทมนตร์เป็นของตัวเอง ดังนั้นเธอจึงรู้ว่าหอคอยเวทมนตร์นั้นทรงพลังแค่ไหน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะสายตากว้างไกลจนสามารถเห็นพวกเขาได้ในระยะที่มากกว่า 200 หลา
เธอหยุดเดินในตอนที่เธอพูดและตัดสินใจว่ามันไม่มีประโยชน์แล้วที่จะปิดบังร่องรอยเวทมนตร์ของเธอ มานาในร่างกายของเธอระเบิดออก จากนั้นตัวของเธอก็เริ่มเรืองแสงสีขาว แสงนั้นกระจายออกและไปสัมผัสที่ตัวของ ลิงค์ และตัวของเขาก็ดูเหมือนกับถูกทำให้เรืองแสงเช่นกันและจากนั้นเขาก็ถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาว
ลิงค์ จำเวทย์นั้นได้ในทันที
แสงศักดิ์สิทธ์
เวทย์รัศมี เลเวล4
มานาที่ใช้:280แต้ม
ระยะเวลาร่าย: ทันที
ผล:ผู้ใช้เวทย์จะเป็นศูนย์กลางปล่อยพลังงานแสงออก สิ่งมีชีวิตใดก็ตามของอาณาจักรแห่งแสงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงของผู้ร่ายจะได้รับการป้องกัน 90% ของความรุนแรงของเวทมนตร์ที่เลเวลเท่ากันและความเร็วในการรักษาบาดแผลเพิ่มขึ้น 100% และสิ่งมีชีวิตใดๆที่อยู่ด้านมืดในบริเวณใกล้เคียงจะได้รับการลดพลังลง 50% และลดความเร็วในการรักษาแผลลง 80%
(หมายเหตุ:เวทย์นี้ใช้ได้เฉพาะนางฟ้าแห่งแสงเท่านั้น-คนธรรมดาไม่สามารถเชี่ยวชาญมันได้!)
นี่เป็นเวทย์รัศมีที่ทรงพลังมากๆและผลของมันก็เพิ่มขึ้นตามจำนวนของสิ่งมีชีวิตของอาณาจักรแห่งแสงที่อยู่ในระยะ เมื่อใช้มันกับกองทหาร พวกเขาจะกลายเป็นกองทัพศักดิ์สิทธ์ที่ไร้เทียมทาน
หลังจากที่ร่ายเวทย์ เอร์เรร่า ก็พูดอย่างรวดเร็ว “พวกมันเริ่มลงมือแล้ว พวกเราต้องเคลื่อนไหวให้เร็วกว่านี้”
ลิงค์ พยักหน้า จากนั้นเขาก็อัญเชิญเฟนเรียสายลมซึ่งถูกปกคลุมด้วยแสงสีขาวออกมาในทันทีและมันก็ได้รับผลของแสงศักดิ์สิทธ์เช่นกัน
“ขึ้นมา” ลิงค์ พูด
เอร์เรร่า กระโดดขึ้นหลังของเฟนเรียสายลมจากนั้น ลิงค์ ก็กระโดดขึ้นตามหลังเธอไป เฟนเรียสายลมคำรามจากนั้นมันก็พุ่งไปข้างหน้าผ่านป่ารกทึบ ทิ้งหอคอยเวทมนตร์แห่งความตายไว้ข้างหลังด้วยความรวดเร็ว
มันเป็นเวลา 4 ชั่วโมงแล้วหลังจากที่ ลิงค์ สู้กับ ดาริส และผลจากอัตราการฟื้นฟูมานาที่สูงของเขา ทำให้ตอนนี้เขามีมานาประมาณ 970 แต้ม-ซึ่งมากพอที่จะร่ายระเบิดเพลิงได้ 3 ครั้ง เพราะฉะนั้นเขาจึงร่ายมันในทันทีที่ขึ้นมาบนหลังของเฟนเรียสายลม มันไม่ใช่เพื่อที่จะโจมตี แต่เพียงเพื่อชาร์จโดมิงโก้คริสตัล
เพราะว่าสถานการณ์ตอนนี้คับขัน ลิงค์ จึงไมได้ซ่อนโดมิงโก้คริสตัลกับ เอร์เรร่า เธอตกตะลึงในทันทีที่เธอเห็นคริสตัล-เธอจำได้ว่ามันคืออะไรและรู้ว่ามันล้ำค่าแค่ไหนในครั้งแรกที่เห็น
5 วินาทีผ่านไป การชาร์จโดมิงโก้คริสตัลเสร็จสิ้น ภายในของมันบรรจุไปด้วยธาตุไฟสำหรับใช้ระเบิดเพลิง 1 ครั้ง ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการ เขาจะสามารถปลดปล่อยเวทมนตร์ที่รุนแรงได้ในเวลา 1.1 วินาที!
มันไม่ได้ได้มาโดยไม่ต้องเสียอะไร เพราะพลังและความเร็วของระเบิดเพลิงนั้นร้ายแรงอยู่แล้ว แต่ว่ามันจะต้องใช้มานาเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า-ครั้งนึงเพื่อใช้ชาจคริสตัลและอีกครั้งเพื่อที่จะร่ายมัน
ดังนั้นตอนนี้ ลิงค์ จึงเหลือมานาแค่ 650 แต้ม เขาหยิบน้ำยามานาระดับต่ำออกมาเพื่อเติมพลังให้ตัวเอง น้ำยานั้นสามารถเพิ่มมานาได้แค่ 100 แต้ม แต่ว่ามันเป็นน้ำยาชนิดเดียวที่เขามีในตอนนี้ ดังนั้นมันจึงดีกว่าไม่มีอะไรเลย
“หยุดก่อน แล้วดื่มขวดนี้แทน!” เอร์เรร่า พูดเธอยื่นขวดน้ำยาให้กับเขา
ลิงค์ มองไปที่ขวดน้ำยาที่อยู่ในมือของเธอ มันถูกบรรจุอยู่ในขวดที่ทำจากมิธริลและน้ำยาที่อยู่ข้างในนั้นก็เป็นของเหลวสีน้ำเงินเข้ม เขารู้จากการมองครั้งแรกเลยว่ามันคือน้ำยาคุณภาพสูง
หลังจากมองไปได้ซักพัก การแจ้งเตือนเกี่ยวกับมันก็เด้งขึ้นมา
น้ำยามานาระดับกลาง
คุณภาพ:ไม่มีจำกัด
ผล:เพิ่มมานา 500 แต้ม
(หมายเหตุ:น้ำยานี้มีพิษมาก ดังนั้นควรดื่มมันแค่ 2 วันครั้ง คนที่มีเลเวลสกิลระดับธรรมดาไม่ควรดื่มมัน เพราะมันอาจจะทำให้เกิดการผันผวนของมานาที่รุนแรงและอาจทำให้ตายได้ในทันที)
ช่างเป็นยาที่สุดยอดจริงๆ ลิงค์ คิด เขาหยิบมันและเปิดจุกออกและดื่มมันหมดภายในอึกเดียว รสชาติของมันปะแล่มเล็กน้อย-มันทั้งขมและฝาด และเขาก็รู้สึกเย็นในท้องในวินาทีต่อมา
ความรู้สึกเย็นได้พุ่งขึ้นมาจากที่ท้องของเขา และแพร่กระจายผ่านแขนขาและทั้งร่างกายของเขา
จากนั้น ลิงค์ ก็พบว่ามานาของเขาฟื้นฟูจนเกือบเต็มแล้ว มันขึ้นมาเป็น 1150 แต้มในตอนนี้ นอกจากนั้นเขายังมี 100 แต้มโอมนิอยู่ในมือของเขาอีก
ด้วยมานาที่เต็ม, โดมิงโก้คริสตัลที่ชาจแล้ว, และแต้มโอมนิที่มากมาย ตอนนี้ ลิงค์ รู้สึกใจเย็นขึ้นเยอะ
เฟนเรียสายลมยังคงวิ่งต่อไปจนเกือบจะครึ่งไมล์แล้ว แต่ว่าที่แปลกคือหมอกในป่านั้นไม่ได้โล่งขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกันมันกลับหนาขึ้นจนเกือบจะกลายเป็นกำแพงหนาสีขาวแล้ว
เมื่อเฟนเรียสายลมวิ่งผ่านสถานที่ที่ ลิงค์ รู้สึกคุ้นเคย เขาก็ตะโกนออกคำสั่งให้มัน”หยุด!”
เฟนเรียสายลมกรีดร้องตอนที่จะหยุด
“มีอะไรงั้นเหรอ?” เอร์เรร่า ถามอย่างตกใจ
“ดูสิ” ลิงค์ พูด พร้อมกับชี้ไปด้านข้าง ในจุดที่ผ่านหมอกสีขาวไปนั้นสามารถมองเห็นทะเลสาปได้ลางๆและพวกเขาก็สามารถได้ยินแม้กระทั่งเสียงคลื่นอันนุ่มนวลของมัน
พูดอีกนัยนึงก็คือ เฟนเรียสายลมได้วิ่งมาซักพักแล้ว แต่มันไม่ได้พา เอร์เรร่า กับ ลิงค์ หนีไปให้ไกลจากหอคอยเวทมนตร์แห่งความมืดเลย แต่มันกลับวนอยู่รอบๆทะเลสาบที่อยู่ข้างๆมัน
“หมอกได้บดบังทิศนวิสัยและสร้างภาพลวงตาให้เหมือนกับว่าพวกเรากำลังไปข้างหน้า แต่จริงๆแล้วพวกเรากำลังวิ่งเป็นวงกลมมาโดยตลอด!” ลิงค์ กระซิบ
เอร์เรร่า เข้าใจมันแล้วในตอนนี้ มันเป็นแค่เวทย์ลวงตาธรรมดา หลังจากที่ค้นพบมัน มันก็สามารถถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย
“ตะเกียงแห่งความจริง!”เอร์เรร่า ยกคทาคริสตัลของเธอขึ้นและอำพันที่อยู่บนยอดก็เปล่งแสงและปล่อยแสงที่เหมือนกับเลเซอร์ออกมา
ตะเกียงแห่งความจริง
เวทย์ เลเวล2
มานาที่ใช้:25แต้ม
ผล:สร้างลำแสงที่มีอำนาจทะลุทะลวงสูงซึ่งมันจะเป็นเส้นตรงตลอดแม้ว่าพื้นที่รอบๆมันจะถูกทำให้บิดเบี้ยวก็ตาม
ลำแสงนั้นมีพลังมากพอที่จะเจาะทะลุหมอกหนาได้อย่างง่ายดายและแสดงเส้นทางยาวและแสงบิดเบี้ยวเบื้องหน้าของพวกเขา
ตะเกียงแห่งความจริงนั้นจะแสดงถึงเส้นตรงที่แท้จริงเสมอและที่มันบิดเบี้ยวในตอนนี้ก็เพราะภาพลวงตาที่ถูกฝ่ายตรงข้ามสร้างขึ้น มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบิดเบือนพื้นที่ที่กว้างขนาดนี้ ความจริงที่ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีความสามารถในการดัดแปลงนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความน่ากลัวของเขา เขาอาจจะสามารถฆ่า ลิงค์ กับ เอร์เรร่า ได้ด้วยเพียงแค่การดีดนิ้วเฉยๆ
“ตามแสงไป” เอร์เรร่า พูด พร้อมกับยกคทาของเธอขึ้นไว้ตลอด
ลิงค์ พยักหน้า เขาควบคุมให้เฟนเรียสายลมไปตามทางที่บิดเบี้ยว มันรู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังไปในเส้นทางที่คดเคี้ยว แต่จริงๆแล้วมันเป็นเพียงแค่ทางตรง
แต่ว่าพวกเขาเดินทางไปได้แค่ 100 หลาเท่านั้นก่อนที่จะเกิดความผิดปกติขึ้นอีก!
ทันใดนั้นก็มีเงาวิ่งออกมาจากพุ่มไม้เล็กๆที่ด้านหน้าของพวกเขา เงานั้นรูปร่างสูงอย่างน้อย 13 ฟุต แต่เพราะว่าหมอกที่บดบังการมองเห็นของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถระบุตัวตนที่ชัดเจนได้ สิ่งเดียวที่เห็นได้ชัดคือ มันเคลื่อนที่ได้เร็วมากๆ ภายในเวลาเพียงครู่เดียวมันก็มาอยู่ที่ด้านหน้าของเฟนเรียสายลมแล้ว เงานั้นตบสัตว์ร้ายด้วยมือเปล่าและมันก็ตบเข้าไปที่กลางหัวของเฟนเรียสายลม
แม้กระทั่งร่างกายที่ใหญ่โตของสัตว์เวทมนตร์เลเวล 3 ก็ไม่อาจทนต่อการโจมตีได้ หัวของมันถูกเป่าเป็นชิ้นๆ และจากนั้นไม่นานร่างกายของมันก็เริ่มพังทลาย
โชคดีที่ เอร์เรร่า กับ ลิงค์ ถูกเสริมพลังด้วยรวดเร็วดั่งชีต้า ดังนั้นพวกเขาจึงกระโดดออกจากหลังของเฟนเรียสายลมได้ทันเวลา และในตอนที่พวกเขาทั้งสองลงมาถึงพื้น พวกเขาทั้งสองก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน
“อันเดด!”
ลิงค์ รู้ได้เพราะว่าเขาได้กลิ่นเหม็นเน่า ขณะที่ เอร์เรร่า รู้สึกถึงมันได้จากพลังงานของเวทย์มนตร์แห่งความมืด