Advent of the Archmage – ตอนที่ 108: เขตแดนอันสมบูรณ์ของเนโครแมนเซอร์ 3

ณ สระหมอก

 

 

หลังจากการตายของอันเดดทั้ง 3 ตัว ลิงค์ และ เอร์เรร่า ก็ได้ยินเสียงดังกระหึ่มมาจากข้างในป่าและพวกเขาก็รูสึกได้ถึงอะไรบางอย่างจำนวนมากกำลังมาทางพวกเขา ในเวลาเดียวกันนั้น ออร่าของเวทมนตร์แห่งความมืดก็ค่อยๆเข้มข้นขึ้นรอบๆตัวของพวกเขา

 

ที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าพวกเขาได้ยินเสียงกระพือปีกในอากาศอีกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถหนีได้ด้วยการบินเช่นกัน

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับกองทัพอันเดดของเนโครแมนเซอร์!

 

“ฝ่ายตรงข้ามพยายามรั้งพวกเราเอาไว้ให้อยูที่นี่อย่างเต็มที่” เอร์เรร่า พูดด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง “การหนีออกจากที่นี่คงแทบจะเป็นไปไม่ได้แล้วในตอนนี้”

 

“ทางเดียวที่พวกเราจะหนีได้คือฆ่าเนโครแมนเซอร์ทิ้งซะ!” ลิงค์ พูด

 

ลิงค์ มองเวทย์นี่ออกแล้ว เวทมนตร์แห่งความมืดที่เขาเห็นนั้นมันค่อนข้างคล้ายกับเวทย์อัญเชิญที่เขาได้เรียนจากหนังสือเรียนเลย กลยุทธ์การต่อสู้ของเนโครแมนเซอร์ก็ไม่ได้พิเศษอะไรมากนัก ทางเดียวที่จะผ่านเรื่องทั้งหมดนี้ไปได้ก็คือการไปโจมตีหัวหน้าของพวกมัน

 

“แต่ว่ามันอยู่ในหอคอยเวทมนตร์นะ” เอร์เรร่า พูดด้วยน้ำเสียงที่ขุ่นเคือง “และทุกครั้งที่พวกเราพยายามจะเข้าใกล้มัน พวกเราก็จะถูกโจมตีด้วยแนวป้องกันของเวทมนตร์แห่งความมืดที่ไม่มีที่สิ้นสุด!”

 

เสียงของกองทัพอันเดดค่อยๆเข้ามาใกล้ขึ้นและดังขึ้น ตัดสินจากเสียงที่ได้ยิน พวกมันจะต้องมีมากกว่า 1,000 ตัวอย่างแน่นอนและพวกมันก็ยังเข้ามาจากทุกๆทิศทางอีกด้วย-ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พวกเขาถูกล้อมแล้ว

 

มันไม่มีทางเป็นไปได้ที่นักเวทย์จะโจมตีหรือจัดการนักเวทย์อีกคนที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์ได้  ที่ในหอคอยเวทมนตร์ยังมีบ่อธาตุอีก ไม่ต้องพูดถึงผนึกเวทมนตร์จำนวนมากที่เก็บพลังงานเวทมนตร์อันมหาศาลเอาไว้เลย ในขณะเดียวกัน ตัวหอคอยเวทมนตร์เองก็ทนต่อการโจมตีเวทมนตร์อีกด้วย ถึง ลิงค์ กับ เอร์เรร่า จะรวมพลังกันก็ยังไม่เพียงพอที่จะพังมันลงได้

 

ถ้าเทียบกับกรณีที่อยู่ในโลก ลิงค์ กับ เอร์เรร่า ก็เหมือนกับทหารมือเปล่า ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามของพวกเขานั้นซ่อนตัวอยู่ในรถถังติดอาวุธ พวกเราจะสามารถจัดการกับฝ่ายตรงข้ามได้ยังไงหล่ะ? มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาสามารถหนีได้

 

แต่สถานการณ์ที่ ลิงค์ กับ เอร์เรร่า เจออยู่นั้นแย่ยิ่งกว่านั้น ไม่เพียงแค่ฝ่ายตรงข้ามจะอยู่ในรถถังเท่านั้น แต่เขายังควบคุมกองทหารที่ไม่มีวันหมดสิ้นอีกด้วย ลิงค์ กับ เอร์เรร่า ไม่มีทางที่จะจัดการพวกมันได้หมดและพวกเขายังถูกห้ามไม่ให้หนีอีกด้วย ถ้าพวกเขายังเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเขาจะต้องตายเพราะมานาหมดอย่างแน่นอน

 

หลังจากการปรึกษากันอย่างรวดเร็ว พวกเขาทั้งสองก็พบว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังอย่างแท้จริง

 

“พวกเราจะทำยังไงกันดี?” เอร์เรร่า ถาม

 

เธอสับสนไปหมดจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อแล้ว เธอร่ายเวทย์มนตร์อย่างต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ และเธอก็ใช้มานาของเธอไปมากกว่า20%แล้ว และที่พวกเขาทำได้ก็เพียงแค่ฆ่าอันเดดไป 3 ตัวเท่านั้น-และตอนนี้พวกเขาต้องเจอกับพวกมันอีกกว่า 1,000 ตัว!แม้ว่าอันเดดแต่ละตัวจะสามารถฆ่าได้อย่างง่ายดาย แต่จำนวนของพวกมันก็บ่งบอกว่าพวกเขาต้องใช้มานาของพวกเขาเป็นจำนวนมากในการจัดการพวกมันทั้งหมด และนักเวทย์ที่ไม่มีมานาก็ไม่ต่างอะไรไปกับแกะที่รอการถูกเชือดเลย

 

“พวกเราจะฝ่าไปอย่างเร็วที่สุดเพื่อไปที่หอคอยเวทมนตร์!” ลิงค์ พูด เขาพุ่งไปข้างหน้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เอร์เรร่า กัดฝันของเธอและสูดหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นเธอก็ตาม ลิงค์ ไป

 

ระหว่างที่วิ่ง เธอพูดอิดออด “เนโครแมนเซอร์อย่างน้อยน่าจะเป็นนักเวทย์เลเวล5 มันไม่มีทางที่พวกเราจะบุกเข้าไปในหอคอยเวทมนต์ของมันได้หรอก”

 

“มันเป็นไปได้สิ” ลิงค์ พูด “ผมรู้จักเวทย์ที่ทรงพลัง เวทย์ที่ทรงพลังมากๆ ตราบใดที่พวกเราสามารถเข้าใกล้กับหอคอยได้ พวกเราก็ยังมีโอกาสที่จะบุกเข้าไปได้!”

 

เขายังคงมีไพ่ตายสุดท้ายเก็บไว้อยู่เสมอ-มันคือ 100 แต้มโอมนิ

 

ตอนนี้ มานาในร่างของเขาเกือบจะเต็มแล้ว ดังนั้นต่อให้ฝ่ายตรงข้ามซ่อนตัวอยู่หลังกำแพงหอคอยเวทมนตร์ ลิงค์ ก็มีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถฝืนตัวเองด้วยเวทย์เลเวล 8 ได้ ถ้าเกิดว่าเขาสามารถเข้าใกล้มันได้นะ

 

ด้วยวิธีนี้ เขาจะสามารถโค่นรถถังของฝ่ายตรงข้ามได้ด้วยมิสไซล์ต่อต้านรถถังของเขา!

 

อย่างไรก็ตาม เอร์เรร่า มอง ลิงค์ ด้วยความไม่เชื่อ เธอสงสัยว่าเขามีเวทย์ที่ทรงพลังอย่างที่อ้างเอาไว้หรือเปล่า

 

“มันคือการเปิดเผยของพระเจ้า!” ลิงค์ พูดเพื่อโน้มน้าว เอร์เรร่า

 

ในฐานะที่เป็นนางฟ้าแห่งแสง เธอต้องยอมรับเมื่อ ลิงค์ อ้างอิงถึงพลังของพระเจ้า และเธอจึงยอมทำตามแผนของ ลิงค์ ในที่สุด

 

ตอนนี้พวกเขามีรวดเร็วดั่งชีต้า แสงศักดิ์สิทธ์ของ เอร์เรร่า และยังมีบาเรียของเอเดลไวซ์ ตอนนี้ แม้ว่าพวกอันเดดจะซุ่มโจมตีพวกเขาภายใต้การบดบังของหมอกหนาสีขาว พวกเขาก็ยังสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย

 

ข่าวดีก็คือพวกเขาใกล้จะถึงทะเลสาบแล้ว ความจริงก็คือพวกเขาใกล้ขึ้นถึงฝั่งของมันแล้ว หลังจากพุ่งไปข้างหน้า ลิงค์ ก็กระโดดลงทะเลสาบ ในตอนที่ผิวหนังของเขาแตะกับน้ำความเย็นยะเยือกก็วิ่งไปทั่วกระดูกสันหลังของเขา เขารู้สึกได้ว่าน้ำในทะเลสาปนั้นเต็มไปด้วยธาตุของเวทมนตร์แห่งความมืดอย่างเข้มข้น น้ำของทะเลสาบนั้นเก่ามากถ้าไม่ใช่เพราะการป้องกันของเอเดลไวซ์และแสงศักดิ์สิทธ์ของ เอร์เรร่า ลิงค์คงจะแข็งตายคาที่ในทันที

 

เอร์เรร่า ตามเขาลงไปในทะเลสาบ พวกเขาไม่มีที่อื่นให้ไปแล้วในเมื่อพื้นดินนั้นเต็มไปด้วยกองทัพอันเดด แม้ว่าพวกเขาจะไม่กลัวพวกมัน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสูญเสียมานาที่มีจำกัดไปให้กับพวกหุ่นเชิดที่น่าเกลียดน่ากลัวพวกนี้ได้

 

โดยธรรมชาติแล้วอันเดดก็ไม่กลัวน้ำเช่นกัน เมื่อพวกมันเห็น ลิงค์ กับ เอร์เรร่า กระโดดลงทะเลสาบ พวกมันก็กระโดดตามกันไป ทีละตัวๆพวกมันทำน้ำกระเด็นเมื่อลงทะเลสาบเหมือนกับเกี๊ยวที่ตกลงสู่หม้อซุป

 

แต่ความเร็วในน้ำของพวกมันก็ช้ากว่าตอนอยู่บนบกมาก ความจริงแล้วมันแสดงให้เห็นว่าพวกมันว่ายน้ำกันไม่ได้สักตัว ดังนั้นพวกมันจึงจมเหมือนกับก้อนอิฐลงสู่ก้นทะเลสาบ พวกมันบางตัวยังพยายามที่จะไล่ตาม ลิงค์ กับ เอร์เรร่า เมื่อพวกมันลงไปถึงก้นทะเลสาบแล้ว แต่การเคลื่อนที่ของพวกมันก็ช้าจนไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไป

 

“ลอย!”

 

เอร์เรร่า ร่ายเวทย์ก่อนที่เธอจะกระโดดลงสู่ทะเลสาบ ซึ่งนั่นทำให้เธอสามารถลอยอยู่ประมาณ 3 ฟุตเหนือพื้นผิวของทะเลสาปได้โดยที่ไม่เปียกน้ำเลย จากนั้นเธอก็ร่ายเวทย์ใส่ ลิงค์ เช่นกัน และเขาก็ค่อยๆลอยขึ้นมาอยู่บนพื้นผิวของน้ำ

 

“…ทำไมคุณถึงไม่ร่ายมันก่อนหน้านี้หล่ะ?” ลิงค์ ถามด้วยใบหน้าสับสน เขารู้สึกหงุดหงิดมากที่เธอไม่ได้ร่ายเวทย์นี้ก่อนที่ตัวเขาจะเปียกจนเหมือนกับหนูจมน้ำอย่างนี้

 

เอร์เรร่า ไม่สามารถหุบยิ้มได้ในตอนที่เห็น ลิงค์ กำลังเป็นทุกข์และเธอก็รู้สึกใจเย็นลงเล็กน้อย

 

“ฉันผิดเองหล่ะ” เธอพูดพร้อมกับกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้ “แต่เธอลงไปในน้ำก่อนที่ฉันจะรู้ตัวซะอีกนะ!” จากนั้นเธอชี้คทาที่อยู่ในมือเธอไปที่ ลิงค์ และใช้เวทย์ง่ายๆในการทำให้ตัวเขาแห้ง

 

ลิงค์ ไม่สามารถเถียงได้เขาจึงเดินทางไปที่หอคอยเวทมนตร์ต่อโดยที่มี เอร์เรร่า ตามมาติดๆ

 

แม้ว่าจะมีหมอกหนาสีขาวบดบังทัศนวิสัยของพวกเขา แต่พวกเขาก็ไม่ได้กังวลว่าจะหลงทางเลยเพราะว่ามานาที่ผันผวนบริเวณรอบๆหอคอยเวทมนตร์นั้นรุนแรงมากจนทำให้พวกเขารู้ที่ๆจะไปโดยไม่ต้องมองเลยด้วยซ้ำ

 

พวกเขาคาดการณ์ว่าพวกเขาน่าจะอยู่ห่างจากหอคอยแห่งความมืดไม่ถึง 1 ไมล์

 

หลังจากที่ไต่ผิวน้ำของทะเลสาปไปได้เกือบ 100 ฟุต พวกเขาก็รู้สึกว่าหมอกบนผิวน้ำของทะเลสาบค่อยๆหนาขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ทัศนวิสัยของพวกเขาเหลือแค่ไม่กี่ฟุตเท่านั้น ถ้ามากไปกว่านี้มันจะรู้สึกเหมือนว่าพวกเขากำลังมุ่งหน้าเข้าไปสู่กำแพงหนาสีขาว

 

เพื่อป้องกันการพลัดหลง เอร์เรร่า กับ ลิงค์ จึงต้องเคลื่อนที่ไปพร้อมกันอย่างใกล้ชิด ความจริงคือไหล่ของพวกเขาแทบจะแตะกันอยู่แล้วในตอนที่พวกเขาไต่ไปที่หอคอยเวทย์มนตร์อันน่าสยดสยอง

 

ตอนนี้ พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้มีความคิดที่จะคาดเดาเลยว่าพวกเขาจะเจอกับอุปสรรคอะไรต่อไป-และพวกเขาก็ไม่รู้เช่นกันว่ามีชะตากรรมอะไรที่รอพวกเขาอยู่ในหอคอยเวทมนตร์

 

ในขณะเดียวกัน ในหอคอยเวทมนตร์ เนโครแมนเซอร์ เชด มองไปที่กระจกเวทมนตร์ที่แสดงให้เห็นภาพของ ลิงค์ กับ เอร์เรร่า ที่กำลังมุ่งหน้ามา

 

“นี่พวกมันกระโดลงทะเลสาบงั้นเหรอ?” เชด พูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “นี่พวกมันจะรีบตายเร็วเกินไปไหม!”

 

เชด ได้ทำการคุ้มกันหอคอยเวทมนตร์มามากกว่า 100 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้ต่อสู้มานับไม่ถ้วน และเขาก็ฆ่านักเวทย์ของอาณาจักรแห่งแสงที่พยามยามจะมาโค่นเขามานับไม่ถ้วน นักเวทย์พวกนั้นต้องโง่แค่ไหนถึงคิดว่าเขาจะปล่อยให้ทะเลสาบไม่มีการป้องกันหน่ะ!

 

แน่นอน เขาได้เตรียมฉากสุดท้ายเอาไว้ให้กับตัวละครทั้งสองบนทะเลสาบแล้ว!

 

“อาริเซ่ อิโนซ่า!”

 

เชด ยืนอยู่ในหอคอยเวทมนตร์และกำลังควบคุมผนึกเวทมนตร์อยู่ จากนั้นเขาก็ชี้คทาไปที่พื้นและยิงมานาไปที่หนึ่งในผนึกนั้น ทำให้มันส่องแสงในทันที จากนั้นออร่าที่มันปล่อยออกมาก็เริ่มที่จะหมุน ในตอนแรกมันช้าแต่มันค่อยเร็วขึ้นเรื่อยๆ 3 วินาทีต่อมา คลื่นของรูนเวทมนตร์ขนาดหนาประมาน 8 นิ้วก็พุ่งออกมาจากผนึกเวทมนตร์และพุ่งไปหาคริสตัลหักเหที่อยู่บนโดมชั้นบนสุดของหอคอย

 

เมื่อมันสัมผัสกับคริสตัล คลื่นของรูนเวทมนตร์ก็ถูกสะท้อนและพุ่งไปที่ส่วนลึกของทะเลสาบอันมืดมิด

 

บนพื้นผิวของทะเลสาบ ลิงค์ กับ เอร์เรร่า รู้สึกได้ถึงแสงที่พุ่งเข้ามา และในเวลาเดียวกันนั้นพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงการผันผวนของมานาที่รุนแรงที่มาจาก เชด อย่างชัดเจน วินาทีต่อมา พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าที่น้ำด้านล่างของพวกเขาเริ่มมีการกระเพื่อม ในตอนแรกมันเกิดเป็นระลอกคลื่นบนผิวของทะเลสาบ จากนั้นระลอกเล็กๆก็กลายเป็นคลื่นและคลื่นนั้นก็ค่อยๆรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

 

คลื่นนั้นส่งเสียงรุนแรงมากจนสามารถทำให้หูหนวกได้เลย

 

เอร์เรร่า สับสนกับการเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบและ ลิงค์ ก็ได้เตือนตัวเองให้ตื่นตัว ในตอนที่เขามาที่นี่ในเกมเมื่อชีวิตที่แล้ว สระหมอกได้ถูกครอบครองโดยดาร์กเอลฟ์ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พบกับกองทัพอันเดดและเนโครแมนเซอร์เลย

 

แต่เขายังมีความทรงจำที่ชัดเจนเกี่ยวกับสัตว์ประหลาดที่พุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเลสาบอยู่

 

เขาสันนิษฐานว่า ในตอนนั้น ที่สัตว์ประหลาดมาจากส่วนลึกที่มืดมิดของทะเลสาบนั้นเป็นของดาร์กเอลฟ์มาโดยตลอด แทนที่จะเป็นของเนโครแมนเซอร์และมันก็ถูกพวกดาร์กเอลฟ์ย้ายมาที่นี่ในภายหลัง ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะกระโดดลงมาที่ทะเลสาป เขารู้สึกตัวช้าไปว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั้นอยู่ที่นี่มาโดยตลอด แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาก่อนที่กองทัพดาร์กเอลฟ์จะมาถึงก็ตาม

 

นี่เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและลำบากสุดๆ

 

ลิงค์ จำได้อย่างชัดเจนว่ามันคือ เบฮีมอธ แห่งความลึกที่ชื่อว่า อิโนซ่า มันเป็นบอสระดับอีพิค ระดับความใหญ่ของโลกไม่สามารถอธิบายถึงมันได้ มันสูงอย่างน้อย 100 ฟุต และลักษณะของมันก็ใกล้เคียงกับงู 8 หัวในนิทานพื้นบ้านของญี่ปุ่นหรือ ไฮดร้าในทะเลสาบเลอนาของเทพนิยายกรีก

 

สัตว์ประหลาดตัวนี้เป็นไฮดร้า 6 หัว แต่ละหัวของมันมีพลังเวทย์ที่แตกต่างกัน และแต่ละหัวก็มีพลังที่สามารถปล่อยเวทย์เลเวล 5 อันแข็งแกร่งได้อีกด้วย

 

น้ำของทะเลสาบปั่นป่วนรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุด ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้น บนพื้นผิวของน้ำที่อยู่ห่างจาก ลิงค์ กับ เอร์เรร่า ไปประมาณ 100 หลา มีสัตว์ประหลาดขนาดยักโผล่ขึ้นมา

 

จากแรงสั่นสะเทือนที่สร้างขึ้นโดยสัตว์ประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเลสาบนั้นรุนแรงมากจนแม้แต่หมอกที่ปกคลุมพื้นผิวของทะเลสาบอย่างหนาแน่นก็ยังต้องกระจัดกระจายออกไป และนั่นก็ทำให้ ลิงค์ และ เอร์เรร่า สามารถมองเห็นสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้อย่างชัดเจน

 

ลิงค์ ได้เตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์นี้เอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ถูกรบกวนจากการปรากฏตัวของสัตว์ประหลาดมากนัก แม้ว่าเขาจะตกใจเล็กน้อยที่มันดูร้ายกาจกว่าเมื่อเทียบกับตัวที่เขาเห็นในเกม และมันก็เป็นครั้งแรกของ เอร์เรร่า เช่นกันที่เห็นมัน

 

“นี่มันไฮดร้า 6 หัว ผู้อยู่อาศัยในนรกนี่!” เธออุทานด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ หลังจากที่ได้สังเกตมันอย่างเงียบๆอยู่พักนึง “มันมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”

 

ลิงค์ นึกขึ้นได้ว่าไฮดร้าก็เป็นสายพันธุ์ของมังกร มันจึงไม่น่าแปลกใจที่มันจะเป็นบอสระดับอีพิคในเกม

 

“คุณมีวิธีที่จะจัดการกับมันรึเปล่า?” ลิงค์ ถาม เอร์เรร่า

 

เบฮีมอธตัวนี้สูงมากกว่า 100 ฟุต แถมมันยังเป็นสายพันธ์ไฮดร้าที่ดุร้ายด้วย ลิงค์ คิดว่าระเบิดเพลิงของเขาคงทำอะไรมันไม่ได้ไปมากกว่ารอยขีดข่วนเล็กน้อย แทนที่จะจัดการมัน มันขึ้นอยู่กับ เอร์เรร่า แล้วในตอนนี้

 

ถ้าแม้แต่ เอร์เรร่า ยังไม่มีหนทางที่จะสู้กับเบฮีมอธตัวนี้ เขาก็คงจะต้องทิ้งความตั้งใจที่จะจัดการเนโครแมนเซอร์ในทันทีและใช้แต้มโอมนิทั้งหมดที่เขามีในการดึงพลังทั้งหมดที่จำเป็นในการหนีออกมา

 

เขาเลือกที่จะต่อสู้จนจบตั้งแต่ตอนแรกเพราะเขาเชื่อว่ามันมีโอกาสที่เขาจะทำสำเร็จ แต่ว่าดูจากสิ่งที่เป็นในตอนนี้แล้ว ลิงค์ ก็ฉลาดพอที่จะรู้ว่าการต่อสู้นั้นอาจจะทำให้เขาตายได้อย่างแน่นอน!

 

เอร์เรร่า จ้องไปที่ อิโนซ่า สัตว์ประหลาดไม่ได้เคลื่อนที่มาโจมตี มันแค่ยิงฟันของมันอย่างโหดร้ายอยู่ในระยะใกล หลังจากที่วิเคราะห์อยู่นาน 3 วินาทีเต็ม ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจได้

 

“มันไม่ใช่ไฮดร้าเลือดบริสุทธ์” เอร์เรร่า พูด “และมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น ฉันรู้เวทมนตร์ที่อาจจะฆ่ามันได้ แต่มันต้องใช้เวลาในการร่ายนานหน่อยนะ”

 

“คุณต้องการเวลามากเท่าไหร่?” ลิงค์ ถาม ไม่มีความกังวลระหว่างสู้หรือจะหนีแล้ว

 

“หนึ่งนาที! มันเป็นเวทย์เลเวล 6 ที่ฉันเพิ่งจะเชี่ยวชาญมัน” เอร์เรร่า ตอบ

 

“งั้นหนึ่งนาทีนะ!” ลิงค์ ตอบ “เริ่มเลย!ผมจะถ่วงเวลาให้คุณเอง!”

 

ลิงค์ ไม่ใช่พวกที่จะล้มลงโดยที่ไม่ต่อสู้กลับ พวกเขาถูกกระหน่ำด้วยการโจมตีหลายระลอกจากเนโครแมนเซอร์ ดังนั้นมันถึงเวลาแล้วที่จะถึงตาของพวกเขาที่จะแสดงพลังให้พวกมันรู้!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset