คำภีร์เข้ารหัสพวกนี้เป็นวิธีการสื่อสารตามปกติที่ใช้กันโดยพวกดาร์คเอลฟ์ พวกมันมักจะปรากฏในเกมส์ในชีวิตก่อนของ ลิงค์, แต่พวกมันก็มีค่าแค่ไอเท็มชื่อเทาเพราะข้อความบนคำภีร์มันอ่านไม่ออกทำให้พวกมันเป็นของไร้ประโยชน์
ลิงค์ ตรวจสอบรายละเอียดในคำภีร์เข้ารหัส สิ่งที่เขาสามารถคาดเดาจากมันได้คือความจริงที่มันเก็บเอาไว้เกี่ยวกับข้อความในจดหมายของดาร์คเอลฟ์ แม้ว่าความหมายของพวกมันจะยังคงไม่สามารถทำความเข้าใจได้สำหรับเขาก็ตาม
นี่มันดูเหมือนกับจดหมายคำสั่งเลยนะ, ลิงค์ คิด, แย่แล้วฉันไม่มีกุญแจไขรหัสนี้!
จากนั้น ลิงค์ ก็พยายามถอดรหัสคำภีร์ทีละคำ แต่หลังจากผ่านไปกว่า 10 นาทีกับความพยายามที่ไร้ประโยชน์, เขาก็ยอมแพ้ในที่สุด
ลืมมันไปเถอะ บางทีฉันอาจจะโชคดีกว่านี้ในครั้งต่อไป, ลิงค์ คิดด้วยความผิดหวัง จากนั้นเขาก็เก็บคำภีร์เอาไว้ในจี้เก็บของของเขา
“พวกเราจะหยุดการสืบสวนผาลมหอนเอาไว้ตรงนี้” ลิงค์ พูด, “แต่นายยังต้องให้ความสนใจกับความเคลื่อนไหวในป่าเกอร์เวนท์ ถ้ามีสัญญาณอะไรของพวกดาร์กเอลฟ์หรือถ้านายพบอะไรผิดปกติ ก็ให้แจ้ง ลูซี่ ในทันทีแล้วเธอจะเขียนมาให้ฉัน”
เฟลิเดียว เป็นเอลฟ์ที่ฉลาดหลักแหลม เขาต้องรูสึกตัวกับความเคลื่อนไหวของทหารรับจ้างที่ ลิงค์ จ้างมาเพื่อสอบสวนเขาเมื่อก่อนหน้านี้แน่ๆ มันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับจิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างเขาที่จะได้ข้อสรุปว่าตัวตนของเขาถูกเปิดเผยแล้วจากการตรวจค้นรังของสมาคม—นี่ต้องเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาลังเลที่จะถอยแน่ๆ
ลิงค์ ไม่ได้เก็บมากังวลมากเกินไปกับความจริงที่ว่าเขาหนีไปแล้ว สิ่งที่เขาต้องป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นก็คือการที่ เฟลีเดีย ปลดปล่อยปีศาจ ทาร์วิส ในป่าเกอร์เวนท์
ทันทีที่ ลิงค์ ได้ข้อสรุปนั้น, ข้อความก็เด้งขึ้นมาบนหน้าอินเตอร์เฟสในส่วนที่เกี่ยวกับภารกิจสืบสวนผาลมหอน ช่องข้อความกลายเป็นสีแดง, บ่งบอกว่าภารกิจล้มเหลว, ซึ่งมันก็หมายความว่ารางวัลก็หายไปด้วย
ลิงค์ ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมรับ เขาไม่เห็นประเด็นที่ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนกับมัน ถ้าเขาเสียสละเวลาทั้งหมดของเขาไปกับการพยายามไล่เก็บรางวัลจากระบบเกมส์, ก็คงจะไม่มีเวลาในการจดจ่อกับความคืบหน้าของตัวเอง นอกเหนือจากนั้น, เขาก็ไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นแค่หุ่นเชิดของระบบเกมส์
ยิ่งไปกว่านั้น, เขาก็ไม่ได้ขาดแคลนค่าโอมนิเลย เขาได้รับค่าโอมนิ 50 แต้มจากการจับตัว เบล, ค่าโอมนิ 20 แต้มจากการสร้างเวทย์ขั้นสูงสุดสามเวทย์และค่าโอมนิ 60 แต้มจากการเชี่ยวชาญระเบิดเพลิงอย่างแท้จริงและกลายเป็นนักเวทย์เลเวล 4— ซึ่งเมื่อนำมารวมกันแล้วก็จะได้ 130 แต้ม, และนั่นก็เป็นจำนวนที่มากพอแล้วสำหรับเขาในตอนนี้
แจ็คเกอร์ รับคำสั่งของ ลิงค์ และพร้อมที่จะทำตามอย่างไม่มีข้อสงสัย หลังจากนั้น, หนึ่งในทหารรับจ้างก็เข้ามาและรอที่จะรายงานเรื่องบางอย่างกับ แจ็คเกอร์
“ไปเถอะ” ลิงค์ พูด “ฉันจะไม่รบกวนนายแล้ว อ้อ, ว่าแต่, ไปบอกให้ ไรไล มาหาฉันหน่อยได้ไหม?” ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่ที่นี่, ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องการจะตรวจสอบความคืบหน้าของลูกศิษย์ของเขา
“ได้ครับ, นายท่าน” แจ็คเกอร์ ขานรับ
เขายจะขยายกองกำลังทหารรับจ้างฟลามิงโก้และทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะได้กลายเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งของเขา แต่กองกำลังทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงนั้นไม่ใช่แค่นักรบเท่านั้นที่แข็งแกร่ง, แต่รวมถึงนักเวทย์ด้วยเช่นกัน นักเวทย์มักจะยึดติดกับความภาคภูมิใจ, และพวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมที่จะทำงานร่วมกับทหารรับจ้าง, ดังนั้น ลิงค์ จึงตัดสินใจที่จะฝึกนักเวทย์ด้วยตัวเอง
และนั่นก็เป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงต้องให้ความสนใจกับ ไรไล เป็นพิเศษ
แจ็คเกอร์ ในตอนนี้ได้ออกจากห้องโถงไป หลังจากนั้นสักพัก, ไรไล ก็เข้ามา สีหน้าโดยรวมของเธอดูเหมือนจะดีขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แก้มของเธอโตเต็มที่และธาตุน้ำที่อยู่รอบๆร่างกายของเธอก็เห็นได้ชัดยิ่งกว่าเดิมในตอนนี้—มันดูราวกับว่าเธอเติบโตขึ้น ดวงตาของเธอสดใสเป็นพิเศษ, แต่ในเวลาเดียวกันนั้นพวกมันก็ยังสะท้อนถึงความประหม่าและความกลัวของเธอเช่นกัน, เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตามที่เห็นเธอจึงอดที่จะเอ็นดูเธอไม่ได้
แต่นี่เป็นแค่รูปลักษณ์ภายนอกของเธอเท่านั้น ในตอนที่ ไรไล เข้ามา, ลิงค์ ก็สัมผัสได้ว่ามานาของเธอแข็งแกร่งขึ้นกว่าตอนที่เขาพบเธอเมื่อครั้งก่อน เมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน, มานาของเธอเพิ่งจะตื่นขึ้นเพียงเท่านั้น ในความเป็นจริง, เขาต้องสัมผัสตัวเธอเพื่อที่จะรับรู้ถึงการมีอยู่ของมัน แต่ตอนนี้, ความคืบหน้าของเธอเห็นได้ชัดเจนมากจนเขาแค่อยู่ในห้องกับเธอก็รับรู้ถึงมันได้แล้ว
“ดีมาก” ลิงค์ พยักหน้าด้วยความพอใจอย่างเห็นได้ชัด
“อาจารย์คะ” ไรไล พูดอย่างสุภาพ แม้ว่าเธอจะมีความสุขกับการที่ได้เห็นความพอใจของอาจารย์ของเธอก็ตาม “ฉันได้เรียนรู้เวทย์มนตร์มาด้วยค่ะ”
“งั้นหรอ, เวทย์อะไรหล่ะ?” ลิงค์ ถามด้วยความประหลาดใจอย่างมีความสุข
“เวทย์หยดน้ำค้างค่ะ” เธอตอบ
หยดน้ำค้าง
เวทย์มนตร์เลเวล 0
ผล: ควบแน่นธาตุน้ำในอากาศจนกลายเป็นหยดน้ำค้าง
“ถ้างั้นก็แสดงให้ฉันดูหน่อยสิ” ลิงค์ กระตุ้น แม้ว่ามันจะเป็นแค่เวทย์มนตร์เลเวล 0, แต่ ลิงค์ ก็ยังรู้สึกประทับใจที่เด็กสาวสามารถเชี่ยวชาญมันได้ในเวลาแค่เจ็ดวันโดยที่ไม่มีคำแนะนำหรือการดูแลอะไรเลย นี่เป็นหลักฐานที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ของพรสวรรค์และศักยภาพของเธอ
ไรไล พยักหน้าจากนั้นก็ชี้คทาของเธอไปที่พื้นผิวบนโต๊ะ เธอใช้เวลาประมาณสามวินาทีในการรวบรวมสมาธิของเธอก่อนที่ปลายคทาของเธอจะมีแสงสว่างขึ้น, แสงส่องไปที่พื้นผิวของโต๊ะ วินาทีต่อมา, แสงก็หายไป, และหยดน้ำค้างขนาดเท่าฝ่ามือก็ปกคลุมพื้นที่บนโต๊ะ
มันคือเวทย์หยดน้ำค้างจริงๆ
“ยอดเยี่ยมมาก” ลิงค์ พูด เขาตระหนักได้ว่าเขาได้พบกับพรสวรรค์ที่แท้จริงในตัว ไรไล และมันก็จะสูญเปล่าอย่างมากสำหรับพรสวรรค์ของเธอถ้าเธอยังอยู่ที่นี่กับพวกทหารรับจ้าง
มันถึงเวลาสำหรับเธอแล้วที่จะเข้าสถาบัน ลิงค์ คิดว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมัวลีลาอยู่, เพราะฉะนั้นเขาจึงดำเนินการในทันที
“ไปเก็บของของเธอซะ เธอจะไปที่สถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟกับฉันในวันพรุ่งนี้เช้า”
“นายท่านคะ?” เด็กสาวร้องออกมาด้วยความประหลาดใจและความไม่เชื่อ
อันที่จริงมันคือสิ่งที่เธอตั้งตารอคอยว่าจะได้ยินตั้งแต่ที่ ลิงค์ มาถึง เธอรู้สึกกระวนกระวายเพราะกลัวว่า ลิงค์ อาจจะไม่พอใจกับความคืบหน้าของเธอ สวรรค์รู้ว่าเธอพยายามฝึกฝนทักษะเวทย์มนตร์ของเธออย่างเต็มที่แค่ไหนในสัปดาห์ที่แล้ว เธอรู้ว่านี่เป็นวิธีเดียวที่เธอจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ และตอนนี้ที่ ลิงค์ ยอมพาเธอไปที่สถาบันกับเขาด้วย, เธอก็รู้ว่าความพยายามของเธอเห็นผลแล้ว
โอ้เทพแห่งแสง, ฉันกำลังจะได้ไปที่สถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟแล้ว! นี่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดสำหรับนักเวทย์!
แม้ว่าเด็กสาวจะไม่สามารถกระโดดโลดเต้นด้วยความสุขได้, แต่ดวงตาของเธอก็ทรยศความตื้นเต้นของเธอกับความฉลาดที่ผิดธรรมดาของพวกมัน ลิงค์ อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อได้เห็นท่าทีดีใจของเด็กสาว
“เธอก็ได้ยินฉันแล้วนี่” ลิงค์ พูดขณะที่เขาพยักหน้าเป็นการยืนยัน “ตอนนี้ไปเตรียมตัวให้พร้อมเถอะ”
“ได้ค่ะ, อาจารย์” เด็กสาวกระโดดออกจากห้องโถงเหมือนกับกวาง
ลูซี่ กลับมาในตอนเย็น ตอนนี้มีแค่ กิลเดิร์น ที่ยังทำธุระข้างนอกอยู่
แน่นอนว่า ลูซี่ ดีใจที่ได้เห็น ลิงค์ หลังจากที่ทักทายกันตามธรรมเนียมแล้ว, เธอก็รีบไปที่ครัวและเตรียมเมนูพิเศษให้เขา จากนั้นเธอก็เอาเครื่องเงินที่สงวนไว้สำหรับตอนที่ ลิงค์ กลับมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าว
แต่ในตอนที่พวกเขามารวมตัวกันที่โต๊ะกินข้าว, ทุกๆคนต่างก็รู้สึกร่าเริงและผ่อนคลายยกเว้น ลูซี่ เธอเป็นแค่คนๆเดียวที่รู้ว่า ลิงค์ กลับมาพร้อมกับเหรียญทองทั้งหมดที่เขาได้รับและยังเพิ่มอีก 500 เหรียญทองด้วย เธอกังวลว่า ลิงค์ เสียสละมากเกินไปเพื่อกองกำลังทหารรับจ้างและหวังว่าเขาจะนำเหรียญทองกลับไปกับเขาด้วย
ลิงค์ กำลังเพลิดเพลินกับอาหารเลิศรสและเพื่อนพ้อง, แต่ในตอนที่เขาเห็นว่า ลูซี่ ดูเซื่องซึมแค่ไหน, เขาก็หยิบมิธริลก้อนเล็กๆออกมาแล้ววางมันไว้บนโต๊ะต่อหน้าทุกๆคน, เขาใช้ทักษะการเสริมพลังเพื่อเปลี่ยนมิธริลให้กลายเป็นกำไลข้อมือสวยงาม และเขายังใส่บาเรียป้องกันเอาไว้ในมันด้วยเพื่อให้ผู้สวมสามารถใช้งานเวทย์มนตร์ได้สามครั้งผ่านสร้อยข้อมือ
“นี่ของขวัญสำหรับเธอ, ลูซี่” ลิงค์ พูดด้วยรอยยิ้มขณะที่เขายื่นกำไลข้อมือให้เธอ “ตอนนี้เธอหยุดกังวลได้ไหม?”
การแสดงทักษะเวทย์มนตร์ของ ลิงค์ ทำให้ทุกๆคนที่นั่นตกใจกลัว กำไลข้อมือนี้สามารถขายได้ 700 เหรียญทองจากคุณสมบัติของมันเพียงอย่างเดียวโดยไม่ต้องคำนึงถึงฝีมือที่ปราณีตและความงดงามของมัน มันคงจะไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจเลยถ้ามีคนซื้อมันในราคา 1,000 เหรียญทอง!
ไรไล ที่ได้เห็นกระบวนการสร้างทั้งหมดของกำไลรู้สึกตราตรึงใจ เธอได้เรียนรู้ทักษะเวทย์มนตร์ขั้นพื้นฐานมาบ้างแล้ว, เพราะฉะนั้นเธอรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะสร้างวัตถุที่งดงามเช่นนี้ พอถึงจุดนี้เธอรู้สึกนับถือจริงๆที่ได้รู้ว่าจริงๆแล้วอาจารย์ของเธอแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อขนาดไหน”
“นายท่าน” แจ็คเกอร์ พูดอย่างร่าเริง “ดูเหมือนว่าตอนนี้ท่านจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมากเลยนะครับ!”
“แต่, ท่านต้องห้ามลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ, นายท่าน” ลูซี่ พูดด้วยน้ำเสียงดุดันหลังจากที่เก็บกำไลอย่างระมัดระวัง “ฉันคิดว่าสุขภาพของท่านแย่กว่าตอนที่ท่านกลับมาครั้งที่แล้วเล็กน้อยนะ”
“เข้าใจแล้ว” ลิงค์ พูดด้วยการฝืนยิ้ม, และประหลาดใจที่ได้รู้ว่า ลูซี่ รับรู้ได้ขนาดไหนเพราะเธอสามารถมองเห็นผลข้างเคียงของมานาที่ยังเหลืออยู่ในร่างกายของเขาได้
หลังจากนั้น, พวกเขาทั้งหมดก็กินดื่มกันอย่างมีความสุขและสมาชิกหลักของกองกำลังทหารรับจ้างก็มีความสุขร่วมกัน จากนั้น, ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้านอน, สมาชิกกองกำลังก็รีบเข้ามาในห้องโถง เขารู้ว่า ลิงค์ เป็นหัวหน้าที่แท้จริง, เพราะฉะนั้นเขาจึงแจ้งเขาโดยตรง
“ท่านครับ, มีนักเวทย์อยู่ข้างนอกกำลังรอพบท่านอยู่ เขาบอกว่ามาจากทางใต้และที่เขามาก็เพื่อ…เพื่อดูว่าท่านเก่งเหมือนที่ข่าวลือว่าเอาไว้ไหม”
ใบหน้าของ แจ็คเกอร์ หม่นหมองทันทีที่เขาได้ยินเรื่องนี้
“ช่างกล้าจริงๆ!” เขาส่งเสียงคำรามออกมาขณะที่เขาลุกจากที่ในทันที “ผมต้องออกไปสอนบทเรียนให้เขาหน่อยแล้ว!”
“ฉันอยากเห็นว่าจริงๆแล้วคุณเก่งแค่ไหน” เป็นคำที่ใช้โดยทั่วไปเพื่อท้าดวลใครสักคน มันเป็นเคล็ดลับที่ถูกนำมาใช้โดยทั่วไปสำหรับคนที่ต้องการจะสร้างชื่อให้ตัวเอง, เพราะผู้ท้าดวลไม่มีอะไรจะเสียกับการท้าดวลฝ่ายตรงข้ามที่มีชื่อว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่ง ถ้าเขาแพ้, มันก็มีแต่จะยืนยันความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามของศัตรูเท่านั้น, ไม่ใช่ความอ่อนแอของเขาเอง ถ้าเขาโชคดีชนะมาได้, มันไม่เพียงแค่เขาจะชนะแล้วมีสิทธิในการพูดโอ้อวดได้เท่านั้น, แต่มันยังมอบโอกาสให้เขามีช่วงชีวิตที่ได้รับชื่อเสียงและโชคลาภอีกด้วย
นักเวทย์คนนี้มาเพื่อท้าทายความสามารถของ ลิงค์ ด้วยตัวเอง, บางทีอาจเป็นเพราะชื่อเสียงของ ลิงค์ ได้แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง เขาเห็นโอกาสที่จะอาศัยบารมีของ ลิงค์ และก้าวหน้าขึ้นในโลก
“ใจเย็นก่อน” ลิงค์ พูดกับ แจ็คเกอร์ ขณะที่เขาถูมือของเขาเข้าด้วยกัน จากนั้นเขาก็หันไปหาคนอื่นแล้วพูด “ให้เขาเข้ามา, แล้วเชิญเขามารับประธานอาหารกับพวกเรา พวกเราจะคุยเรื่องทักษะเวทย์มนตร์หลังทานอาหารเสร็จ”