กลางดึกในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า
…
ลิงค์ กำลังนอนอยู่บนเตียงอ่านจดหมายของ ลูซี่ ในนั้น, เธอสรุปสั้นๆเกี่ยวการสถานการณ์ทั้งหมดที่กองกำลังทหารรับจ้างกำลังเผชิญและสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาพยายามขายคำภีร์เวทย์มนตร์ 60 แผ่นที่ได้มาจาก ลิงค์ ทุกๆสิ่งที่อธิบายมานั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่สนุกสนานของ ลูซี่ อย่างไม่ผิดเพี้ยน
ตามที่ ลิงค์ สั่ง, ลูซี่ กับสมาชิกได้ไปที่เมืองสปริงค์เพื่อขายพวกมันที่งานเทศกาลนักเวทย์ ในช่วงแรก, ไม่มีใครชายตามองคำภีร์ลูกแก้วเลยเพราะไม่มีนักเวทย์หยิ่งผยองและพ่อค้าที่มั่งคั่งคนไหนเชื่อว่าทหารรับจ้างอย่าง ลูซี่ กับคนอื่นๆจะสามารถครอบครองคำภีร์เวทย์มนตร์คุณภาพสูงได้
หลังจากนั้นพักใหญ่ๆ, คาร์ลิโด้ ก็เริ่มแสดงพลังที่แท้จริงของคำภีร์เวทย์มนตร์อย่างเต็มที่ด้วยการเปิดใช้มันต่อหน้าฝูงชน
จากนั้นผู้สัญจรที่เดินผ่านมาก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นแล้วซื้อไปแผ่นนึงและครึ่งชั่วโมงต่อมา, พวกเขาก็ขายแผ่นที่สองได้, หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง, ก็มีพ่อค้าคนนึงเสนอซื้อคำภีร์ทั้งหมดที่ราคา 1,000 เหรียญทอง, แต่ก็มีใครบางคนมาขวางและหยุดเขาจากการซื้อพวกมันทั้งหมด การต่อสู้เกิดขึ้นในที่สุดและ ลูซี่ ก็ตัดสินใจอย่างชาญฉลาดด้วยการยืนหลบไปด้านข้างและไม่เข้าไปแทรกแซง
หลังจากนั้นครึ่งวัน, การต่อสู้ก็กลายเป็นฉากใหญ่และฝูงชนก็มารวมตัวกันเพื่อเข้ามาและซื้อคำภีร์เวทย์มนตร์ พวกเขาบางคนไม่ใช่นักเวทย์เลยด้วยซ้ำแต่ก็ซื้อคำภีร์นี้ไปเป็นส่วนหนึ่งของของสะสมของพวกเขา
ลูซี่ พบว่านี่มันน่าแปลกประหลาด, ดังนั้นเธอจึงถามผู้ซื้อว่าทำไมทุกคนถึงต่อสู้กันเพื่อคำภีร์เวทย์มนตร์พวกนี้และสิ่งที่พวกเขาบอกก็คือคำภีร์พวกนี้เคยปรากฏในเมืองหลวงอยู่พักนึง พ่อค้าที่ร่ำรวยทุกคนต่างก็ถูกพวกมันครอบงำและพวกเขาก็ฉกฉวยพวกมันในราคาที่สูงมากๆ แต่ว่าพวกมันก็หายไปอย่างกระทันหันโดยไม่มีร่องรอย, ไม่มีเหตุผล, และไม่มีใครรู้เลยว่าพวกมันไปไหน, ดังนั้นตอนนี้เมื่อพวกมันมาปรากฏตัวอีกครั้งทุกๆคนจึงแห่กันมาซื้อพวกมัน
แน่นอน, ลิงค์ รู้ว่า เดเร็ค เป็นคนสร้างชื่อเสียงให้คำภีร์เวทย์มนตร์ของเขา
ในที่สุดพวกเขาก็สามารถขายคำภีร์ได้ 59 แผ่น โดยที่มีราคาเฉลี่ย 25 เหรียญทองต่อแผ่น, ทำให้พวกเขาได้รับเงินรวมทั้งสิ้นเกือบ 1,500 เหรียญทอง พวกเขาทุกคนตกใจในตอนที่พวกเขานับเงินพวกนี้ตอนจบวัน—นี่มันมากกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้เสียออีก! บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้รายได้มากขนาดนี้ต่อให้พวกเขาไปเป็นโจรปล้นคนรวยเพื่อหาเลี้ยงชีพก็ตาม!
ลูซี่ ยังบอกอีกว่ามีคนมากมายที่ไม่ได้ซื้อคำภีร์เวทย์มนตร์กำลังตามตื้อพวกเขาว่าพวกเขาไปรับพวกมันมาจากที่ไหน บางส่วนก็เสนอที่จะช่วยพวกเขาขายคำภีร์ ในอีกด้านนึง, พวกที่มีความสนใจมากกว่าก็สังเกตุเห็นลายเซ็นบนคำภีร์แล้วถามหานักเวทย์ที่สร้างพวกมัน
นี่หมายความว่าความต้องการซื้อสำหรับคำภีร์พวกนี้ยังสูงอยู่และพวกเขาจะขายหมดไม่ว่า ลิงค์ จะสร้างพวกมันมามากแค่ไหนก็ตาม
ลิงค์ ยิ้มเมื่อได้รู้ถึงเรื่องนี้เพราะเขาไม่ได้วางแผนที่จะเตรียมคำภีร์เวทย์มนตร์เพิ่มอีกในเร็วๆนี้ มันเป็นงานที่น่าเบื่อสำหรับเขา ยิ่งไปกว่านั้น, ตอนนี้พวกทหารรับจ้างก็ได้เงิน 1,500 เหรียญทองจากพวกคำภีร์แล้ว, และพวกเขายังมี 1,500 เหรียญทองที่ ลิงค์ ให้พวกเขาอีก, พวกเขาน่าจะพร้อมสำหรับการเตรียมการที่ดีในอีกหกเดือนข้างหน้าแล้ว ไม่มีความจำเป็นอะไรสำหรับ ลิงค์ ที่จะกลับไปทำงานที่น่าเบื่ออย่างการสร้างคำภีร์เวทย์มนตร์
ถ้าเขาเงินขาดมือ, เขาก็จะสร้างอุปกรณ์เวทย์มนตร์ใหม่และขายพวกมันแทน, ซึ่งมันทำกำไรมากกว่าคำภีร์เวทย์มนตร์พวกนี้
จากนั้น, ลิงค์ ก็ดีดนิ้วของเขาแล้วใช้มือแห่งนักเวทย์ แผ่นกระดาษและปากกาขนนกลอยมาหา ลิงค์ จากนั้นเขาก็เริ่มเขียนตอบกลับ ลูซี่
เขาเขียนจดหมายสั้นๆและตรงไปตรงมา นอกเหนือจากเตือน ลูซี่ ให้ระวังตัวและไม่ทำอะไรเสี่ยงๆโดยไม่จำเป็น, เขาก็ได้ทวนคำสังของเขาให้คอยสนใจเหตุการณ์แปลกๆที่อาจจะเกิดขึ้นในป่าเกอร์เวนท์ จากนั้นเขาก็ย้ำคำสั่งของเขาให้แจ้งเขาในทันทีเกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาอาจจะบังเอิญเจอเกี่ยวกับพวกดาร์คเอลฟ์
สถาบันไม่ได้รับความคืบหน้าในการสืบสวนการหายตัวไปของ ดาริส มาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว จนถึงตอนนี้, พวกเขาพบแค่เงื่อนงำเล็กๆน้อยๆที่ดูเหมือนว่าจะใช้อะไรไม่ได้เลย
ยังไม่มีอะไรที่ ลิงค์ สามารถทำได้ในตอนนี้, ดังนั้นเขาจึงจดจ่ออยู่กับการเรียนของเขาในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอร์เรร่า ในความเป็นจริง, เขาได้อ่านหนังสือในชั้นทั้งหมดของห้องสมุดด้วยความเร็วราวกับแสดงอาทิตย์ที่ละลายหิมะ ทักษะของเขาก้าวหน้าขึ้นด้วยความเร็วที่น่ากลัว ระดับความรู้ของเขาในตอนนี้แตกต่างกันอย่างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับสิ่งที่เขารู้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลิงค์ ในตอนนี้สามารถเอาชนะ ลิงค์ คนเก่าได้อย่างง่ายดายในการประลองเวทย์มนตร์โดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย
พอ ลิงค์ เขียนจดหมายเสร็จ, เขาก็ปิดผนึกมันด้วยขี้ผึ้งแล้วโยนออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นจดหมายก็ลอยไปในอากาศแล้วหล่นเข้าไปในตู้จดหมายที่อยู่ใกล้ประตูหน้าของหอคอยเวทย์มนตร์อย่างแม่นยำ ผู้ส่งสารจะเก็บมันแล้วนำมันไปส่งที่เมืองริเวอร์โควฟในเช้าวันพรุ่งนี้
ช่วงเวลาที่เหลือของค่ำคืนผ่านไปด้วยความเงียบสงบ
วันถัดมา, ลิงค์ เริ่มวันของเขาตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยการฝึกฝนเวทย์มนตร์ตามปกติของเขา พอเขาเหนื่อยกับมันเขาก็จะพยายามสร้างคทาอันใหม่, จากนั้นเขาก็จะเขียนวิทยานิพนธ์ของเขาต่อ และนี่ก็คือชีวิตประจำวันของเขาที่ใช้ในฐานะนักเวทย์ของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ
เวลาได้ล่วงเลยไปขณะที่ ลิงค์ เรียนรู้เวทย์มนตร์ในทุกๆวันอย่างขันแข็ง มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปในชั่วพริบตาและตอนนี้, เวลาก็ได้ผ่านไปหนึ่งเดือนแล้ว วันเทศกาลนักเวทย์ในเมืองหลวงที่ เอร์เรร่า เคยพูดถึงได้มาถึงแล้ว
ยังไม่มีข่าวคราวของ ดาริส มันเหมือนกับว่าเขาระเหยกลายเป็นอากาศและสถาบันก็ดูเหมือนจะพยายามติดตามเขาน้อยลง ในความเป็นจริงนักเวทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนนั้นได้รับคำสั่งให้กลับมาและไม่มีอะไรที่ ลิงค์ สามารถทำกับมันได้
ในระหว่างนั้น, เขาก็สร้างคทาอันใหม่ได้สำเร็จ
มันคือคทาอันน่าประทับใจที่มีสีม่วงเข้มพร้อมกับโลหะเงาวับที่เรียงรายไปด้วยด้ายทอเรียม ที่ส่วนปลายของคทาคือตาข่ายที่ทำจากทองคำที่ห่อหุ้มโดมิงโก้คริสตัลเอาไว้ พอเปิดใช้มานากับธาตุ, คริสตัลนี้ก็จะเปล่งแสงสีแดงสว่างจ้าออกมา
ตาข่ายทองคำคุณภาพดีนั้นมีโครงสร้างซับซ้อนที่มีรูปร่างเหมือนกับสองมืออันอ่อนโยน ขณะที่คริสตัลนั้นดูเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กำลังลุกไหม้อย่างสดใส ซึ่งนี่ทำให้มันดูราวกับว่ามือคู่นั้นกำลังถือดวงอาทิตย์เอาไว้ในฝ่ามือของพวกมันอย่างอ่อนโยน
ดวงอาทิตย์คือดวงดาวและดาวดวงนี้ก็ถูกคว้าเอาไว้ด้วยสองมือ – ดังนั้น, ลิงค์ จึงตั้งชื่อให้คทาว่า คว้าดาว
คว้าดาว
คุณภาพ: อีพิค
ผลที่ 1: ความเร็วในการร่ายเวทย์เพิ่มขึ้น 60%
ผลที่ 2: พลังเวทย์เพิ่มขึ้น 70%
ผลที่ 3: เมื่อโดมิงโก้คริสตัลถูกเปิดใช้งาน, ธาตุที่เก็บเอาไว้ข้างในจะเสริมพลังในการร่ายเวทย์อย่างมาก (โดมิงโก้คริสตัลสามารถเก็บธาตุได้เพียงพอสำหรับเวทย์มนตร์เลเวล 5)
(หมายเหตุ: นี่เป็นคทาที่น่ากลัวที่เต็มไปด้วยพลังโจมตีอันโหดร้าย!)
แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยพลังโจมตี, ลิงค์ สร้างคทานี้ขึ้นมาเพื่อช่วยเขาในการต่อสู้โดยเฉพาะ มันมีข้อจำกัดเพียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นก็คือ ลิงค์ ไม่สามารถเก็บเวทย์มนตร์เอาไว้ข้างในมันเพื่อเปิดใช้ในทันทีได้, แต่ก็มีธาตุที่เก็บเอาไว้ในโดมิงโก้คริสตัลคอยชดเชยข้อบกพร่องที่เพิ่มขึ้นมานี้
นอกจากคทาแล้ว, ลิงค์ ยังสร้างแหวนทอเรียมขึ้นมาให้ตัวเองอีกด้วยซึ่งมันได้รับการเสริมพลังด้วยเวทย์เอเดลไวส์เก็บเอาไว้
เวทย์นี้เสริมพลังยังไงหน่ะหรอ? มันคือเอเดลไวส์ เลเวล 4, ความสำเร็จครั้งล่าสุดของเขาซึ่งได้รวบรวมการค้นพบล่าสุดที่เขาทำผ่านวิทยานิพนธ์ของเขา พลังป้องกันของเวทย์นี้ใกล้เคียงกับเวทย์ป้องกันเลเวล 5 มากๆ ด้วยแหวนวงนี้, เขาจะสามารถปล่อยโล่เอเดลไวส์อันทรงพลังออกมาได้ในทันที, และนี่ทำให้เขามีอุปกรณ์ป้องกันตัวที่ดีที่สุดไปอีกนาน
ลิงค์ ยังมีมิธริลเหลืออยู่จำนวนนึงหลังจากการสร้างคทากับแหวน, ดังนั้นเขาจึงสร้างเครื่องประดับเวทย์มนตร์สามชิ้นจากที่เหลือ, นั่นก็คือสร้อยคอ, กำไล, และแหวน เขาไม่ได้ใช้ความพยายามหรือวัสดุพิเศษมากนักกับเครื่องประดับพวกนี้ จุดประสงค์เดียวของพวกมันก็คือทำให้เขาได้รับเหรียญทองที่งานเทศกาลนักเวทย์และจากนั้นเขาก็จะใช้เงินพวกนั้นเพื่อซื้อวัสดุที่มีคุณภาพดีขึ้น
“ลิงค์, เร็วเข้า! ได้เวลาแล้ว!” มันคือเสียงของ เอเลียร์ด ที่กำลังเร่งเขาที่หน้าประตู
ตามที่คาดเอาไว้สำหรับนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์, ตอนนี้ เอเลียร์ด ได้เชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 1 สามเวทย์แล้วและยังเริ่มจุ่มเท้าของเขาเข้าไปเรียนเวทย์เลเวล 2 บ้างแล้วด้วย นอกจาก ลิงค์, ไม่มีใครสามารถก้าวหน้าได้ใกลขนาดนี้ได้ในช่วงหนึ่งร้อยปีของประวัติศาสตร์ของทวีปฟิรุแมน
เอเลียร์ด กำลังจะไปที่เทศกาลนักเวทย์กับ ลิงค์ และ เอร์เรร่า เขาได้เตรียมคำภีร์เวทย์มนตร์บางส่วนเพื่อเอาไปขายด้วย
“รู้แล้ว, กำลังไป” ลิงค์ พูด เขาหยิบผ้าคลุมนักเวทย์สีเทาธรรมดามาสวมในวันนี้เพื่อปกปิดตัวตนของเขา มันเป็นความคิดของ เอร์เรร่า, เธอคิดว่าไม่มีใครสามารถคาดการณ์ลักษณะของฝูงชนที่เทศกาลดึงดูดได้ มันจะดีกว่าหากไม่ออกนอกหน้ามากเกินไปเพราะมันอาจจะดึงดูความสนใจที่ไม่ดีต่อพวกเขาได้
ลิงค์ สังเกตเห็น เอเลียร์ด สวมผ้าคลุมสีเทาเรียบๆเมื่อเขาออกมาจากห้องของเขา แต่ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการแต่งตัวที่เรียบที่สุด, เอเลียร์ด ก็ยังดูน่าประทับใจอยู่ดี ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะดึงดูดสายตาของฝูงชน
“เร็วเข้า, อาจารย์ มอยร่า กำลังรอนายอยู่นะ” เอเลียร์ด พูด
“รู้แล้ว, รู้แล้ว, ไปกันเถอะ” ลิงค์ ตอบ
จากนั้น ลิงค์ กับ เอเลียร์ด ก็เดินเคียงข้างกันลงบนไดไปที่ชั้นแรกของหอคอยเวทย์มนตร์ และทันใดนั้นเอง, เด็กสาวคนนึงก็วิ่งมาหา เอเลียร์ด และจูบที่ริมฝีปากของเขาอย่างดูดดื่ม
นักเวทย์ฝึกหัดหญิงคนนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก เอเลน่า, คนที่ ลิงค์ มักจะมองว่าหัวแหลมและเหลี่ยมจัดมากๆอยู่เสมอ ตอนนี้เธอทำให้ เอเลียร์ด หลงรักได้สำเร็จและกลายเป็นคนรักของเขา ดูเหมือนว่า เอเลียร์ด จะชอบเธอมากจนมอบบทเรียนพิเศษให้กับเธอ ซึ่งช่วยให้ทักษะเวทย์มนตร์ของ เอเลน่า ก้าวหน้าขึ้นจนแทบจะเป็นนักเวทย์เลเวล 1 เต็มตัวแล้วในตอนนี้
เนื่องจากมันเป็นเรื่องส่วนตัวของ เอเลียร์ด , ด้วยความเป็นเพื่อน ลิงค์ จึงไม่สามารถยุ่งกับมันได้มากนัก เขาไม่สามารถเอาความเป็นเพื่อนของพวกเขาไปเสี่ยงเพียงเพราะผู้หญิงคนเดียวได้
“อรุณสวัสดิ์, ลิงค์” เอเลน่า ทักทายด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นและเป็นมิตร, เธอมักจะทำแบบนี้อยู่เสมอ
“อรุณสวัสดิ์” ลิงค์ ตอบด้วยรอยยิ้ม เขารักษาเปลือกนอกที่เป็นมิตรเอาไว้เพราะยังไงซะเธอก็เป็นแฟนของ เอเลียร์ด โชคดีที่, เอเลน่า สำเหนียกพอที่จะรู้ว่าเธอควรจะรักษาระยะห่างจาก ลิงค์ เธอไม่ได้สร้างปัญหาให้เขาจนถึงตอนนี้
รถม้ากำลังรอพวกเขาอยู่ที่หน้าประตู มันมีที่นั่งสี่ที่และมีคนอยู่ข้างในแล้วสองคน – นั่นก็คือ เอร์เรร่า กับ ไรไล
เอร์เรร่า ชื่นชอบ ไรไล ตั้งแต่ตอนที่พวกเขาพบกันเพราะเด็กสาวน่ารักและเต็มไปด้วยความใสซื่อแบบเด็กๆ แล้วเธอยังเป็นลูกศิษย์ของ ลิงค์ ด้วย เอร์เรร่า ตัดสินใจที่จะพาเธอไปที่เมืองสปริงด้วยเพราะเธอต้องการแสดงให้เด็กสาวเห็นถึงทัศนีย์ภาพของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในอาณาจักร
พอทุกๆคนขึ้นรถม้ากันครบ, เอร์เรร่า ก็หันไปหาคนขับม้าแล้วพูด “ออกรถได้!”
ด้วยการฟาดแส้ , รถม้าก็ออกตัวและมุ่งหน้าไปที่เมืองสปริง ระหว่างการเดินทาง, ลิงค์ สังเกตุเห็นรถม้าคนอื่นๆมากมายกำลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน ดูเหมือนว่างานเทศกาลนักเวทย์น่าจะมีชีวิตชีวาโดยเฉพาะในครั้งนี้