เมืองฮอทสปริง, เมืองหลวงของอาณาจักรนอร์ตัน, เป็นเมืองที่มีสงครามและการโจมตีอันน่าเจ็บปวดนับไม่ถ้วน, แต่มันก็ไม่เคยล้มเหลวในการฟื้นฟูจากสิ่งเหล่านี้เลย มันกลายเป็น, เหมือนกับที่มันเป็นในตอนนี้, เมืองที่เต็มไปด้วยความเร่งรีบและความพลุกพล่านของชีวิต
ด้วยการที่ต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามอย่างต่อเนื่องของชนเผ่าจากทางเหนือ, กำแพงเมืองจึงถูกสร้างให้ทั้งดูยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเพื่อป้องกันการบุกรุกที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มันสูงอย่างน้อย 160 ฟุต, และประตูของมันก็มีความกว้าง 70 ฟุตและสูง 140 ฟุต ขณะที่รถม้าวิ่งผ่านประตูเมือง, ลิงค์ รู้สึกเหมือนกับว่าเขาเป็นมดตัวเล็กๆที่กำลังคลานอยู่ใต้เท้าของยักษ์ตัวใหญ่โต
“อาจารย์คะ, ดูนั่นสิ!” ไรไล อุทานขึ้นมา “นั่นคนแคระไม่ใช่หรอคะ?”
ด้วยความที่เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร, แน่นอนว่าเมืองฮอทสปริงจึงเป็นสถานที่ที่มีหลากหลายชีวิตนับไม่ถ้วนมาเจอกัน นอกจากมนุษย์แล้ว, ทุกๆเผ่าในทวีปฟิรุแมน – คนแคระ, เอลฟ์, ก็อบลินและอื่นๆ – ก็มาเดินเล่นตามถนนแห่งนี้ด้วย
ไรไล เคยตามพ่อของเธอไปยังเมืองต่างๆทางตอนใต้ในตอนที่เธอยังเป็นเด็ก, แต่ตอนนั้นพวกเขาใช้ชีวิตที่มักจะเต็มไปด้วยอันตรายอยู่เสมอ พวกเขายุ่งมากจากการที่ต้องระวังทุกสิ่งทุกอย่าง ดังนั้น ไรไล จึงทำได้แค่จับตาดูทัศนีย์ภาพรอบๆตัวเธออย่างรีบร้อนเท่านั้น แต่ตอนนี้เธอรู้ว่าชีวิตของเธอไม่ได้อยู่ในอันตรายเลย, เธอดูเหมือนจะได้รับความโศกเศร้าจากการตายของครอบครัวของเธอในอดีตและบุคลิกของเธอก็เริ่มเบ่งบานออกมาเป็นเด็กสาวที่มีชีวิตชีวา เธอโหยหาที่จะเรียนรู้และเปิดรับภาพและเสียงใหม่ๆที่อยู่รอบตัวเธอ อันที่จริง, ตัวตนของเธอทำให้บรรยากาศในรถม้านุ่มนวลขึ้นและทำให้การเดินทางของพวกเขามีชีวิตชีวามากขึ้น
พอพวกเขาผ่านประตู, รถม้าก็มุ่งหน้าไปที่เขตนักเวทย์ทางตอนใต้ของเมืองฮอทสปริง
เขตนักเวทย์จริงๆแล้วไม่ใช่สถานที่ที่สงวนเอาไว้สำหรับนักเวทย์โดยเฉพาะ ในความเป็นจริง, มีผู้อาศัยที่เป็นสามัญชนทั่วไปมากมายอยู่ที่นั่นมากพอๆกับส่วนอื่นๆของเมืองหลวง เหตุผลเดียวที่มันมีชื่อเช่นนั้นก็เพราะนักเวทย์ที่มาเมืองหลวงจะไปรวมตัวกันที่นั่น; มันคือสถานที่ที่ร้านค้าทั้งหมดที่ขายทุกอย่างเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ตั้งอยู่ แน่นอนว่า, งานเทศกาลนักเวทย์ก็จัดขึ้นที่นั่นเช่นกัน
การเดินทางนั้นรู้สึกสั้นสำหรับทั้งสี่คนในรถม้าเพราะ ไรไล ทำให้การเดินทางดูน่าสนใจอยู่ตลอด เธอชี้ไปนู่นชี้ไปนี่และถามคำถามตลอดทาง และด้วยเหตุนั้น, มันจึงรู้สึกเหมือนไม่มีเวลาเลย, พวกเขามาถึงเขตนักเวทย์แล้วและตอนนี้กำลังเข้าไปในโรงแรมที่ดีที่สุดในพื้นที่แห่งนี้ – โรงแรมบลูเฮอร์มิท
โรงแรมเต็มไปด้วยผู้คนในตอนที่พวกเขามาถึงและแขกส่วนใหญ่ของโรงแรมก็เป็นนักเวทย์ที่มาที่นี่เพื่อเข้ารวมงานเทศกาลนักเวทย์เหมือนกับพวกเขา โชคดีที่, พวกเขามีชื่อเสียงของสถาบันเวทย์มนตร์อีสโวฟ, เพราะโรงแรมได้สำรองห้องเอาไว้โดยเฉพาะสำหรับนักเวทย์ที่มาจากสถาบันในแต่ละปีในช่วงเวลาที่จัดงานเทศกาลนักเวทย์ และเพราะเหตุนั้น, เอร์เรร่า จึงสามารถจองห้องได้สองห้อง, ห้องนึงเอาไว้สำหรับเธอกับ ไรไล ส่วนอีกห้องนึงก็เอาไว้สำหรับ ลิงค์ กับ เอเลียร์ด
เมื่อพวกเขาจัดการทุกอย่างลงตัวแล้ว, มันก็ถึงเวลาประมาณหาโมงเย็นพอดี, ดังนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะรับประทานอาหารเย็นตั้งแต่เนิ่นๆ หลังจากที่ตื่นเต้นตลอดทั้งวัน, ไรไล ในตอนนี้ก็เหนื่อยล้าเต็มที่และเธอก็หาวตลอดหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ, ดังนั้น เอร์เรร่า จึงพาเธอไปที่ห้องเพื่อที่เธอจะได้พักผ่อน เอเลียร์ด ที่ขยันหมั่นเพียรก็ขอตัวกลับไปที่ห้องเช่นกันเพื่อที่เขาจะได้กลับไปเรียนต่อ ท้ายที่สุดแล้ว, ลิงค์ ก็ถูกทิ้งเอาไว้คนเดียวในห้องโถงหลักของโรงแรม
เขายังไม่ได้รู้สึกเหนื่อยพอที่จะพักผ่อน, หรือรู้สึกอยากอ่านหนังสือ, ดังนั้นเขาจึงสั่งไวน์มาและนั่งอยู่ตรงมุมที่ห่างไกลของห้องโถงพร้อมมองไปรอบๆเพื่อสังเกตุนักเวทย์ที่เดินเข้าเดินออกจากโรงแรม
มีนักเวทย์ที่เดินทางมาคนเดียว, บ้างก็มีเพื่อนมาด้วย, ขณะที่บางคนก็พานักเรียนของพวกเขามา มีแม้กระทั่งนักเวทย์พเนจรที่มาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชคของพวกเขาในการสร้างชื่อให้ตัวเอง ลิงค์ จำหน้านักเวทย์บางคนที่อยู่ในห้องโถงได้ – พวกเขามาจากสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ แต่ถึงอย่างนั้น, เขาก็ไม่เคยคุยกับพวกเขาและไม่รู้จักชื่อของพวกเขาด้วยซ้ำ, ดังนั้นทั้งหมดที่ ลิงค์ ทำก็คือพยักหน้าให้พวกเขาอย่างสุภาพและอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้พยายามเข้าหาพวกเขา
ยังไงซะการเรียนรู้เวทย์มนตร์ก็กินเวลาส่วนใหญ่ของนักเวทย์ หากพวกเขาไม่ได้อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์เดียวกัน, นักเวทย์ก็มักจะทำตัวไม่สนิทสนมต่อให้พวกเขามาจากสถาบันเดียวกันก็ตาม
จากนั้น, นักเวทย์ที่สวมผ้าคลุมสีเทาก็เดินเข้ามา เขายังสวมหมวกพ่อมดปีกกว้างด้วยและมีหนวดสีเทายาวเฟื้อย ในตอนที่เขาก้าวเข้ามาในห้องโถง, ทุกคนก็เงียบไปพักนึง, จากนั้นเสียงซุบซิบก็ดังทั่วห้องโถง
“ดูนั่นสิ” ใครบางคนกระซิบ “นั่นมันผู้เชี่ยวชาญด้านคทา เฮอร์มิร่า นี่”
“ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นเขาที่นี่เลยนะ!” คนอื่นอุทานขึ้นมา “คทาของเขาอย่างกับผลงานศิลปะเลย!”
“โอ้, บางทีเขาอาจจะกำลังเปิดเผยผลงานชิ้นโบแดงอันล่าสุดของเขาที่งานนี้ก็ได้!”
ความสนใจของ ลิงค์ ผุดขึ้นมาในทันทีที่กล่าวถึงชื่อนี้และเขาก็หันไปหาบุคคลที่เป็นที่กล่าวถึงนั้นในทันที แน่นอนว่าผู้เชี่ยวชาญ เฮอร์มิร่า เป็นศาสตราจารย์ด้านการเสริมพลัง ในความเป็นจริง, คทาอันแรกที่เขาใช้ในตอนที่เขามาถึงโลกนี้ในตอนแรก -คทานิวมูน- ก็เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นแรกสุดของผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างคทาผู้นี้!
ผู้เชี่ยวชาญ เฮอร์มิร่า เป็นแค่นักเวทย์เลเวล 4, แต่ผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาอุปกรณ์เวทย์มนตร์ระดับต่ำและระดับกลางที่อยู่ในเกมส์ก็เป็นฝีมือการสร้างสรรค์ของเขา แม้กระทั่งคทาระดับอีพิคอันแรกที่เขาได้รับในเกมส์เมื่อเขาไปถึงเลเวล 4 ก็ถูกสร้างด้วยฝีมือของชายแก่คนนี้ เขาค่อนข้างชอบคทาอันนั้นและเขาก็ใช้มันจนพัง, ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญ เฮอร์มิร่า จึงทิ้งความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ให้กับ ลิงค์
สามนาทีหลังจากการมาถึงของ เฮอร์มิร่า, ชายวัยกลางคนที่มีผมสีน้ำเงินหมึกกับร่างกายบึกบึนก็ปรากฏตัวขึ้น, กระตุ้นคลื่นแห่งความตื่นเต้นท่ามกลางฝูงชนในห้องโถงของโรงแรม
“นั่นมัน มอริแกน นี่!” ใครบางคนชี้ไปที่เขา “เขาเป็นนักผจญภัยที่มีชื่อเสียง!”
“โอ้” คนอื่นพูดแทรกเข้ามา “ฉันสงสัยจังว่าเขาเอาอะไรกลับมาในครั้งนี้!”
มอริแกน คนนี้เป็นที่ชื่นชอบของฝูงชนอย่างเห็นได้ชัด คนมากมายเข้าไปหาเขาและพูดคุยกับเขาและเขาก็ทักทายพวกเขาทุกคนด้วยรอยยิ้มที่อบอุ่นและเป็นมิตรบนหน้าของเขา
ลิงค์ ก็รู้จัก มอริแกน เช่นกัน ชายคนนี้เป็นนักเวทย์เลเวล 3 ภายนอกเขาอาจจะดูธรรมดาๆ, แต่ในความเป็นจริง, เขาเป็นชายที่กล้าหาญซึ่งชื่อเสียงของเขาฝังอยู่ในการผจญภัยของเขาจนไปถึงส่วนที่ห่างไกลของทวีป เขาเป็นที่รู้จักด้วยชื่อเล่นอันมากมายของเขา, ในบรรดาชื่อเล่นที่ดีที่สุดน่าจะเป็นราชานักสำรวจ อีกชื่อของเขาก็คือผู้ล่าโบราณวัตถุ, ผู้ขุดค้น และบางคนก็ยังเรียกเขาว่านักปล้นสุสาน
มอริแกน ได้เดินทางไปทั่วทุกมุมของฟิรุแมน เขาได้ทิ้งรอยเท้าเอาไว้ที่อนุสาวรีย์และโบราณสถานส่วนใหญ่ของทวีป ในความเป็นจริง, คุณจะบอกว่าชายคนนี้เป็นแผนที่เดินได้และพูดได้ก็ว่าได้
ลิงค์ จิบไวน์อีกอึกนึง เขารู้สึกว่างานเทศกาลนักเวทย์ในปีนี้น่าสนใจจริงๆ
คลื่นแห่งความตื่นเต้นที่เกิดจาก มอริแกน ค่อยๆสงบลงอย่างช้าๆและบรรยากาศในห้องโถงก็เริ่มกลับมาปกติ แล้วจากนั้น, ก็มีผู้หญิงคนนึงมาถึงที่ทางเข้า แม้ว่าจะอยู่ไกล, แต่ ลิงค์ ก็บอกได้ว่าผิวหนังของเธอเปล่งปลั่งราวกับคริสตัลและดวงตาของเธอก็เปล่งประกายราวกับแสงจากดวงจันทร์ เธอสวมชุดสีดำเรียบๆ, แต่มีบางอย่างที่มันทำให้ดูหรูหราและงดงามแม้ว่าจะเป็นสไตล์แบบเรียบๆของมันก็ตาม
สายตาทุกคู่จับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนั้น ไม่มีใครรู้จักชื่อของเธอ, แต่ถึงอย่างนั้นทั้งห้องโถงต่างก็เงียบกริบ
ลิงค์ เองก็กำลังสังเกตุผู้หญิงลึกลับคนนี้ที่มุมห้อง ตอนมองแวบแรก, เขาคิดว่าผู้หญิงคนนี้ด้วยงดงามและน่าดึงดูด, แต่ยิ่งเขามองไปที่เธอมากเท่าไหร่คิ้วของเขาก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้นเท่านั้น
เขาสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่น่าขนลุกในตัวผู้หญิงคนนี้ เขารู้สึกว่าเธอกำลังปกปิดพลังที่แท้จริงของเธอเอาไว้, แต่ถึงกระนั้น, ลิงค์ ก็ยังสัมผัสได้เลยว่าเธอครอบครองจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเอาไว้อยู่ เธออาจจะแข็งแกร่งกว่านักบวชหรือนางฟ้า แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือร่องรอยของออร่าแห่งความมืดที่ดูเหมือนว่าจะปกคลุมร่างกายของผู้หญิงคนนี้อยู่
ออร่าแห่งความมืดเกือบจะเต้นเป็นจังเวลา – บางครั้งมันรุนแรง, แต่บางครั้งมันก็แทบจะไม่มีเลย ความไม่ปกตินี้ทำให้ ลิงค์ หนาวไปจนถึงกระดูกสันหลังและมันยังทำให้ผิวหนังของเขารู้สึกด้านชา
มันเป็นสัญญาณอันตรายอย่างเห็นได้ชัด!
เขาเคยพบกับบุคคลที่น่าเกรงขามมาก่อน – ดาร์คเอลฟ์อัจฉริยะ เฟลิเดีย, จอมพลดาร์คเอลฟ์ ลอร์ด, ผีวิกเตอร์ – แต่ก็ไม่มีพวกเขาคนไหนที่ทำให้เขามีปฏิกิริยาที่รุนแรงขนาดนี้ หัวของเขาเต็มไปด้วยวังวนแห่งคำถาม
ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร? มีออร่าที่มืดมนและทรงพลังแผ่ออกมาจากตัวเธอ ความแข็งแกร่งของมานาของเธอก็อยู่ในระดับเดียวกับนักเวทย์เลเวล 6! แต่เธอดูเด็กเกินกว่าที่จะเป็นนักเวทย์เลเวล 6 นะ!
ลิงค์ ทบทวนความทรงจำของเขาตอนที่อยู่ในเกมส์แต่ก็ไม่พบใครที่ตรงกับตัวตนของผู้หญิงคนนี้เลย บางทีเธออาจจะปลอมตัวอยู่, เขาคิด เขาไม่กล้าที่จะดึงดูดความสนใจจากเธอ, ดังนั้นเขาจึงรีบเบือนสายตาหนีจากเธออย่างรวดเร็วและจ้องไปที่แก้วไวน์ของเขาแทน
จากนั้น, เสียงกระซิบก็ดังทั่วห้องโถง
“เธอเป็นใคร?” ชายคนนึงในห้องโถงถามขึ้น
“มีใครเคยเห็นเธอมาก่อนรึเปล่า?” อีกคนนึงพูด
“เธอไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาแน่ๆ” คำพูดพวกนี้มาจากตัว มอริแกน มันดูราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่อันตรายในตัวผู้หญิงคนนี้ขณะที่เขารีบเบือนสายตาหนีจากเธออย่างรวดเร็วในตอนที่เขาเหลือบมองเธอ
“ฉันไม่เคยพบกับผู้หญิงที่มีบรรยากาศน่าดึงดูดขนาดนี้ในชีวิตมาก่อนเลย!” มีใครบางคนอุทานขึ้นมา
ผู้หญิงในชุดดำดูไม่สนใจกับสายตาพวกนี้เธอกวาดตาดูรอบๆขณะที่เธอเดินเข้ามาในห้องโถงของโรงแรมอย่างสง่างาม เธอสวมรอยยิ้มที่เปล่งประกายบนใบหน้าของเธอ, มันหวานยดย้อยและล่อลวงมากจนทำให้ริมฝีปากของเธอดูเหมือนกับดอกกุหลาบที่กำลังเบ่งบาน ผู้ชายที่อยู่รอบๆเธออดที่จะอ้าปากค้างออกมาไม่ได้กับภาพอันยั่วยวนที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขา พวกเขาส่วนใหญ่แทบจะไม่สามารถควบคุมคลื่นของความปราถานาที่ก่อตัวขึ้นในตัวพวกเขาได้
แต่ไม่ใช่ผู้ชายทุกคนที่มีปฏิกิริยาแบบนี้
ตอนแรกนักสำรวจ มอริแกน กำลังพูดคุยและดื่มกินกับเพื่อนของเขาที่บาร์, แต่พอผู้หญิงคนนี้ปรากฏตัว, ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป เขาสะดุ้งแล้วถอยห่างจากเธอ, จากนั้นก็กระดกเครื่องดื่มของเขาในอึกเดียวแล้วหนีไปอยู่ตรงมุมที่ไกลที่สุดของห้องโถง, จากนั้น, โดยไม่พูดกับใครเลย, เขาก็รีบออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ
เขาเดินผ่าน ลิงค์ ขณะที่เขาหลบออกไปจากห้องโถงของโรงแรม, ดังนั้น ลิงค์ จึงยืนขึ้นแล้วตามเขาไปอย่างเงียบๆ แม้ว่าเขาจะพบว่าผู้หญิงคนนี้น่าสงสัย, แต่เขาสนใจในปฏิกิริยาของ มอริแกน ที่มีต่อเธอมากกว่า
พอพวกเขาเดินออกห่างจากโรงแรมไปประมาณสามสิบฟุต, นักสำรวจก็หยุดฝีเท้าของเขาอย่างกระทันหันแล้วหันมาเผชิญหน้ากับ ลิงค์
“นายเป็นใคร?” เขาตะคอก “นายตามฉันมาทำไม?”
ลิงค์ หันกลับไปมองที่โรงแรม, เผยให้เห็นร่องรอยของความกลัวในสีหน้าของเขาขณะที่เขาทำแบบนั้น
“ผมแค่คิดว่ามันแปลกหน่ะ” ลิงค์ พูด “คนกล้าหาญอย่างคุณกลัวผู้หญิงในชุดดำคนนั้นได้ยังไง”
ใบหน้าของ มอริแกน ซีดเผือดในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของ ลิงค์ เขามองซ้ายมองขวาอย่างลับๆล่อๆเพื่อทำให้มั่นใจว่าไม่มีใครแอบตามพวกเขามาก่อนที่เขาจะตอบกลับไป
“ฉันไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรืออะไร” มอริแกน พูดด้วยน้ำเสียงที่เงียบเชียบ “แต่ฉันรู้ว่าฉันสามารถสัมผัสถึงออร่าที่เย็นยะเยือกและชั่วร้ายแผ่ออกมาจากร่างกายของเธอได้ ฉันเคยสัมผัสออร่าแบบนี้มาก่อนในซากโบราณระหว่างการเดินทางของฉัน ฉันขอบอกเด็กฉลาดอย่างเธอนะเจ้าหนู – อยู่ให้ห่างจากเธอเอาไว้!”
พอเขาพูดจบ, มอริแกน ก็รีบหันกลับและหนีไปอย่างเร่งรีบ ตัดสินจากทิศทางที่เขากำลังมุ่งหน้าไป, ลิงค์ เห็นได้ว่าเขากำลังออกจากเขตนักเวทย์
การกระทำของ มอริแกน ทำให้ ลิงค์ ขวัญเสียดังนั้นเขาจึงตัดสินใจย้อนกลับไปที่โรงแรมในทันที, ซึ่งเขาพบว่าผู้หญิงในชุดดำไม่ได้อยู่ในห้องโถงหลักอีกต่อไปแล้ว จากสิ่งที่เขาได้ยินจากคำพูดของผู้คน, ลิงค์ เดาว่าเธอต้องไปที่หนึ่งในห้องของโรงแรมแน่ๆ
ลิงค์ ไม่รู้ว่าทำไม, แต่เขารู้สึกขึ้นมาอย่างกระทันหันว่ากำลังจะมีอันตรายร้ายแรงเกิดขึ้นกับเขา จากนั้นเขาก็รีบไปหา เอร์เรร่า กับ เอเลียร์ด ที่ชั้นสาม เขาต้องเตือนพวกเขาถึงบุคคลลึกลับและน่าอันตรายนี้ที่เพิ่งจะเข้ามาที่โรงแรม ถ้าเรื่องมันดูท่าไม่ดี, พวกเขาอาจจะต้องออกจากที่แห่งนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่พอเขาไปถึงชั้นสอง, ลิงค์ ก็เห็นร่างอันดำมืดอยู่ที่หางตาของเขา เขาหันไปยังทิศทางนั้นอย่างช้าๆและก็ต้องรู้สึกตกใจเมื่อเขาตระหนักได้ว่ามันคือผู้หญิงชุดดำคนเดียวกันกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าเขา
เธอยืนอยู่ในมุมมืดอย่างเงียบๆและจดจ้องมาที่ ลิงค์ ใบหน้าอันล่อลวงที่ ลิงค์ เห็นก่อนหน้านี้ได้กลายเป็นใบหน้าไร้อารมณ์ในตอนนี้, และดวงตาที่มีรูปร่างเหมือนอัลมอนด์ก็กำลังจ้องตรงมาที่ ลิงค์, ด้วยความเย็นชาและคมกริบเหมือนเข็ม