Advent of the Archmage – ตอนที่ 137: นั่นเขา!

“เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นถูกครอบงำด้วยความโลภ ความโลภนั้นทำให้พวกเขามั่งคั่งแต่มันก็นำมาซึ่งหายนะเช่นกัน!”นี่เป็นธรรมชาติของเผ่าพันธุ์มนุษย์

 

ในอดีตเจ้าชาย ฟิลลิป เคยเห็นแต่ด้านที่เจริญรุ่งเรืองของเผ่าพันธุ์มนุษย์และใฝ่ฝันถึงความร่ำรวยและความเพลิดเพลินแบบนั้นบ้าง ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาได้พบเจอกับการทำลายล้างซึ่งนำมาพร้อมกับผลประโยชน์โดยตรงแล้ว

 

ภายในชั่วพริบตา จัตุรัสกลางของเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยผู้คนก็ได้ถูกโจมตีด้วยการระเบิดต่อเนื่องของเวทย์ระเบิดเพลิงอันรุนแรง นี่มันช่างบ้าเสียจริงๆ

 

ที่ด้านนอกของบาเรียป้องกัน หัวหน้าผู้ติดตามและยังเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเขา ได้ระเหยหายไปเพราะความร้อนสูง หลักฐานเดียวที่ยังบ่งบอกถึงตัวตนของเขาคือคทาที่พังแล้วที่อยู่ห่างออกไป 10 ฟุต นักรบเวทมนตร์ก็ตายเช่นเดียวกัน หน้าที่เดียวที่ชุดเกราะเวทมนตร์อันเปล่งประกายของพวกเขาทำได้ก็คือช่วยให้ร่างกายของพวกเขาไม่หายไปหลังจากโดนการโจมตีของความร้อนอันรุนแรง

 

ภาพของนักรบเวทมนตร์ที่ผิวหนังถูกเผาไหม้จนเกรียมและดวงตาเปิดกว้างดูเหมือนกับจ้องไปที่เจ้าชาย ฟิลลิป ไม่ว่าใครก็สามารถบอกได้เลยว่าอาการช็อกที่เขาได้รับก่อนตายก็คือการถูกเผาไหม้อย่างเฉียบพลันด้วยเปลวเพลิง เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าการโจมตีที่รุนแรงแบบนี้สามารถเกิดขึ้นในอาณาจักรนอร์ตันได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นกลางงานเทศกาลนักเวทย์อีก

 

ฟิลลิป ยังเห็นร่างของพ่อและลูกสาวอยู่ห่างไปอีก 10 ฟุตด้วย คนเป็นพ่อนั้นใช้ร่างกายปกป้องลูกสาวตามสัญชาติญาณในตอนที่เวทมนตร์ถูกปล่อยออกมา ซึ่งมันทำให้ร่างของลูกสาวนั้นยังคงอยู่ แต่เธอก็ยังคงไม่สามารถหลีกหนีจากความร้อนของเปลวไฟได้

 

เด็กสาวคนนั้นเสียชีวิต ร่างกายของเธอดำเป็นตอตะโกขณะที่เธอนอนขดอยู่บนพื้นอย่างทรมาน

 

ฉากอันโหดร้ายนี่ส่งผลอย่างรุนแรงต่อจิตใจของ ฟิลลิป เขาเหงื่อออกเต็มตัวและน้ำตาก็ไหลทะลักออกมาจากตาของเขา เขานอนลงกับพื้นด้วยความตกใจและความกลัว ไม่แม้แต่จะขยับนิ้วของเขา

 

เขาจะกลับไปที่เกาะแห่งรุ่งอรุณทันทีถ้าเกิดว่าเขารอดจากเหตุการณ์นี้ไปได้ และเขายังสาบานว่าจะไม่ก้าวเข้ามาสู่โลกอันน่ากลัวของมนุษย์อีกต่อไป ทัศนวิสัยของเขานั้นไม่ชัดเจนเพราะน้ำตาที่ไหลลงมาที่หน้าของเขา ยังไงก็ตาม เขายังคงเห็นว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเดินมาทางเขา

 

พวกเขามาเพื่อช่วยฉันงั้นหรือ? ฟิลลิป คิด องครักษ์หลวงน่าจะเป็นคนกลุ่มแรกที่จะมาเมื่อเกิดเหตุการณ์อันน่าสะพรึงกลัวแบบนี้ในเมืองหลวง

 

ยังไงก็ตาม ทัศนวิสัยของเขาก็ค่อยๆกลับมาอย่างช้าๆ และ ฟิลลิป ก็รู้สึกกลัวเมื่อพบว่ามันเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เขาจินตนาการเอาไว้อย่างสิ้นเชิง

 

คนพวกนี้จงใจปิดบังหน้าตาของตัวเองและจ้องมาที่เขาเขม็ง และพวกเขายังคุยกันด้วยเสียงที่เบาด้วย

 

“เขายังไม่ตาย เขาซ่อนอยู่หลังบาเรียเวทมนตร์นั่น!”

 

“บาเรียอ่อนกำลังลงด้วยเวทมนตร์ก่อนหน้านี้แล้ว ทำลายมันและฆ่าเขาซะ!”

 

จากนั้นนักเวทย์สองคนก็ยกคทาของพวกเขาขึ้นมาและหลังจากผ่านไปสองวินาที เวทย์หอกน้ำแข็งและพายุใบมีดก็ปรากฏขึ้น และพุ่งไปทางบาเรียเวทมนตร์ที่ปกป้อง ฟิลลิป อยู่

 

ถึงบาเรียของ ฟิลลิป นั้นจะเป็นเวทย์เลเวล 6 แต่มันก็ถูกปล่อยออกจากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ถูกตั้งให้ปล่อยออกมาในทันที พลังการป้องกันของบาเรียจึงเทียบเท่ากับเวทย์ป้องกันเลเวล 5 และมันก็ได้ป้องกันระเบิดเพลิงไป 3 ลูกแล้ว เมื่อเวทย์เลเวล 3 ทั้งสองไปปะทะกับบาเรียมรกต รอยฉีกขาดจำนวนมากก็เริ่มเกิดขึ้น มันคงจะต้านได้อีกไม่นานมากนัก

 

“อย่ายืนนิ่งสิ มาโจมตีพร้อมกัน!” นักเวทย์ตะโกน

 

นักรบทั้ง 4 คนรอบๆนักเวทย์ได้หยิบอาวุธขึ้นมาและเข้าไปล้อมบาเรียมรกต ดาบของพวกเขาปกคลุมไปด้วยออร่าต่อสู้ที่รุนแรงในตอนที่พวกเขาฟาดมันไปที่บาเรียอย่างเต็มกำลัง

 

เจ้าชาย ฟิลลิป สิ้นหวังมาก สิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือการถือดาบเวทมนตร์ของเขาไว้อย่างแน่นหนา

 

เขารู้ดีว่ามันเป็นการดิ้นรนที่เปล่าประโยชน์ เขานั้นเพิ่งจะอายุ 16 ปีและเป็นนักรบเวทมนตร์เลเวล 2 เขาไม่มีโอกาสที่จะสู้กับคู่ต่อสู้ 6 คนที่มีเลเวล 3 ได้เลย เขาจะพ่ายแพ้ในทันทีอย่างแน่นอน

 

ในตอนที่บาเรียได้แตกสลายลงต่อหน้าต่อตาของเขา ความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวของเขา

 

เป้าหมายของการโจมตีนี้ก็คือฉัน ฉันเองแหละที่เป็นคนฆ่าเพื่อนสนิทของฉันและคนบริสุทธิ์อีกมากมาย

 

เขาได้ถูกครอบงำโดยความโศกเศร้าเสียใจ ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เขาก็คงจะเชื่อฟังคำแนะนำของเพื่อนสนิทของเขาและอยู่ในพระราชวัง

 

ยังมีอีก 3 คนที่ซ่อนตัวอยู่ในซากปรักหักพังของบ้านที่อยู่ในมุมนึงของจตุรัส

 

พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นดาร์กเอลฟฟ์ที่มีฝีมือ นักฆ่าแห่งกลุ่มดาว อลิน่า ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขาง, นักฆ่าอัจฉริยะ ไอโนส และนักเวทย์ เฟลิเดีย พวกเขาคือสามทหารเสือแห่งดาร์กเอลฟ์รุ่นเยาว์และต่างก็เป็นอัจฉริยะในสาขาของตน

 

พวกเขาทั้งสามได้มองภาพพวกนี้ผ่านรอยแตกของบ้าน พวกเขาต้องยืนยันการตายของเจ้าชาย ฟิลลิป ก่อนที่พวกเขาจะสามารถหนีออกไปได้

 

“พวกไฮเอลฟ์นี่มีพื้นฐานทางด้านเวทมนตร์ที่แข็งแกร่งจริงๆ อุปกรณ์เวทมนตร์ที่สามารถปลดปล่อยเวทมนต์เลเวล 6ได้ในทันที! มันช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!” เฟลิเดีย กระซิบด้วยความชมเชย

 

อลิน่า ยังคงเงียบ ดวงตาสีแดงเข้มของเธอไม่ได้มองไปที่เจ้าชาย ฟิลลิป แต่กลับมองไปอีกทิศทางนึง

 

“เขาคือใคร?” อลิน่า ชี้

 

วัยรุ่นผมสีดำโผล่ขึ้นมาจากกองก้อนกรวด เขาถูกห่อหุ้มด้วยแสงจางๆ เมื่อตรวจสอบดูใกล้ๆจะเห็นได้ว่าแสงนั้นเกิดขึ้นมาจากรูนอันเล็กๆมากมาย มันผสมผสานกันและทำงานร่วมกันอย่างลื่นไหล ออร่าเวทมนตร์แบบนี้มีแต่นักเวทย์เลเวล 4 เท่านั้นที่ทำได้

 

ไอโนส หันไปดูและส่ายหัวของเขา “ฉันจำเขาไม่ได้ เธอมั่นใจนะว่าเขาเป็นคนที่ปล่อยบาเรียเวทมนตร์เลเวล 4 ออกมา? บางทีมันอาจจะออกมาจากอุปกรณ์เวทมนตร์ที่อาจารย์ของเขาให้เขามาก็ได้นะ”

 

เฟลิเดีย เองก็ถูกดึงดูดด้วยคำพูดของ อลิน่า เช่นกัน ในตอนแรกเขารู้สึกผ่อนคลายและมีความมั่นใจแต่เขาก็ต้องอ้าปากค้างในตอนที่เขาเห็น ลิงค์

 

“เขาคือ ลิงค์! ฉันเคยสู้กับเขามาก่อนครั้งนึงที่อ่าวใบไม้แดง-เขาแข็งแกร่งมากเลยแหล่ะ!” เฟลิเดีย กระซิบ

 

ไอโนส เองก็รู้เรื่องที่ เฟลิเดีย พ่ายแพ้ให้กับนักเวทย์ชาวมนุษย์ที่อ่าวใบไม้แดงเช่นกัน เขามองไปที่ อลิน่า ด้วยสีหน้าหวาดกลัว “นั่นเขา! เขาคือคนที่ใช้เวทย์ระเบิดเพลิงและเอาชนะนายพล ลอร์ด!”

 

“นี่คือผู้ชายคนนั้นสินะ?” อลิน่า มีสายตาที่เยือกเย็น “ดูเหมือนว่าพวกเราจะโชคดีนะ มาจัดการเขากันเถอะในขณะที่พวกองครักษ์ยังไม่มา”

 

การโจมตีแกลดสโตนนั้นถูกวางแผนและดำเนินการมาอย่างดี มันแทบจะไม่มีข้อผิดพลาดเลยตลอดทั้งกระบวนการ กลุ่มมือแห่งความตายได้หลอกพวก MI3 ของอาณาจักรนอร์ตันและได้ ควบคุมข่าวกรองทางการทหาร ยังไงก็ตาม เผ่ามนุษย์ก็ยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้ในที่สุดและถึงขั้นทำให้นายพล ลอร์ด ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย มีข่าวลือว่านายพลนั้นโกรธมากในความล้มเหลวของเขาและฆ่าทาสของเขาไปมากกว่า 30 คนในระยะเวลา 1 เดือน

 

หลังจากนั้นเป็นต้นมา นักเวทย์ชาวมนุษย์คนนั้นก็ได้ตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มมือแห่งความตาย มันไม่มีทางที่พวกเขาจะปล่อยให้เขารอดไปได้โดยที่ยังมีชีวิตอยู่

 

อลิน่า ดึงดาบแห่งดวงดาวที่แหลกสลายออกมาจากฝัก ตัวดาบทั้งหมดนั้นทำมาจากโคเรี่ยมและมีสีม่วง ใบดาบนั้นบางมาก มันดูเหมือนกับกระบี่และยังถูกเสริมพลังด้วยเวทย์ความคมขั้นสูงอีกต่างหาก เมื่อรวมคุณสมบัติต้านทานเวทมนตร์ของโคเรี่ยมกับออร่าต่อสู้เลเวล 5 ของ อลิน่า เข้าด้วยกัน ตัวดาบนั้นสามารถแทงทะลุผ่านบาเรียเวทมนตร์ใดๆก็ตามที่ต่ำกว่าเลเวล 5 ได้

 

ในขณะที่บาเรียที่อยู่รอบๆเจ้าชาย ฟิลลิป กำลังจะแตก ลิงค์ ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหว เป้าหมายของเขาคือนักฆ่าที่อยู่ข้างๆกับเจ้าชาย

 

คทาของเขาเปล่งแสงและมีเสียงนกหวีดแหลมดังขึ้นผ่านชั้นบรรยากาศในทันที ภายในเสี้ยววินาที แสงสลัวๆทั้งหกก็ได้พุ่งเข้าไปหานักฆ่าชาวมนุษย์

 

กลุ่มชาวมนุษย์ทั้ง 6 คนนั้นถูกจ้างมาโดยดาร์กเอลฟ์ที่สัญญาว่าจะจ่ายพวกเขาอย่างงาม พวกเขานั้นเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งที่มาจากการรวมกันของนักสู้ เลเวล 3 ยังไงก็ตาม ภายใต้การโจมตีของ ลิงค์ พวกเขาทั้ง 6 ก็พ่ายแพ้ไปในชั่วพริบตา ด้วยบาดแผลขนาดกำปั้นที่ท้ายทอยของพวกเขา

 

ทั้งหมดนั้นเป็นเวลาเพียงแค่ 1 วินาทีเท่านั้น พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะโต้กลับเลยด้วยซ้ำ

 

อลิน่า ยังคงสังเกตุการณ์สถานการณ์จากซากของบ้านอยู่ ภาพนั้นทำให้เธอถึงกับต้องขยี้ตาและหยุดคิดไปพักนึง เธอพูด “การเอาชนะเขานั้นไม่ง่ายเลย เฟลิ ไอโนส พวกเราต้องออกไปทั้งหมดแล้วล่ะ!”

 

ลิงค์ นั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ยังไงก็ตาม อลิน่า นั้นค่อนข้างมั่นใจในทักษะของเธอ ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีความช่วยเหลือจากเพื่อนพ้อง มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ทีมของ นักฆ่าเลเวล 5, นักฆ่าเลเวล 4 และนักเวทย์เลเวล 4 จะพ่ายแพ้ให้กับนักเวทย์เลเวล 4 เพียงแค่คนเดียว?

 

มันจะต้องประหลาดมากแน่ๆ

 

เฟลิเดีย กระซิบ “ระวังนะ เขาแข็งแกร่งขึ้นมาก ประสบการณ์จากการต่อสู้ครั้งที่แล้วของฉันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว”

 

ไอโนส เองก็ตกใจกับการร่ายเวทย์ความเร็วสูงของ ลิงค์ เช่นกัน จากนั้นเขาก็หยิบมีดคู่ของเขาขึ้นมาและแสดงให้เห็นถึงหน้าไม้เงินที่เขาได้ซ่อนมันเอาไว้มาโดยตลอด เขาเองก็เตรียมตัวที่จะสู้อย่างสุดกำลังเหมือนกัน

 

“บวก!” อลิน่า เป็นคนแรกที่พุ่งออกจากบ้าน ในตอนที่เธอออกมาเธอได้ใช้สกิลของเธอ คลื่นลวงตา ในทันที

 

ด้วยความช่วยเหลือของออร่าต่อสู้ของเธอ ความเร็วการเคลื่อนที่ของเธอนั้นเร็วมากๆ ในตอนที่เธอเคลื่อนที่ไปข้างหน้า มันเหมือนกับมีร่างเงาของเธอโผล่ออกมา-มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกว่าอันไหนคือตัวจริงหรือตัวปลอม

 

นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะจัดการกับนักเวทย์ที่กำลังอยู่ในสถานะที่ตั้งสมาธิสูงสุด!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset