ณ จัตุรัสกลาง
…
“ลิงค์ นายไม่เป็นอะไรนะ?”เสียงความกังวลที่ดูคุ้นเคยดังขึ้นในหูของ ลิงค์ เมื่อเขาหันไปดู เขาเห็น เอร์เรร่า กำลังวิ่งมาพร้อมกับกลุ่มของนักเวทย์ เอเลียร์ด และ ไรไล เองก็เป็นหนึ่งในคนกลุ่มแรกๆที่มาถึงที่เกิดเหตุเช่นกัน
พลังทำลายที่เกิดขึ้นด้วยระเบิดเพลิง 3 ลูกนั้นรุนแรงมาก มันทำให้ที่นี่ดูเหมือนกับนรก และมันก็ยังทำให้ทั้งเมืองฮอทสปริงตื่นตกใจอีกด้วย เอร์เรร่า และคนอื่นๆเป็นเพียงแค่กลุ่มแรกที่รีบมายังที่เกิดเหตุ ด้านหลังของพวกเขามีกลุ่ม MI3,ราชองครักษ์และแบทเทิลเมจหลวง พวกเขาทั้งหมดต่างก็มุ่งหน้ามาที่จัตุรัสกลางด้วยความเร็วสูงสุด
เหตุการณ์นี้น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก สถานการณ์มันยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเมื่อมีคนมาถึงมากขึ้น ลิงค์ ยังคงระมัดระวังตัวขณะที่คอยอยู่เคียงข้างกับเจ้าชายฟิลลิปเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมไปมากกว่านี้ การได้เห็นภาพของ เอร์เรร่า กับเพื่อนของเขาปลอดภัยทำให้เขาใจเย็นลงเล็กน้อย “ผมไม่เป็นไร ยังไงก็ตาม มีผู้คนมากมายได้รับบาดเจ็บ เจ้าชาย ฟิลลิป ก็ต้องการความช่วยเหลือและการดูแลด้วย”
จากนั้นความสนใจของ เอร์เรร่า ก็ได้เบนไปทางไฮเอลฟ์ที่อยู่ด้านข้างของ ลิงค์ จากความรู้ที่เธอสั่งสมมา เธอสามารถสรุปถึงแรงจูงใจของการโจมตีนี้ได้ นี่มันชัดเจนว่าเป็นแผนการลอบสังหารราชวงค์ไฮเอลฟ์ของกลุ่มซิลเวอร์มูน!
เธอรีบหันกลับไปทันทีและพูดกับ เอเลียร์ด “สถานการณ์ค่อนข้างร้ายแรงมาก พา ไรไลกลับไปเก็บของที่โรงแรมและตรงกลับไปที่สถาบันเวทมนต์ระดับสูงอีสโควฟเลย”
สถานการณ์นี้เกินกว่าพลังของ เอเลียร์ด กับ ไรไล ถ้าพวกเขายังอยู่ที่เมืองหลวงต่อ พวกเขาจะเป็นเพียงแค่สิ่งที่ทำให้ เอร์เรร่า เป็นห่วงและรบกวนเธอในการสืบสวน ในอีกด้านหนึ่ง ลิงค์ เคยต่อสู้ร่วมกับเธอมาก่อนและยังเป็นตัวแปรสำคัญในตอนที่ต่อสู้ที่สระหมอก เธอได้พิจารณาให้เขาเป็นเพื่อนคนหนึ่งแล้ว
“แล้วอาจารย์หล่ะครับ?” เอเลียร์ด รู้สึกเสียใจ เขารู้ว่าสถานการณ์นั้นร้ายแรง
“เหตุการณ์นี้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องอื่นมากเกินไป ทางอาณาจักรอาจจะต้องการความช่วยเหลือของฉัน” เอร์เรร่า เตรียมตัวมาดี เธอเป็นจอมเวทย์ของสถาบันเวทยมนตร์ระดับสูงอีสโควฟและยังเป็นที่รู้จักของราชวงค์ด้วย แถมเธอยังมียศถึงขั้นดัสเชส เพราะฉะนั้นเธอต้องอยู่ที่นี่และให้ความช่วยเหลือเมื่อเผชิญกับโศกนาฏกรรมเช่นนี้
“โอเคครับ” เอเลียร์ด จับมือ ไรไล และพาเธอออกจากซากของจัตุรัสอย่างรวดเร็ว
ในตอนที่เขากำลังออกไป สายตาของเขาได้มองกวาดไปทั่วซากของจัตุรัส ที่นั่นมีร่องรอยของการโจมตีที่เห็นได้ชัด 2 เส้นอยู่บนพื้น และที่ใจกลางของร่องรอยพวกนั้นก็มีศพอยู่ด้วยกัน2ศพ ณ ที่ตรงนั้นยังมีศพ 1 ศพที่ร่างกายยังคงไม่สลายไปจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในตอนที่ เอเลียร์ด เห็นร่องรอยพวกนั้น เขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันมากนัก ยังไงก็ตาม หลังจากผ่านไปซักพักเขาก็เริ่มคิดเกี่ยวกับมัน
การควบคุมการระเบิดของพลังงานนั่นน่าจะเป็นฝีมือของ ลิงค์ นะ…นี่เขาไปถึงระดับนั้นแล้วงั้นเหรอ?
โดยปกติ ลิงค์ จะพักอยู่ที่สถาบันตลอดเวลา พูดคุยกับ เอเลียร์ด เกี่ยวกับเรื่องการค้นพบเวทมนตร์ที่พวกเขาพบเจอ แน่นอนว่า เอเลียร์ด ก็ได้ยินข่าวลือเรื่องความแข็งแกร่งของ ลิงค์ มาบ้างแต่เขาไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันมากนัก ยังไงก็ตาม ตอนนี้เขาได้เห็นร่องรอยการต่อสู้ของ ลิงค์ เขาจึงได้รู้ซึ้งถึงพลังที่แท้จริงของ ลิงค์ ถึงพวกเขาจะมีอายุเท่ากันแต่ ลิงค์ เหนือกว่าเขาในหลายๆด้าน และบางทีมันอาจจะเหนือกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้อีก
เอเลียร์ด เคลื่อนที่เร็วขึ้นเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขารู้สึกได้ว่าช่องว่างมันกว้างขึ้นและเขาจะเสียเวลาไม่ได้แล้ว เขาจะต้องรีบพัฒนาตัวเขาไม่อย่างนั้นเขาจะต้องคอยตามหลัง ลิงค์ ไปตลอด
ซากปรักหักพังนั้นได้ดึงดูดผู้คนเข้ามา หลายคนมีสีหน้าที่หวาดกลัว ตกใจกับภาพที่พวกเขาได้เห็นอยู่ตรงหน้า
“ใครมันบ้าพอที่จะทำเรื่องแบบนี้เนี่ย?”
“โอ้ นี่มันท่านปรมจารย์แห่งคทา เฮอร์มิร่า!” มีคนพบศพของนักเสริมพลังชื่อดัง
“นี่ก็…ท่าน ดัลลัส!” มีอีกคนที่จำตัวตนของนักเวทย์เลเวล 5 คนนี้ได้
ดัลลัส นั้นเป็นนักเวทย์ธาตุลมที่มาจากกลุ่มพันธมิตรนักเวทย์ทางใต้ เขาน่าจะมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมงานเทศกาลที่สนุกสนาน โดยที่เขาไม่รู้ว่าเขาจะตายไปพร้อมกับความสนุกสนานเช่นนี้ อนาคตนี่ช่างไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ
ผู้คนที่อยู่แถวๆส่วนขอบของการโจมตีนั้นยังคงมีชีวิตอยู่แต่ก็ได้รับบาดเจ็บ ในตอนที่พวกเขาถูกรักษา เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังเต็มถนน
เอร์เรร่า ได้ร่วมมือกับ ลิงค์ เพื่อปกป้องเจ้าชายและถือคทาของเธอไว้ตลอด 2 นาทีผ่านไป ราชองครักษ์ได้มาถึงพร้อมกับจอมเวทย์หลวง คนรู้จักของ เอร์เรร่า
“ท่าน กรินซ์ ท่านมาถึงแล้วสินะ” เอร์เรร่า ทักทาย
กรินซ์ เป็นจอมเวทย์เลเวล 6 เขาอายุ 58 ปีและผมของเขาก็มีสีขาว เขามีสีหน้าที่จริงจังและริ้วรอยของเขานั้นเหมือนกับว่าพวกมันถูกแกะสลักลงบนหน้าของเขาด้วยมีดอันแหลมคม
เขามองไปทั่วจัตุรัสกลาง เมื่อเขาเห็น เอร์เรร่า กับ ลิงค์ อยู่ด้วยกันกับเจ้าชาย ฟิลลิป เขาก็โล่งใจ
การระเบิด ณ ส่วนที่มีผู้คนอยู่เยอะที่สุดของเมืองหลวงนั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจคาดเดาได้ ถ้าเจ้าชายของไฮเอลฟ์นั้นโดนผลกระทบของเหตุการณ์นี้เข้าไปด้วยละก็ มันคงจะเป็นหายนะ!
ช่างโชคดีที่เจ้าชายนั้นยังมีชีวิตอยู่และไม่ได้รับบาดเจ็บ
จากนั้น กรินซ์ ก็ได้สั่งราชองครักษ์ที่อยู่ด้านข้างเขา “เจ้าจัดทีมไปรักษาผู้คนที่บาดเจ็บ ส่วนพวกเจ้าแต่ละคนให้พาทีมไปคอยรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อย”
พวกองครักษ์ได้แยกตัวกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในทันที หลังจากที่ให้คำแนะนำกับผู้ช่วยของเขา เขาก็รีบเดินตรงมาหาเจ้าชาย ฟิลลิป, กรินซ์ ทำความเคารพในทันทีและขอโทษสำหรับความบอบช้ำทางจิตใจที่เจ้าชายได้รับ หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่ เอร์เรร่า และถาม “มอยร่า เกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?”
กรินซ์ กับ แอนโทนี่ นั้นเป็นเพื่อนสนิทกัน ด้วยความที่ เอร์เรร่า เป็นศิษย์รักของ แอนโทนี่ กรินซ์ จึงค่อนข้างดีกับเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่เพียงแค่เธอจะเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่ตรงนี้ แต่เธอยังยืนอยู่ข้างกับเจ้าชาย ฟิลลิป ในตอนที่เขามาถึงด้วย มันดูเป็นเรื่องปกติที่ต้องไปถามเธอเพื่อหาข้อมูล
ยังไงก็ตาม เขาได้ถามผิดคนในครั้งนี้ เอร์เรร่า ผลัก ลิงค์ ออกมาข้างหน้าและพูด “ฉันไม่ได้เป็นคนแรกที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ค่ะ นี่คือลูกศิษย์ของฉัน ลิงค์ ในตอนที่เกิดเหตุระเบิดขึ้น เขาอยู่ใกล้กับที่นี่ และเขายังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเจ้าชายด้วย”
กรินซ์ เบนความสนใจไปที่ ลิงค์ เขามองไปที่ชายหนุ่มผมดำที่มีออร่าเวทมนตร์อันเรือนราง(ลิงค์ ได้ปกปิดออร่าของเขาเอาไว้)และเขายังอายุไม่ถึง 20 ปี หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความดูถูกเล็กน้อยในทันที เนื่องจากความนับถือที่มีต่อ เอร์เรร่า เขาพูด “บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่”
กรินซ์ เป็นรุ่นพี่ในด้านเวทมนตร์ ลิงค์ จึงเคารพเขาด้วยความนับถือก่อนที่จะเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด เขาชี้ไปที่ศพ 2 ศพที่นอนอยู่ในเส้นทางของเวทย์ของเขาและพูด “มีพวกดาร์กเอลฟ์ 3 คนเป็นผู้เกี่ยวข้อง 1ในพวกมันหนีไปได้ในขณะที่อีก 2 คนถูกผมฆ่าไปแล้ว มันเป็นช่วงเวลาฉุกเฉิน ผมก็เลยไม่สามารถควบคุมพลังของผมได้อย่างอิสระ ดังนั้น ผมจึงไม่สามารถจับพวกเขาไว้เป็นเชลยได้”
กรินซ์ นั้นรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก อย่างแรกคือ เขารู้สึกตกใจที่ดาร์กเอลฟ์มีส่วนเกี่ยวของกับการโจมตีนี้ อย่างที่สองก็คือ เขาทั้งประทับใจและตกใจในความสามารถในการต่อสู้ของ ลิงค์
กรินซ์ ไม่ได้อยู่เฉยๆในตอนที่เขาฟัง ลิงค์ เล่าถึงเหตุการณ์ เขามองไปที่ซากของจัตุรัสและเข้าใจถึงสถานการณ์คร่าวๆของมัน ที่นั่นมีมนุษย์ 6 คนที่มีบาดแผลใหญ่โตเปิดอยู่บนหัวของพวกเขาและไม่มีบาดแผลไฟไหม้ ลิงค์ บอกว่าพวกเขาเป็นนักฆ่าซึ่งเจ้าชาย ฟิลลิป ก็ได้เป็นคนยืนยัน
จากอุปกรณ์ของพวกเขา กรินซ์ สามารถบอกได้ว่าพวกเขาทั้ง 6 นั้นมีเลเวลอย่างน้อยที่เลเวล 3 ถ้าเกิดว่า ลิงค์ ใช้เวทมนตร์ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่และฆ่าพวกเขาทั้งหมดในทีเดียว เขาจะไม่ประหลาดใจเลย ยังไงก็ตาม ลิงค์ ได้เลือกที่จะใช้เวทย์ระดับต่ำ 6 เวทย์ใส่แต่ละคน จากที่เขาสังเกต นักฆ่าทั้งหกนั้นได้พ่ายแพ้ก่อนที่พวกเขาจะได้ตอบสนองเสียอีก
ช่างเป็นความเร็วการร่ายเวทย์ที่น่าประทับใจจริงๆ! กรินซ์ อึ้ง
และเขายังเห็นร่องรอยการเผาไหม้รูปพัดอันใหญ่โต 2 รอยที่มีขนาดยาวกว่า 90 ฟุต เมื่อดูจากพลังงานธาตุที่เหลืออยู่ เขาสามารถบอกได้ว่ามันคือเวทย์เลเวล 4
ตามที่ ลิงค์ บอกในตอนนั้นเขาได้ถูกดาร์กเอลฟ์ทั้ง 3 คนลอบโจมตี
การที่สามารถร่ายเวทย์เลเวล 4 ต่อเนื่องกันในระหว่างที่ถูกลอบโจมตีได้-นี่เขามีทักษะแบบไหนกันเนี่ย? กรินซ์ ตะลึง ระหว่างที่เขาฟัง เขาก็สังเกตชายหนุ่มที่ยืนอยู่เบื้องหน้าเขาอย่างระมัดระวัง
เขาดูหนุ่มมากและสวมผ้าคลุมเวทมนตร์สีเทา เขาถือคทาอยู่ในมือ…? โดมิงโก้คริสตัล! ช่างเป็นงานฝีมือที่ประณีตเสียจริงๆ! ช่างเป็นการจัดเรียงรูนที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆ…นี่มันคทาระดับอีพิคงั้นเหรอ? ทำไมข้าถึงไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อนเลยหล่ะ?
อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเวทย์ก็คือคทา คทาระดับอีพิคนั้นจะเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเวทย์ ยังไงก็ตาม นี่เป็นครั้งแรกของ กรินซ์ ที่ได้เห็นคทาอันนี้ มีเพียงคำอธิบายเดียวที่บอกได้นั่นก็คือคทานี้เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาใหม่ๆ
แอนโทนี่ ได้คุยโม้เกี่ยวกับอัจฉริยะในสถาบันของเขาที่ได้บรรลุเลเวล 4 แล้วแม้ว่าเขาจะยังหนุ่ม เขายังบอกด้วยว่าเขามีทักษะทางเวทมนตร์ที่ไม่อาจจินตนาการได้ นี่คงหมายถึงคนๆนี้สินะ?
ในตอนแรกเขาคิดว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเหลวไหล
เขาเชื่อมาตลอดว่าชายหนุ่มคนนั้นมีทักษะเพียงแค่เล็กน้อย อายุอันเยาว์วัยของเขาจะบอกว่าประสบการณ์ของเขาและความเข้าใจของเวทมนตร์ของเขานั้นยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ยังไงก็ตาม ฉากการต่อสู้ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาคิดผิด รายละเอียดของมันได้พิสูจน์ว่าชายหนุ่มคนนี้แข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆที่อายุเท่ากันมาก สกิลหลายอันที่ปล่อยออกมาก็เป็นของเขาโดยเฉพาะเช่นกัน นั่นจึงทำให้ กรินซ์ ไม่สามารถเข้าใจฉากการต่อสู้ได้ทั้งหมด
แอนโทนี่ ช่างโชคดีเสียจริงๆ! ถ้าเป็นข้าหล่ะก็ ข้าจะสร้างคทาระดับอีพิคให้กับเขา! กรินซ์ ไม่สามารถหยุดความอิจฉาได้
ถ้า กรินซ์ รู้ว่าคทานี้ ลิงค์ เป็นคนสร้างเอง คงไม่สามารถบอกได้ว่าเขาจะรู้สึกประทับใจขนาดไหน
