แม้ว่าเขาจะรู้สึกประหลาดใจมากๆกับการเปิดเผยของ ลิงค์, แต่ความคิดของ กรินซ์ ก็ยังคงนิ่งสงบ ซึ่งนี่มักจะเป็นเรื่องปกติสำหรับนักเวทย์ที่แข็งแกร่งแบบเขา; เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ออกมาบนหน้าของเขา
หลังจากได้ฟัง ลิงค์, เขาก็หันไปทางศพที่อยู่ข้างหลังเขาและสังเกตุเห็นเลือดสีม่วงบนตัวพวกเขา นี่เป็นคุณสมบัติที่หักล้างไม่ได้ของดาร์กเอลฟ์และจากคำอธิบายของ ลิงค์, ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความสูญเสียนี้เป็นฝีมือของพวกดาร์กเอลฟ์
“อิร่า” กรินซ์ ตะโกนเรียกผู้ช่วยของเขา “พาทีมการ์ดมาที่นี่เดี๋ยวนี้และนำรถม้ามาให้พวกเราด้วย!” ความกลัวเริ่มครอบงำเขาแล้วในตอนนี้
พอผู้ช่วยของเขาไป, เขาก็หันไปหา เอร์เรร่า
“มอยร่า, ที่นี่ไม่ปลอดภัย” เขาพูด “พวกเราต้องพาเจ้าชายกลับไปที่พระราชวังและ…ฉันคิดว่านักเรียนของเธอควรจะตามมาด้วย”
กรินซ์ รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของ ลิงค์ แล้วในตอนนี้ เขาจะดีใจที่มีเขาตามไปด้วยขณะที่พวกเขาพาเจ้าชายกลับไปที่พระราชวังเพราะเขาจะเป็นการ์ดที่ยอดเยี่ยมคนนึง ยิ่งไปกว่านั้น, เด็กหนุ่มคนนี้ยังเป็นพยานโดยตรงของการพยายามลอบสังหารและยังช่วยชีวิตของเจ้าชายเอาไว้ด้วย กรินซ์ มั่นใจว่ากษัตริย์จะอยากพบบุคคลสำคัญคนนี้เมื่อเขาได้ฟังรายละเอียดของเหตุการณ์
สำหรับคำขอนี้, แน่นอนว่า เอร์เรร่า กับ ลิงค์ ตกลง
ไม่นานนัก, รถม้าก็หยุดอยู่ที่ริมซากปรักหักพังของถนน คนของ กรินซ์ ล้อมรอบเจ้าชาย ฟิลิป เอาไว้และพาเขาขึ้นรถม้าและพวกเขาก็มุ่งหน้าตรงไปที่พระราชวัง
จากนั้นการ์ดก็ล้อมรอบรถม้าเอาไว้ตลอดการเดินทางขณะที่เจ้าชาย ฟิลิป, เอร์เรร่า, กรินซ์ และ ลิงค์ นั่งอยู่ข้างใน เพื่อเสริมการป้องกัน, กรินซ์ ได้ร่ายเวทย์เลเวล 6 ใส่พวกเขาเอาไว้ด้วย
พวกเขาเดินทางไปที่พระราชวังโดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเลย ขณะที่พวกเขาเข้าประตูวัง , การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาบนหน้าอินเตอร์เฟส
ภารกิจ: ช่วยเหลือ (ขั้นแรก สำเร็จ)
ผู้เล่นได้รับค่าโอมนิ 60 แต้ม
ขั้นที่สองของภารกิจ: เปิดเผยม่านแห่งความมืด, ความคืบหน้าในปัจจุบัน ⅔
รางวัลของส่วนที่สองของภารกิจคืออักขระวิญญาณอันลึกลับ เขาตรวจสอบความคืบหน้าในปัจจุบันของเขาและพบว่าเขาน่าจะได้รับรางวัลเมื่อเขาฆ่าดาร์กเอลฟ์ทั้งสามคน แต่น่าเสียดายที่นักดาบหญิงหนีไปได้
น่าจะมีโอกาสไล่ตามเธอหลังจากนี้อยู่แหล่ะหน่า ลิงค์ คิดในทางที่ปลอบตัวเอง เขาทำดีที่สุดแล้วและมันก็สายเกินไปแล้วที่จะไล่ตามเธอในตอนนี้
หลังจากมาถึงพระราชวัง, การ์ดก็ถูกยึดหน้าที่ไปโดยสมาชิกเกราะหนักของหน่วยอารักขากษัตริย์ กรินซ์ หายเข้าไปที่หนึ่งในตึกมากมายในพระราชวังอันซับซ้อนเพื่อจัดการการรักษาความปลอดภัยของราชวง อีกด้านนึง, ลิงค์ กับ เอร์เรร่า นั้นได้ถูกพาไปที่ห้องนั่งเล่นในพระราชวัง กรินซ์ บอกว่ากษัตริย์อาจจะต้องการพบพวกเขา
ไม่นานหลังจากที่ภายในห้องนั่งเล่นลงตัว, คนส่งสารก็เข้ามาแจ้งคำสั่งของกษัตริย์ ลีออน กับพวกเขา, มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ ลิงค์ แต่เป็นคำสั่งสำหรับนักเวทย์ที่มีชื่อเสียงอย่าง เอร์เรร่า ให้เข้าร่วมสภาหลวง ส่วนนักเวทย์หนุ่มที่ไม่เป็นที่รู้จักอย่าง ลิงค์ คงจะต้องรอในห้องนั่งเล่นคนเดียวอีกพักใหญ่ๆ
และแล้ว, ลิงค์ ก็ถูกทิ้งเอาไว้คนเดียวในห้องที่ว่างเปล่า มันดูราวกับว่าทุกคนลืมตัวตนของเขาไปแล้ว แต่, ลิงค์ ก็ไม่ได้ปล่อยให้ความคิดพวกนั้นรบกวนเขา เขาเฝ้ารออย่างอดทน, โดยไม่ได้คิดถึงความไม่สนใจของข้าราชบริพารที่แสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัดต่อชื่อเสียงของเขาเขาเลย
เขาเข้าใจดีว่ามีคนแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ได้รับความเชื่อใจและความเชื่อมั่นจากกษัตริย์จนสามารถเข้าร่วมสภาหลวงในเวลาคับขันแบบนี้ได้ สมาชิกของสภาอันน่านับถือนี้มีความสามารถ, คุณวุฒิและความน่าเชื่อสูงที่สุด แม้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องจริงที่เขาแสดงความสามารถอันโดดเด่นออกมาจนถึงตอนนี้, แต่เขายังปรากฏตัวเร็วเกินไปและยังไม่ได้สร้างจุดยืนในสังคมเลย เขาไม่เคยพบกษัตริย์ด้วยตัวเองเลยด้วยซ้ำ, ดังนั้นมันคงจะเป็นไปไม่ได้สำหรับ ลิงค์ ที่จะได้รับความไว้ใจจากกษัตริย์ในตอนนี้
ขณะที่เขาเริ่มเบื่อกับการรอ, เขาก็เอาภาพร่างของกำไลที่เสริมพลังเวทย์ระเบิดเพลิงออกมาและเริ่มทำงาน
มันมีไว้สำหรับผู้หญิงผมดำ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้แลกเปลี่ยนคำพูดด้วยกันนักและ ลิงค์ ก็ไม่รู้จักชื่อของเธอเลยก็ตาม— ผู้หญิงคนนั้นได้ใช้เวทย์ต้องห้ามต่อหน้าเขาเมื่อไม่นานมานี้— เขายังต้องการที่จะเติมเต็มคำสัญญาที่เขามอบให้กับเธอ
ไม่เป็นไรหรอกหน่า, เขาคิด ฉันจะรักษาระยะห่างจากเธอนับจากตอนนี้เป็นต้นไป
ระเบิดเพลิงเป็นเวทย์เลเวล 4 เพื่อที่จะใส่มันเข้าไปในกำไลเขาต้องสร้างกำไลด้วยโครงสร้างและรูปแบบที่ซับซ้อน นี่ไม่ใช่งานง่ายๆเลย, ดังนั้น ลิงค์ จึงหมกมุ่นอยู่กับแผนการอย่างรวดเร็วจนลืมการไหลของเวลาไป
ขณะที่เขาจดจ่ออยู่กับงานร่างภาพของเขา, ลิงค์ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆที่ด้านหลังของเขา เมื่อเขาหันไปยังแหล่งที่มาของเสียง, เขาก็เห็นเจ้าชาย ฟิลิป ที่ยืนอยู่ไม่ใกลนัก, กำลังจ้องมาที่เขา
เจ้าชาย ฟิลิป เป็นแค่ตัวละครเล็กๆในเกมส์เพราะ ลิงค์ ไม่เคยพบเขาในชีวิตก่อนของเขา นี่อาจจะเป็นเพราะบริษัทเกมส์ไม่สนใจเขา, ด้วยความที่เขาเล่นบทบาทที่ไม่สำคัญในเนื้อเรื่องหลักของเกมส์ หรือบางที, มันแค่ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะเฉิดฉาย อย่างไรก็ตาม, เจตคติของ ลิงค์ ที่มีต่อเจ้าชายก็ว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์ก่อนที่เขาจะได้พบเขาในวันนี้
แต่ถึงอย่างนั้นในความเป็นจริง, คนๆนี้ก็เป็นถึงเจ้าชายอันสูงศักดิ์ของเกาะรุ่งอรุณ, ดังนั้น ลิงค์ จึงรีบโค้งให้เขาในตอนที่เขาสังเกตุเห็นเขาในห้องและพูดกับเขาอย่างสุภาพ “ฝ่าบาท”
ขณะที่ ลิงค์ โค้งคำนับ, ลิงค์ ก็เริ่มพบว่าท่าทีของเจ้าชายแปลกไปเล็กน้อย ตอนนี้ ลิงค์ เป็นแค่นักเวทย์ธรรมดาและเขาก็เป็นแค่ลูกชายคนเล็กของไวส์เคานท์ต๊อกต๋อย ความแตกต่างในลำดับชั้นของพวกเขาสูงมาก, ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรสำหรับเจ้าชายที่จะมาพบเขาที่นี่ด้วยตัวเอง ลิงค์ คิดว่าหลังจากที่เขาถูกพากลับมาที่พระราชวังอย่างปลอดภัยแล้ว, ภารกิจก็จะจบลงและพวกเขาก็จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แล้วสรุปเจ้าชายมาทำอะไรที่นี่หล่ะ?
เมื่อ ลิงค์ หันมา, เขาก็เห็นความรู้สึกผิดแฝงอยู่บนใบหน้าที่เกือบจะสมบูรณ์แบบของ ฟิลิป
“ข้าขอโทษนะ” เจ้าชายพูด “ข้ามารบกวนเจ้ารึเปล่า?”
“อ๋อ, ไม่เลยครับ, ฝ่าบาท” ลิงค์ ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ผมเป็นนักเวทย์สายเสริมพลังและผมแค่กำลังร่างภาพอุปกรณ์เวทย์มนตร์ชิ้นต่อไปของผมเฉยๆเนื่องจากผมไม่มีอะไรทำที่นี่ ฝ่าบาทมาหาผมหรอครับ?”
ฟิลิป พยักหน้าและจ้องไปที่ภาพร่างในมือของ ลิงค์ ขณะที่เดินมาหาเขา ภาพร่างนั้นถูกเขียนอย่างปราณีตและเต็มไปด้วยส่วนที่ซับซ้อนและรูนเวทย์มนตร์ที่ไม่สามารถเข้าใจได้ เขาไม่สามารถทำความเข้าใจสิ่งที่อยู่บนภาพร่างได้เลยดังนั้นเขาจึงเบือนสายตากลับมาที่ ลิงค์
“ข้าเป็นหนี้ของท่านอย่างใหญ่หลวง” เจ้าชายพูด “ท่านช่วยชีวิตของเขาเอาไว้”
“ฝ่าบาท” ลิงค์ พูด “ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมควรทำ” ลิงค์ คิดว่าเจ้าชายไฮเอลฟ์จะต้องมีเรื่องบางอย่างที่สำคัญเขาถึงเข้ามาพบเขาที่นี่ด้วยตัวเอง แม้ว่าเขาจะสงสัยว่าแรงจูงใจของเจ้าชายคืออะไร, แต่เขาก็ไม่ได้ถามตรงๆและเลือกที่จะรอให้เจ้าชายพูดขึ้นมาแทน
แน่นอนว่า, เจ้าชาย ฟิลิป ส่ายหัวของเขาเป็นการตอบกลับความถ่อมตัวของ ลิงค์ และจากนั้นไม่นานเขาก็เปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงของเขาในการมาพบในครั้งนี้
“ในเมื่อท่านทำสิ่งที่ควรทำ, ข้าก็ต้องทำสิ่งที่ข้าควรทำเช่นกัน” เจ้าชายพูด “การขอบคุณง่ายๆคงจะไม่เพียงพอในการแสดงความขอบคุณของข้าให้แก่ท่าน”
พอพูดจบ, เจ้าชายไฮเอลฟ์ก็เอากล่องไม้เล็กๆอันประณีตที่มีสีน้ำตาลเขียวออกมา ขอบนอกของมันถูกแกะสลักเป็นรูปต้นไม้และดอกไม้อันงดงาม จากนั้นเจ้าชายก็ยื่นกล่องไม้ให้ ลิงค์
“เอานี่” เจ้าชาย ฟิลิป พูด “มันคือของขวัญจากข้า”
กล่องไม้เป็นผลงานของช่างแกะสลักชื่อดังในหมู่เอลฟ์, แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสิ่งที่อยู่ในกล่อง เขาไม่รู้ว่าวัตถุนี้ใช้ยังไงหรือความพิเศษของมันคืออะไร, แต่มันคือสิ่งที่นักพยากรณ์มอบให้กับเจ้าชาย ฟิลิป
นักพยากรณ์เป็นบุคคลลึกลับที่สืบสายเลือดมาจากโลกมนุษย์ เขามีตำแหน่งที่สูงส่งในราชสำนักของไฮเอล์ฟและยังได้รับความนับถือและความเคารพจากราชินีแห่งเกาะรุ่งอรุณด้วย
เจ้าชาย ฟิลิป นึกถึงคำแนะนำสุดท้ายของนักพยากรณ์ก่อนที่เขาจะจากไป
“สิ่งที่อยู่ในกล่องไม่มีประโยชน์กับไฮเอลฟ์” เขาพูด “แต่มันมีประโยชน์อันมหาศาลกับมนุษย์ ตอนนี้ข้าจะมอบกล่องนี้ให้ท่าน, เพราะฉะนั้นท่านสามารถส่งมอบมันให้กับคนที่เหมาะสมเมื่อท่านอยู่ในอาณาจักรมนุษย์ได้”
“แล้วข้าจะรู้ได้ยังไงว่าข้าพบคนที่เหมาะสมที่จะมอบสิ่งนี้ให้?” เจ้าชายนึกถึงคำถามที่ถามนักพยากรณ์
“ถ้าท่านคิดว่าคนๆนั้นคือคนที่เหมาะสม, นั่นก็จะเป็นคนที่ท่านจะมอบสิ่งนี้ให้” นักพยากรณ์ตอบ “จงฟังหัวใจของท่าน, เจ้าชายของข้า”
ในความเป็นจริง, นอกเหนือจากการหารือเรื่องความเป็นพันธมิตรระหว่างประเทศแล้ว, เจ้าชาย ฟิลิป ยังมาที่อาณาจักร นอร์ตัน เพื่อจุดประสงค์นี้ด้วย คำตอบที่มอบให้กับคำถามของเขาเกี่ยวกับคนที่เหมาะสมนั้นคลุมเครือและฟังดูสับสน, เจ้าชายไม่มั่นใจว่าเขาเข้าใจมันอย่างเต็มที่รึเปล่า เขาเฝ้าสังเกตุผู้คนมากมายอย่างระมัดระวังตลอดหลายวันมานี้แต่ก็ไม่มีพวกเขาคนไหนที่ทำให้เขารู้สึกว่าเป็นคนที่เหมาะสมที่จะมอบของขวัญของนักพยากรณ์นี้ให้เลย
ถ้าพวกเขาไม่ได้แม้แต่จะทำให้เขารู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนเหมาะสม, เจ้าชาย ฟิลิป ก็จะคิดว่าพวกเขาต้องไม่ใช่คนที่เหมาะสม นั่นคือเหตุผลที่ทำไมกล่องไม้ถึงอยู่กับเขาจนถึงตอนนี้
แต่ว่าตอนนี้, เจ้าชายรู้สึกมั่นใจว่า ลิงค์ เป็นคนที่เหมาะสมที่สุดและน่ายกย่องที่สุดที่จะมอบของขวัญลึกลับนี้ให้, และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาถึงแอบออกมาจากห้องของเขาเพื่อมาพบเขา
ลิงค์ ไม่รู้ว่ามีความหมายอยู่เบื้องหลังของขวัญมากขนาดนี้ เขาไม่ได้คิดอะไรกับสิ่งที่อยู่ในกล่อง ทั้งหมดที่เขาคิดคือมันเป็นของขวัญธรรมดาที่มอบให้เขาเพื่อเป็นเครื่องหมายของคำขอบคุณ, ซึ่งเขาก็รับมันอย่างสุภาพ
“ขอบคุณ, ฝ่าบาท” เขาพูดอย่างสุภาพขณะที่รับกล่องไม้ด้วยสองมือของเขา
“ข้าไม่รู้ว่าจะมอบอะไรให้ท่านอีกดี” เจ้าชายพูดด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร “แต่นอกเหนือจากกล่องไม้นี้, ท่านจะได้รับความเป็นมิตรจากไฮเอลฟ์ ท่านจะเป็นแขกอันทรงเกียรติของข้าที่เกราะรุ่งอรุณตลอดไปและท่านจะได้รับการต้อนรับที่นั่นเสมอ”
“ผมจะไม่มีทางลืมมันเลย” ลิงค์ ตอบกลับ
“ข้าแอบออกมาพบท่าน” เจ้าชาย ฟิลิป พูด “เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาที่ข้าต้องกลับไปแล้วก่อนที่พวกเขาจะรู้ว่าข้าไม่อยู่ โชคดีนะ ลิงค์” พอเขาโบกมือของเขาให้, เจ้าชายก็รีบออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
การพบกับเจ้าชาย ฟิลิป นั้นเกิดขึ้นเร็วมากและดูเหมือนจะไม่ได้คาดคิดมาก่อนสำหรับ ลิงค์ เมื่อเจ้าชายจากไป, เขาก็เริ่มตรวจสอบกล่องไม้ขนาดเท่ากำปั้นในมือของเขาด้วยความกระตือรือร้นที่จะดูว่าข้างในมีอะไร
มันคือเครื่องประดับหรอ? หรือว่าวัสดุเวทย์มนตร์ที่มีค่า? ขณะที่ ลิงค์ กำลังจะเปิดกล่อง, ก็มีเสียงเท้าดังขึ้นมาที่ประตูอย่างกระทันหัน ลิงค์ ไม่ต้องการให้คนอื่นรู้เรื่องของขวัญของเจ้าชาย ฟิลิป, ดังนั้นเขาจึงรีบซ่อนมันเอาไว้ในจี้เก็บของอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นไม่นาน, ก็มีเสียงเรียกเขาที่ประตู
“ท่าน ลิงค์, ฝ่าบาทต้องการให้ท่านเข้าพบ”