Advent of the Archmage – ตอนที่ 147: หัตถ์เปลวเพลิง (ส่วนที่1)

ร่างไร้ชีวิตของ อลิน่า ถูกเผาด้วยไฟจนกลายเป็นขี้เถ้า จากนั้น ลิงค์ ก็โปรยขี้เถ้าของเธอลงแม่น้ำเชี่ยวที่อยู่ใจกลางป่าเพื่อให้เศษซากที่เหลือของเธอไหลไปตามน้ำ

 

และนี่ก็คือจุดจบของสามทหารเสือแห่งซิลเวอร์มูน

 

ดาบของเธอนั้นทำมาจากทองและผนึกเวทมนตร์ที่อยู่บนมันก็เต็มไปด้วยทอเรี่ยม ดังนั้น ลิงค์ จึงใช้ทักษะเสริมพลังในการแยกธาตุพวกนี้ออกจากกันและแบ่งกันเองอย่างเท่าเทียมระหว่างเขากับ เอเลนอร์

ในตอนนี้ ลิงค์ มีทองทั้งหมด 10 ปอนด์และทอเรียมอีก 1 ออนซ์ ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถตีเป็นเงินได้ประมาณ 20,000 เหรียญทอง

 

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ลิงค์ กับ เอเลนอร์ ก็แยกทางกันที่ถนนแห่งราชาที่อยู่ใกล้ๆกับป่าเกอเวนท์

 

“ฉันได้ชดใช้หนี้ที่นายได้ช่วยชีวิตฉันไว้ด้วยคัมภีร์แห่งความรู้ และฉันก็ยังช่วยนายหาคำภีร์ถอดรหัสลับตัวต้นแบบและตามหา อลิน่า อีก-นายไม่คิดว่านายควรจะแสดงความขอบคุณมากกว่านี้ซักหน่อยหรอ?”

 

ลิงค์ คิดว่าเธอพูดถูก เขาคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้ประโยชน์มากมายขนาดนี้จากการมาคลุกคลีกับคนที่เขาคิดว่าเป็นคนไม่ดี คัมภีร์แห่งความรู้, อักขระวิญญาณ, เอกสารรหัสลับ- ลิงค์ ได้ทั้งหมดนี้จากความช่วยเหลือของ เอเลนอร์ และพวกมันทั้งหมดนั้นต่างก็เป็นไอเท็มที่มีประโยชน์!

 

ทักษะในการเสริมพลังนั้นเป็นสิ่งที่เขาภาคภูมิใจมากที่สุดในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงยื่นขอเสนอให้กับ เอเลนอร์

 

“งั้นผมจะสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ให้คุณอีกละกัน” เขาพูด

 

“เยี่ยม!” เอเลนอร์ ตอบ “ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าที่แขนซ้ายของฉันมันว่างๆนะ ฉันคิดว่าได้กำไลข้อมืออีกอันก็คงจะดี แต่ว่าฉันไม่จ่ายเงินค่าวัตถุดิบให้หรอกนะ”

 

“โอเค ผมเข้าใจแล้ว” ลิงค์ พูด “ผมจะเริ่มทำมันทันทีในตอนที่ผมกลับไปถึงสถาบัน เขียนจดหมายมาหาผมในตอนที่คุณต้องการมันแล้วผมจะส่งมันไปให้คุณ”

 

“ตกลง” เอเลนอร์ พูด “ทำให้แน่ใจนะว่ากำไลอันใหม่ของฉันจะต้องสวยเหมือนกับกำไลฟินิกซ์นี่ ไม่งั้นฉันไม่ยกโทษให้นายแน่!” เธอลูบกำไลระเบิดเพลิงที่เธอรักบนมือของเธออย่ารักใคร่ในตอนที่เธอพูด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอได้เปลี่ยนชื่อมันใหม่เป็นกำไลฟินิกซ์แล้ว

 

“ผมจะพยายามให้เต็มที่นะ” ลิงค์ พูดด้วยรอยยิ้ม

 

จากนั้นพวกเขาก็บอกลากันและ ลิงค์ ก็เดินไปยังเส้นทางแห่งราชา เอเลนอร์ ยืนอยู่ในป่าเฝ้ามอง ลิงค์ ค่อยๆหายไป

 

“ลิงค์ ฉันชื่อ เอเลนอร์ นะ!” เธอตะโกนในตอนที่ ลิงค์ ไปเกือบลับสายตาแล้ว

 

ลิงค์ ไม่ได้หันกลับไปมองแต่เขาโบกมือของเขาแทนเพื่อเป็นการบอกว่าเขาได้ยินเธอแล้ว เขาเดินต่อไปจนกระทั่งร่างของเขาถูกบดบังด้วยต้นไม้และหายไปอย่างสมบูรณ์

 

เอเลนอร์ ถอนหายใจเบาๆในตอนที่เธอหันหลังกลับและตรงเข้าไปในส่วนลึกของป่า เกอเวนท์

 

ฉันกลับมาตัวคนเดียวอีกแล้วสินะ เธอคิด

 

 

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ ที่เดินอยู่คนเดียวในเส้นทางแห่งราชา เขาอาจจะเจอใครก็ได้บนถนนดังนั้นเขาจึงไม่ได้อัญเชิญเฟนเรียสายลมออกมาเพื่อลดอาการตื่นตกใจของผู้สัญจรผ่านไปมา ดังนั้นเขาจึงเดินตลอดทางกลับสถาบัน

 

หลังจากที่เดินไปได้ 10 นาที ก็มีรถเกวียนที่ใช้วัวลากผ่านมาข้างๆเขา เขาได้ให้เงินชาวนาที่ขับเกวียนนั้นไป 1 เหรียญเงินและกระโดดขึ้นไปบนมัน เกวียนนั้นเคลื่อนที่ช้ามาก ดังนั้นเขาจึงมาถึงสถาบันในช่วงเวลาบ่ายแล้ว

 

มันเป็นหน้าหนาวแล้วในตอนนี้และอากาศในตอนกลางวันก็ไม่ดีนัก มีเกล็ดหิมะปนมาด้วยในตอนที่ลมพัด ในตอนที่เขาลงมาจากเกวียน ลิงค์ ได้ดึงแขนเสื้อขึ้นและดึงฮู้ดของผ้าคลุมเขาขึ้นและเดินเข้าสู่สถาบัน

 

มันช่างเป็นวันที่หนาวเหน็บ อันที่จริง แม้กระทั่ง วินเซนท์ ก็ยังไม่อยู่ในสวนที่เขาอยู่เป็นประจำ และไปรักษาตัวเขาให้อุ่นอยู่ข้างในกระท่อมแทน ในตอนที่เขาได้ยินว่ามีคนมาที่ประตู เขาเปิดหน้าต่างและมองออกมา เมื่อเขาเห็นว่านั่นเป็นคนที่สวมเสื้อคลุมของสถาบันอีสโควฟเขาจึงตัดสินว่ามันไม่มีภัยแล้วก็ปิดหน้าต่าง

 

ในตอนที่เขาเดินผ่านเส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยหิมะท่ามกลางลมหนาวในระหว่างทางกลับหอคอยเวทมนตร์ ลิงค์ ก็คิดถึงแม่ของเขาขึ้นมาอีกครั้ง

 

ชื่อของเธอคือ ลิลิธ เธอมีอายุ 40 ปีในปีนี้และเธอก็เป็นผู้หญิงที่ใจดีมากและสุภาพจนผู้คนมักจะคิดว่าเธออ่อนแอ ลิงค์ สงสัยว่าเธอจะเป็นยังไงบางในตอนนี้ที่กระท่อมเล็กๆที่อยู่ในชนบท

 

มันมักจะมีความขาดแคลนเสมอไม่ว่าจะเป็นกระท่อมแบบไหนก็ตาม ลิงค์ คิด ฉันสงสัยจังว่าแม่มีถ่านและไม้พอที่จะปกป้องแม่จากความหนาวนี้ได้รึเปล่า? คนรับใช้จะปฏิบัติกับแม่ยังไงกันนะ? นี่แม่มีอาหารหรือเสื้อผ้าพอที่จะอยู่รอดในฤดูกาลนี้ได้หรือเปล่า?

 

แม้ว่าเธอจะเป็นแม่ของร่างกายนี้ที่เขามาสิงสู่และไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเขาจริงๆ แต่ความทรงจำเกี่ยวกับเธอก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจของเขา ทำให้เขาไม่อาจที่จะหยุดความคิดที่ว่าเธออาจจะกำลังทรมานกับชีวิตที่ยากลำบากอยู่ในตอนนี้

 

ฉันได้ปฏิเสธข้อเสนอจากอาจารย์ใหญ่และพระราชาในการเข้าร่วมกับกองทัพ ดังนั้นมันไม่น่าจะมีเหตุผลไหนที่จะหยุดฉันจากการไปเยี่ยมเธอได้ ประเทศปักเป้าไม่ได้อยู่ไกลจากที่นี่ซักเท่าไหร่ ฉันน่าจะไปเยี่ยมเธอซักหน่อย

 

เมื่อเขาตัดสินใจได้ ลิงค์ ก็เดินเร็วขึ้น เขามาถึงหอคอยเวทมนตร์ในตอนที่ เอร์เรร่า กำลังสอนพวกนักเวทย์ฝึกหัดอยู่ที่ห้องโถงชั้น 1 พอเธอเห็น ลิงค์ เธอก็พยักหน้าให้เขาและทำการสอนต่อ ลิงค์ หาที่นั่งในห้องโถงและหยิบหนังสือเรียนเวทมนตร์ขึ้นมา

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมา การสอนของ เอร์เรร่า ก็เสร็จสิ้น จากนั้นเธอเดินเข้ามาหา ลิงค์

 

“ทุกอย่างที่เมืองหลวงเรียบร้อยแล้วเหรอ?” เธอถาม

 

“ครับ” ลิงค์ ตอบ “ผมได้อะไรบางอย่างที่ผมจะต้องบอกคุณด้วย แต่ผมบอกตรงนี้ไม่ได้”ลิงค์ ใช้เสียงที่เบามากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อไม่ให้ใครได้ยินเขา  เขาจะพูดเกี่ยวกับเอกสารรหัสลับที่ เอเลนอร์ ให้เขามา เขารู้ว่าคนที่มีอำนาจอย่างเธอจะต้องใช้ประโยชน์จากมันได้แน่

 

“งั้นขึ้นไปชั้นบนสุดกัน” เอร์เรร่า พูด

 

พอพวกเขาขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ลิงค์ ก็เอาคัมภีร์ถอดรหัสและเอกสารรหัสลับออกมา แม้ว่าเอกสารรหัสลับนั้นจะไม่ใช่อันที่ เอเลนอร์ ให้กับเขา แต่ก็เป็นก็อปปี้ที่เขาได้สร้างขึ้นมาบนเกวียน เขาทำอย่างนี้เพื่อปกป้องตัวตนของ เอเลนอร์ จากผู้มีอำนาจ

 

เอร์เรร่า ไม่ได้สนใจรายละเอียดเล็กน้อย เธอตรวจสอบคัมภีร์อยู่ซักพักและพบว่าพวกมันเป็นเอกสารที่สำคัญมากจริงๆ

 

“เธอเอาไปของพวกนี้มาจากไหนเนี่ย?” เธอถามด้วยความตกใจ

 

“หนึ่งในผู้ติดตามของผมพบคัมภีร์ถอดรหัสนี้โดยบังเอิญที่ผาลมหอน” ลิงค์ อธิบาย “ขณะที่เอกสารรหัสลับนั้นผมได้รับมาจากผู้หญิงในชุดสีดำ” มันสายเกินไปแล้วที่จะปกปิดตัวตนของ เอเลนอร์ แต่เขาตัดสินใจที่จะยังไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาในตอนนี้

 

“ผู้หญิงชุดสีดำ?” เอร์เรร่า ถาม เธอยิ่งสับสนมากขึ้น “นี่เธอหมายถึงนักเวทย์ปริศนาคนนั้นเหรอ?”

 

“ใช่” ลิงค์ ตอบ “เธอเองก็อยู่ที่ถนนหยกในเหตุการณ์เวทย์ระเบิดเพลิงเช่นกันและเกือบจะเอาชีวิตไม่รอดเพราะมัน ผมคิดว่าเธอเอาสิ่งนี้มาให้ผมเพราะเธอเชื่อว่าผมจะสามารถจัดการดาร์กเอลฟ์ที่เกือบะฆ่าเธอได้” นั่นไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่ ลิงค์ ดูน่าเชื่อถือมากในตอนที่เขาพูด  เพราะว่าเขาเชื่อว่ามันจำเป็นที่จะต้องโกหกและเขาก็รู้สึกผิด

 

อย่างที่คาดไว้ เอร์เรร่า เชื่อเขา เธอวางคัมภีร์ถอดรหัสและเอกสารรหัสลับลงข้างกันและเริ่มเอามาเทียบกัน เธอทำแบบนี้อยู่พักนึงก่อนที่ขนตาของเธอจะกระตุกและหันขึ้นมามอง ลิงค์

 

“มันเขียนไว้อย่างนี้” เธอเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ดาร์กเอลฟ์พวกนั้นวางแผนการอะไรบางอย่างที่เรียกว่ากบฏจันทราทมิฬ…และพวกมันพูดถึงดาร์กเอลฟ์ที่ชื่อ เฟลิเดีย …แต่มันไม่ได้บอกว่าแผนการนี้เกี่ยวกับอะไรและมีใครเกี่ยวข้องบ้าง..”

 

ลิงค์ ไม่ได้หาสถานที่และเวลาที่เหมาะสมในการถอดรหัสเองเลย ดังนั้นเขาจึงทำมันในตอนนี้ เขาพบว่าข้อมูลที่อยู่ในคัมภีร์ถอดรหัสนั้นสั้นและง่าย นอกเหนือจากคำว่ากบฏจันทราทมิฬและชื่อของ เฟลิเดีย ที่ตายไปแล้ว ข้อมูลเดียวที่สำคัญที่อยู่ในคัมภีร์นี้ก็คือวันที่-4 เมษายน

 

ตอนนี้คือวันที่ 3 มกราคม อีกประมาณ 3 เดือนครึ่งถึงจะถึงวันที่พูดถึง แม้ว่ามันจะไม่ได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน แต่มันก็ค่อนข้างชัดเจนว่าวันในที่นี้คือวันที่จะดำเนินการแผนกบฏจันทราทมิฬ

 

อย่างไรก็ตาม เพียงแค่วันที่แค่นี้ข้อมูลมันยังไม่เพียงพอ พวกเขายังคงไม่รู้ว่าแผนกบฏจันทราทมิฬนั้นจะเล็งไปที่ส่วนไหนของอาณาจักรนอร์ตัน

 

“อาจารย์ คุณไม่คิดเหรอว่าพวกเราควรส่งเอกสารพวกนี้ให้กับMI3?” ลิงค์ แนะนำ “พวกเขาได้รับมือกับพวกดาร์กเอลฟ์ของมือแห่งความตายมาโดยตลอดบางทีนี่อาจจะให้ข้อมูลที่สำคัญกับพวกเขาด้วย”

 

ลิงค์ รู้ดีว่านี่คงเป็นสาเหตุมาจากประวัติศาสตร์ในเกมที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้เขาไม่สามารถทำนายอนาคตได้ มันไม่เคยมีของอย่างกบฏจันทราทมิฬในเกมดังนั้น ลิงค์ จึงคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับสถาบันอีสโควฟ แต่เขาตัดสินใจที่จะเงียบเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ก่อนเพราะมันเป็นแค่สิ่งที่เขาคิดเท่านั้น

 

“เธอพูดถูก” เอร์เรร่า เห็นด้วยหลังจากที่คิดอยู่พักนึง “พวกเราจะเอามันให้กับMI3”จากนั้น เอร์เรร่า ก็รวบรวมเอกสารไว้ในมือและเตรียมพร้อมที่จะออกจากห้อง “พวกเราอยู่ในสถานการณ์คับขัน ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้กับอาจารย์ใหญ่เลย มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นที่มีพลังและอำนาจมากพอที่จะจัดการได้อย่างรวดเร็ว”

 

ลิงค์ พยักหน้าเห็นด้วย การช่วยเหลือของอาจารย์ใหญ่นั้นจะช่วยได้มากเลยในตอนนี้

 

“อาจารย์” ลิงค์ พูดก่อนที่ เอร์เรร่า จะออกจากห้อง” อีก 5 วัน จะถึงเทศกาลฤดูหนาว ผมอยากไปเยี่ยมครอบครัวผมและใช้เวลาอยู่กับพวกเขาครึ่งเดือน ผมจะกลับมาในเร็วๆนี้นะ”

 

เทศกาลฤดูหนาวนั้นเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดในปฏิทินของฟิรุแมน มันคือโอกาสที่ทุกคนที่ออกจากบ้านเกิดมาจะได้เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวของพวกเขา

 

เอร์เรร่า รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยที่อยู่ๆก็เปลี่ยนหัวข้อ แต่เธอก็พยักหน้าให้ในที่สุด

 

“เดินทางปลอดภัยนะ”เธอพูด”และอย่าลืมที่จะหมั่นเรียนรู้และฝึกฝนตัวเองด้วยหล่ะ!”

 

“ครับอาจารย์” ลิงค์ ตอบ

 

จากนั้น ลิงค์ ก็ตรงกลับไปที่ห้องของเขาและเริ่มเก็บของ มันไม่มีของให้เขาต้องเก็บมากนักเพราะเขาไม่ได้มีของต้องเอาไปเยอะ แถมเขายังสามารถเก็บทุกอย่างเอาไว้ในจี้เก็บของได้ ไม่กี่นาทีต่อมา เขาก็เก็บของเสร็จพร้อมเดินทาง จากนั้นเขาก็ไปบอกลา เอเลียร์ด และวางแผนการเรียนให้กับลูกศิษย์ของเขา ไรไล เขาออกจากสถาบันในเช้าวันต่อมา ตรงขึ้นเหนือไปที่ประเทศปักเป้า

 

ที่ป่าเกอเวนท์ยังคงเงียบสงบ ขณะที่เขาเดินทางผ่านเส้นทางแห่งราชา ห่างจากเขาไปประมาณ 10 ไมล์มีดาร์กเอลฟ์ 3 คนกำลังปลอมตัวเดินทางเข้าสู่เมืองฮอทสปริงโดยที่เขาไม่รู้ตัว

 

จากทั้งสามคน คนหนึ่งเป็นนักเวทย์ อีกคนเป็นนักฆ่าและอีกคนคือนักรบ พวกเขาทั้งหมดมีเลเวล 5 พวกเขาคือคนรับใช้ของราชวงค์นอริแกนที่ลงใต้มาอาณาจักรนอร์ตันเพื่อที่จะช่วยเหลือลูกสาวอันเป็นที่รักของหัวหน้าตระกูล-นักดาบ อลิน่า

 

ลิงค์ ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องพวกนี้เพราะเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับตำราเวทมนตร์บนรถม้า มันมีชื่อว่าหัตถ์เปลวเพลิงและเนื้อหาของมันก็พูดถึงเวทย์มนตร์อันทรงพลัง

 

เวทย์มนตร์นี้ทำให้เขาสนใจเพราะถึงแม้อักขระเวทมนตร์เลเวล 5 จะอนุญาตให้เขาฝังเวทมนตร์อะไรก็ได้ที่ต่ำกว่าเลเวล 5 ลงไป แต่มันจะเปลืองมาถ้าทำอย่างนั้น ทางเดียวที่จะใช้มันอย่างคุ้มค่าจากของรางวัลอันล้ำค่าที่ระบบเกมให้มาก็คือฝังเวทมนตร์เลเวล 5 อันทรงพลังกับจิตวิญญาณของเขาลงไปด้วย

 

นอกเหนือจากนี้ หัตถ์เปลวเพลิงนั้นคือเวทมนตร์เลเวล 5 ที่มีพลังอันน่ากลัว ผู้ที่เชี่ยวชาญมันจะสามารถควบคุมเวทย์ที่มีพลังทำลายล้างได้อย่างแม่นยำ แน่นอนว่ามันเป็นอาวุธที่น่ากลัวเมื่อใช้ในการต่อสู้

 

และแน่นอนว่าเพราะพลังอันมหาศาลของมัน อัตราการใช้มานาของมันจึงสูงกว่าปกติเช่นกัน

 

มันไม่เหมือนกับเวทย์มนตร์ทั่วไปที่ ลิงค์ เชี่ยวชาญเพราะว่ามันใช้มานาอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่ขณะที่ร่ายเท่านั้น ขณะที่ไม่มีคู่ต่อสู้ เวทย์ก็จะดูดมานา 10 แต้มต่อวินาทีเพื่อรักษามันเอาไว้ด้วย  กลับกันขณะที่เจอคู่ต่อสู้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามที่มีเลเวล 5 อัตราการดูดมานาจะสูงขึ้นถึง 100 แต้มต่อวินาที ถ้าคู่ต่อสู้เป็นนักเวทย์เลเวล 6 หล่ะก็ เวทย์นี้ก็จะไร้ประโยชน์ทันทีเพราะมันกินมานาเยอะมากจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถจัดการคุณได้ในทีเดียวได้

 

ลิงค์ไม่สามารถทนต่ออัตราการกินมานาขนาดนี้ได้ในอดีต แต่ตอนนี้เข้ามี 200 แต้มโอมนิและมานาสูงสุดที่ 1900 แต้ม

 

มันเป็นปริศนามากสำหรับ ลิงค์ แต่ว่าตั้งแต่ที่เขาได้รับพรนางฟ้าจาก เอร์เรร่า มานาของเขาก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในตอนที่เขาอาบแสงแดด ในเวลาแค่ไม่กี่เดือน มานาสูงสุดของเขาก็เพิ่มจาก 1800 แต้มมาเป็น 1900 แต้ม

 

ลิงค์ คิดว่านี่คือผลข้างเคียงของการรับพรจากนางฟ้าแห่งแสง

 

ด้วยความที่ในตอนนี้เขาไม่มีข้อจำกัดเรื่องมานาแล้ว เขาจึงต้องการที่จะเชี่ยวชาญเวทย์มนตร์ที่ผิดธรรมดานี้ในทันที

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset