Advent of the Archmage – ตอนที่ 150: หัตถ์เปลวเพลิง (ส่วนที่ 4)

ปราสาทโมรานี่ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดในประเทศปักเป้า ตราบเท่าที่ยืนอยู่ในพื้นที่เปิดพร้อมกับมุมมองที่ไม่อะไรขัดขวาง, พวกเขาก็จะมองเห็นปราสาทได้อย่างชัดเจน

 

มันเป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้ว ดาร์คเอลฟ์ทั้งสามปลอมตัวเป็นมนุษย์ที่กำลังเดินทางบนหลังม้าตามสะพานฮามิลตัล ขณะที่พวกเขาเงยหน้าขึ้น, พวกเขามองเห็นภาพของปราสาทอย่างชัดเจน

 

พวกเขาทั้งสามแข็งแกร่งและมีสายตาที่ยอดเยี่ยม พวกเขาไม่ได้เห็นแค่ภาพของปราสาทอย่างชัดเจนเท่านั้น, แต่พวกเขายังเห็นรถม้าสีเขียวขุ่นที่กำลังมุ่งหน้าขึ้นเนินเขาไปทางปราสาทอีกด้วย

 

“ดูนั่น, มันคือรถม้าจากสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟ คนที่อยู่ข้างในต้องเป็น ลิงค์ แน่ๆ” เฮเดล พูด พวกเขารีบไปในทันทีที่พวกเขาได้ยินว่า ลิงค์ กำลังกลับบ้าน ภาพของรถม้าที่ติดตราของสถาบันเอาไว้ได้ยืนยันความสงสัยของพวกเขา

 

“เร็วเข้า, ตอนนี้พวกเราจะตามมันไป!” นอริซ่า กำดาบของเขาแน่น

.

“ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก” นักเวทย์ พาร์สัน พูดขณะที่เขามองไปที่รถม้าและปราสาทที่ห่างไกล “นี่คือปราสาทครอบครัวของมันที่คนที่มันรักอาศัยอยู่ พวกเราต้องมอบความเจ็บปวดที่หนักหนาสาหัสที่สุดให้กับมันเพื่อแก้แค้นให้องค์หญิง พวกเราจะรอจนพลบค่ำก่อนที่พวกเราจะลอบเข้าไปในปราสาทและฆ่าสมาชิกในครอบครัวของมันต่อหน้ามัน จากนั้น, พวกเราก็จะเผาปราสาทครอบครัวของมันและทำลายทุกอย่างที่เป็นของมัน!”

 

“วิเศษมาก!” เฮเดล เลียริมฝีปากของเขาด้วยความพอใจ ดาร์คเอลฟ์ได้รับพรให้เป็นเด็กแห่งค่ำคืน ดังนั้นด้วยความที่เป็นนักฆ่า, เขาจึงเป็นผู้เก็บเกี่ยวในยามราตรี

 

รถม้าของ ลิงค์ มุ่งหน้าไปที่ปราสาทด้วยย่างก้าวที่มั่นคง ด้วยความที่ตระกูล โมรานี่ ไม่ได้เป็นที่รู้จักกันดี, หัวหน้าของครอบครัวนี้จึงได้เป็นลอร์ดมากว่า 300 ปี มีหลายความคิดที่ใส่เข้าไปในการก่อสร้างปราสาทตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้

 

บริเวณรอบปราสาทถูกล้อมรอบด้วยคูลึก 15 ฟุต ด้วยความที่มันตั้งอยู่บนพื้นที่สูง, จึงไม่มีน้ำอยู่ในคู แต่, คูก็ได้ถูกเติมหนามไม้เข้าไปแทน กำแพงปราสาทสร้างจากวัสดุหายากที่เรียกว่าหินดวงดาวเพื่อป้องกันอันตรายจากภายนอก กำแพงกับสะพานแขวนนั้นได้รับการเสริมด้วยรูนเวทย์มนตร์ ลิงค์ บอกได้ด้วยการมองเพียงปาดเดียวว่ารูนพวกนี้คือรูนต่อต้านเวทย์มนตร์และรูนเสริมความคงทน หลังจากเข้าไปในประตูปราสาท, ก็จะได้รับการต้อนรับจากจตุรัสที่เต็มไปด้วยอาวุธอย่างเช่นหน้าไม้, เครื่องเหวี่ยง และอุปกรณ์อื่นๆที่มีไว้ป้องกันปราสาท จตุรัสถูกล้อมเอาไว้ด้วยชั้นของกำแพงสูงและนำไปสู่ประตูลำดับที่สองของปราสาท

 

ถ้าศัตรูฝ่าการป้องกันชั้นที่หนึ่งเข้ามาได้, พวกมันก็จะติดกับอยู่ในจตุรัสและได้รับการต้อนรับด้วยห่าธนูแห่งความตายที่จะไม่มีใครหนีไปได้

 

ขณะที่เขาเฝ้าสังเกตุปราสาท, เขาก็รู้สึกว่าปราสาทเป็นเหมือนกับป้อมปราการสงคราม ถ้ามันได้กักตุนเสบียงอาหารเอาไว้อย่างเพียงพอและและมีผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้อยู่บ้าง, มันก็น่าจะถูกใช้เป็นฐานป้องกันได้อย่างน้อยหนึ่งปีครึ่ง

 

ตอนนี้, รถม้าได้มาถึงลานด้านในปราสาทแล้ว มีสวนเล็กๆอยู่ในลานที่ประดับด้วยพุ่มไม้ที่ตัดแต่งอย่างปราณีต สวนนี้ได้ปัดเป่าบรรยากาศที่มืดมิดและเปียกชื้นในปราสาท ประตูหลักของปราสาทตั้งอยู่ด้านหลังของลาน ลิงค์ เห็นคนสามคนยืนอยู่หน้าประตูหลัก, เฝ้ารอการมาถึงของเขา

 

มีผู้หญิงสองคนและผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงสองคนนั้นสวมเสื้อผ้าบางๆและขาดหลุดรุ่ย, ทำให้พวกเขาตัวสั่นเพราะความเย็นในหน้าหนาว พวกเขาถูมือของพวกเขาอย่างต่อเนื่องและย่ำเท้าของพวกเขาเพื่อรักษาความอบอุ่นของร่างกายของพวกเขาเอาไว้ ขณะที่ ลิงค์ เข้ามาใกล้, ใบหน้าของพวกเขาก็กระตุ้นความทรงจำของ ลิงค์ และเขาก็จำพวกเขาได้ในที่สุด

 

ผู้หญิงที่มีท่าทีกลุ้มใจและกังวลก็คือ ลิลิธ, แม่ของ ลิงค์ โมรานี่ ตัวจริง ส่วนผู้หญิงที่ดูกระเซอะกระเซิงที่อยู่ข้างๆเธอก็คือพี่สาวของเขา มอลลี่, และคนสุดท้ายที่มีผมสีขาวก็คือพ่อบ้านของตระกูล โมรานี่, เทรเวอร์

 

แม่อยู่ในประสาทหรอ? คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ย ลิงค์ คิด ส่วนพี่ชายคนโตของเขานั้น, เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาที่จะไม่ปรากฏตัวออกมาเนื่องจากนิสัยอันน่ารังเกียจของเขา ในทำนองเดียวกัน, พี่ชายลำดับสองของเขาก็เป็นอัศวินของอาณาจักรและอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ที่ป้อมเงินทางตอนเหนือ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะไม่อยู่แถวนี้เช่นกัน

 

รถม้าหยุดอยู่หน้าประตูหลัก ลิงค์ เปิดประตูและลงมาด้วยความสง่างาม

 

ลิงค์ ไม่ต้องการดูถูกสมาชิกในครอบครัวของเขา ดังนั้นเขาจึงสวมผ้าคลุมนักเวทย์สีเขียวขุ่นที่มีตราของสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟติดอยู่และมีแหวนสองวงอยู่บนนิ้วของเขา หนึ่งในพวกมันเป็นแหวนที่ออกแบบมาอย่างประณีตซึ่งได้ใส่เวทย์ป้องกัน, เอเดลไวส์ เอาไว้ ส่วนอันที่สองเป็นแหวนที่ได้รับมาจากกษัตริย์ที่ยืนยันสถานะของเขาในฐานะดยุค คทาคว้าดาวที่เขาจงใจถือเอาไว้ในมือก็ยังเปล่งแสงที่ดูลึกลับและสวยงามออกมาอย่างต่อเนื่อง

 

ซึ่งนี่ได้ผลอย่างมาก ดวงตาของ ลิลิธ เปล่งประกายในตอนที่เธอเห็นลูกชายของเขาในลักษณะนี้ เธอรู้สึกโล่งอกในทันที, สัญญาณของความหม่นหมองที่แสดงอยู่บนใบหน้าของเธอก่อนหน้านี้ได้สลายไป พี่สาวของเขา มอลลี่ เองก็ฟื้นกำลังใจขึ้นมาเล็กน้อย, พร้อมกับปิดปากด้วยความตกใจ พวกเขาคงจะคิดไม่ถึงว่าน้องชายที่ไม่ได้ความของพวกเขาจะเติบโตได้ขนาดนี้ ความดูถูกบนใบหน้าของ เทรเวอร์ เองก็ลดลงไปอย่างมาก, และกำลังเปลี่ยนเป็นความเคารพและความยำเกรง เขาโค้งคำนับแล้วพูด “นายน้อยสาม”

 

“ลิงค์, นี่นายจริงๆหรอเนี่ย?” มอลลี่ ไม่เชื่อสายตาของตัวเอง ตระกูล มอรานี่ มักจะเน้นความแข็งแกร่งทางร่างกายและเดินในเส้นทางของอัศวิน ดังนั้น, ลิงค์ ที่มีร่างกายผอมบางและอ่อนแอตั้งแต่เด็กจึงถูกรังเกียจ

 

อย่างไรก็ตาม, เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่เบื่องหน้าของพวกเขาในตอนนี้เป็นเด็กที่มีร่างกายสมส่วนและมีความมั่นใจ เขาสวมผ้าคลุมที่สง่างามและมีการวางตัวเฉกเช่นนักเวทย์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งนี่ตรงข้ามกับเจตคติที่เธอมีต่อน้องชายของเธอจริงๆ

 

“ผมเอง” ลิงค์ ยิ้ม แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงสองคนนี้, แต่ความทรงจำของ ลิงค์ โมรานี่ ตัวจริงก็ยังอยู่ในตัวเขา เขารู้สึกสนิทสนมอย่างบอกไม่ถูก

 

เขาเดินตรงไปและกอดพี่สาวกับแม่ของเขาตามลำดับ ในตอนที่เขากอดแม่ของเขา, ลิงค์ พบว่าผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้กำลังตัวสั่น จากนั้นเขาก็เห็นเธอและเห็นน้ำตาไหลลงมาที่แก้มของเธอขณะที่เธอจ้องเขาอย่างหนักหน่วง เธอคร่ำครวญ, “ดีจริงๆ, ในที่สุดลูกชายของฉันก็เติบโตแล้ว เขาดูน่าพึ่งพาจริงๆ”

 

ลิงค์ รู้สึกเจ็บแปลบในหัวใจของเขา เขาถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะเรียกสติกลับมา เขาหันไปหาคนขับรถม้าและยื่นเงินให้เขาห้าเหรียญทอง “อัล, ไปพักเถอะ คุณจะต้องอยู่ในปราสาทอีกสองสามวัน ขอโทษที่สร้างปัญหาให้คุณนะ”

 

ในตอนที่คนขับรถม้าเห็นเหรียญทอง, ดวงตาของเขาก็เปล่งประกาย ห้าเหรียญทองนั้นเทียบเท่ากับรายได้หกเดือนของเขา เขารู้สึกร่าเริงและพูดด้วยความตื่นเต้น “ขอบคุณครับ, ท่าน”

 

พ่อบ้าน เทรเวอร์ อ้าปากค้างในตอนที่เห็นภาพนี้, เขาให้ติ้ปคนขับรถม้าห้าเหรียญทองเลยหรอ?

 

ทั้งตระกูล มอรานี่ มีรายได้ต่อเดือนแค่ 700 เหรียญทอง ด้วยรายได้นี้, พวกเขาต้องแบ่งให้คนกว่า 300 คนในปราสาท รางวัลที่ใจกว้างที่สุดที่ดยุคเคยเสนอในปีที่ผ่านมาก็คือห้าเหรียญเงิน พอคิดว่า ลิงค์ เสนอให้มากกว่าจำนวนนั้นถึงสิบเท่า; มันจึงเหนือกว่าการคาดการณ์ของเขาในทุกๆทาง

 

ลมโชยยามฤดูหนาวทำให้หนาวสั่นจนยากจะทานทน ลิงค์ ไม่สามารถทนเห็นแม่กับพี่สาวของเขามีสีหน้าซีดเผือดเนื่องจากลมแรงได้ เขาจึงพูดออกมา “แม่ครับ, พี่ครับ, เข้าไปข้างในกันเถอะ”

 

“ก็ได้, ก็ได้” ลิงค์ จดจ่ออยู่กับลูกชายของเธอเพียงคนเดียว เธอจะทำตามทุกอย่างที่เขาพูด

 

สำหรับ มอลลี่ นั้น, เธอก็รู้สึกตกใจเช่นเดียวกันกับการกระทำที่ฟุ่มเฟือยของ ลิงค์ เบี้ยเลี้ยงตลอดทั้งปีของเธอได้แค่หกเหรียญทองเท่านั้น เธอยังจำได้ว่าเธอต้องยับยั้งชั่งใจในตอนที่เธออยากจะซื้อกระโปรงที่มีราคาหนึ่งเรียญทอง มันใช้เวลาถึงครึ่งเดือนกว่าเธอจะตัดสินใจได้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าน้องชายของเธอจะจ่ายติ้ปให้คนขับรถม้าเป็นจำนวนที่เกือบจะเท่าเบี้ยเลี้ยงทั้งปีของเธอ ช่างฟุ่มเฟือยอะไรอย่างนี้!

 

เธอตามหลัง ลิงค์ ไปติดๆด้วยท่าทีตกตะลึง, ดวงตาของเธอจ้องไปที่น้องชายของเธอตลอดเวลา

 

ระหว่างทาง, ลิงค์ พูดกับพ่อบ้าน “ฉันอยากไปพบพ่อของฉัน, พาฉันไปที่นั่นที”

 

เทรเวอร์ พูดไปตามสัญชาติญาณ “ตอนนี้ท่านดยุคมีร่างกายอ่อนแอ…ไม่อนุญาติให้เข้าเยี่ยมครับ”

 

นั่นเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความเป็นจริง แม้ว่าดยุคจะมีร่างกายอ่อนแอจริงๆ, แต่มันคือลูกชายคนโตของ ฮามิลตัน, คนที่จะได้รับตำแหน่งดยุคคนต่อไป, พาร์ตัน มอรานี่ ต่างหากที่สั่งห้ามไม่ให้นายน้อยสามเข้าเยี่ยมดยุคที่ป่วยหนัก

 

เหตุผลนั้นง่ายมาก เขากลัวว่ามรดกบางส่วนจะไปถึง ลิงค์ ด้วย

 

ในอดีต, เทรเวอร์ มักจะพูดเรื่องพวกนี้ด้วยความผ่อนคลาย แต่, ครั้งนี้ก่อนที่เขาจะพูดจบ, คำพูดของเขาก็ได้ถูกสายตาที่เย็นชาของ ลิงค์ ขัดขวางเอาไว้ ไม่มีอารมณ์อยู่ในดวงตาพวกนั้นเลยสักนิด เขารู้สึกกดดันในทันทีที่พวกมันจ้องมาที่เขา

 

เขาตื่นตระหนกและเหงื่อไหลออกมาจากหน้าผากของเขา เขาคร่ำครวญออกมาจากจิตใต้สำนึก, “นายน้อยสามครับ, นี่เป็นคำสั่งของพี่ชายขอบคุณครับ”

 

ลิงค์ เยาะเย้ย เขารู้ว่าจริงๆแล้ว วาร์ตัน กำลังวางแผนอะไรอยู่ มรดกของตระกูลมอรานี่มีน้อยมาตั้งแต่แรกแล้ว ถ้า วาร์ตัน ต้องแบ่งมรดกกับเขา ส่วนของ วาร์ตัน ก็คงจะน้อยลงอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม, ลิงค์ ไม่ได้สนใจในมรดกจิ๊บจ๊อยพวกนั้น

 

เขาพูดอย่างใจเย็น “ฉันขอพบพ่อของฉัน, ไม่ใช่พี่ชายของฉัน นำทางไป!”

 

“ครับ…” เทรเวอร์ พบว่าตัวเองยอมจำนนต่อเด็กหนุ่มคนนี้อย่างสมบูรณ์และขานรับในทันที ในตอนที่เขาพูด, เขารู้สึกหวาดกลัว ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่นายน้อมสามมีอำนาจขนาดนี้ นี่มันแปลกจริงๆ

 

ตอนนี้ที่เขาขานรับ, ไม่มีเหตุผลที่จะทำให้กระบวนการนี้ล่าช้าอีก เทรเวอร์ นำทางไปด้วยสีหน้าที่เจ็บปวด

 

ในตอนที่เขามาถึงบันได, ก็มีคนๆนึงปรากฏขึ้นที่ชั้นสอง น้ำเสียงดังมาจากตำแหน่งนั้น “น้องรัก, ในที่สุดนายก็กลับมาสักทีนะ ฉันคิดถึงนายมากเลยหล่ะ”

 

ลิงค์ เงยหน้าขึ้นไปและเห็นชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงเดินลงมาจากบันได

 

ชายคนนั้นอายุเข้าใกล้สามสิบแล้ว เขามีผมหยักศกสีน้ำตาลยาวถึงไหล่และหนวดเคราก็โกนอย่างเรียบร้อย เขามีหุ่นดีแล้วสวมผ้าคลุมสีดำใหม่เอี่ยมกับเสื้อกั๊กขนสัตว์คุณภาพดี รองเท้าของเขาทำมาจากหนังกวาง, และเครื่องประดับที่เขาสวมก็มีราคาแพงเป็นสองเท่าของที่แม่และพี่สาวของเขารวมกัน

 

ภาพของคนๆนี้ได้สร้างความกลัวในหัวใจของแม่และพี่สาวของเขา พวกเขาก้มหัวให้ในทันทีเหมือนกับกวางที่กำลังตัวสั่นเมื่อได้เผชิญหน้ากับสิงโต

 

นี่คือพี่ชายคนโตของ ลิงค์ โมรานี่ ตัวจริง, ผู้สืบทอดตัวจริง วาร์ตัน โมรานี่

 

เขาเดินลงบันไดอย่างช้าๆและสังเกตุ ลิงค์ ด้วยความสนใจอย่างมาก รอยยิ้มของเขากว้างขึ้นแล้วพูด “น้องรัก ดูเหมือนว่านายจะเรียนเวทย์มนตร์ไปได้ดีนะ ดูคทาที่งดงามนี้สิ, ขอฉันดูมันหน่อยนะ”

 

เขาทำการคว้าคทาจาก ลิงค์ โดยไม่ขอคำอนุญาติจากเขา นี่เป็นนิสัยเก่า น้องสามของเขาไม่เคยปฏิเสธคำขอของเขา

 

อย่างไรก็ตาม, นี่คือ ลิงค์ ในอดีต

 

การตามใจไอเวรนี่ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาในตอนนี้

 

มานาของ ลิงค์ ไหลออกมาจากคทา, ทำให้มันส่องแสงสว่างจ้า ภายใต้แสงที่ส่องประกายนี้, ลิงค์ มองพี่ชายจอมอวดดีของเขาแล้วพูด “นี่ไม่ใช่สิ่งที่นายจะจับได้นะ, วาร์ตัน”

 

คทาของนักเวทย์ก็เหมือนกับดาบของนักรบ มันไม่ควรอยู่ในการครอบครองของคนอื่น, ไม่แม้กระทั่งช่วงเวลานี้

 

ท่าทีของ วาร์ตัน เปลี่ยนไปในทันที ใบหน้าของเขาหม่นหมองและด้วยมือของเขาที่ยังยืดออกมาอยู่, ออร่าต่อสู้อันแข็งแกร่งก็ห่อหุ้มร่างกายของเขา เขาเดินหน้าต่อ “แล้วจะทำไม? น้องเล็กของฉันสูญเสียความเคารพทั้งหมดไปหลังจากที่ได้เรียนรู้เวทย์มนตร์มาบ้างหรอ?”

 

เขาเชี่ยวชาญในออร่าต่อสู้น้ำแข็งของตระกูล มอรานี่ และเป็นนักรบเลเวล 4 แล้ว เขามั่นใจว่าเขาคงจะถูกพิจารณาว่าเป็นศัตรูที่น่าเกรงขามแม้ว่าจะนำความแข็งแกร่งของเขาไปเปรียบเทียบกับทั้งอาณาจักรก็ตาม กลับกัน, น้องชายของเขาเพิ่งจะเรียนเวทย์มนตร์มาไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ

 

คนที่ฝึกฝนมาแค่ปีเดียวจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว? แสงจ้านั่นอาจจะเป็นแค่สิ่งที่เอาไว้โอ้อวดก็ได้

 

จากนั้นเขาก็ทำการตัดสินใจที่งี่เง่าอย่างมาก

 

จังหวะต่อมา, แสงสดใสก็ห่อหุ้มร่างกายของ ลิงค์ และเวทย์เอเดลไวส์เลเวล 4 ก็ถูกปล่อยออกมาในทันที ลิงค์ ควบคุมสนามพลังอย่างระมัดระวังและทำให้มั่นใจว่าจะไม่ทำให้แม่, น้องสาวและพ่อบ้านของเขาบาดเจ็บ อย่างไรก็ตาม, ในด้านของ วาร์ตัน นั้น, เขาได้เสริมความแข็งแกร่งให้สนามพลังอย่างจงใจ

 

ตูม! วาร์ตัน จับโดยไม่มีการป้องกันและร่างทั้งร่างของเขาก็ถูกดีดกลับ

 

“ไอลูกเมียน้อย! แกกล้าโจมตีฉันได้ยังไง!” วาร์ตัน เดือดดาล เขากุมบังเหียนในตระกูล โมรานี่ มาสองสามปีแล้ว แม้กระทั่งพ่อของเขาก็ยังไม่กล้าขัดใจเขา, ไม่ต้องพูดถูกน้องสามของเขาที่มักจะทำตัวว่าง่ายและอ่อนแออยู่เสมอ พอคิดว่าเขาสามารถตอบโต้ได้!

 

ความโกรธในตัวเขาก็ล้นออกมา เขาพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับระเบิดของออร่าต่อสู้ของเขา เขาต้องสอนบทเรียนของการไม่เชื่อฟังนี้กับน้องชาย!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset