ปราสาทตระกูล มอรานี่
ไคลน์ อยู่ในสภาพเศร้าโศกในตอนที่เขาเข้าออกมาจากห้องรับประทานอาหาร
แม้ว่าการเป็นอัศวินหลวงจะดูงดงาม, แต่อัศวินที่มีพื้นเพเป็นชนชั้นสูงก็ต้องให้ความสนใจกับชุดเกราะของตัวเอง เพื่อที่จะรักษาชื่อเสียงของตระกูล มอรานี่, ดยุคเก่าจึงใช้เงินก้อนใหญ่เพื่อชุดเกราะเวทย์มนตร์ของเขา
ในตอนที่เขาเริ่มใช้ชุดเกราะนี้, ไคลน์ ได้รับสายตาชื่นชมจริงๆ อย่างไรก็ตาม, ด้วยความที่ความสำเร็จทางการทหารของเขาไม่ได้โดดเด่นตลอดห้าปีมานี้, เขาจึงไม่ได้รับรางวัลใดๆจากการกระทำของเขาเลย, และด้วยเหตุนั้นเขาจึงยังสวมชุดเกราะชุดเก่าของเขา
รูปแบบเวทย์มนตร์บนชุดเกราะของเขาได้เสียประสิทธิภาพของมันไปนานแล้ว นอกจากนี้, ชุดเกราะก็ดูทรุดโทรมจากการซ่อมแซมและสงครามที่มันได้ผ่านมาตลอดหลายปีมานี้ ไคลน์ ดูไม่เหมือนกันอัศวินชนชั้นสูงเลยเมื่ออยู่ในชุดนี้
แต่ว่าเขาก็ยังต้องสวมมัน, ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเป้าหมายของการถูกหัวเราะเยาะ
ประสบการณ์หลายปีของเขาในสนามรบได้ทำให้เขาไม่สนใจสายตาและเสียงดูถูกพวกนี้ เขาปล่อยวางเรื่องพวกนั้น, เฝ้ารอการกลับบ้านโดยหวังว่าครอบครัวของเขาจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้น แต่เขาก็หารู้ไม่ว่าครอบครัวของเขาเองก็อยู่ในสถานการณ์วุ่นวาย
พี่ชายคนโตของเขาห่วงแค่มรดกและตำแหน่งของเขาเท่านั้น, ส่วนน้องเล็กของเขาก็กลายเป็นเด็กต่อต้านหลังจากได้เรียนรู้เวทย์มนตร์, น้องสาวของเขาก็เป็นคนไม่มีเหตุผลและพ่อของเขาก็นอนนิ่งอยู่บนเตียง เหตุการณ์โชคร้ายเหล่านี้ได้กดทับหัวใจของ ไคลน์ เหมือนกับหินก้อนใหญ่ เขาอยากจะหาอะไรบางอย่างที่เขาสามารถปลดปล่อยความเดือดดาลของเขาออกไปได้
เขากำลังมุ่งหน้าผ่านลานเพื่อไปยังจตุรัสชั้นนอกและจากนั้นก็ปีนกำแพงปราสาทไป ตอนนี้หิมะกำลังตก, ทำให้บรรยากาศหนาวเย็น หากมองจากจุดที่สูงที่สุดของเมือง, จะสามารถมองเห็นภาพพาโนราม่าของประเทศปักเป้าได้
ไคลน์ สูดหายใจเข้าลึกๆและรู้สึกดีขึ้นในทันที
ในตอนนั้น, เขาเห็นม้าสองตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางปราสาทอยู่ไกลๆ ใครมาเยี่ยมในเวลาแบบนี้กัน? เขาคิดในใจ, บุคคลทั้งสองนั้นมาถึงสะพานแขวนอย่างรวดเร็ว
“เปิดประตู, พวกเราคือทูตพิเศษจากกษัตริย์ ลีออน พวกเรามาที่นี่เพื่อมาพบนักเวทย์ ลิงค์” เสียงดังมาจากสะพานแขวนที่อยู่ข้างล่าง
การ์ดประจำปราสาทมอง ไคลน์, รอคำอนุมัติจากเขา
ขณะนั้น ไคลน์ กำลังสงสัยอยู่, พวกเขามีแค่สองคน, นอกจากนี้, พวกเขาก็รู้จัก ลิงค์ และบอกว่าเป็นทูตของกษัตริย์ ลีออน การปล่อยพวกเขาเข้ามาไม่น่าจะเป็นอันตรายนะ และถ้าพวกเขาโกหก, ทหารกว่า 200 คนในปราสาทก็คงจะพอที่จะมอบบทเรียนที่น่าจดจำแก่พวกเขานะ
“เปิดประตู” ไคลน์ สั่ง
ด้วยเสียงครืนของล้อ, สะพานแขวนก็ลงมาอย่างช้าๆ สองคนนั้นรอสะพานลงมาอย่างอดทนก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้ามาในปราสาท
เสียงกระทบกันของกรีบม้าชัดเจนขึ้นขณะที่พวกเขาเดินบนสะพานเข้ามาในปราสาท ทุกๆอย่างดูไปได้ดี
ทั้งสองมาถึงเครื่องยึดสะพานแขวนอย่างรวดเร็ว
และในตอนนั้น, ทุกๆอย่างก็เปลี่ยนไป
แท่งไม้ปรากฏขึ้นมาในมือของหนึ่งในสองคนนั้นอย่างกระทันหัน แล้วเขาก็ชี้มันไปที่เครื่องยึด, เฟืองที่อยู่รอบมันก็แตกกระจาย ตอนนี้สะพานแขวนได้ถูกปิดแล้ว!
เขาเป็นนักเวทย์ เขาทำลายสะพานด้วยเวทย์มนตร์ของเขา!
ไคลน์ รู้สึกหวาดกลัวและชักดาบของเขาออกมาทันที, พร้อมกับตระโกนออกมา “มีผู้บุกรุก!”
ประสบการณ์การต่อสู้หลายปีของเขาได้บอกเขาว่านักเวทย์เป็นคู่ต่อสู้ที่จัดการยากที่สุด เพราะเราต้องห้ามเสียสมาธิในตอนที่ต่อสู้กับพวกเขา เพื่อที่จะให้ได้ชัยชนะมา, เราควรจะวางแผนลอบโจมตีหรือรอจนกว่าเขาจะเหนื่อยจนหมดแรง ซึ่งตอนนี้การลอบโจมตีคงเป็นไปไม่ได้, พวกเขาต้องเลือกอย่างหลัง
เขาสั่งในทันที “ยิงธนูซะ! ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ศัตรูอยู่ที่จตุรัส, ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงสูงของปราสาท มีทหารไม่ต่ำกว่า 50 คนอยู่บนกำแพงปราสาทกำลังสาดลูกธนูลงมาใส่พวกเขา ซึ่งนี่สร้างความเสียหายกับศัตรูได้บ้างอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่ ไคลน์ สั่ง, หนึ่งในสองคนนั้นก็ถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีน้ำเงินอย่างกระทันหัน แสงนี้แปลกประหลาดมาก มันเริ่มเป็นสีอ่อนๆขณะที่กำลังห่อหุ้มนักเวทย์ก่อนที่จะขดออกไปในรัศมี 15 ฟุต ที่ระยะ 15 ฟุต, แสงยังคงสม่ำเสมอและรูปแบบลึกลับมากมายก็สามารถมองเห็นได้ว่ามันกำลังไหลเวียนอยู่ในโดมแสง รูปแบบเหล่านี้คล้ายกับหนามแต่มันประณีตและลึกซึ้งกว่า
ในตอนที่แสงปรากฏขึ้น, บุคคลทั้งสองก็เร่งความเร็วและพุ่งผ่านจตุรัสที่มีระยะ 90 ฟุตได้ในหนึ่งวินาที ในชั่วพริบตา, พวกเขาก็มาถึงประตูที่นำไปสู่ลานปราสาท
ความเร็วนั้นเร็วมากจนพวกเขาสามารถหลบลูกธนูที่ทหารยิงมาได้ทั้งหมด ประตูด้านในที่นำไปสู่ลานปราสาทยังเปิดกว้างเพราะพวกเขาไม่มีเวลาปิดมัน
สายตาของ ไคลน์ เบิกกว้างพอได้เห็นภาพนี้และดูไม่เชื่อสายตา “มันคือออร่าหนามสีคราม!”
ออร่าหนามน้ำแข็งครามนั้นเป็นรูปแบบในตำนานที่มีต้นกำเนิดมาจากหนังสือ, กลยุทธ์การต่อสู้แห่งหนามสีคราม มันเป็นความลับทางการค้าของดาร์คเอลฟ์ซิลเวอร์มูน, โดยเฉพาะในตระกูลนอริแกน
ออร่าต่อสู้นี่ทรงพลังมากๆและจะล้อมรอบผู้ใช้ด้วยรัศมีของหนาม รัศมีนี้มีสองฟังก์ชัน: หนึ่งคือเพิ่มความเร็วของผู้ใช้และพรรคพวกอย่างมหาศาล, ขณะที่อีกอย่างก็คือปัดการโจมตีของศัตรู
นักรบที่เชี่ยวชาญรูปแบบการต่อสู้นี้จะสามารถเผชิญหน้ากับนักรบอื่นห้าคนที่อยู่เลเวลเดียวกันได้โดยปราศจากความพ่ายแพ้ ยิ่งผู้ใช้มีพรรคพวกมากเท่าไหร่, ออร่าต่อสู้ก็จะยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น ถ้ามีอัศวินในทีมที่มีออร่าต่อสู้นี้, พละกำลังในการต่อสู้ของทั้งกองทหารจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
นั่นคือเหตุผลที่ทำไมกลยุทธ์การต่อสู้แห่งหนามสีครามถึงถูกระบุให้เป็นหนึ่งในสิบของหนังสือออร่าต่อสู้ในตำนานของทวีปฟิรุแมน
มันมีข่าวลือว่ามีออร่าต่อสู้นี้หลายเวอร์ชัน อย่างไรก็ตาม, พวกมันทั้งหมดได้แบ่งความคล้ายคลึงกันซึ่งนั่นก็คือออร่าต่อสู้นี้ไม่ใช่ใครก็ใช้ได้ นี่เป็นเรื่องจริงแม้กระทั่งเวอร์ชันที่พื้นฐานที่สุด ถ้าทหารไม่มีพรสวรรค์พอ, การฝืนใช้ออร่าต่อสู้นี้กับตัวเองไม่ใช่แค่จะไม่ได้ผลเท่านั้น, แต่ยังสร้างความเสียหายในบางกรณีด้วย มันบอกได้เลยว่าแม้กระทั่งลูกสาวคนโตของตระกูลนอริแกนก็ยังตัดการเรียนรู้ออร่านี้ออกไป
คนที่อยู่เบื้องหน้าเขามีพรสวรรค์ที่ไม่ธรรมดาจริงๆถึงสามารถเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้นี้ได้
ไคลน์ รู้สึกหนาวไปถึงสันหลังในตอนที่เขาได้รับรู้ถึงออร่าต่อสู้นี้ “สองคนนี้เป็นดาร์คเอลฟ์อย่างแน่นอน แต่ทำไมดาร์คเอลฟ์ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ถึงมาปรากฏตัวในประเทศปักเป้าหล่ะ?”
เขามีลางสังหรว่าตระกูล มอรานี่ จะไม่สามารถหนีไปจากความฉิบหายที่กำลังจะมาถึงของพวกเขาได้
ในตอนที่ความคิดนี้แล่นเข้ามาในหัวของเขา, เสียงร้องตีโพยตีพายก็ดังก้องไปทั่วปราสาท ไคลน์ สบัดหัวของเขาและเห็นเงากำลังเคลื่อนไหวผ่านหมอกไปด้วยความเร็วที่ไม่สามารถจินตนาการได้ ในตอนที่เขากวาดผ่านทหารหนึ่งคน, ทหารคนนั้นจะจับคอหรือหัวใจของเขาด้วยสีหน้าเจ็บปวดก่อนที่จะล้มลงไป แม้ว่าจะขาดแสงสว่าง, แต่ ไคลน์ ก็ยังเห็นเลือดอุ่นๆไหลออกมาจากบาดแผลอย่างชัดเจน
“มันคือนักฆ่า!” มันสายเกินไปแล้วที่จะหยุดสองคนที่บุกผ่านจตุรัสมา เขาตะโกนเรียกและวิ่งไปทางนักฆ่า
ทั้งตระกูลของเขาจะถูกฆ่าถ้าเขายังไม่เข้าไปต่อสู้!
เขาปล่อยออร่าต่อสู้ของเขาออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่นักฆ่าภายในสามครั้ง
ในขณะนี้, เขาเห็นออร่าสีดำกำลังห่อหุ้มนักฆ่าเอาไว้, มือทั้งสองข้างเลอะไปด้วยสีแดงจากชีวิตนับไม่ถ้วนที่เขาพรากมา ในตอนที่ ไคลน์ มาถึงเขา, เขาพึ่งจะเอามีดออกมาจากหัวใจของทหารคนนึง เลือดพุ่งออกมาเป็นระยะสามฟุตและเลือดบางส่วนก็กระเซ็นใส่ใบหน้าของเขา เขาเลียเลือดบนหน้าของเขาด้วยสายตากระหายเลือด
“ไปลงนรกซะ!” ไคลน์ ตะโกนและเหวี่ยงดาบของเขา
ไม่มีการปะทะกัน นักฆ่าว่องไวอย่างมากและสามารถหลบการโจมตีของเขาได้อย่างสบายๆ จากนั้นเขาก็พุ่งไปข้างหน้า, เล็งมีดของเขาไปที่หัวใจของ ไคลน์
ไคลน์ ตอบสนองด้วยดาบของเขาในทันทีเพื่อป้องกันตัวเอง
การปะทะยังไม่เกิดขึ้น นักฆ่าควงมีดในระหว่างการโจมตีและ ไคลน์ ก็รู้สึกว่าโดนกระแทกที่หลังคอของเขา เขารู้สึกหน้ามืดและสูญเสียพละกำลังทั้งหมดไปทันที, เขาเดินซวนเซไปข้างหน้าอีกสองสามก้าวก่อนที่จะล้มลงกับพื้น
เสียงแหบแห้งดังขึ้นข้างหลังเขา “แกได้ตายแน่, แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
เพื่อที่จะแก้แค้นแทนเจ้าหญิงให้สาสม, เขาจะฆ่าสมาชิกในครอบครัวของนักเวทย์ต่อหน้าต่อต่าเขา!
ไคลน์ หวาดกลัว เขารู้สึกอ่อนแออย่างมาก, มากจนถึงขนาดที่เขาไม่สามารถกระดิกนิ้วได้ด้วยซ้ำ ซึ่งนี่น่าจะเป็นผลมาจากออร่าต่อสู้ของฝ่ายตรงข้าม, ซึ่งทำลายการทำงานในร่างกายของเขา
เขาทำได้แค่นอนอยู่บนพื้นอย่างหมดหนทางขณะที่เขาเฝ้ามองนักฆ่ากำลังฆ่าล้างบางพวกทหาร แล้วเขายังเห็นคนสองคนที่บุกผ่านจตุรัสมาด้วย
พวกเขาไปถึงลานหน้าปราสาทแล้ว, และเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวก็ดังขึ้นจนสามารถได้ยินได้ พวกเขาเลือดเย็นและมีความสามารถมาก, ซึ่งหลักฐานก็มาจากความถี่ของเสียงร้อง
ไคลน์ ตัวสั่นเทาในตอนที่เขาคิด, พวกมันมาที่นี่เพื่อตามหาน้องสาม แต่ว่าน้องเราไปยั่วยุตระกูลซิลเวอร์มูนยังไงกัน? พอคิดว่าเขาดึงดูดศัตรูที่แข็งแกร่งขนาดนี้มา หรือนี่จะเป็นจุดจบของตระกูล มอรานี่?
…
ห้องรับประทานอาหาร
ลิงค์ กับ วอร์ตัน ยืนขึ้นในทันทีที่ได้ยินเสียงเตือนภัย
วาร์ตัน ตะโกน “เอาดาบของฉันมา!”
เขาเป็นนักรบเลเวล 4, คู่ต่อสู้ที่ทรงพลังตามมาตรฐานทั่วไป ถ้ามีใครอวดดีพอที่จะโจมตีปราสาทของเขา, พวกมันก็จะต้องทนรับความหนักหน่วงของดาบของเขา
คนใช้เอาดาบมาให้เขาในทันที มันเป็นดาบที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตซึ่งประดับด้วยทับทิมที่มีขนาดเท่ากับไข่นกพิราบ
วาร์ตัน วิ่งออกไปนอกปราสาทอย่างกล้าหาญในตอนที่เขาได้ดาบ
ลิงค์ รู้สึกแปลกๆ จำนวนที่น่ากลัวของเสียงร้องได้บ่งบอกว่าศัตรูนั้นแข็งแกร่ง จากนั้น ลิงค์ ก็หันไปและสั่งพ่อบ้าน เทรเวอร์ “พาแม่กับพี่ไปที่ห้องเก็บไวน์”
เทรเวอร์ ตอบกลับไปอย่างลังเล “ได้ครับ”
ลิลิธ ส่งสายตาเป็นห่วงไปยังลูกชายของเขาแล้วพูด “แล้วลูกหล่ะ?”
“มีผู้บุกรุกเข้ามา แน่นอนว่า, ผมต้องจัดการกับพวกมัน ไม่ต้องห่วงนะครับแม่, พวกมันไม่แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะผมได้หรอก”
“แต่นายเพิ่งเรียนเวทย์มนตร์มาได้แค่ปีเดียวเองนะ” มอลลี่ ยังพอมีความรู้ ตามมาตรฐานทั่วไปแล้ว, หนึ่งปีแทบจะไม่พอที่จะวางรากฐานสำหรับการฝึกฝนเวทย์มนตร์
“หยุดพล่ามได้แล้ว! เร็วเข้า! รีบไปเร็ว!” ใบหน้าของ ลิงค์ ตึงเครียด
ขณะที่ผู้หญิงทั้งสองพูดจาค่อนข้างเบาและอ่อนโยน, พวกเขาก็ตกอยู่ในแรงกดดันของ ลิงค์ ในทันทีและตามพ่อบ้านไปยังห้องเก็บไวน์อย่างเชื่อฟัง
อย่างไรก็ตาม, พวกเขาเดินไปได้แค่ไม่กี่ก้าวก่อนที่เสียงร้องจะดังขึ้นที่ทางเข้าห้องรับประทานอาหาร ตามมาด้วย, คนๆนึงที่ลอยเข้ามาในห้อง เหตการณ์ที่ไม่คาดคิดนี้ได้ทำให้ผู้หญิงทั้งสองกรีดร้องออกมาจากจิตใต้สำนึก
ลิงค์ จ้องไปที่คนๆนั้นและรู้สึกประหลาดใจที่พบว่ามันคือ วาร์ตัน
ผ้าคลุมอันงดงามที่เขาสวมอยู่ในตอนนี้ขาดรุ่งริ่ง เขาได้รับบาดแผลมากมายบนแขนและขาของเขาและโชกไปด้วยเลือด ทุกๆการโจมตีดูเหมือนว่าจะเล็งไปที่เส้นเลือดแดงของเขาอย่างแม่นยำ, ทำให้เลือดจำนวนมหาศาลไหลออกมาจากบาดแผล เขานอนบนพื้นอย่างหมดหนทางและคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด
ลิงค์ ขมวดคิ้วและเรียกคทาของเขาออกมาก่อนที่จะมุ่งหน้าออกไปจากห้องรับประทานอาหาร
คนสองคนปรากฏตัวที่ประตูหน้า ถ้าระบุให้ชัดกว่านี้, มันคือดาร์คเอลฟ์สองคน, หนึ่งในพวกเขาเป็นนักรบ, ขณะที่อีกคนเป็นนักเวทย์ ดาบของนักรบเลอะไปด้วยเลือด ดูเหมือนว่าบาดแผลของ วาร์ตัน จะได้รับมาจากเขาเพียงผู้เดียว
“หนีไปซะ! พวกมันแข็งแกร่งมาก!” วาร์ตัน ตะโกน ดูเหมือนว่าเขาจะยังมีจิตสำนึกอยู่ในเวลาฉุกเฉิน
ลิงค์ ทำเป็นว่าเขาไม่ได้ยิน วาร์ตัน พอสัมผัสได้ว่าไม่มีความกระหายที่จะโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม, ลิงค์ ก็เลยยังนั่งอยู่ในตำแหน่งของเขาและวางคทาคว้าดาวของเขาเอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นเขาก็พูดอย่างเย็นชา “แขกที่น่ารังเกียจสองคนหรอ, เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะย้ายครอบครัวของฉันไปยังที่ที่ปลอดภัยกว่านี้?”
แน่นอนว่าดาร์คเอลฟ์มาที่นี่ก็เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสามทหารเสือของ ซิลเวอร์มูน การต่อสู้นี้จะไม่จบจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะถูกกำจัดไปจนหมดสิ้น จากวิธีที่พวกเขาใช้ในการสร้างความเจ็บปวดแก่ วาร์ตัน, พวกเขาคงจะเก็บซ่อนความเกลียดชังที่มีต่อ ลิงค์ เอาไว้อย่างรุนแรงและมีความมั่นใจในความสามารถของพวกเขาอย่างมหาศาล
ในเมื่อเขาเป็นเป้าหมายของพวกเขา, ฝ่ายตรงข้ามก็น่าจะให้ความสนใจกับเขาเป็นลำดับแรก ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญถ้าครอบครัวของเขาจะถูกย้ายไปยังตำแหน่งที่ปลอดภัยกว่าจนกว่าเขาจะแพ้
ซึ่งแน่นอนว่า, ดาร์คเอลฟ์นักรบพยักหน้า “ได้สิ แต่, พวกมันไม่สามารถออกไปจากห้องนี้ได้ พวกเราต้องให้พวกมันได้เห็นภาพอันน่าสรรเสริญของการตายของแก”
ลิงค์ ยังคงรักษาสีหน้าที่เยือกเย็นเอาไว้และโบกมือเรียกคนใช้ที่กำลังสั่นอยู่ข้างหลังเขา “ช่วยพยุงนายท่านขึ้นและทำแผลให้เขาที”
คนใช้ทำตามที่ถูกบอกมาในทันที
ในตอนนี้, ดาร์คเอลฟ์อีกคนก็ปรากฏขึ้นที่ทางเข้าห้อง ดาร์คเอลฟ์คนนี้เป็นนักฆ่าและกำลังแบกคนอยู่ในมือของเขา มันคือพี่สองของเขา ไคลน์
จากนั้น ลิงค์ ก็ชี้ไปที่เขาแล้วพูด “ให้เขาได้เห็นการต่อสู้จากขอบสนามนะ”
นักฆ่ามองพรรคพวกของเขาด้วยสีหน้าสับสน จากนั้น พาร์สัน ก็พูดออกมา “โยนหมอนี่ไปตรงมุมนั่น ให้มันได้ใช้พละกำลังของมันอย่างเต็มที่”
เป้าหมายของพวกเขาคือเอาชนะ ลิงค์ แม้ว่าจะอยู่ในตอนที่เขาทุ่มสุดตัว มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาได้รับความสิ้นหวังที่แท้จริง
เฮเดล พยักหน้าและโยน ไคลน์ ไปไกลกว่า 60 ฟุตด้วยการโยนแค่มือเดียว, เขาลอยไปยังกำแพงที่อยู่ด้านในของห้องโถงด้านใน
พอไม่มีข้อจำกัด, ลิงค์ ก็สามารถต่อสู้ได้อย่างสบายในที่สุด