แม้ว่าเขาพร้อมที่จะลงมือแล้ว แต่ ลิงค์ ก็ยังคงเลือกเวลาที่เหมาะสมอย่างระมัดระวัง
เขามีรอยยิ้มจางๆในขณะที่นั่งอยู่บนโต๊ะอย่างใจเย็น มันดูไม่เหมือนกับคนที่เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เสี่ยงตายเลย หลังจากที่บาดแผลของ ไคลน์ ถูกรักษาอย่างเหมาะสมจากคนใช้ ลิงค์ ก็ยื่นมือของเขาออกมาเคาะลงไปที่โต๊ะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปทางดาร์กเอลฟ์
“สุภาพบุรุษทุกท่าน” ลิงค์ พูด อย่างช้าๆและชัดเจน “ขอฉันทราบชื่อของคนที่พวกนายจะแก้แค้นแทนหน่อยได้ไหม? เฟลิเดีย? ไอโนส? หรือว่านักดาบ อลิน่า?”
เห็นได้ชัดว่าดาร์กเอลฟ์ทั้งสามมีปฏิกิริยากับชื่อสุดท้าย นักรบ โนริซ่า ก้าวออกมาข้างหน้าในทันทีพร้อมกับดาบที่เปล่งแสงสีน้ำเงินเข้ม และออร่าต่อสู้หนามสีครามก็ถูกใช้อยู่เช่นกัน
“ฟังให้ดีๆนะ ไอสารชั่ว” เขาพูด “พวกเรามาแก้แค้นให้กับนายหญิง อลิน่า!”
“อ้า งั้นพวกนายก็คือหน่วยพิเศษของเจ้าชาย นอริแกน นั่นเอง” ลิงค์ ตอบ “ช่างมันละกัน เตรียมตัวตายได้แล้ว!”
ในตอนนั้นเอง ลิงค์ ก็ได้เปิดการโจมตี! นกหวีดทั้ง 3 ปรากฏขึ้นเล็งไปที่ดาร์กเอลฟ์ทั้งสามในทันที ลิงค์ ได้แอบสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ของเวทย์นกหวีดอย่างเงียบๆในระหว่างที่เขาคุยกับดาร์กเอลฟ์เพื่อถ่วงเวลา เขาไม่เพียงแค่ร่ายนกหวีด 1 อันภายในเวลาอันสั้นเท่านั้น แต่เขายังร่ายหนึ่งอันต่อดาร์คเอลฟ์หนึ่งคนด้วย!
ในตอนนั้นคทาของเขายังคงวางอยู่บนโต๊ะเฉยๆ-แน่นอน ใครบอกกันหล่ะว่านักเวทย์จะต้องถือคทาอยู่ในมือเพื่อที่จะร่ายเวทย์? ลิงค์ สามารถควบคุมมันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้มานาของเขาโดยไม่ต้องแตะมันโดยตรงเลยด้วยซ้ำ
นกหวีดทั้งสามพุ่งผ่านอากาศด้วยเสียงแหลมสูง ความเร็วของพวกมันนั้นไม่สามารถประเมิณได้ มันเร็วมากจนมันอยู่ห่างจากพวกดาร์กเอลฟ์ทั้งสามแค่ไม่ถึงฟุตภายในเวลาเสี้ยววินาที
ลิงค์ ได้ร่ายนกหวีดเวอร์ชั่นปรับปรุงที่เขากับ เอเลียร์ด ได้คิดค้นมันขึ้นมาร่วมกัน พลังของนกหวีดในเวอร์ชั่นใหม่นั้นมีพลังมากกว่าในรูปแบบปกติถึง 3 เท่า
ดาร์กเอลฟ์ทั้งสามไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะโดนโจมตีอย่างเฉียบพลัน พวกเขาทั้งหมดนั้นไร้การป้องกันและไม่มีเวลาแม้แต่จะโต้กลับ ทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือการกางโล่ป้องกัน
แม้ว่าออร่าหนามสีครามของ โนริซ่า จะสามารถปัดป้องการโจมตีได้บางส่วน แต่มันก็ใช้ได้ดีกับการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้นและไม่ใช่กับการโจมตีระยะไกลอย่างเช่นเวทย์ของ ลิงค์ ดังนั้นเขาจึงยกดาบขึ้นมาป้องกันนกหวีดที่กำลังพุ่งเข้ามาตามสัญชาติญาณ
อีกด้านหนึ่ง นักเวทย์ พาร์สัน เขาได้ร่ายเวทย์โล่เลเวล 4 รอบตัวเขาในทันทีเพื่อป้องกันตัวเอง
มีเพียงนักฆ่า เฮเดล เท่านั้นที่คิดว่าเขาจะฉลาดพอที่จะหลบการโจมตีของ ลิงค์ ได้ เขาเคลื่อนที่พริบตาไปด้านข้าง โดยหวังว่าจะหลบไปจากนกหวีดของ ลิงค์ ได้
ปัง! ปัง! ปัง!
นกหวีดทั้งสามระเบิดออกแทบจะพร้อมกันและมันก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ว่าแต่, ใครกันหล่ะที่เป็นคนร้อง? นั่นไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากดาร์กเอลฟ์เพียงคนเดียวที่มั่นใจในความสามารถของตัวเองว่าเขาจะสามารถหลบการโจมตีของ ลิงค์ ได้- เฮเดล
ใช่แล้ว เฮเดล เป็นนักฆ่าเลเวล 5 และเขาก็รวดเร็วมากๆ แต่เขาก็ยังเร็วไม่พอเมื่อเทียบกับความเร็วในการตอบสนองของ ลิงค์
ในตอนแรก ลิงค์ นั้นได้เล็งเป้าหมายของนกหวีดแต่ละอันไปที่ดาร์กเอลฟ์แต่ละคนในตอนที่เขาร่ายเวทย์ และพวกเขาทั้งสามก็รู้สึกถึงจิตสังหารของ ลิงค์ พวกเขาจึงเริ่มที่จะทำการป้องกันตัวเอง แต่ในตอนที่พวกดาร์กเอลฟ์เริ่มทำการป้องกันตัวนั่นเองที่ ลิงค์ ได้เปลี่ยนเป้าหมายของนกหวีดทั้งสามในตอนสุดท้าย-เขาเล็งพวกมันทั้งหมดไปที่คนที่มีการป้องกันอ่อนแอที่สุด เฮเดล
ลิงค์ จำได้ว่ากลยุทธ์สงครามที่เป็นที่รู้จักกันดีในชีวิตก่อนของเขาบอกไว้ว่า คุณจะต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ศัตรูคิดไว้เสมอเพื่อที่จะชนะสงครามหรือการต่อสู้ เขาได้ใช้หลักการนั้นเมื่อสักครู่เพื่อที่จะโจมตีดาร์กเอลฟ์โดยที่ไม่ทันตั้งตัว
ลิงค์ อาจจะไม่ชำนาญพอที่จะทำแบบนี้กับเวทย์อื่นในตอนนี้ แต่เขานั้นได้ใช้เวทย์นกหวีดมาเป็นเวลานานจนเขาเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งแล้ว
ลิงค์ ไม่ได้สั่งให้นกหวีดทั้ง 3 ไล่ตาม เฮเดล ไป แต่เขากลับสั่งมันไปยังทิศทางที่เขาคาดว่า เฮเดล จะพุ่งไปแทนและเขาก็ระเบิดมันที่นั่น!
เป็นเวลาชั่วขณะนึงที่ทั้งห้องโถงสว่างไปด้วยเปลวเพลิงจากการระเบิดและเศษเหล็กทั้งหลายก็กระจายไปรอบตัวของ เฮเดล, เฮเดล นั้นได้สวมชุดเกราะหนังป้องกันเวทมนตร์แบบบางซึ่งมันปกป้องเขาจากแรงระเบิดส่วนใหญ่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ปกป้องเขาจากเศษเหล็กนับไม่ถ้วนที่เกิดจากการระเบิดเลย
เศษเหล็กนับพันเจาะทะลุผ่านเกราะของ เฮเดล และผิวหนังของเขา ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะในขณะที่หน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดจากบาดแผล ไม่เพียงแค่มีเลือดไหลออกจากตัวเขาในทุกส่วนเท่านั้น แต่ดวงตาทั้งสองข้างของเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปกับรู 2 รูที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
อย่างที่คิดไว้ นักฆ่าเลเวล 5 มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง แม้ว่าบาดแผลของเขาจะร้ายแรงมาก แต่ เฮเดล ก็ยังสามารถยื้อชีวิตและรอดพ้นความตายมาได้ เขายังคงยืนได้อยู่แม้ว่าในตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจะบอดไปแล้ว ลิงค์ น่าจะไม่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากเขาแล้วนับจากนี้ และเขาก็หายใจได้สะดวกขึ้นเล็กน้อยเพราะศัตรูที่อันตรายได้ถูกจัดการไปแล้ว 1 ใน 3คน
ในตอนนั้นเองนักเวทย์ พาร์สัน และนักรบ โนริซ่า ก็เริ่มโต้กลับ
แม้ว่าพวกเขาจะอึ้งไปซักพักจากการโจมตีที่ไม่คาดฝันของ ลิงค์ แต่พวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือ เฮเดล หลังจากที่พวกเขารู้สึกตัวว่าโดน ลิงค์ หลอกแล้ว พวกเขาก็เปลี่ยนเข้าสู่โหมดจู่โจมและพุ่งเข้ามาหา ลิงค์ ในทันที
โนริซ่า ใช้สกิลต่อสู่เพื่อพุ่งเข้ามาหา ลิงค์ เขาไม่ได้มีโล่อยู่กับตัว แต่ว่าเขาสวมเกราะโซ่แบบเบาไว้และมีการป้องกันจากออร่าหนามสีคราม ในตอนนั้น เขาเหมือนกับรถศึกสงครามที่ทะลวงผ่านทุกอย่างที่อยู่ในเส้นทางของเขา-โต๊ะ, เก้าอี้และแผ่นไม้บนพื้นทุกอย่างกลายเป็นชิ้นๆในเส้นทางที่เขาผ่าน
เขาอยู่ห่างกับ ลิงค์ เพียงแค่ประมาณ 70 ฟุต-ด้วยความเร็วขนาดนี้ แม้ว่าจะมีเครื่องเรือนของห้องโถงอยู่ในทางของเขา แต่ โนริซ่า ก็สามารถไปถึงตัว ลิงค์ ได้ในเวลาไม่ถึงวินาที
ในขณะเดียวกัน พาร์สัน ก็ได้ถอยไปอยู่ข้างหลังนักรบ โนริซ่า จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ ด้วยความช่วยเหลือจาก โนริซ่า เขาน่าจะมีเวลามากพอที่จะร่ายเวทย์อันทรงพลังได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้เวทย์เลเวล 3 หอกน้ำแข็ง!
เขานั้นคุ้นเคยกับเวทย์นี้มากที่สุด ดังนั้นเขาจึงสามารถร่ายมันได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 0.4 วินาที แถมเขายังปรับปรุงมันด้วยเวทย์ระดับสูงสุดด้วย ดังนั้นพลังของมันจึงเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 4 ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้
ในการเผชิญหน้ากับการโต้กลับของดาร์กเอลฟ์ทั้งสอง ลิงค์ ได้ทำ 2 อย่าง
อย่างแรกคือ เขาเปิดใช้งานเอเดลไวซ์ด้วยแหวนเวทมนตร์ของเขา เวทย์ป้องกันเลเวล 4 นี้ไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่ ลิงค์ ได้เปิดใช้งานมันไว้ก่อนเผื่อในกรณีฉุกเฉิน แม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของดาร์กเอลฟ์ได้ทั้งหมด แต่สนามพลังก็น่าจะทำให้มันช้าลงและลดพลังการทำลายของมันลงได้ถ้าเกิดว่ามันผ่านโล่มาได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เขามีเวลาในการตอบโต้เพิ่มขึ้น
อย่างที่สอง เขาได้เปิดใช้งานเวทย์เลเวล 5 ที่เขาสลักเอาไว้ในอักขระวิญญาณ-หัตถ์วัลแคน!
นี่เป็นครั้งแรกที่ ลิงค์ ใช้อักขระวิญญาณในการต่อสู้จริง มันรู้สึกมหัศจรรย์มาก ในตอนที่เขาคิดที่จะร่ายเวทย์ มันก็โผล่เข้ามาในจิตใจของเขาทำให้เขาตกใจอยู่พักนึงและโครงสร้างเวทมนตร์อันซับซ้อนของหัตถ์เปลวเพลิงที่ได้ถูกดัดแปลงโดยเวทย์ระดับสูงสุดก็ปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของเขาในทันที
โดมิงโก้คริสตัลเลเวล 5 ที่อยู่ที่ปลายคทาของ ลิงค์ นั้นเต็มไปด้วยธาตุไฟข้างใน หลังจากที่โครงสร้างเวทมนตร์ของหัตถ์วัลแคนปรากฏขึ้นข้างๆมันธาตุไฟที่อยู่ภายในคริสตัลก็ได้ไหลเข้าไปในโครงสร้างเวทมนตร์อย่างรวดเร็ว และภายในชั่วพริบตา เวทมนตร์เลเวล 5 อันน่าสะพรึงกลัวก็เสร็จสมบูรณ์ มันใช้เวลาของ ลิงค์ ไปไม่ถึง 0.1 วินาที-ซึ่งน้อยยิ่งกว่าการกระพริบตาเสียอีก!
ในตอนนั้น โนริซ่า อยู่ห่างจาก ลิงค์ 30 ฟุต ในตอนที่เขาเห็นมือยักษ์ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา มันเปล่งแสงสีขาวจางๆและขนาดของมันก็ใหญ่มากๆ นิ้วแต่ละนิ้วของมันนั้นใหญ่กว่าต้นขาของเขาซะอีกและมันก็ถูกล้อมรอบไปด้วยแหวนเปลวเพลิงสีแดง
พอมือยักษ์ปรากฏขึ้น มันก็พุ่งเข้าใส่ โนริซ่า ด้วยพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวและมันก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นด้วยความเร็วที่ผิดกับรูปร่างของมัน แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงตัวเขา แต่ โนริซ่า ก็สามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ออกมาจากมือและนั่นก็ทำให้ขาของเขาสั่นไปด้วยความกลัว
นี่มันเวทย์บ้าอะไรกันเนี่ย? ตอนนี้ โนริซ่า หน้าซีดเป็นไก่ต้มและมีเพียงความคิดเดียวในหัวของเขา-เผ่น!
แต่ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหนีจากหัตถ์วัลแคนได้ ด้วยความที่เกือบทั้งหมดของมันสร้างขึ้นมาจากธาตุไฟ ซึ่งธาตุไฟนั้นไม่มีน้ำหนัก ดังนั้นมันจึงไม่มีแรงเฉื่อย เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถเร่งความเร็วดั่งพายุได้ภายในชั่วพริบตา และมันก็ยังสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วตามที่ ลิงค์ ต้องการโดยไม่ติดขัดอีกด้วย หัตถ์วัลแคนนั้นอาจจะมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่มันก็ยังว่องไวและรวดเร็วจนน่าตกใจ
ภายในเวลาไม่นาน นักรบ โนริซ่า ก็ถูกจับอยู่ภายในกำมือของหัตถ์เปลวเพลิงยักษ์!
หัตถ์วัลแคนนั้นใหญ่โตจนถึงขนาดที่ว่าตัวของนักรบนั้นดูเหมือนกับหนูตัวเล็กๆไปเลย ตอนนี้เขาถูกเปลวเพลิงกลืนกินอย่างสมบูรณ์และไม่มีใครสามารถเห็นร่องรอยของเขาได้จากภายนอก
ในตอนนั้น ทุกอย่างที่ โนริซ่า สามารถเห็นได้มีเพียงแค่ทะเลสีแดงของเปลวเพลิงที่อยู่รอบๆตัวเขาเท่านั้น เขาพบว่าเขาไม่สามารถขยับตัวได้เพราะแรงกดอันมหาศาลของหัตถ์เปลวเพลิง และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือความเร็วที่มันค่อยๆบีบเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ไอบ้านั่นมันคิดจะย่างฉันจนตาย!” จากนั้น โนริซ่า ก็ได้รวบรวมกำลังและพลังงานทั้งหมดเพื่อทำให้ออร่าหนามสีครามระเบิดออกและในทันใดนั้นออร่ารอบๆตัวเขาก็เข้มข้นขึ้นกว่าความเข้มปกติถึง3เท่า
ปัง!
ผลก็คือ โนริซ่า ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยซักนิดเดียว ด้วยการระเบิดออร่าต่อสู้ของเขา เขาได้อัดและทำให้ธาตุไฟที่อยู่ในหัตถ์วัลแคนเลเวล 5 แตกกระจาย!
แต่ก็ไม่ใช่ว่า โนริซ่า จะไม่เสียอะไรเลย ชุดของเขาถูกเผาจนกลายเป็นผ้าขี้ริ้ว และเกราะโซ่ต่อต้านเวทมนตร์ของเขาก็ส่องประกายสีแดงและเกือบที่จะถูกทำลาย ผมของเขาถูกเปลวเพลิงกลืนกินไปจนหมดและทั่วทั้งร่างของเขาก็กลายเป็นสีดำด้วยเขม่า
ในตอนนี้ มันไม่ใช่แค่เขาไม่สามารถพุ่งต่อไปได้อีกแล้วเท่านั้น แต่เขายังใช้พลังงานทั้งหมดในการคุมสติเอาไว้ภายใต้อุณหภูมิอันร้อนแรงอีกด้วย ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ต้องใช้เวลาซักพักในการฟื้นฟูสติก่อนทำการโจมตีอีกครั้ง
ณ จุดนี้ ในที่สุดนักเวทย์ พาร์สัน ก็ร่ายเวทย์หอกน้ำแข็งสำเร็จ หอกน้ำแข็งหมุนในตอนที่มันถูกยิงออกจากปลายคทาของเขาและพุ่งไปหา ลิงค์
หอกน้ำแข็งนั้นยาวประมาณ 7 ฟุตและหนาเหมือนกับไข่ไก่ มันหมุนอย่างรวดเร็วในตอนที่มันพุ่งไปหา ลิงค์ ด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัว ถ้า ลิงค์ โดนโจมตีด้วยหอกนี้ แม้กระทั่งโล่เอเดลไวซ์เลเวล 4 ก็คงไม่สามารถปกป้องเขาจากแรงกระแทกได้ทั้งหมด และนั่นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ดาร์กเอลฟ์โจมตีเพิ่มเติมด้วยการโจมตีอื่นอีก
แต่ ลิงค์ ยังคงมีวิธีการจัดการในแบบของเขาอยู่
อีกครั้งหนึ่งที่เขาใช้งานอักขระวิญญาณและก็ชะงักไปพักนึง จากนั้นโครงสร้างของเวทย์หัตถ์วัลแคนก็ปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของเขา จากนั้นธาตุไฟที่ถูกทำให้กระจัดกระจายด้วยฝีมือของ โนริซ่า เมื่อซักครู่นี้ก็ได้ถูกรวบรวมและเกิดเป็นหัตถ์เพลิงยักษ์อันใหม่ขึ้น
หอกน้ำแข็งนั้นเพิ่งมาได้เพียงแค่ครึ่งทางของมันเท่านั้นในตอนที่หัตถ์วัลแคนอันใหม่ก่อร่างขึ้นสำเร็จ และพวกมันทั้งสองก็ปะทะกันเกิดขึ้นเป็นระเบิดจากการปะทะกันของธาตุ
ในตอนแรกนั้นหัตถ์วัลแคนเปล่งแสงสีจางๆ แต่พอมันปะทะกับหอกน้ำแข็ง มันก็ได้ปล่อยระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา จากนั้นหอกน้ำแข็งก็ละลายกลายเป็นไอในทันที
คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้อีกหล่ะเมื่อเวทย์น้ำแข็งเลเวล 3 ปะทะกับเวทย์ไฟเลเวล 5?
ในตอนที่หอกน้ำแข็งละลาย นิ้วของหัตถ์วัลแคนก็ขดเหมือนกับลิ้นของวัวและกลืนกินนักรบ โนริซ่า เข้าไปในมือในทันที
จากนั้น ลิงค์ ก็เร่งอุณหภูมิของหัตถ์วัลแคนขึ้นในทันทีอย่างไม่ลังเล โดยเฉพาะส่วนฝ่ามือ จากนั้นหัตถ์เปลวเพลิงก็ส่องแสงสว่างอย่างมากจนแทบจะทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงตาบอด
ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอุณหภูมิของหัตถ์วัลแคนนั้นได้พุ่งสูงไปจนถึงจุดหลอมเหลว!
ในครั้งนี้ ไม่มีวิธีไหนที่ โนริซ่า จะหนีออกจากเงื้อมมือของหัตถ์วัลแคนได้อีกแล้ว เวทมนตร์นั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว-ภายในเวลา 0.2 วินาที-ซึ่งเขายังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากการโจมตีก่อนหน้านี้เลย
จากนั้นเสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากภายในของหัตถ์วัลแคน มันเป็นเสียงกรีดร้องที่น่ากลัว แต่เพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นมันก็หยุดลง
ไม่ต้องบอกเลยว่ามันคือเสียงของ โนริซ่า ที่ถูกเผาจนตาย
ในตอนนี้ จากดาร์กเอลฟ์ 3 คน คนนึงตาย อีกคนไม่สามารถขยับได้ มีเพียงแค่นักเวทย์คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน 3 วินาที-มันคือเวลาที่คนทั่วไปหายใจเข้าและหายใจออก!
1 วินาทีผ่านไป หัตถ์วัลแคนได้แบมือออกมาอีกครั้ง ซึ่งมีร่างที่ไหม้เกรียมที่ดูเหมือนกับก้อนถ่านใหญ่ๆกลิ้งออกมา ในตอนที่ศพกระแทกกับพื้น มันก็แตกจนกลายเป็นชิ้นเล็กๆ-นักรบเลเวล 5 อันทรงพลังได้กลายเป็นเพียงแค่กลุ่มก้อนของถ่านและขี้เถ้าแล้ว
วาร์ตัน ถึงกับกลืนน้ำลายในตอนที่เห็นภาพอันน่ากลัวเบื้องหน้าของเขานี้ ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าน้องชายของเขาเมตตาต่อเขาแล้วในตอนที่เขาโจมตี ลิงค์ เมื่อตอนกลางวัน
ในขณะเดียวกัน ไคลน์ ก็ทำตาโตอย่างกับไข่ห่านในตอนที่เขาจ้องมองน้องคนเล็กของเขาที่ไม่ได้ขยับออกจากโต๊ะกินข้าวเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั่นทำให้อาหารมื้อเย็นไม่ถูกรบกวนเลยสักนิด เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าน้องชายของเขาแข็งแกร่งขนาดไหนในตอนนี้
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ไคลน์ เพิ่งจะแพ้นักฆ่าอย่างหมดรูปในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และนักฆ่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แรงมากมายเลยด้วยซ้ำ ส่วน นอริซ่า นั้นเขาเป็นคนสนิทของตระกูล นอริแกน ที่มีออร่าหนามสีคราม แต่แล้ว ลิงค์ ก็สามารถจัดการเขาได้โดยไม่ต้องแตะตัวเขาเลยแม้แต่นิดเดียว-ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่เขายังไม่ได้ลุกจากเก้าอี้เลยนะ!
นี่มันพลังอะไรกัน? ทำไม ลิงค์ ถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ภายในเวลาสั้นๆ? มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของ ไคลน์ และเขาก็ไม่สามารถหาวิธีที่จะอธิบายมันได้
ไม่เพียงแค่เขาจะตะลึงในพลังของนักเวทย์ชาวมนุษย์เท่านั้น แต่เขายังกลัวจนตัวสั่นอีกด้วย หัตถ์วัลแคนได้ทำลายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของ พาร์สัน ไปจนหมด มันเป็นเวทย์ที่น่าจะอยู่ในระดับอย่างน้อยก็เลเวล 5 แต่นักเวทย์ชาวมนุษย์นั่นกลับร่ายมันได้ในทันทีอีก! นี่มันเกินไปกว่าที่ พาร์สัน จะจินตนาการเอาไว้ และเขาก็ไม่เคยเจอกับการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน!
เขาจะสามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?
“ถอย!” พาร์สัน ตะโกนใส่นักฆ่า เฮเดล จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปข้างนอกห้องโถงใหญ่ของปราสาทแบบไม่รอใคร เขาไม่ได้กลัวความตาย แต่เขาต้องมีชีวิตรอด เพื่อที่เขาจะได้นำข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปรายงานต่อที่ป่าทมิฬ
แม้ว่า เฮเดล จะตาบอดอย่างสมบูรณ์และร่างกายก็ถูกเจาะไปทั่ว แต่เขาก็รู้ว่า โนริซ่า ถูกฆ่าจากเสียงที่เขาได้ยิน และเขายังรับรู้ด้วยว่า พาร์สัน กำลังหนี ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะหนีเช่นกัน เขาเดินอย่างโซเซพยายามที่จะวิ่งออกไปจากห้องโถง แต่เขาก็ไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่เขาจะล้มหน้าฟาดลงไปกับพื้น
เขาพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอย่างนั้น นกหวีดอีกอันก็ได้ระเบิดใส่ต้นขาของเขา ทำลายกระดูกของเขาในทันที ความเจ็บปวดอันรุนแรงแล่นผ่านไปทั่วร่างกายของเขา สิ่งที่ เฮเดล ทำได้มีเพียงแค่กอดขาของเขาและร้องด้วยความเจ็บปวด เขาไม่ใช่จ้าวแห่งความมืดอย่างที่เขาเคยเป็นอีกต่อไปแล้ว
ในเวลาเดียวกันนั้น พาร์สัน ก็ได้ไปถึงข้างนอกห้องโถง เขาได้ออกจากระยะการมองเห็นของ ลิงค์ แล้ว แม้กระทั่งความมั่นใจของเขาก็ป่นปี้และเขาคิดได้แค่ว่าจะหนีให้ห่างจากนักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
เขาไปที่หัวมุมที่อยู่ไกลที่สุดและเริ่มร่ายเวทย์บิน- เหยี่ยวขี้เถ้าเลเวล 3 เขาจะไม่อยู่ที่นี่และต้องประสบชะตากรรมเดียวกับ โนริซ่า และ เฮเดล เขาจะหนีจากนักเวทย์ชาวมนุษย์อันน่ากลัวโดยบินขึ้นไปบนฟ้า!
2 วินาทีต่อมา เมื่อเวทย์เสร็จสมบูรณ์ กลุ่มควันสีเทาก็ก่อร่างขึ้นเป็นนกยักษ์ พาร์สัน รีบขึ้นไปขี่มันและเหยี่ยวก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ในที่สุด พาร์สัน ก็รู้สึกโล่งใจเพราะเขาคิดว่าเขาออกจากระยะของนักเวทย์ชาวมนุษย์แล้ว แต่หลังจากที่เขาถอนหายใจไปได้ไม่ถึงวินาทีเขาก็เห็นนักเวทย์เดินออกมาจากห้องโถงใหญ่
ในตอนนี้เหยี่ยวขี้เถ้ายังบินไปได้สูงไม่ถึง 30 ฟุตเลย
“นายคิดจะไปไหนกัน?” ลิงค์ ตะโกน
เขาชี้คทาขึ้นฟ้า หลังจากนั้นหัตถ์วัลแคนก็ปรากฏขึ้นในทิศทางนั้นในทันที ภายในชั่วพริบตาหัตถ์เปลวเพลิงก็ได้จับเหยี่ยวขี้เถ้าไว้ในกำมือและดึงมันกับนักเวทย์ลงมาสู่พื้น
นายคิดว่าฉันจะปล่อยให้นายบินหนีออกไปจากเงื้อมของฉันงั้นเหรอ พาร์สัน? ไม่มีวันซะหรอก!