การกระทำของ ลิงค์ นั้นได้สร้างความมั่นใจให้กับ ไคลน์ อย่างมาก แม้ว่า ไคลน์ จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในกองทัพซักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังคงภูมิใจและเป็นสมาชิกที่ซื่อสัตย์ของตระกูล โมรานี่
สิ่งแรกที่ ไคลน์ ทำกับเงิน 4,000 เหรียญทองที่ได้มาจาก ลิงค์ คือการแจกเงินให้กับทหารแต่ละคนคนละ 10 เหรียญทอง ไม่เคยมีทหารคนไหนที่เคยจับเงินเยอะขนาดนี้มาก่อน พวกเขาทั้งมีความสุขและกระวนกระวายเพราะพวกเขากังวลว่าพวกเขาอาจจะไม่เหมาะสมที่จะได้เหรียญทองขนาดนี้ ซึ่งในท้ายที่สุดแล้ว ก็มีพวกเขาบางคนถึงกับต้องซ่อนเหรียญทองเอาไว้ในกางเกงของพวกเขาเพื่อที่จะทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครมาขโมยมันไป!
พอทหารทุกคนรู้สึกพึงพอใจแล้ว ไคลน์ จึงควบคุมและชี้นำทหารทุกคนได้ พวกเขาใช้เวลาไม่นานก่อนที่จะฟื้นฟูภายในปราสาทเสร็จสมบูรณ์ ร่องรอยของเลือดถูกลบออกจนหมด และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคติดต่อ ชื่อของผู้ที่ตายจะถูกบันทึกเอาไว้และจากนั้นร่างกายของพวกเขาก็จะถูกเผา
ในเวลาเที่ยงคืน แม้กระทั่งสะพานแขวนที่เสียหายก็ถูกซ่อมแซมจนเสร็จ จากนั้นประตูปราสาทก็ถูกปิด ถ้าไม่ใช่ความจริงที่ว่ามีคนเหลืออยู่ในปราสาทน้อยกว่าเดิมแล้วในตอนนี้ คงไม่มีใครสังเกตุเห็นได้ว่าพวกเขาเพิ่งจะถูกโจมตีและมีการต่อสู้อันรุนแรงเกิดขึ้นเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
แต่นั่นเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และ ลิงค์ ก็ไม่ได้มีส่วนร่วมกับมัน ในตอนที่ทุกคนกำลังยุ่งอยู่กับการฟื้นฟูปราสาทอยู่ข้างนอก ลิงค์ ก็อยู่ในคุกใต้ดินของปราสาท และเขาก็กำลังเผชิญหน้ากับดาร์กเอลฟ์นักเวทย์อยู่
ลิงค์ ต้องการให้ดาร์กเอลฟ์ทั้งสองพูด ในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งที่คนทั่วไปมักใช้กันมากที่สุดก็คือการทรมาน-แต่ ลิงค์ ไม่ได้สนใจที่จะใช้วิธีการป่าเถื่อนแบบนั้นและไม่ได้พูดถึงมันเลย ไม่สิ มันไม่มีความจำเป็นต่างหาก มันมีวิธีการที่ง่ายกว่านั้นมาก แม้ว่ามันจะเจ้าเล่ห์กว่า แต่นั่นก็ทำให้ดาร์กเอลฟ์คายทุกอย่างที่พวกเขารู้ออกมาได้
นักเวทย์นั้นพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ดังนั้นเขาในตอนนี้จึงอยู่ในสภาพที่จิตใจเปราะบางมากที่สุด ยังไงก็ตาม มันน่าจะอยู่อย่างนั้นไม่นานนัก เพราะจิตใจของนักเวทย์นั้นขึ้นชื่อในเรื่องความแข็งแกร่ง ลิงค์ รู้ว่าถ้าหากปล่อยให้นักเวทย์อยู่คนเดียวข้ามคืนหล่ะก็ พลังใจของเขาจะฟื้นฟูกลับมาภายในเช้าวันพรุ่งนี้ ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำไม ลิงค์ ถึงต้องสอบปากคำเขาตอนนี้
ในความมืดมิดของคุกใต้ดินอันเปียกชื้น ลิงค์ นั่งอยู่บนเก้าอี้ในขณะที่นักเวทย์ พาร์สัน นั่งพิงกำแพงอยู่ห่างออกไป 10 ฟุต
ลิงค์ ไม่ได้พูดอะไรในตอนแรก เขาเพียงแค่จ้องไปที่ตาของ พาร์สัน―ดวงตาแดงก่ำของดาร์กเอลฟ์ดูเซื่องซึมเพราะถูกจองจำ หลังจากผ่านไปกว่า 10 วินาที พาร์สัน ก็ทนการจ้องของ ลิงค์ ไม่ได้และหันหนีไปทางอื่น
“มือแห่งความตายกำลังวางแผนที่จะโจมตีสถาบันอีสโควฟหรอ?” ลิงค์ ถามขึ้นมาทันที เขาใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุดเพื่อให้ดูเป็นมิตร และมันดูเหมือนกับเขาแค่กำลังพูดกับเพื่อน แถม ลิงค์ ยังใช้ภาษาเอลฟ์ในการคุยกับดาร์กเอลฟ์นักเวทย์อีกด้วย ด้วยสำเนียงที่ฟังดูค่อนข้างดีทีเดียว
“มัน…เอ่อ..มันเหลวไหลสิ้นดี!” พาร์สัน ตอบ เขาหยุดตัวเองและปฏิเสธคำถามของ ลิงค์ แต่มันก็ช้าเกินไปแล้วเพราะการกระทำของเขาได้พิสูจน์ว่าสิ่งที่ ลิงค์ สงสัยนั้นเป็นเรื่องจริง
ตอนนี้ ลิงค์ ได้ในสิ่งที่เขาต้องการแล้ว
“อย่าคิดนะว่าฉันจะไม่รู้เรื่องแผนการของพวกนายที่จะโจมตีสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ”เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันหนาวเหน็บบนใบหน้าของเขา “พวกนายมีกระทั่งแผนที่ชื่อว่ากบฏจันทราทมิฬและ เฟลิเดีย ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับมันด้วยถูกไหม?”
“แกคิดผิดแล้ว!มันไม่มีของอย่างนั้นอยู่หรอก!” ตอนนี้ พาร์สัน น่าสงสัยแล้ว ตาของเขามองไปรอบๆเพดานในตอนที่เขากำลังปฏิเสธคำพูดของ ลิงค์ หัวชนฝา
ความจริงแล้ว พาร์สัน เป็นเพียงแค่ผู้ติดตามของตระกูลนอริแกน ดังนั้นเขาจึงไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับมือแห่งความตายหรือการกระทำของพวกเขานัก แต่ ณ จุดๆนี้ ข้อมูลลับส่วนมากของอาณาจักรพาแลคก็ได้รั่วไหลมาหาเขาโดยตรง เขาไม่ได้สนใจมันในทุกๆส่วน แต่เขาก็ได้ข้อมูลมามากกว่าการพูดคุยธรรมดากับพรรคพวกของเขาเสียอีก
แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่ามือแห่งความตายกำลังรวบรวมกำลังมาที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟหล่ะ ก็เพราะว่านักเวทย์หัวกะทิกว่า 70% ของอาณาจักรนอร์ตันนั้นมาจากที่นี่ เมื่อพวกเขาทำลายสถาบันและจัดการนักเวทย์ของสถาบันหมดแล้ว กองทัพของอาณาจักรนอร์ตันก็จะอ่อนแอลงอย่างมากอย่างน้อยก็ประมาณ 4 เท่าเพราะขาดแคลนนักเวทย์!
และแผนการนี้ก็มีชื่อว่ากบฏจันทราทมิฬโดยมีนักเวทย์ เฟลิเดีย เป็นผู้เกี่ยวข้อง อ้างอิงจากข่าวลือ แผนการนี้ได้ดำเนินการมาซักพักแล้วอย่างราบรื่น เหลือเพียงแค่ขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น
แต่แล้วทำไมนักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้ถึงรู้ถึงแผนการลับนี้? เขาไม่มีความคิดเกี่ยวกับมันเลยในตอนนี้ ในความเป็นจริงเขากำลังสงสัยว่าอาจจะมีสปายอยู่ภายในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลของอาณาจักรด้วยซ้ำ
“นายมาไกลนะเพื่อที่จะแก้แค้นให้ อลิน่า” ลิงค์ พูดต่อ “นี่แสดงว่านายก็คงรู้เกี่ยวกับเพื่อนนักเวทย์ปริศนาของฉันหล่ะสิ ใช่มั้ย?”
“แน่นอน ฉันรู้” พาร์สัน ตอบ เขารู้สึกว่ามันไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บความลับกับนักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้อีกแล้ว ในเมื่อยังไงเขาก็อาจจะฆ่าเขาและให้เพื่อนนักเวทย์ปริศนาของเขามาดึงความทรงจำจากวิญญาณของเขาอยู่ดี
“ใช่ เธอมีความสามารถในการใช้เวทย์ผู้ค้นวิญญาณได้” ลิงค์ พูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนกับเขาสามารถอ่านใจ พาร์สัน ได้ “มันเป็นเวทย์ที่ชั่วร้าย นายคิดงั้นไหม? ฉันไม่ค่อยชอบเวทย์แห่งความมืดเท่าไหร่ แต่ยังไงซะเธอก็ยังคงเป็นเพื่อนของฉัน ถ้าฉันขอให้เธอมาช่วยฉันโดยมีค่าตอบแทน ฉันมั่นใจว่าเธอจะต้องยอมทำตามคำขอของฉันแน่”
“…”
พาร์สัน เริ่มหวาดกลัว เขาเพิ่งจะได้เห็นทักษะการต่อสู้อันสุดยอดของ ลิงค์ ด้วยตัวเอง และพลังใจของเขาก็ยังคงอ่อนแอ ลิงค์ เพียงแค่หลอกล่อเขานิดหน่อยเขาก็จะทำตามที่ ลิงค์ ต้องการ
พาร์สัน กลืนน้ำลายและไม่พูดอะไรเลยไปกว่า 10 วินาที
“สัญญากับฉัน” ในที่สุดเขาก็พูด “ว่าถ้าฉันบอกในเรื่องที่แกอยากรู้แล้วแกจะให้ความตายอันรวดเร็วและไม่เจ็บปวดกับฉัน”
“ไม่มีปัญหา” ลิงค์ พูด “เอาเป็นไวน์ไฮเลียเขียวซักแก้วด้วยเป็นไง?”
“งั้นดีล” พาร์สัน พูดพร้อมพยักหน้า “ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ฉันเป็นเพียงแค่ผู้ติดตามของตระกูลนอริแกน ไม่ใช่สมาชิกของมือแห่งความตาย ฉันอาจจะรู้บางอย่างที่พวกเขาจะทำ แต่อย่าหวังข้อมูลอะไรจากฉันเยอะ”
“นักฆ่าก็เป็นผู้ติดตามของตระกูลด้วยงั้นหรอ?” ลิงค์ ถาม
“ใช่เขาเป็น” พาร์สัน ตอบโดยไม่ปกปิดความลับใดๆทั้งสิ้น “นักรบก็ใช่ด้วยเช่นกัน”
“เข้าใจแล้ว” ลิงค์ พูดโดยฟัง พาร์สัน อย่างใจเย็น “นายพูดต่อได้เลย”
พาร์สัน ถอยหายใจยาวๆก่อนที่เขาจะพูดต่อ
“มันมีแผนการที่ชื่อกบฏจันทราทมิฬจริงๆ” ในที่สุดเขาก็พูด “เป้าหมายของมันคือสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าพวกเขาจะดำเนินการแผนยังไง แต่ทั้งหมดที่ฉันรู้คือเมื่อแผนการสำเร็จสถาบันก็จะเหลือเพียงแค่เศษซาก”
“มีอะไรอีกมั้ย?” ลิงค์ ถาม เขาใจเย็นอย่างที่เขาไม่เคยเป็น ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเขาคิดอะไรในใจตอนนี้
“ใช่แล้วแก!” พาร์สัน พูด “มือแห่งความตายได้วางค่าหัวแกไว้สูงมาก พวกเขาประกาศต่อสาธารณะว่าใครก็ตามที่นำหัวของแกมาให้พวกเขาได้ คนๆนั้นจะได้รับรางวัล 1,000 เหรียญทอง!ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่นักเวทย์แห่งสภาซิลเวอร์มูนและเจ้าชายนอริแกนก็ยังมีส่วนร่วมในของรางวัลด้วยเช่นกัน ใครก็ตามที่เอาหัวของแกไปที่พาแลคได้จะได้รับอุปกรณ์เวทมนตร์สั่งตัดระดับอีพิคพร้อมกับได้รับสืบทอดยศดยุคที่มีที่ดินอุดมสมบูรณ์ถึง 50 เอเคอร์!”
“ใครจะไปคิดหล่ะว่าคนหน้าตาไม่ดีอย่างฉันจะมีค่ามากขนาดนั้น?” ลิงค์ พูดในขณะที่ลูบคางของเขาไปด้วย
“เฮอะ!แกเดินอยู่ในโลกนี้ได้ไม่นานไปกว่าฉันสักเท่าไหร่หรอก” พาร์สัน หัวเราะเยาะ “อีกไม่นานฉันจะเจอแกในนรก และไม่ต้องหวังเลยนะว่าแกจะได้ขึ้นสู่ประตูสวรรค์หลังจากความตาย เพราะว่าในตอนที่หัวของแกโดนตัดทาสรับใช้ของเจ้าหญิงแห่งความมืดจะดึงแกลงตรงสู่นรก!”
ลิงค์ ยังคงไม่หวั่นไหวกับคำพูดพวกนี้ เขารู้ดีว่าชายที่แข็งแกร่งย่อมมีศัตรู อย่างที่พูดกัน มีเพียงคนที่ไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรเท่านั้นที่จะไม่มีศัตรู ในตอนนี้เขาได้ดึงดูดความเกลียดชังอย่างมากจากพวกดาร์กเอลฟ์ ซึ่งนั่นหมายความว่าในที่สุดพวกเขาก็ยอมรับในพลังของเขา
เขาควรที่จะภูมิใจกับมัน ไม่ใช่หวาดกลัว
“มีอะไรอีกไหม?” ลิงค์ ถามอีกครั้ง
“ไม่!” พาร์สัน ตอบ และเขาก็เงียบไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย
แม้ว่า ลิงค์ จะมีคำถามที่จะถาม พาร์สัน อีกมากมาย แต่เขาก็ได้ข้อมูลทุกอย่างที่เขาต้องการแล้วในตอนนี้ สำหรับแผนกบฏจันทราทมิฬ เขาคิดว่ามันน่าจะมีจุดประสงค์คล้ายๆกับเหตุการณ์ในเกม เมื่อพูดถึงมัน มีเพียงคนเดียวที่มีความสามารถในการทำลายสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟได้ ซึ่งนั่นก็คือปีศาจที่ถูก ไบรอัน ขังและผนึกเอาไว้―ทราวิส
คำถามเดียวที่เขามีในตอนนี้ก็คือดาร์เอลฟ์จะปลดปล่อย ทราวิส โดยไม่มีรูนไสยเวทย์ได้ยังไง จากนั้น ในตอนที่เขากำลังคิดเกี่ยวกับมันอยู่ การแจ้งเตือนก็เด้งขึ้น
ภารกิจถูกเปิดใช้งาน:สืบสวน
รายละเอียดภารกิจ:หาข้อมูลของแผนการกบฏจันทราทมิฬ
รางวัลภารกิจ:80 แต้มโอมนิ
ลิงค์ รับภารกิจตามปกติ ตอนนี้ พาร์สัน ไม่มีประโยชน์กับเขาอีกแล้ว เขาจึงใช้มือแห่งนักเวทย์ในการโยนแก้วไวน์ไฮเลียเขียวไปทาง พาร์สัน
พาร์สัน รับแก้วไวน์ไว้ในมือโดยไม่ลังเล จากนั้นเขาก็จ้องไปที่ ลิงค์ อย่างตั้งใจเหมือนกับว่าเขาต้องการที่จะฝังภาพของนักเวทย์ที่จัดการเขาไว้ในวิญญาณของเขาก่อนตาย จากนั้น พาร์สัน ก็ดื่มไวน์รวดเดียวหมด วินาทีต่อมา รอยยิ้มที่แปลกประหลาดก็ผุดขึ้นมาบนหน้าของเขา จากนั้นเขาก็ก้มลงและล้มลงพื้นด้วยเสียงดังสนั่น
พาร์สัน ตายแล้ว
ลิงค์ สั่งให้ผู้คุมเรือนจำจัดการกับศพและจากนั้นเขาก็ตรงไปที่ห้องขังของ เฮเดล
ตอนนี้ เฮเดล ตื่นแล้ว แต่ว่าบาดแผลของเขานั้นรุนแรงจนเขาต้องนอนบิดลงกับพื้น ลิงค์ กวาดสายตามองไปทั่วห้องขังก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปพร้อมกับรอยยิ้มอันไร้ความปราณี แม้ว่าร่างกายของ เฮเดล จะขยับไม่ได้แล้วก็ตาม
“ฉันเพิ่งฆ่า พาร์สัน ไป” ลิงค์ พูด
“ฉันก็ไม่หวังว่าแกจะเก็บเขาไว้เป็นสัตว์เลี้ยงหรอก” เฮเดล ตอบพร้อมกับหัวเราะเยาะ
“เขาบอกกับฉันหลายอย่างก่อนที่เขาจะตาย” ลิงค์ พูดต่อโดยไม่สนการหัวเราะเยาะของ เฮเดล “ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่เขาบอกกับฉันเรื่องแผนกบฏจันทราทมิฬนั้นช่างน่าสนใจจริงๆ เขาบอกว่าพวกนายเตรียมการที่จะปลดปล่อยปีศาจ ทราวิส เพื่อให้เขาทำลายสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ”
เล่ห์เหลี่ยมของ ลิงค์ ทำให้ดวงตาของ เฮเดล เปิดกว้างขึ้นอีกครั้งและเขาก็จ้องมองไปที่ ลิงค์ แบบเบลอๆด้วยท่าทางสับสน
“แต่ว่า พาร์สัน ไม่ใช่สมาชิกของมือแห่งความตายนะ” เฮเดล พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ “เขาจะไปรู้เรื่องเกี่ยวกับแผนกบฏจันทราทมิฬได้ยังไง?”
ด้วยความที่เป็นนักฆ่าอันแข็งแกร่งที่มีชื่อเสียง เฮเดล จะต้องเคยเกี่ยวข้องกับมือแห่งความตายมาก่อนอย่างแน่นอน บวกกับที่ เขาเป็นนักฆ่ามืออาชีพที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเขาจะต้องเข้าถึงข้อมูลลับขององค์กรได้มากกว่า พาร์สัน แน่ๆ เขาไม่ได้เป็นสมาชิกที่มีส่วนในแผนการนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่รู้ถึงข้อมูลที่ลึกที่สุดของแผนกบฏจันทราทมิฬ ซึ่งแน่นอนว่าเขารู้ว่าปีศาจ ทราวิส จะต้องถูกปลดปล่อย แต่เขาไม่รู้ถึงวิธีการที่จะใช้ปลดปล่อย เฮเดล ไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับมันเลย
การตอบสนองที่ ลิงค์ ได้มาจากนักฆ่าได้ยืนยันการคาดเดาความเกี่ยวข้องระหว่างแผนกบฏจันทราทมิฬและ ทราวิส ของเขา เขาจึงตัดสินใจที่จะใช้กลอุบายสุดท้ายกับ เฮเดล
“ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ” ลิงค์ พูด “พาร์สัน ยังไม่ตาย เขาแค่สาบานว่าจะภักดีกับฉัน!”จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างชั่วร้าย
“มันเป็นไปไม่ได้!” เฮเดล ตะโกน “นายพูดอะไรไร้สาระ!นายโกหกฉันใช่ไหมล่ะ?” แต่บางส่วนของเขาก็เชื่อว่า ลิงค์ รู้เกี่ยวกับสิ่งที่เขากำลังพูดดี แต่แผนการกบฏจันทราทมิฬนั้นเป็นแผนการลับสุดยอด นักเวทย์ชาวมนุษย์อย่างเขารู้เรื่องเกี่ยวกับมันได้ยังไง?
ลิงค์ หัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง มันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ นักฆ่าก็คือผู้ติดตามของตระกูลนอริแกนอีกคน ดังนั้นเขาคงไม่รู้มากไปกว่าที่ พาร์สัน รู้ ลิงค์ พึงพอใจกับข้อมูลเกี่ยวกับ ทราวิส ที่เขาค้นออกมาได้ และเขารู้ว่าเขาไม่สามารถรีดข้อมูลจาก เฮเดล ไปได้มากกว่านี้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่ต้องปล่อยให้ เฮเดล มีชีวิตอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงปล่อยนกหวีดและเป่าหัวของนักฆ่าออกจากคอของเขา
เห็นได้ชัดว่าแผนการกบฏจันทราทมิฬนั้นเป็นเรื่องเร่งด้วนที่ต้องจัดการในทันที แม้ว่าจะมีเวลาอีกซักพักก่อนที่จะถึงวันที่ 15 เมษายน แต่ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเวลามาถึง ไม่ต้องพูดถึงวิธีการที่ดาร์กเอลฟ์จะปลดปล่อย ทราวิส ออกมายังไงเลย ลิงค์รู้สึกว่าเขาต้องรายงานเรื่องนี้ให้กับ เอร์เรร่า โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
หลังจากพิจารณาอย่างระมัดระวัง ลิงค์ ก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะต้องรีบกลับไปที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟในวันพรุ่งนี้