หูของ วาร์เตอร์ ผึ่งขึ้นมาในทันทีที่เขาได้ยิน ไรไล พูดคำว่า “อาจารย์” รอยยิ้มเป็นมิตรปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและเขาก็รีบตรงไปหาคนที่เด็กสาวเพิ่งเรียกว่าอาจารย์
“ท่านครับ” เขาพูดอย่างเคารพ “เป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบท่าน”
วาร์เตอร์ จ้องไปที่ชายที่อยู่เบื้องหน้าเขาขณะที่เขาพูด สิ่งที่เขาเห็นก็คือผู้ชายผมดำคนนึงที่ดูหนุ่มมากๆและมีดวงตาสีดำ เขาดูเรียบๆและไม่โดดเด่นอะไร หากไม่มีผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงินหมึกที่เขากำลังสวมอยู่และคทาในมือของเขา วาร์เตอร์ มั่นใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะหายไปในถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนอย่างแน่นอน ลักษณะที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ก็คือดวงตาของเขา
ดวงตาของเขาดำมืดเป็นพิเศษ, แต่พวกมันก็สดใสมากจนพวกมันดูเหมือนกับว่ากำลังเปล่งประกายอยู่ พอเห็นครั้งแรก, วาร์เตอร์ คิดว่าพวกมันฉายความใสซื่อแบบเด็กๆออกมา, แต่หลังจากที่ดูใกล้ๆ, เขาก็ตระหนักได้ว่าในความเป็นจริงพวกมันลึกซึ้งและดำมืดเหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืน พวกมันลึกซึ้งมากจนไม่มีทางเข้าใจถึงก้นบึ้งของพวกมันได้ไม่ว่าจะจ้องไปที่พวกมันแค่ไหนก็ตาม
จากนั้น, วาร์เตอร์ ก็รู้สึกถึงความกดดันอันน่ากลัวบางอย่างที่แผ่ออกมาจากสายตาพวกนั้น เขาตกตะลึงกับพลังลึกลับที่เด็กหนุ่มคนนี้ปล่อยออกมาและถูกบังคับให้ก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่น่ากลัวพวกนี้
ฉันคิดว่าข่าวลือคงถูกต้องแล้วหล่ะ, เขาคิด นักเวทย์คนนี้มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สามารถสลายจิตวิญญาณที่อ่อนแอด้วยการชำเลืองตามองได้จริงๆ
ในฐานะพ่อค้า, วาร์เตอร์, ในช่วงวัยหนุ่มของเขา, ได้เป็นพ่อค้าเร่ร่อนที่ได้เดินทางไปทั่วทั้งอาณาจักร เขาได้พบเห็นสิ่งต่างๆมากมายในการเดินทางของเขา, ดังนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าการที่เขาดูถูก ลิงค์ เพียงเพราะเขายังเด็กนั้นมันผิดพลาดขนาดไหน
“คุณเป็นใคร?” ลิงค์ ถามด้วยความสับสนเล็กน้อยกับตัวตนของคนแปลกหน้าในหอคอยเวทย์มนตร์
“โอ้, ขอประทานโทษด้วยครับ กระผมชื่อ วาร์เตอร์” เขาพูด “กระผมเป็นเจ้าของบริษัทการค้าใบไม้เขียวครับ และกระผมมาที่นี่ก็เพื่อคุยเรื่องธุรกิจกับท่านครับ” ขณะที่เขาพูด, วาร์เตอร์ ก็เอาสร้อยคอมิธริลออกมาให้ ลิงค์ ดู เขาเดาได้จากปฏิกิริยาของ ลิงค์ ว่ามันเป็นผลงานของเขาจริงๆ
ลิงค์ มองเห็นจูงใจของ วาร์เตอร์ สำหรับการมาที่นี่ในทันที เขาต้องถูกดึงดูดมาด้วยทักษะการเสริมพลังของเขาและต้องการใช้พวกมันเรียกเหรียญทองเข้ากระเป๋าของเขาเพิ่มแน่ๆ
เพื่อสิ่งที่คุ้มค่า, ผู้ชายคนนี้ฉลาดจริงๆ ลิงค์ คิด แต่ถึงแม้ว่าเขาจะประทับใจกับเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้, เขาก็ยังจำเป็นต้องพิสูจน์ความจริงใจของเขาที่มีต่อ ลิงค์ ก่อนที่เขาจะตกลงร่วมมือกับเขา นอกจากนี้, ลิงค์ ต้องรีบไปคุยธุระเร่งด่วนกับอาจารย์ของเขาเดี๋ยวนี้, ดังนั้นเขาจึงยังไม่มีเวลามาคุยเรื่องข้อเสนอของพ่อค้า
“ตามผมมา” ลิงค์ พูด
“อ่า…ครับท่าน” วาร์เตอร์ เห็นว่ามีความหวังดังนั้นเขาจึงทำตัวอ่อนน้อมยิ่งขึ้นแล้วเดินตามหลัง ลิงค์ เข้าไปในหอคอยเวทย์มนตร์อย่างติดๆ
ไรไล พูดคุยกับ ลิงค์ ตลอดทาง, เธอบอกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถาบัน, จากนั้นก็ถามคำถามเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ ลิงค์ ตอบกลับไปเป็นครั้งคราวด้วยรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของเขาเสมอ เขาฟังการเล่าเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในสถาบันขณะที่เขาไม่อยู่ของ ไรไล อย่างตั้งใจ ส่วนคำถามของเธอนั้น, ลิงค์ สามารถตอบพวกมันได้ทั้งหมดด้วยคำตอบที่สั้นกระทัดรัดและชัดเจนขณะที่ ไรไล ฟังเขาด้วยสายตาที่สดใส, ใบหน้าของเธอแสดงความเคารพให้กับอาจารย์ของเธออย่างเต็มที่
พอพวกเขาไปถึงด้านในหอคอยเวทย์มนตร์, นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนที่พวกเขาเดินผ่านก็จะโค้งให้ ลิงค์ ในทันทีไม่ว่าพวกเขาจะกำลังทำอะไรอยู่ในเวลานั้น บนใบหน้าของพวกเขา ลิงค์ เห็นความเคารพและความยำเกรงที่ไม่เคยมีมาก่อน ลิงค์ พบว่าการเปลี่ยนแปลงนี้น่าสงสัย, แต่เขาก็ไม่ได้ถามออกมา ดังนั้น ไรไล จึงเสนอที่จะตอบคำถามให้เอง
“ทุกๆคนได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในถนนหยกแล้วค่ะ, อาจารย์” เธอพูด “อาจารย์ช่วยชีวิตของเจ้าชายไฮเอลฟ์เอาไว้และยังเอาชนะดาร์คเอลฟ์ได้สามคนอีก! นักเวทย์ทุกคนในสถาบันประทับใจในตัวอาจารย์มากเลยค่ะ—แม้กระทั่งผู้อาวุโส แอนโทนี่ ก็ยังยกย่องสรรเสริญอาจารย์ด้วยตัวเอง!”
สองวันก่อน, กษัตริย์ได้ส่งทูตพิเศษมายังสถาบันเพื่อมอบรางวัลของ ลิงค์ และประกาศความดีความชอบของเขาที่มีต่ออาณาจักรให้แก่ส่วนรวม, ดังนั้นในตอนนี้เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่รู้โดยทั่วกันแล้ว แน่นอนว่านักเวทย์ในสถาบันสามารถเข้าใจความสำคัญในความสำเร็จของ ลิงค์ ได้มากกว่าคนธรรมดาเพราะพวกเขาเข้าใจเหตุการณ์มากกว่าและมีความรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู่ด้วยเวทย์มนตร์มากกว่า
ดาร์คเอลฟ์สามคนนั้น—คนนึงเป็นนักรบเลเวล 5, คนนึงเป็นนักเวทย์เลเวล 4, และอีกคนนึงเป็นนักฆ่าเลเวล 4— ซึ่งพวกเขารวมตัวกันเป็นสามทหารเสือแห่งซิลเวอร์มูนอันเลืองชื่อ พวกเขาเป็นหัวหน้าของคนรุ่นหนุ่มสาวของดาร์คเอลฟ์ในแบล็คฟอเรสและเป็นที่น่าหวาดกลัวไปทั่วสำหรับพลังอันน่าเกรงขามของพวกเขา ถึงอย่างนั้น, ลิงค์ ก็ฆ่าสองในพวกเขาได้ด้วยตัวคนเดียวและบังคับให้อีกคนที่เหลือหนีเอาตัวรอดได้อีก—คนๆนึงสามารถครอบครองพลังอันแกร่งกล้าขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
นักเวทย์เป็นบุคคลที่เย่อหยิ่ง, โดยเฉพาะในหมู่คนที่อายุไร่เรี่ยกันของพวกเขา ไม่ต้องคำนึงถึงพรสวรรค์ของพวกเขา, พวกเขาก็มักจะแข่งขันกันเองอยู่เสมอ แต่ว่าในครั้งนี้, ความสำเร็จของ ลิงค์ มันพิเศษเกินไปจนพวกเขารู้ว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบได้ นักเวทย์ที่อายุเท่ากันกับ ลิงค์ ยังแข่งขันกันเพื่อดูว่าคำภีร์เวทย์มนตร์ของใครดีกว่าและใครสร้างพวกมันได้เยอะกว่ากันอยู่เลย,ซึ่ง ลิงค์ ได้ไปถึงจุดที่พรสวรรค์ของเขาได้บดบังสามทหารเสือแห่งซิลเวอร์มูนอันเลืองชื่อและเป็นที่รู้จักของกษัตริย์ ลีออน แล้ว!
ดังนั้นพวกเขาจะไม่เคารพบุคคลที่พิเศษขนาดนี้ได้ยังไง?
นักเวทย์ที่ไม่ได้อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอเรร์ร่า ค่อนข้างจะสงวนการแสดงความเคารพของพวกเขาที่มีต่อ ลิงค์ มากกว่า แต่ทุกๆคนที่อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์รู้จักเขาดี; พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจกับความจริงที่ว่ามีบุคคลที่แข็งแกร่งระดับพระเจ้ามีตัวตนอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของพวกเขา, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกอายที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงความเคารพอย่างสุดซึ้ง
นี่เป็นแค่ธรรมชาติของมนุษย์, แม้ว่า, ในสายตาของ วาร์เตอร์ ภาพนี้จะค่อนข้างน่าอัศจรรย์เกินไปหน่อยก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นถ้าเขาได้ร่วมมือกับบุคคลที่โดดเด่นขนาดนี้
เขามีชื่อเสียงเสียงและมีหน้ามีตาในสังคมถึงระดับนี้แล้วหรอเนี่ย? วาร์เตอร์ วิเคราะห์ คำต้องการไร้สาระแบบไหนที่เขาจะเรียกร้องจากฉันนะ?
แม้ว่า ลิงค์ จะรู้สึกภูมิใจที่เขาได้รับความเคารพจากนักเวทย์ฝึกหัดในสถาบัน, แต่เขาก็ยังเงียบและเก็บตัวเหมือนปกติดังนั้นจึงไม่มีร่องรอยของความเย่อหยิ่งในท่าทีของเขาเลย เขาโค้งกลับไปให้เล็กน้อยกับคนที่โค้งให้เขาตลอดทางเลยด้วยซ้ำ
วาร์เตอร์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันทีพอได้เห็นภาพนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนน้อมถ่อมตนนะ, เขาคิด เขาไม่น่าจะจัดการด้วยยากถ้าพวกเราได้ทำงานร่วมกัน
ด้วยความคิดพวกนั้นในหัวของเขา, วาร์เตอร์ ก็ตาม ลิงค์ ขึ้นไปที่ชั้นสองของหอคอยเวทย์มนตร์ พอพวกเขาไปถึงขั้นบนสุดของบันได ลิงค์ ก็หันกลับมาและพูดกับ วาร์เตอร์ ด้วยน้ำเสียงเชิงขอโทษ
“คุณ วาร์เตอร์” เขาพูด “ผมมีเรื่องเร่งด่วนที่ผมต้องรีบไปรายงานกับอาจารย์ของผม, ดังนั้นผมต้องทิ้งคุณไว้สักพักนึง คุณจะมีปัญหาอะไรไหมถ้าจะขอให้คุณไปรอผมในห้องโถง?”
“ไม่ครับ, ไม่มีปัญหาเลยครับ!” วาร์เตอร์ รีบส่ายหัวตอบกลับไปอย่างรีบเร่ง
“ไรไล, ช่วยดูแลคุณ วาร์เตอร์ ขณะที่ฉันไม่อยู่ทีนะ” ลิงค์ พูด
“ปล่อยให้ฉันจัดการเองค่ะ, อาจารย์” ไรไล ตอบกลับ จากนั้นเธอก็หันไปยิ้มให้กับ วาร์เตอร์ แล้วพูด “ทางนี้ค่ะ, คุณผู้ชาย คุณควรจะลองเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมในหอคอยเวทย์มนตร์นี้นะคะ, มันเรียกว่า ‘ฟองมีชิวิต’ และมันก็วิเศษมาก ฉันมั่นใจว่าคุณจะรักมันถ้าคุณได้ลองค่ะ!”
“อ่า…ครับ, ผมจะลอง ขอบคุณนะครับ” วาร์เตอร์ ตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจ เขาไม่กล้าปฏิเสธข้อเสนอนี้ แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าเด็กสาวคนนี้จะเดาถูกรึเปล่าว่าเขาจะชอบมันเมื่อฟังจากชื่อที่ตั้งให้กับเครื่องดื่มนี้แล้ว
ขณะเดียวกัน, ลิงค์ ก็กำลังขึ้นไปชั้นบนสุด เขาได้ยินเสียงของบ่อธาตุถูกใช้อยู่ขณะที่เขาเดินผ่านมัน ลิงค์ รู้ว่ามันต้องเป็น เอเลียร์ด ที่กำลังพยายามอย่างหนักเหมือนเช่นเคย
พอเขาไปถึงชั้นสี่, ลิงค์ ก็เอาคทาของเขาออกมาและเปิดใช้รูนบนประตูห้องของ เอเรร์ร่า เขาโชคดีในครั้งนี้เพราะประตูเปิดหลังจากที่ผ่านไปเพียงครู่เดียว มีเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นซึ่งทำให้ ลิงค์ สงสัยเพราะเขาคิดไม่ถึงว่า เอร์เรร่า จะมีแขก เขารีบเดินและรีบไปที่ห้องนั่งเล่น
ในตอนที่เขาหันไปทางกำแพงระหว่างประตูและห้องนั่งเล่นของ เอเรร์ร่า, ลิงค์ ก็ได้พบว่ามีคนสองคนอยู่ในนั้น—ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้, ก็คือมีมนุษย์หนึ่งคนและคนแคะสาวหนึ่งคนอยู่ในนั้น จากเสื้อผ้าที่เธอสวม, คนแคระคนนี้ก็น่าจะเป็นนักเวทย์เหมือนกัน
ลิงค์ ทุ่มสมาธิทั้งหมดของเขาไปกับการสัมผัสพลังงานมานาของพวกเขาทั้งคู่ ในชั่ววินาที, เขาก็เห็นว่าอาจารย์ของเขา, เอเรร์ร่า ได้ไปถึงระยะแรกของเลเวล 6 แล้ว, ขณะที่คนแคระคนนั้นได้ไปถึงจุดสุดยอดของเลเวล 6 และจะฝ่าไปถึงเลเวล 7 ในเร็วๆนี้ ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเธอแข็งแกร่งกว่า เอร์เรร่า!
ลิงค์ ตกใจกับการรับรู้นี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฟิรุแมน เต็มไปด้วยนักเวทย์เด็กมากพรสวรรค์ที่สามารถหาได้ทุกที่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เด็กสาวคนแคระคนนี้ไม่น่าจะมีอายุมากไปกว่า 18 หรือ 19 ปีเลยนะ! เธอครอบครองมานาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?
คนสองคนในห้องหันมาหา ลิงค์ ในทันทีขณะที่พวกเขาได้ยินเสียงเท้าของเขา
“พูดถึงผีผีก็มาเลยนะ” เอเรร์ร่า พูดด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนหน้าเธอโดยไม่มีความประหลาดใจอะไรเลย
อีกด้านนึง, คนแคระสาวก็แสดงท่าทีสงสัยออกมาอย่างเต็มที่ขณะที่เธอมอง ลิงค์ หัวจรดเท้า เธอสูงประมาณสามถึงสี่ฟุต, หรือสูงแค่ประมาณเด็กผู้หญิงชาวมนุษย์ที่มีอายุประมาณเก้าหรือแปดปี เธอมีใบหน้าที่ดูมีชาติตระกูลและสง่างามและผิวของเธอก็เรียบเนียนเหมือนกับพื้นผิวของแจกัน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือดวงตาสีน้ำเงินของเธอที่ดูสดใสและบริสุทธิ์มากจนพวกมันสามารถทำให้คนคิดที่จะควักพวกมันออกมาและเก็บรักษาพวกมันเอาไว้เหมือนกับเครื่องประดับคู่นึง
“นี่คือนักเรียนคนโปรดของเธอสินะ, ใช่มะ?” เด็กสาวคนแคระพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เขาดูเรียบๆและธรรมดามากเลยนะ” น้ำเสียงของเธอสดใสและคล้ายกับเด็กชาวมนุษย์ในความใสซื่อของมัน, แต่มันก็ผสมไปด้วยความล้ำลึกแบบผู้ใหญ่เช่นกัน, ซึ่งทำให้มันฟังดูแปลกประหลาดและน่าจดจำ
เอร์เรร่า รู้ว่าเธอแค่กำลังล้อเล่น, ดังนั้นเธอจึงไม่ตอบสนองคำพูดของเธอและแนะนำ ลิงค์ ให้กับเธอ
“ลิงค์, นี่คือ เอลิน” เธอพูด “เลดี้ฟอร์ทูน่าแห่งเผ่ายับบ้า”
เผ่ายับบ้าเป็นชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มของมนุษย์ปกติที่ใช้เรียกคนแคระ, ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันแฝงไปด้วยการเยาะเย้ยและการดูถูก เลดี้ ฟอร์ทูน่า ในอีกด้านนึง… ลิงค์ ขนลุกพอได้ยินการกล่าวถึงสองคำนี้ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสงสัยแล้วว่าทำไมเธอถึงปล่อยมานาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้
เลดี้ฟอร์ทูน่าแห่งเผ่ายับบ้าเป็นนักเวทย์อัจฉริยะที่เกิดมาด้วยพลังแห่งโชคชะตาอันลึกลับ พรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอก็คือเวทย์มนตร์ลับแห่งการทำนาย, และเพราะเหตุนี้เองคนของยับบ้าจึงนับถือเธอมากๆ
ในชีวิตก่อนของเขา, ลิงค์ ได้พบกับเลดี้ ฟอร์ทูน่า แปดปีหลังจากที่เกิมปล่อยออกมา จากนั้น, เผ่ายับบ้าก็แทบจะถูกกำจัดออกไปบนพื้นโลกอย่างสมบูรณ์ด้วยฝีมือของดาร์คเอลฟ์และกองทัพแห่งความมืด เลดี้ฟอร์ทูน่าของพวกเขานั้นแตกต่างจากเด็กสาวใสซื่อที่อยู่เบื้องหน้าเขาโดยสิ้นเชิง เธอได้ผ่านการทรมานที่ไม่สามารถพูดออกมาได้จากทางฝั่งแห่งความมืดและเสียโฉมเละมากจนเธอต้องซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าคลุมหนา
“ความรุ่งโรจน์ของแสงสว่างได้ตายไปแล้ว ความมืดได้จุติลงมา ทั้งหมดที่ฉันเห็นในอนาคตคือโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างสมบูรณ์” คำพูดพวกนี้คือคำพูดที่ผู้เล่นจะได้ยินจาก เอลิน ขณะที่พวกเขาบังเอิญพบเธอในครั้งแรก, และเธอก็จะบอกพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่น่าสยดสยอง
ลิงค์ เคยทำชุดภารกิจของ เอลิน ที่ปล่อยออกมาในเกมส์เสร็จสมบูรณ์แล้วซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นหาและรวบรวมวัตถุดิบเวทย์มนตร์ พอวัตถุดิบทั้งหมดถูกรวบรวมจนครบ เอลิน ก็จะเปิดเผยคำทำนายครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ
ในนิมิตของเธอ, เจ้าแห่งความมืดโนโซม่าและกองทัพของเขาจะลงมาจุติที่อาณาจักรแห่งแสงและเผ่ามนุษย์จะเกือบล่มสลาย นักเวทย์ทั้งหมดหนึ่งหมื่นคนในกองทัพเวทย์มนตร์ของไฮเอลฟ์จะถูกฆ่าในการต่อสู้ ทั้งอาณาจักรแห่งแสงจะเข้าสู่ความพินาศ
หลังจากเห็นนิมิตสุดท้ายนี้, มันจะเป็นเหมือนกับว่ามานาของ เอลิน ได้ถึงขีดจำกัดแล้วและวิญญาณของเธอก็ได้มาถึงจุดแตกหักแล้ว จากนั้นเธอก็จะเสียสละส่วนที่เหลือของวิญญาณของเธอให้กับผู้เล่นและมันก็จะมอบพรนิรันดร์ให้แก่พวกเขาเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของเทพแห่งแสงเอาไว้เสมอ
“ฉันยอมแพ้แล้ว, ยกโทษให้ฉันด้วย”
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ เอลิน กระซิบก่อนที่จะทรุดลงไปตาย ผ้าคลุมสีดำของเธอหลุดออกและเผยให้เห็นถึงร่างที่ฉีกขาดจากการถูกทรมานซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่เธออยู่มาได้นานขนาดนี้
นี่เป็นหนึ่งในสิบภารกิจในเกมส์ที่เจ็บปวดและบาดใจที่สุด ผู้เล่นหญิงนับไม่ถ้วนน้ำตาไหลออกมาสำหรับความตายอย่างอนาถของ เอลิน และสาบานด้วยไฟในหัวใจของพวกเธอว่าพวกเธอจะช่วยโลก
ตัว ลิงค์ เองก็รู้สึกสั่นคลอนอย่างลึกซึ้งกับเหตุการณ์นี้ เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาสาบานกับตัวเองว่าเขาจะไม่พักจนกว่า โนโซม่า จะพ่ายแพ้!
แต่นี่คืออีกโลกนึงในอีกชีวิตนึง, เรื่องมันอาจจะแตกต่างกันก็ได้ ลิงค์ ส่ายหัวของเขาในทันทีเพื่อปลุกตัวเองจากการครุ่นคิดและโค้งให้ เอลิน อย่างเคารพ
“เป็นเกียรติที่ได้พบครับ, คุณนาย” ลิงค์ พูด
“ไม่, ไม่, ไม่!” เอลิน พูดแทรกอย่างขำขันขณะที่เธอส่ายหัว “อย่าเรียกฉันว่า ‘คุณนาย’ นะ ฉันอายุแค่ 25 เองยังเป็นสาวน้อยอยู่!” ยับบ้ามักจะมีชีวิตที่ยืนยาวจนถึง 150 ปีและพวกเขาจะถึงวัยผู้ใหญ่ก็ต่อเมื่ออายุ 30, ดังนั้นในกรณีของ เอลิน เธอจึงยังเป็นเด็กสาวไม่ใช่ผู้ใหญ่
ใบหน้าของ ลิงค์ เกือบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มด้วยความอับอายขณะที่เขาสังเกตุเห็นความผิดที่เขาเพิ่งทำไป
เอร์เรร่า สังเกตุเห็นว่าสถานการณ์มันเริ่มอึดอัดขึ้น, ดังนั้นเธอจึงเข้ามาช่วย
“หยุดเถอะหน่า, เอลิน” เธอพูด “เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาหาเขาไม่ใช่รึไง?”
“ก็ได้, วินนี่, ฉันจะหยุดแหย่นักเรียนคนโปรดของเธอ” เอลิน พูด (วินนี่เป็นชื่อที่เพื่อนสนิทของ เอร์เรร่า เรียกเธอ”
“วินนี่ เขียนจนหมายมาบอกฉันว่าเธอพบผู้ถูกเลือกของเทพแห่งแสงแล้ว” เอลิน พูด, ตอนนี้ท่าทีขี้เล่นของเธอได้หายไปหมดแล้วและถูกแทนที่ด้วยความจริงจัง “ฉันต้องยอมรับว่าฉันไม่เชื่อเธอเลย และนั่นคือเหตุผลที่ฉันมาที่นี่—เพื่อมาพบกับคนๆนั้นที่เอาชนะใจของ วินนี่ ได้ขนาดนี้”
จากนั้น, ลิงค์ ก็สงบสติตัวเองลง เขาเดินไปที่เก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆอย่างช้าๆแล้วนั่งลง
“แต่เทพแห่งแสงทำงานด้วยวิธีที่ลึกลับนะครับ” ลิงค์ พูดพลางยิ้มไปด้วย “คนธรรมดาอย่างพวกเราจะสามารถมองแผนการของท่านออกได้ยังไง? ผมขอโทษนะ, แต่ผมกลัวว่าผมจะไม่รู้วิธีที่จะพิสูจน์กับคุณว่าผมเป็นผู้ที่ถูกเลือกจริงๆ”
“ไม่ต้องห่วง” เอลิน พูด “ฉันมีวิธีของฉันเอง” ขณะที่เธอพูด, เอลิน ก็เอากองไพ่ที่ดูเหมือนของเก่าแก่ออกมา ไพ่ปล่อยออร่าเวทย์มนตร์ออกมาเล็กน้อย, ทำให้มันมีบรรยากาศอันลึกลับ
ขณะที่ ลิงค์ จ้องไปที่ไพ่การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าอินเตอร์เฟส
ไพ่ทาโร่แห่งวิญญาณ
คุณภาพ: อีพิค
ผล: เครื่องมือแห่งดวงชะตาที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังแห่งวิญญาณของเลดี้ฟอร์ทูน่า มีไพ่ทั้งหมด 66 ใบ, และเครื่องมือนี้ก็มีพลังทำนายอันแข็งแกร่ง
(หมายเหตุ: นี่เป็นไอเทมพิเศษสำหรับเลดี้ฟอร์ทูน่าเท่านั้น)
“ฉันต้องการเลือดของเธอหยดนึง” เอลิน พูดขณะที่เธอเอาไพ่ทาโร่มาเรียงบนโต๊ะทีละใบ