Advent of the Archmage – ตอนที่ 169: การชกต่อยและมิตรภาพ

เอเลียร์ด อยู่ในห้องของตัวเองตลอดเวลาตั้งแต่ที่เขากลับมาที่หอคอยเวทมนตร์ เขาไม่กินหรือดื่มอะไรเลย เขาเพียงแค่นั่งจ้องร่างของ เอเลน่า ด้วยความสับสน ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในวันต่อมา เอร์เรร่า ได้ตรวจค้นร่างกายของ เอเลน่า และพบกับคัมภีร์ 3 ม้วนที่เต็มไปด้วยข้อมูลแผนที่ภายในของหอคอยเวทมนตร์ของจอมเวทย์

 

เอเลียร์ด มองอย่างเฉยชาตลอดทั้งกระบวนการ เขาไม่ได้ห้ามให้ เอร์เรร่า ค้นตัว แต่เขาก็ไม่ได้ขยับหรือพูดกับเธอเช่นกัน เขาเพียงแค่นั่งอยู่เฉยๆไม่ขยับเหมือนกับรูปปั้น
ไม่มีใครยุ่งกับเขาเลยหลังจากที่ค้นพบคัมภีร์ เพราะว่าพวกมันทำให้ทั้งสถาบันเกิดความวุ่นวาย
แม้กระทั่งนักเวทย์ที่เก่งกาจในหอคอยเวทมนตร์ของจอมเวทย์ก็ถูกซื้อได้ด้วยเหรียญทอง และนั่นก็ทำให้พวกเขาขายความลับของหอคอยจอมเวทย์มนตร์ทั้งสามแห่ง! ทั้งสถาบันต่างตกใจกับการเปิดเผยอันน่ากลัวนี้
ผู้อาวุโส แอนโทนี่ นั้นโกรธมากในตอนที่ข่าวนี้มาถึงหูของเขา ตอนนี้เขาเริ่มกลัวเกี่ยวกับความความปลอดภัยของสถาบันแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เขาเริ่มปฏิบัติการชำระล้างสถาบันเพื่อที่จะจัดการคนทรยศและนักเวทย์ที่ถูกครอบงำให้หมดไปอย่างตลอดกาล นักเวทย์ที่ขายความลับของสถาบันจะถูกปลดพลังเวทย์ของพวกเขาออก และความทรงจำของหอคอยเวทมนตร์ของพวกเขาก็จะถูกลบออกจากจิตใจจนหมดและจะถูกไล่ออกจากสถาบัน

พ่อค้าทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวของการแผนการนี้ได้หายไปจากโลกนี้ในทันที นี่ไม่ใช่ฝีมือของสถาบัน แต่ว่าเป็นผลงานของ MI3 ยังไงซะสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟก็อยู่ในอาณาเขตของอาณาจักรนอร์ตัน ซึ่งข่าวลือได้บอกว่าตัวกษัตริย์เองนั้นทรงให้ความสนใจกับเรื่องนี้อย่างมาก

หลังจากการกวาดล้าง แอนโทนี่ และสมาชิกสภาสูงคนอื่นๆของสถาบันก็ได้เริ่มปรับปรุงช่องว่างของระบบความปลอดภัยของสถาบัน และวางมาตรการลับไว้เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นอีก
ลิงค์ ไม่ได้มีตำแหน่งสำคัญในสถาบัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรที่จะต้องทำเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลอย่างงามจากอาจารย์ใหญ่แล้วด้วย ซึ่งนั่นก็คือตั๋วการเข้าหอคอยเวทมนตร์ของอาจารย์ใหญ่เมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ แถม เขายังได้รับอนุญาตให้ใช้บ่อธาตุเลเวล 6 ในหอคอยเวทมนตร์ของอาจารย์ใหญ่ได้ 6 ชั่วโมงต่ออาทิตย์และอนุญาติให้อ่านหนังสือเล่มไหนก็ได้ในห้องสมุดของอาจารย์ใหญ่อีกด้วย
ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการในตอนนี้พอดี
แม้ว่าคนทรยศในสถาบันจะถูกถอนรากถอนโคนและดูเหมือนว่าพลังแห่งความมืดจะถูกกักกันไว้ แต่ ลิงค์ ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกแบบนี้มักทำให้ ลิงค์ ลืมทุกอย่างและโฟกัสไปที่การเรียนเวทมนตร์และการเพิ่มเลเวลของเขา
ด้วยความมุ่งมั่นนี้ ลิงค์ ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วมากในเวลาอันสั้น แต่มันก็ยังคงไม่ดีพอสำหรับเขา เมื่อ ลิงค์ เริ่มที่จะเรียนเวทย์เลเวล 6 เขาก็ได้รับรู้ว่าเขานั้นดูถูกความยากในการเลื่อนขั้นเป็นจอมเวทย์มากเกินไป
ตอนนี้ ลิงค์ รู้แล้วว่ามันเป็นเรื่องเพ้อฝันในการพยายามที่จะขึ้นเป็นเลเวล 8 ภายในเวลา 3 เดือน มันคงจะเป็นปาฏิหาริย์ถ้าเกิดว่าเขาเชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 7 มากพอที่จะใช้มันได้ในการต่อสู้จริงได้ทันเวลา
การค้นพบนี้ทำให้ ลิงค์ ค่อนข้างหัวเสียมาก
แต่ว่า พลังที่แท้จริงของ ลิงค์ ก็คือเจตคติที่ไม่ยอมอ่อนข้อต่อบางสิ่งที่เขาต้องการที่จะทำ ไม่ว่าเขาจะพบกับความยากลำบากแค่ไหน แม้ว่ามันจะดูเหมือนไม่สามารถเป็นไปได้ แต่เขาก็จะไม่ยอมแพ้แม้ว่าเขาจะรู้สึกผิดหวัง แต่เขาเพียงก็จะปรับตัวอย่างรวดเร็วกับสถานการณ์ปัจจุบันและหาคำตอบที่ดีที่สุดเพื่อที่จะไปต่อเท่านั้น
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเขาจะทำตามเป้าหมายให้สำเร็จได้รึเปล่า แต่เขาก็ไม่เคยที่จะหยุดพยายามเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลของเขาให้สูงขึ้นเพื่อไปจนถึงจุดที่เขาสามารถไปถึงได้
ลิงค์ นอนหกชั่วโมงต่อวันและไม่ได้กินหรือดื่มอะไรเลยแต่เขากลับพึ่งเวทมนตร์ในการรักษาสุขภาพของเขาไว้เท่านั้น  เขาจะร่ายเวทย์ธาตุแห่งการรักษาใส่ตัวเองครั้งนึงในตอนเช้าและอีกครั้งนึงก่อนที่เขาจะนอนในตอนกลางคืน และนั่นก็มากพอที่จะให้เขาผ่านวันนึงไปได้
นั่นคือชีวิตแต่ละวันของเขาในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มันคงจะไม่ใช่การพูดเกินจริงที่จะบอกว่า ลิงค์ นั้นได้ฝังตัวเองอยู่กับโลกของเวทมนตร์อย่างสมบูรณ์และได้ทิ้งความสุขของชีวิตลงไปทั้งหมด
ในตอนกลางคืนวันหนึ่งหลังจากอาทิตย์ที่เหน็ดเหนื่อย ลิงค์ ได้เดินกลับมาที่หอคอยเวทมนตร์ของ เอร์เรร่า ด้วยความเหนื่อยอย่างถึงที่สุดจากหนามแห่งสวรรค์ พอเขามาถึงทางเข้าของหอคอยเวทมนตร์ เขาก็เห็นว่า เอเลียร์ด ได้ยืนรออยู่ที่นั่นเพื่อรอเขา
ภายในเวลา1อาทิตย์ เอเลียร์ด ที่ปกติมีร่างกายแข็งแรงได้ผอมกะหร่องและตาสีน้ำเงินเข้มของเขาในตอนนี้ก็ดูซึมเศร้า แม้กระทั่งผิวหนังของเขาก็ซีดขึ้น เขาดูไม่เหมือนกับตัวเขาก่อนหน้านี้เลย
“เอเลียร์ด ทำไมนายถึง…?” ลิงค์ ไม่รู้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับเพื่อนของเขายังไงดี แม้ว่าทุกอย่างจะถูกพิจารณาเอาไว้แล้ว แต่ ลิงค์ ก็ยังคงเป็นคนที่ทำให้ เอเลน่า ตายอยู่ดี ไม่มีทางที่เขาจะหนีจากความจริงนี้ได้ ส่วนนึงของเหตุผลที่ ลิงค์ นั้นจดจ่ออยู่กับการเรียนเวทมนตร์ในช่วงนี้ก็คือเพื่อหลบเลี่ยงการเจอกับ เอเลียร์ด นั่นเอง
รอยยิ้มจางๆปรากฏขึ้นที่หน้าของ เอเลียร์ด เขามองไปที่ใบหน้าอันเหน็ดเหนื่อยของเพื่อนเขาด้วยตาอันแดงก่ำและส่ายหน้าเบาๆ

“นายไม่จำเป็นต้องโทษตัวเองหรอก ลิงค์” เขาพูด “นายทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ฉันไม่ได้โทษนายเลยซักนิด”

มันผ่านมาอาทิตย์นึงแล้วและ เอเลียร์ด ก็ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับมัน เขาไม่พอใจ ลิงค์ อยู่พักนึง แต่มันก็เป็นเพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น เขาเข้าใจดีว่า ลิงค์ นั้นทำเพื่อปกป้องความปลอดภัยของสถาบัน คนที่ผิดไม่ใช่ ลิงค์ แต่เป็น เอเลน่า แต่ เอเลียร์ด ก็ยังคงไม่สามารถโทษ เอเลน่า ได้เช่นกัน ยังไงซะตอนนี้เธอก็ตายแล้ว
ในท้ายที่สุดแล้ว สิ่งเดียวที่ เอเลียร์ด เกลียดก็คือโชคชะตาของเขา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโชคชะตาถึงต้องเล่นตลกกับเขาแบบนี้ โชคชะตาได้นำพาผู้หญิงที่เขารักมาให้ และมันก็ยังได้เอาเธอไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย ไม่มีอะไรที่โหดร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว!

ในขณะเดียวกัน ลิงค์ ไม่ได้รู้สึกวางใจเลยหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่ เอเลียร์ด เพิ่งพูดออกมา เขายิ่งเป็นกังวลมากขึ้นแทนและรู้สึกว่าต้องพูดอะไรซักอย่าง

“ฉัน…”
“ฉันได้ตัดสินใจที่จะยอมแพ้เรื่องเวทมนตร์แล้ว” อยู่ๆ เอเลียร์ด ก็พูดขึ้นมา
“นายว่ายังไงนะ?!” ลิงค์ ตาโตด้วยความตกใจกับคำพูดของ เอเลียร์ด เขาคือนักเวทย์อัจฉริยะที่สามารถพบเจอบนโลกได้ในรอบ 15 ปี! ภายในเกมในตอนที่ ลิงค์ ได้ขึ้นถึงขั้นระดับตำนานและกำลังเตรียมตัวที่จะสู้กับโนโซม่านั้น เอเลียร์ด ก็ได้เริ่มเตรียมตัวที่จะเลื่อนขั้นสู่ระดับอาชเมจในขณะที่เขามีอายุแค่ 36 ปีเท่านั้น!

แต่ตอนนี้อัจฉริยะโลกสะเทือนกำลังบอกว่าจะยอมแพ้เรื่องเวทมนตร์ ทั้งหมดเป็นเพราะเรื่องของผู้หญิงงั้นหรอ? นี่มันบ้าสิ้นดี!
มันรู้สึกเหมือนผ่านไปเป็นชั่วโมง ลิงค์ เพียงแค่ยืนเหวออยู่นิ่งๆ ไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบโต้อย่างไรดี
จากนั้น เอเลียร์ด ก็มองไปที่ถุงเหรียญที่อยู่ในแขนเสื้อของเขาและใช้มือแห่งนักเวทย์ยื่นมันให้กับ ลิงค์
“นี่เงิน 1,300 เหรียญทองที่ฉันติดนายอยู่” เอเลียร์ด พูด “ตอนนี้ฉันจ่ายคืนนายหมดแล้วนะ ขอบคุณที่นายยอมเสียสละตัวเองในอดีต ฉะ…ฉันขอโทษจริงๆ!”
“…” ลิงค์ จ้องไปที่ถุงเหรียญที่ลอยอยู่ด้านหน้าเขาและอารมณ์ทั้งหลายก็เริ่มปะทุขึ้นในตัวเขา
นี่ เอเลียร์ดคิด อะไรอยู่? เขายอมแพ้เรื่องเวทมนตร์และจ่ายหนี้ทั้งหมดของเขาให้กับ ลิงค์ เพราะว่าเขาอยากที่จะตัดขาดความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเขางั้นเหรอ? ทั้งหมดเป็นเพราะผู้หญิงจากลัทธิมืดคนนึงเนี่ยนะ? แล้วตอนนี้ เอเลียร์ด ก็ใจสลายและจะละทิ้งเวทมนตร์ไปทั้งอย่างนี้เนี่ยนะ?
ลิงค์ เริ่มเดือดขึ้นมา เขาโยนถุงเหรียญทิ้งลงพื้นอย่างรุนแรง และพุ่งไปหา เอเลียร์ด และจับคอเสื้อของเขา

“มึงมันไอขี้ขลาด มึงรู้ไหม?” ลิงค์ ตะโกนใส่หน้า เอเลียร์ด “มึงแม่งไอขี้แพ้ เย็xแม่เอ้ย!”
เอเลียร์ด ผลัก ลิงค์ ออกและสีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา
“นี่เป็นการตัดสินใจของฉัน; มันไม่เกี่ยวอะไรกับนาย!” เอเลียร์ด พูด “ถ้าฉันไม่ได้เรียนเวทมนตร์ ฉันก็จะไม่ได้พบกับ เอเลน่า ถ้าไม่ใช่เพราะเวทมนตร์ เอเลน่า ก็จะไม่ตาย! เวทย์มนตร์ฆ่าเธอ!”

คำพูดพวกนี้สร้างปัญหาให้กับ ลิงค์ ตอนนี้เขาได้เรียนรู้และฝึกเวทมนตร์เพื่อที่เขาจะได้มีพลังมากพอที่จะไปต่อสู้กับปีศาจเลเวล 8 และเขาก็ได้เสียสละความสุขในชีวิตทุกอย่างเพื่อที่จะให้ได้มันมา แต่มันก็มีเชือกฟางแห่งความหวังอยู่เส้นนึงที่ทำให้เขาพยายามอย่างหนักได้มาถึงจุดนี้ และความหวังนั้นก็คือความจริงที่เขาไม่ได้สู้อยู่ตัวคนเดียว เขารู้ว่านอกจากเขาแล้วยังมีนักเวทย์อัจฉริยะที่มีความสามารถที่วันนึงอาจจะช่วยโลกจากกองกำลังแห่งความมืดได้ เขารู้ว่าเมื่ออัจฉริยะหนุ่มคนนี้เติบโตขึ้นและพัฒนาความสามารถของเขาถึงจุดสูงสุดแล้ว เขาจะกลายเป็นพรรคพวกที่ทรงพลังที่จะสู้กับกองกำลังแห่งความมืดเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขาได้
และตอนนี้ไอเวรนั่นก็คิดที่จะเลิกเรียนเวทมนตร์อย่างจริงจังเนี่ยนะ?
ไฟแห่งความโกรธในหัวใจของ ลิงค์ ได้มาถึงจุดแตกหักจนเขาไม่สนเรื่องความรู้สึกของ เอเลียร์ด อีกต่อไปแล้ว
“มึงคิดผิดแล้ว! มันไม่ใช่เพราะเวทมนตร์ที่ฆ่า เอเลน่า มันเป็นเพราะลัทธิปีศาจของเธอต่างหากเล่า!” ลิงค์ ตะคอก “ถ้าเธอไม่ตายในครั้งนี้ ครั้งต่อไปเธอก็ต้องตายอยู่ดี! ถ้าเธอไม่ได้ตายเพราะฉันเป็นคนเจอ ก็จะมีใครบางคนฆ่าเธอในตอนที่เขารู้ถึงแผนการลับของเธอ! ไม่ว่ายังไง เธอก็จะต้องตายอยู่ดีนั่นแหล่ะ!”
ผลั่ก!
พอ ลิงค์ พูดจบเขาก็รู้สึกมึนนิดนึงจากหมัดที่ซัดเข้ามาใส่หน้าเขา และแก้มของเขาก็เจ็บจากแรงกระแทกเช่นกัน
“มึงจะเอาใช่ไหม?!” ลิงค์ พุ่งไปข้างหน้าและต่อยเข้าไปที่จมูกของ เอเลียร์ด จนเลือดออก
เอเลียร์ด โกรธขึ้นมาแล้วในตอนนี้ ไม่เพียงแค่ ลิงค์ จะทำให้ เอเลน่า ต้องตายเท่านั้น แต่เขายังพูดเหยียดหยามเธออีก แล้วตอนนี้เขาจะสู้กลับงั้นเหรอ? จากนั้น เอเลียร์ด ก็ต่อยกลับไปหา ลิงค์ อีกหมัดนึง ครั้งนี้ทำให้เขาเมาหมัดด้วยแรงกระแทกของหมัดของ เอเลียร์ด

 

ลิงค์ ไม่ได้คิดจะยืนรับหมัดเฉยๆเหมือนกับตุ๊กตา ดังนั้น เขาจึงฮุกอีกหมัดเข้าไปที่คางของ เอเลียร์ด ทำให้เขาเสียการทรงตัวและล้มลงกับพื้น จากนั้นเขาก็ตาม เอเลียร์ด ที่ล้มลงไปและเตรียมพร้อมที่จะต่อยเขาเพิ่มอีก
แต่ว่าความเร็วในการตอบสนองของ เอเลียร์ด เองก็เร็วจน ลิงค์ ต้องตกใจ ในขณะที่เขายังอยู่ที่พื้นเขาก็สามารถถีบ ลิงค์ ด้วยขาคู่จนทำให้ ลิงค์ ล้มลงเช่นกัน จากนั้นเมื่อทั้งคู่ล้มอยู่บนพื้นเหมือนกัน พวกเขาจึงเริ่มที่จะฟัดกันอย่างกับหมา ในขณะที่คนนึงต่อยอีกคนก็เตะในตอนที่อีกคนฟันศอกใส่อีกคนก็ตอบโต้ด้วยการแทงเข่า ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกว่า 10 นาที และไม่มีทีท่าว่าใครจะเป็นคนหยุดก่อน
ลิงค์ นั้นได้มีชีวิตอย่างสุขสบายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ดังนั้นถึงแม้เขาจะไม่ได้แข็งแรงบึกบึนเท่า เอเลียร์ด แต่เขาก็บึกบึนขึ้นและไม่ใช่เด็กขี้ก้างอย่างที่เขาเคยเป็นอีกแล้ว แต่อีกด้านหนึ่ง เอเลียร์ด นั้นได้ผอมและอ่อนแอลงในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาทั้งสองนั้นเท่าเทียมกัน ไม่มีใครคนไหนที่ใช้เวทมนตร์ เพราะว่าพวกเขารู้ว่าเวทมนตร์นั้นสามารถทำให้อีกคนตายได้ แม้ว่าพวกเขาจะโกรธกันแต่พวกเขาก็ยังไม่อยากที่จะฆ่าอีกคนในตอนนี้
พวกเขาทั้งสองได้กักเก็บความโกรธและความหงุดหงิดเอาไว้ตลอดในช่วงที่ผ่านมานี้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงทำเหมือนกับว่าอีกคนเป็นกระสอบทรายและปลดปล่อยอารมณ์ของพวกเขาใส่มัน

 

หลายนาทีผ่านไป ประตูทางเข้าของหอคอยเวทมนตร์ก็เปิดออกในทันทีและตะเกียงคริสตัลที่แขวนอยู่ก็สว่างขึ้นเช่นกัน จากนั้น เอร์เรร่า ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธก็ได้โผล่ออกมาจากในหอคอยเวทมนตร์
เธอรีบวิ่งลงมาจากห้องของเธอด้วยความเร่งรีบ เธอยังคงสวมชุดนอนของเธอและทรงผมของเธอก็ยุ่งเนื่องจากเธอเพิ่งลุกออกจากเตียง เธอลงมาที่ทางเข้าของหอคอยเวทมนตร์เพียงเพื่อที่จะมาดูลูกศิษย์ที่เธอภูมิใจมากที่สุดสองคนต่อยกันอยู่บนพื้นเหมือนกับหมาข้างถนน
หน้าของ ลิงค์ นั้นบวมปูดจนมีขนาดเท่ากับลูกมะพร้าว ตาของเขาข้างนึงมีรอยช้ำและปากของเขาก็แตกและเต็มไปด้วยเลือด ในขณะที่ผ้าคลุมนักเวทย์ของเขาเองก็ขาดหลุดลุ่ย แต่ว่าสภาพของ เอเลียร์ด นั้นแย่ยิ่งกว่าเพราะร่างกายของเขานั้นอ่อนแอลงในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ในตอนที่ เอร์เรร่า ออกมาจากประตูเธอเห็น ลิงค์ ขึ้นคร่อมอยู่บนตัว เอเลียร์ด และกำลังต่อยเข้าไปที่หน้าของ เอเลียร์ด ด้วยหมัดของเขา!
ณ ตอนนี้ หน้าของ เอเลียร์ด นั้นบวมยิ่งกว่าหน้าของ ลิงค์ เสียอีก จมูกของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลลงไปเลอะเสื้อทำให้หน้าอกของเขาแดงไปหมด ตาของเขาข้างนึงก็บวมขึ้นมาจนเกือบเท่ากับขนาดของลูกท้อและเห็นได้ชัดว่า เอเลียร์ด ลืมตาไม่ขึ้นแล้ว หน้าตาอันหล่อเหลาของเขานั้นเละจนแทบจะไม่มีความเป็นมนุษย์เหลืออยู่เลย!

ไม่เพียงแค่นั้น รอบๆตัวของพวกเขายังเต็มไปด้วยเหรียญทองที่กระจัดกระจายออกไปทั่ว และมีรองเท้าอยู่ 3 ข้าง-ซึ่งข้างสุดท้ายนั้นยังคงอยู่ที่เท้าซ้ายของ ลิงค์
นี่มันฉากบ้าอะไรกันเนี่ย!
“ทั้งสองคน หยุดเดี๋ยวนี้!” เอร์เรร่า ตะคอกด้วยความโกรธ
ในบรรดาพวกเขาทั้งคู่นั้น คนหนึ่งเป็นนักเวทย์อัจฉริยะที่เริ่มจะมีชื่อเสียงและเป็นที่สนใจในโลกภายนอก ขณะที่อีกคนก็เป็นนักเวทย์หนุ่มที่มีพรสวรรค์ตามธรรมชาติซึ่งเกือบจะสมบูรณ์แบบและมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาในอนาคตไม่จำกัด  ความจริงที่ว่าพวกเขาทั้งสองนั้นโดดเด่นขึ้นมาในช่วงเวลาไม่กี่เดือนนั้นมันช่างเป็นปาฎิหาริย์ แล้วตอนนี้ทั้งสองก็กำลังต่อยกันคลุกฝุ่นมันช่างน่าอับอายยิ่งนัก! ถ้าเกิดว่าข่าวลือเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แพร่ไปหล่ะก็พวกเขาจะต้องถูกหัวเราะจากทั้งอาณาจักรแน่ๆ!
ตอนนี้พวกเขาทั้งคู่เห็นอาจารย์ของพวกเขาแล้ว ลิงค์ ที่เริ่มเมื่อยแขนแล้วได้ลุกขึ้นในทันที พละกำลังของเขาได้เกือบถึงขีดจำกัดแล้ว เขาไม่สามารถออกหมัดได้อีกต่อไป เขามั่นใจว่าถ้าพวกเขายังสู้กันนานกว่านี้เขาจะต้องพ่ายแพ้ให้กับ เอเลียร์ด ที่แข็งแรงกว่าอย่างราบคาบแน่ๆ
เอเลียร์ด นั้นเละอย่างกับรองเท้าเก่า จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนและมายืนข้างหน้า เอร์เรร่า ข้างๆกับ ลิงค์ พวกเขาทั้งคู่ต่างก็ก้มหัวลง จ้องมองพื้นเหมือนกับเด็กที่รู้ตัวว่าพวกเขากำลังพบกับปัญหาและกำลังจะโดนลงโทษ
ในตอนแรก เอร์เรร่า นั้นกำลังจะระเบิดความโกรธ แต่พอเธอเห็นว่า ลิงค์ และ เอเลียร์ด ไร้เดียงสาขนาดไหน เธอก็กลับพบว่ามันน่าขำแทน แต่ยังไงซะเธอก็ต้องรักษามาดความเข้มงวดเอาไว้
“เก็บของพวกนี้ที่อยู่ที่พื้นและกลับไปที่ห้องซะ!” เธอพูดอย่างดุดัน
ในตอนนั้น เอร์เรร่า รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่เลี้ยงของเด็กที่ยังไม่โตสองคนเลย

เอร์เรร่า เป็นอาจารย์ที่น่าเคารพสำหรับทั้ง ลิงค์ และ เอเลียร์ด ดังนั้นพวกเขาจึงเงียบและเชื่อฟังคำสั่งอย่างรวดเร็ว และเก็บรองเท้ากับเหรียญทองที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้น
ลิงค์ หยิบรองเท้าข้างขวาของเขาและพยายามที่จะใส่มันกลับ แต่ตอนนั้นเองเขาก็เห็น เอเลียร์ด กำลังนั่งลงกับพื้นและพยายามจะใส่รองเท้าอยู่เช่นกัน ลิงค์ เห็นใบหน้าที่เคยเป็นที่อิจฉาของเหล่าผู้ชายและเป็นที่หลงใหลของพวกผู้หญิงที่ตอนนี้บวมบูดเหมือนลูกมะพร้าว! แล้ว ลิงค์ ก็พบว่ามันน่าขำและเขาก็หลุดขำออกมาแบบไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เอเลียร์ด ก็เห็นใบหน้าของ ลิงค์ น่าเกลียดมากกว่าเดิมเพราะเขาขำและก็ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้เช่นกัน ไม่นานนักพวกเขาทั้งคู่ต่างก็หัวเราะใบหน้าอันน่าตลกของกันและกัน
แต่หลังจากนั้น เอเลียร์ด ก็นึกถึงโชคชะตาของตัวเองอีกครั้งนึง ซึ่งมันทำให้เขาร้องไห้ เขาร้องไห้กับการที่เขาสูญเสีย เอเลน่า อันเป็นที่รัก เขาร้องให้สำหรับความยากลำบากที่เขาต้องทนมาตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเขาทิ้งเขาไว้กลางถนนในตอนที่เป็นทารก เขานั่งลงไปร้องที่พื้นให้กับโชคชะตาอันโหดร้ายนี้จนจากเสียงร้องสะอื้นกลายเป็นเสียงร้องโหยหวน

ลิงค์ และ เอร์เรร่า มองหน้ากันและจากนั้นก็มองไปที่ เอเลียร์ด ด้วยความสงสาร จากนั้น ลิงค์ ก็เริ่มเก็บเหรียญทองด้วยมือแห่งนักเวทย์เพราะเขาเหนื่อยที่จะเก็บเองแล้ว มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีก่อนที่เหรียญจะถูกเก็บลงถุงทั้งหมด จากนั้นเขาก็เอาถุงเงินใส่กำไลข้อมือที่เขาได้มาจากดาร์กเอลฟ์นักเวทย์ พาร์สัน กำไลต่างมิตินี้ได้ถูกล้างออร่าเวทมนตร์แห่งความมืดออกหมดแล้วและยังได้ถูกปรับปรุงโดย ลิงค์ เองอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีใครที่จะรู้ได้ว่ามันมีที่มาจากดาร์กเอลฟ์

 

ความโกรธในจิตใจของ ลิงค์ ได้หายไปหมดหลังจากที่พวกเขาชกต่อยกัน
“เอานี่ไป” ลิงค์ พูดพร้อมกับใส่กำไลต่างมิติเข้าไปในข้อมือของ เอเลียร์ด

“เอานี่ติดตัวไปด้วยและออกไปข้างนอกเพื่อท่องโลกกว้างซักพักซะ อีกไม่นานนายจะรู้สึกดีขึ้นเอง แต่อย่าคิดยอมแพ้เรื่องเวทมนตร์อีกหล่ะ”
เอเลียร์ด ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่พยักหน้าเป็นการบอกว่าเข้าใจแล้ว
การต่อสู้เมื่อกี้ได้ลบล้างความโกรธในจิตใจและความไม่พอใจต่อเพื่อนเขาออกไปจนหมด พอมองย้อนไป ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่ามันไม่ได้แย่มากจนเขาต้องถึงกับยอมละทิ้งทุกอย่างในชีวิตและวิ่งหนีมันเลย
แน่นอน เอเลน่า ยังคงเป็นความรักในชีวิตของเขา และเขาก็ยังคงเจ็บปวดและโศกเศร้ากับการสูญเสียเธอไป แต่มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่เธอได้ตายไปแล้วในตอนนี้และมันก็จะเป็นอดีตไปตลอดกาล ลิงค์ พูดถูก เขาควรที่จะออกไปนอกสถาบันเพื่อท่องโลกและเปลี่ยนบรรยากาศซักพักหนึ่ง เขารู้ว่ามันจะช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นได้
สำหรับเวทมนตร์นั้น ตอนนี้ เอเลียร์ด รู้แล้วว่ามันไม่ใช่สาเหตุการตายของ เอเลน่า เลย ถ้าไม่ใช่เวทมนตร์ เอเลน่า อาจจะตายด้วยดาบหรือมีดหรือไม่ก็ธนู หรืออาจจะเป็นเพราะเวทย์ศักดิ์สิทธ์แห่งความมืดที่เธอเกี่ยวข้องก็ได้ เอเลียร์ด รู้ดีกว่าใครว่าโลกนี้มันโหดร้ายขนาดไหน
เอเลียร์ด เข้าใจอย่างชัดเจนว่าการยอมแพ้เรื่องเวทมนตร์นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับเขายอมแพ้ให้กับชีวิตของเขาเลย
“นายกำลังก่อสร้างที่ดินใหม่ของนายอยู่ใช่ไหม ลิงค์?” เอเลียร์ด ถามขึ้นมา “ฉันน่าจะไปที่นั่นและช่วยนายได้นะ”

ลิงค์ สับสนไปครู่นึง แต่เขาก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพยักหน้าเป็นการตกลงกับ เอเลียร์ด พอเขาใส่รองเท้าเสร็จ เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปหา เอเลียร์ด พร้อมกับยื่นมือไปหาเขา

“มันคงเป็นเกียรติกับฉันมาก” ลิงค์ พูด
เอเลียร์ด ยื่นมือไปจับมือของ ลิงค์ และลุกขึ้นยืน เขาเพิ่งจะรู้สึกว่า เอเลน่า นั้นไม่ได้สมบูรณ์แบบเหมือนกับในจินตนาการของเขาซะทีเดียว กลับกันมันคือเพื่อนของเขาที่เหมือนกับเป็นพี่น้องของเขาตลอดมาและเป็นคนเดียวที่เขาสามารถพึ่งได้เวลาเขาพบกับปัญหา

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset